[CR] ความสุขมันเกิดเมื่อฉันตัดสินใจไปน่าน l ดอยเสมอดาว - เสาดินนาน้อย - ดอยภูคา



  
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิปทุกๆท่าน
หลังจากที่ติดตามกระทู้ที่เพื่อนๆพันทิปนำมาแชร์ความสุขให้แก่กันมานานแสนนาน
วันนี้เราเลยอยากจะมาส่งต่อความสุขให้แก่เพื่อนๆบ้าง ซึ่งมันเป็นทริปที่เราประทับใจมากจริงๆ

**กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่เราตั้งใจเขียนขึ้น หากมีความผิดพลาดประการใดหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดชม แนะนำหรือสอบถามได้เลยค่ะ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็น**



ดอกไม้




ขอเกริ่นที่มาที่ไปของทริปนี้ก่อนเลยนะคะ มันเป็นทริปหลังจบไฟนอล เป็นทริปที่ประจวบเหมาะมากๆๆ เพราะเครียดจากการทำโปรเจคทั้งหลายแหล่ การสอบเล็ก สอบใหญ่ สอบยิบย่อย สอบกระจุกกระจิก ทั้งหลายทั้งปวง เป็นโอกาสอันดีที่จะไปพักผ่อน ชาร์ตพลังกายพลังสมอง ตั้งต้นโดยพี่ของเราเป็นชวน ซึ่งเป็นความตั้งใจของพี่ที่อยากจะไปจังหวัดนี้มานานแล้ว ทริปนี้มีผู้ร่วมเดินทางทั้งหมด 6 คน รวมตัวเราค่ะ เดินทางตั้งแต่วันที่ 22-27 ธันวาคม 2558



เม่าออกรถ



Let's start !!

วันที่ 22 ธันวาคม 2558
เวลา 19:40 น.
ณ สมบัติทัวร์
เว็บไชต์เพื่อดูข้อมูลเดินรถ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

  
   ในครั้งนี้เราเลือกใช้บริการของสมบัติทัวร์วิภาวดีค่ะ ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับตึก AC Asset วิภาวดี ใกล้ๆกับเซนทรัลลาดพร้าวค่ะ เป็นรถโดยสาร Star class ลักษณะเป็นรถบัสสองชั้น มีผ้าห่ม หมอนรองคอ น้ำดื่ม น้ำผลไม้ ชากาแฟ ขนมไว้บริการเราอย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าอิ่มตลอดการเดินทาง ที่สำคัญคือแอร์หนาวมากเว่อร์วังอลังการ ช่องทางการจองตั๋วจะไม่มีแบบออนไลน์นะคะ รายละเอียดจะอยู่ในเว็บไซต์ ของเราตอนจองตั๋วพี่เราเค้าไปซื้อที่สมบัติทัวร์โดยตรงเลย    
   ในตั๋วระบุเวลาไว้อย่างชัดเจนว่ารถออกเวลา 20:40 เรากับพี่และคนอื่นๆเลยมารอขึ้นรถล่วงหน้า ถึงสมบัติทัวร์ตอน 19:40 ค่ะ หาอะไรทานรองท้องเพราะตอนนั้นหิวมากๆ หลังจากที่ทุกคนมากันครบเรียบร้อยก็เดินไปที่เคาน์เตอร์ของสมบัติทัวร์เพื่อทราบว่าต้องขึ้นที่ชานชลาไหน แบ่งเป็น 4 ชานชลา เราขึ้นชานชลาที่ 1 ระหว่างนั้นรถได้เดินทางมาถึงแล้วเรียบร้อย โดยก่อนขึ้นรถได้ฝากสัมภาระ โดยเค้าจะยึดจากเลขที่นั่ง อย่างเราไปทั้งหมด 6 คน ก็จะยึดเลขที่นั่งของตั๋วคนใดคนหนึ่งเป็นหลักแล้วเขียนใส่แผ่นกระดาษระบุไว้ คล้องไว้กับกระเป๋า ขึ้นรถตอน 20:15 ตอนนั้นก็จัดแจงตัวเอง ปรับเบาะ เตรียมนอนมากกก 555555 เพราะเดินทางตอนกลางคืน และรถก็ออกตรงเวลาค่ะตอน 20:40 น. พอดีเป๊ะ ออกเดินทางกันเล้ยยย!!







เรากลัวเมารถเลยจัดยาแก้เมาไปหนึ่งเม็ด หลับสบายค่ะ มาตื่นอีกที  ที่พิษณุโลกซึ่งเป็นที่ที่รถจะจอดพักรถค่ะ ที่ครัวแม่สุรีย์ จะเป็นคลายๆฟู้ดคอร์ดขนาดใหญ่ มีกับข้าวให้รับประทาน เครื่องดื่มต่างๆ แวะเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว โดยถึงจุดพักรถเวลา 01:30 น. ของวันที่ 23 ธันวาคม 2558 โดยรถจะพัก 20 นาทีค่ะ จากนั้นก็เดินทางต่อ






ถึง บขส. น่านเวลา 05:50 น.

ลงมาจากรถก็หนาวกึ๊กๆๆๆกั๊กๆๆๆ แบบพี่โน้ตในเดี่ยว 11 ตอนที่ลงเครื่องไปดูฉลามกับสองแม่ลูก 555555555 เพราะยังเช้าอยู่มาก เลยหนาวเหน็บ แยกไม่ค่อยออกว่าหนาวอะไร ระหว่างแอร์บนรถหรืออากาศที่น่าน




   ที่ บขส. ก็จะมีบริการของรถหลายประเภทมากๆ ทั้งรถตู้ รถสองแถว รสบัส บลาๆ สำหรับผู้ที่จะต้องการไปที่อื่นต่อ ก็สามารถสอบถามได้ สำหรับเรา เราตกลงกันว่าเลือกบริการเช่ารถยนต์ ซึ่งสะดวกและคุ้มมากๆ โดยเค้าจะเอารถมาให้เรา ณ ที่ๆเราอยู่ค่ะ โดยรถที่เราได้นั้นคือ isuzu primo เหมาะกับโดยสาร 6 คนมากๆ ราคาเช่าคือ 2,500 บาท มัดจำ 2,000 บาท หารแล้วปัดเศษให้เป็นจำนวนเต็มตกคนละ 420 บาทไม่รวมค่ามัดจำนะคะ พี่เราเค้าเป็นคนออกเพราะเป็นเงินส่วนที่จะได้คืนทีหลัง โดยก่อนที่เราจะคืนรถเราต้องเติมน้ำมันให้เต็มถังให้เค้าค่ะ ตอนที่เราเติมมัน 900  บาท หารกันตกคนละ 150 บาท
บริษัทที่เราใช้บริการคือ Nan at love ค่ะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ระหว่างรอเค้าเอารถมาให้ตอน 10 โมง เราก็อาอะไรทานกันค่ะ โดยเราเดินออกจาก บขส.ไปเดินดูที่ตลาดกันก่อนว่ามีอะไรทานบ้าง ของกินก็มีเยอะแยะนะคะ แต่ตกลงกันไม่ได้ สรุปเลยต้องเดินเข้ามาหาร้านแถว บขส.นี่แหละค่ะ 5555 บวกกับตอนนั้นยังเช้ามาก ร้านข้าวข้างนอก บขส.ยังไม่เปิด





สุดท้ายมาจบที่ข้าวมันไก่ - - ข้าวมันไก่กินที่บ้านก็ได้ป้ะ เรามากินข้าวมันไก่กับเพื่อนสองคน พี่เราอีกสี่คนไปจบที่ข้าวราดแกงปักษ์ใต้ จ้า มาเหนือกินของใต้ เริ่ดอะ 55555555 แต่คือตอนนั้นมันเลือกได้ไม่มาก ร้านข้าวซอยยังมิเปิด TT



ระหว่างรอ เราก็เดินเล่นในตัวเมืองน่านค่ะ ที่แรกที่ไปคือ วัดภูมินทร์ ที่นี่วัดเยอะคล้ายๆกับอยุธยาเลย ถึงจะเป็นตัวเมือง ไม่ว่าจะตรอกซอกซอยไหน เราก็จะเจอวัดค่ะ แล้วที่สำคัญคือวัดสวยมากกกกกก ประณีตมาก ศิลปะแบบล้านนาที่เป็นเอกลักษณ์ ถ้าเปรียบน่านเป็นคนๆนึงเราว่าเค้าเป็นคนที่มีสไตส์เป็นของตัวเองมากๆ มี signature ไม่ตามกระแสจนเกินไป เปิดรับโลกภายนอกแต่ก็ไม่ลืมตัวตน จากที่สังเกตบ้านเมือง ในมุมมองของเรานะคะ ความเป็นอยู่ของคนที่นั่น การพูดการจา การขับรถ การจราจรบนท้องถนน คือเค้าจะใจเย็นมากๆ พูดจาเพราะ เนิบๆ บนท้องถนนนี่คือขนาดเลี้ยวรถเค้ายังค่อยๆเลี้ยว ไม่มีปาดกัน รอกัน รถติดนี่ก็จอดแบบเป็นระเบียบ ไม่มีบีบแตรไล่คือแบบโอโห้ภาพตัดมากกับที่กรุงเทพ คือเราเข้าใจนะว่ากรุงเทพกับที่น่าน การจราจรไม่เหมือนกันแน่นอนเพราะเป็นเมืองหลวงมันต้องวุ่นวายเป็นธรรมดา แต่ที่อยากจะให้เอาที่นี่เป็นแบบอย่างคือ คนเค้ามีน้ำใจมากค่ะ ใจดี ไม่ใจร้อน เคารพกฎจราจร / กลับมาเรื่องวัดค่ะ นอกเรื่องไปไกล 555555 วัดสวยค่ะ วัดภูมินทร์ สงบมากๆ ทั้งสถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรมเป็นเอกลักษณ์มาก










ลืมบอกนะคะว่าไปแต่ละที่ นี่คือเดินค่ะ เดินลูกเดียว ละกระเป๋าหนักไปอี๊กกก แต่ก็บ่ยั่นเน้อ งามแต้ๆเมืองน่าน
หลังจากชื่นชมวัดภูมินทร์เสร็จก็เดินไปที่วัดพระธาตุช้างค้ำค่ะ ซึ่งอยู่เยื้องๆกัน






วันที่เราไปพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน เค้าปิดปรับปรุงค่ะเลยได้แค่เดินถ่ายรูปอยู่ข้างนอก





เดินเสร็จแล้วก็กลับมาที่วัดภูมินทร์อีกครั้งค่ะ คือเราเอากระเป๋าวางไว้ที่นี่ตรงซุ้มนั่งแล้วพี่เราอีกสองคนเค้าอาสาเฝ้าให้เพราะต้องการพักก่อน เพราะเดินมาเหนื่อย ถ้าจะเดินไปพร้อมกันหมดก็ต้องแบกกระเป๋าอีกเลยตกลงกันว่าวางไว้ที่นี่ก่อนละกัน แล้วคนที่เหลือก็ไปเดินเที่ยวต่อ กลับมารอรถ 10 โมง นี่มันช้าจางงง เพราะเราเฝ้ารอค่ะมันเลยนาน 55555 ระหว่างนั้นก็หาไรทาน เดินชมรอบๆอีกครั้ง แล้วเราคือชอบศิลปะอยู่แล้ว เห็นพี่ท่านนึงเค้ากำลังวาดภาพค่ะ อยู่ข้างๆวัดภูมินทร์ ก็เลยเดินไปดู ไปพูดคุยกับเค้า คือภาพวาดพี่เค้าสวย เลยถามพี่เค้าว่า "พี่เรียนจบจากทางนี้โดยตรงเลยหรอคะ" พี่เค้าบอกว่า  " อ๋อ ผมไมไ่ด้เรียนครับ ครูพักลักจําเค้ามา เวลาเห็นคนอื่นเค้าทำ เราก็ทำตามเค้า ผมเป็นช่าง ทางเหนือเค้าเรียก สล่า ครับ" เราอึ้งมากๆนี่ขนาดจำจากคนอื่นมายังสวยขนาดนี้ ถ้าได้ศึกษาลึกๆ คงเก่งมากๆ แล้วเค้าก็ถามเรามาจากไหน คุยกันไปซักพัก เราก็ถามเค้าขอถ่ายรูปผลงานศิลปะพี่ได้มั้ยคะ เพราะบางครั้งผลงานศิลปะ ศิลปินเค้าจะหวงมากเป็นลิขสิทธิ์ ต่างๆมากมายเราเลยถามก่อน พี่เค้าบอก ตามสบายเลยครับ ถ่ายไปเยอะๆเลย เราก็ขอบคุณพี่เค้าค่ะ ใจดีจัง








10 โมงซะที รถมาแล้วววว ที่แรกที่จะไปคืออุทยานแห่งชาติศรีน่าน ดอยเสมอดาว-ผาหัวสิงห์ ค่ะ ไปกันเลย Let's go!!!
ขับรถออกจากตัวเมืองไม่ไกลมากเท่าไหร่ ก่อนขึ้นไปข้างบน ด้วยความที่ไม่ทราบว่าข้างบนนั้นมีอาหารเครื่องดื่มบริการ เต็มที่มากพวกเราเลยแวะหาซื้อพวกมาม่า ปลากระป๋อง น้ำแข็ง เป๊ปซี่ ตุนขึ้นไปค่ะ ไปแวะที่ร้านขายของระหว่างทางขึ้นมีหลายร้านเลย  จุดพีคค่ะ มันอยู่ตรงนี้ พี่เราเค้าหาซื้อมะขามหรือบ๊วย เปรี้ยวๆไปกิน แก้เมารถละร้านคุณพี่เค้าไม่มี คุณพี่เค้าบอก หนูเอาถุงไปเก็บมะยมเลยลูก เอาเท่าไหร่ก็เอาไปเลยฟรี ได้ยินดังนั้นไม่รอช้าค่ะ พุงตัวด้วยความเร็วแสง ไปที่ต้นมะยมเด็ดๆๆ ลูกมะยมพอหอมปากหอมคอ 5555555 ระหว่างที่เก็บก็หล่นใส่หัวหลายลูก เพื่อนกับพี่เป็นคนเก็บค่ะมองแล้วตลกดีอะ คือชีวิตต้องการมะยมอะไรขนาดนั้น 55555555 ที่สำคัญคือคุณพี่ใจดีมากกก ขอบคุณค่าาา

ชื่อสินค้า:   น่าน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่