สวัสดีผู้อ่านทุกท่านเด้อคับ กระทู้นี้ภาพไม่สวย รีวิวไม่เก่ง แต่อยากเชิญชวนไปเที่ยวด้วยกันนะครับ
อันตัวผมนี้เพื่อนๆเรียกว่า"ชิน" เป็นเด็กบ้านนอกหน้าตาบ๊านนนบ้านน....บลาๆๆ เข้าเรื่องดีกว่าเดี๋ยวยาวว 555+
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสพารุ่นน้องอีก 2 ท่านกลับบ้านด้วย เนื่องจากคุณน้องสองหนุ่มได้เสนอความปรารถนาที่จะสัมผัสอากาศอันหนาวเย็นท่ามกลางธรรมชาติที่รายล้อมด้วยต้นไม้ เมฆหมอก สายลม แสงแดด และดวงดาว ดังนั้นก็ได้เดินทางโดยไม่ได้วางแผนอะไรไว้มากมาย
และนี่ครับหมู่บ้านผมเอง (บ้านขุนสาใน ต.โป่งสา อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน)

ด้านซ้ายที่เห็นหลังคาเยอะๆคือหมู่บ้านครับ ด้านหลังที่เป็นภูเขาใหญ่ๆ เรียกว่า "ม่อนอังเกตุ" ส่วนด้านหน้าที่เป็นนายแบบไม่ต้องสนใจครับ 555+
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คนในรูปชื่อนิน เผื่อใครอยากรู้จักนะครับ^^

ภาพหลาน เหลน โหลน โอ้ววว เหลนผมเองครับ เด็กดอยใจดี นะจ๊ะๆ
บ้านขุนสาใน (บ้านผ้มมม) จะเป็นชนเผ่าม้ง วิถีชีวิตที่นี่เรียบง่ายครับ กลางวันก็ทำไร่ทำสวน กลางคืนก็นอนครับ ไฟฟ้าเพิ่งจะเข้ามาได้ไม่กี่ปี สัญญาณโทรศัพท์ก็เพิ่งมาได้ไม่นาน แต่ที่นี่คนใจดีและมีน้ำใจนะ ไม่เชื่อลองไปเที่ยวกันๆ
สองหนุ่มอยากใส่ชุดม้ง แม่ผมเลยจัดให้แบบเต็มยศ ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาทันที ใครอยากใส่มาทริปด้วยกันนะครับ จะบอกแม่เตรียมชุดสาวๆไว้รอด้วย ^^
วิ่งครับ เอ้ยย ต่อมา.....
"ม่อนอังเกตุหรือดอยม่อนอังเกตุ"เป็นสถานที่ชมวิวทิวทัศน์ที่อยู่ลึกไปในเขตแดนภูเขาของอ.สะเมิง ซึ่งอันที่จริงแล้วม่อนอังเกตุเป็นเขตติดต่อ 2 จังหวัด 3 อำเภอ ได้แก่ อ.สะเมิง อ.แม่แตง และอ.ปาย มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,840 เมตร เมื่อก่อนการเดินทางค่อนข้างลำบาก ปัจจุบันรถกระบะที่ไม่ใช่ 4x4 ก็สามารถขึ้นได้แล้วนะครับ ที่นี่นักท่องเที่ยวมักนิยมไปค้างคืนกางเต้นท์เพื่อลุ้นดูทะเลหมอก เพราะบนดอยเป็นจุดที่เห็นวิวแบบเปิดโล่ง 360 องศา
ภาพบรรยากาศม่อนอังเกตุล่าสุดที่ไปมานะครับ (ภาพถ่ายด้วย iPhone 5c และ iPhone 6 ไม่ได้ผ่านการปรับแต่งแต่อย่างใดนะครับ)

พอไปถึงปุ๊บ สองหนุ่มดีใจ ถ่ายรูปใหญ่เลย

เมฆเริ่มเยอะ ฟ้าเริ่มครื้ม ท้องฟ้ามันครื้มม มันครื้มออกอย่างนี้...

นั่งรอชมพระอาทิตย์ตกดิน

รอเก็บพระอาทิตย์ใส่ขวดกลับบ้านครับ ^___^
คืนที่ไปกางเต็นท์นอน ลมพัดเรื่อยๆ อากาศหนาวเย็น(มาก) น้ำค้างลง เต็นท์เปียก ถุงนอนเอาไม่อยู่ครับ พูดแล้วเศร้าา T^T
เห็นพี่ที่ไปด้วยบอกว่าอุณหภูมิตอนดึกๆน่าจะอยู่ที่เลขหลักเดียว แต่ไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่ เพราะทุกคนมุดถุงนอนหม้ดดดด

ส่วนภาพนี้ชมพระอาทิตย์ขึ้นครับ

ลองแบบพานอรามาครับ สังเกตุดีๆจะเห็นพระจันทร์เล็กๆด้านขวาด้วยนะ

เช้ามาอากาศสดใส ซัดมาม่าทันใด ได้ใจจริงๆ ขอบคุณภาพจากพี่จ๊ะด้วยครับ
สายๆลงมาจากดอยแวะสวนสตรอเบอร์รี่ของพี่สาวครับ

มาถึงสวนตอนที่เค้าเก็บไปแล้วเรียบร้อยย อดเก็บเบยยย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คนในภาพชื่อเต้อนะ เอ๋อๆหน่อย 555+
ก่อนไปส่งสองหนุ่มกลับ แวะต้มไข่และแช่น้ำแร่ออนเซ็น ที่บ่อน้ำพุร้อนโป่งเดือด ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง
ทริปสองหนุ่มสิ้นสุดลง...
แต่ ทริปของพวกเรากำลังจะเริ่มต้นอีกครั้ง
ผมวางทริปคร่าวๆ ตั้งใจว่าจะพาเพื่อนๆที่สนใจไปร่วมทริป "พิชิตม่อนอังเกตุ ลุยเกษตร เก็บถั่ว เก็บสตรอเบอร์รี่ ศึกษาวิถีชีวิตชนเผ่า"
โดยตั้งใจว่าจะไปวันที่ 5-7 กุมภาพันธ์ 2559 รับจำนวน 10 คน รายละเอียดดังนี้
วันที่ 5
- เดินทางโดยรถทัวร์ออกจากหมอชิตคืนวันศุกร์ที่ 5 ประมาณ 20.00 น. ไปถึงเชียงใหม่ไม่เกิน 7.30 น.
วันที่ 6
- รับประทานอาหารเช้า กินข้าวซอย อาหารขึ้นชื่อของภาคเหนือ
- เช่ารถกระบะ 1 คัน ที่เชียงใหม่ เดินทางไปบ้านขุนสาใน ระยะทางประมาณ 85 กิโลเมตร
- รับประทานอาหารเที่ยงที่บ้านขุนสาใน (บ้านผมเอง)
- หลังจากรับประทานอาหารเที่ยง เดินทัวร์หมู่บ้าน ศึกษาวิถีชีวิตชนเผ่า และใส่ชุดม้งถ่ายรูปกัน
- ประมาณ 14.30 น. เดินเท้าขึ้นไปยังจุดชมวิวม่อนอังเกตุ ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร *ย้ำว่าเดินนะครับ สาเหตุที่ให้เดินเท้าเพราะว่าอยากให้ได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ นะจ๊ะ *
- 16.30 น. เดินทางถึงจุดชมวิวม่อนอังเกตุ ไหว้พระ กางเต็นท์ ชมพระอาทิตย์ตกดิน ดินเนอร์ รอบกองไฟ และนอนครับ
วันที่ 7
- ชมพระอาทิตย์ขึ้น ถ้าโชคดีอาจจะได้เห็นทะเลหมอกด้วย
- เก็บเต็นท์+สัมภาระ ไหว้พระ
- 08.00 น. เดินลงจากม่อนอังเกตุกลับด้วยรถกระบะ
- 09.00 น. ไปสวนชาวบ้าน เก็บถั่ว/เก็บสตรอเบอร์รี่

ภาพบรรยากาศเก็บสตรอเบอร์รี่

ภาพบรรยากาศเก็บถั่วลันเตา (ถั่วหวาน)
- รับประทานอาหารเที่ยงร่วมกันที่สวนชาวบ้าน
- 13.00 น. เยี่ยมชมสวนดอกกุหลาบ
- 14.30 น. เดินทางไปบ่อน้ำพุร้อนโป่งเดือด
- 16.00 น. ต้มไข่ + แช่น้ำแร่ ประมาณ 1 ชั่วโมง

ต้มไข่ๆ

แช่น้ำแร่สบายอุรา
- 17.30 น. เดินทางกลับเชียงใหม่
- 19.00 น. ถึงเชียงใหม่ เดินทางกลับกทม.โดยสวัสดิภาพ
****ค่าใช้จ่าย****
1. ไปเชียงใหม่ กลับกทม. ไม่เกิน 1500 บาท ออกกันเองนะ
2. รถเช่า+น้ำมัน ไม่เกิน 3000 บาท 10 คน คนละ 300 บาท เผื่อๆแล้วนะ
3. ค่าธรรมเนียม เข้าชมอุทยาน (บ่อน้ำพุร้อน) คนละ 40 บาท
4. ค่าบริการแช่น้ำแร่ คนละ 50 บาท
5. ค่าอาหารมื้อเช้าที่เชียงใหม่ ไม่เกินคนละ 100 บาท
6. ค่าอาหารส่วนกลางสำหรับเตรียมไปกินที่ม่อนอังเกตุ 2 มื้อ คนละ 200 บาท
7. สมทบค่าอาหารที่ทานร่วมกับชาวบ้าน มื้อละ 50 บาท
เฉลี่ยรวมทริปนี้ 2 คืน 2 วัน คนละไม่เกิน
2500 บาท ไม่มีการโอนเงินล่วงหน้าใดๆทั้งสิ้น ทุกอย่างแฟร์ๆ ช่วยกันแชร์คร้าบบ
*หมายเหตุ เต็นท์ต้องเตรียมไปเอง ถ้าไม่มีจริงๆ รวมๆกันซื้อที่เชียงใหม่นะจ๊ะ ส่วนผ้าห่มเอาที่บ้านผมไปดีฝ่า ประหยัดๆ
สุดท้ายก่อนจะท้ายสุด ทริปนี้ขอคนที่พร้อมลุย อยากลองทำอะไรใหม่ๆ รักธรรมชาติ ไม่ติดหรูนะครับ เราต้องเดินเท้าขึ้นเขา 4 กิโลเมตรนะจ๊ะ ^^
---สนใจร่วมทริป "พิชิตม่อนอังเกตุ ลุยเกษตร เก็บถั่ว เก็บสตรอเบอร์รี่ ศึกษาวิถีชีวิตชนเผ่า" inbox พูดคุยได้เลยครับ รับแค่ 10 คนจ้าาาา---
หาสมาชิกร่วมทริปพิชิตม่อนอังเกตุ ลุยเกษตร เก็บถั่ว เก็บสตรอเบอร์รี่ ศึกษาวิถีชีวิตชนเผ่า
อันตัวผมนี้เพื่อนๆเรียกว่า"ชิน" เป็นเด็กบ้านนอกหน้าตาบ๊านนนบ้านน....บลาๆๆ เข้าเรื่องดีกว่าเดี๋ยวยาวว 555+
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสพารุ่นน้องอีก 2 ท่านกลับบ้านด้วย เนื่องจากคุณน้องสองหนุ่มได้เสนอความปรารถนาที่จะสัมผัสอากาศอันหนาวเย็นท่ามกลางธรรมชาติที่รายล้อมด้วยต้นไม้ เมฆหมอก สายลม แสงแดด และดวงดาว ดังนั้นก็ได้เดินทางโดยไม่ได้วางแผนอะไรไว้มากมาย
และนี่ครับหมู่บ้านผมเอง (บ้านขุนสาใน ต.โป่งสา อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน)
ภาพหลาน เหลน โหลน โอ้ววว เหลนผมเองครับ เด็กดอยใจดี นะจ๊ะๆ
บ้านขุนสาใน (บ้านผ้มมม) จะเป็นชนเผ่าม้ง วิถีชีวิตที่นี่เรียบง่ายครับ กลางวันก็ทำไร่ทำสวน กลางคืนก็นอนครับ ไฟฟ้าเพิ่งจะเข้ามาได้ไม่กี่ปี สัญญาณโทรศัพท์ก็เพิ่งมาได้ไม่นาน แต่ที่นี่คนใจดีและมีน้ำใจนะ ไม่เชื่อลองไปเที่ยวกันๆ
สองหนุ่มอยากใส่ชุดม้ง แม่ผมเลยจัดให้แบบเต็มยศ ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาทันที ใครอยากใส่มาทริปด้วยกันนะครับ จะบอกแม่เตรียมชุดสาวๆไว้รอด้วย ^^
วิ่งครับ เอ้ยย ต่อมา.....
"ม่อนอังเกตุหรือดอยม่อนอังเกตุ"เป็นสถานที่ชมวิวทิวทัศน์ที่อยู่ลึกไปในเขตแดนภูเขาของอ.สะเมิง ซึ่งอันที่จริงแล้วม่อนอังเกตุเป็นเขตติดต่อ 2 จังหวัด 3 อำเภอ ได้แก่ อ.สะเมิง อ.แม่แตง และอ.ปาย มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,840 เมตร เมื่อก่อนการเดินทางค่อนข้างลำบาก ปัจจุบันรถกระบะที่ไม่ใช่ 4x4 ก็สามารถขึ้นได้แล้วนะครับ ที่นี่นักท่องเที่ยวมักนิยมไปค้างคืนกางเต้นท์เพื่อลุ้นดูทะเลหมอก เพราะบนดอยเป็นจุดที่เห็นวิวแบบเปิดโล่ง 360 องศา
ภาพบรรยากาศม่อนอังเกตุล่าสุดที่ไปมานะครับ (ภาพถ่ายด้วย iPhone 5c และ iPhone 6 ไม่ได้ผ่านการปรับแต่งแต่อย่างใดนะครับ)
พอไปถึงปุ๊บ สองหนุ่มดีใจ ถ่ายรูปใหญ่เลย
เมฆเริ่มเยอะ ฟ้าเริ่มครื้ม ท้องฟ้ามันครื้มม มันครื้มออกอย่างนี้...
นั่งรอชมพระอาทิตย์ตกดิน
รอเก็บพระอาทิตย์ใส่ขวดกลับบ้านครับ ^___^
คืนที่ไปกางเต็นท์นอน ลมพัดเรื่อยๆ อากาศหนาวเย็น(มาก) น้ำค้างลง เต็นท์เปียก ถุงนอนเอาไม่อยู่ครับ พูดแล้วเศร้าา T^T
เห็นพี่ที่ไปด้วยบอกว่าอุณหภูมิตอนดึกๆน่าจะอยู่ที่เลขหลักเดียว แต่ไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่ เพราะทุกคนมุดถุงนอนหม้ดดดด
ส่วนภาพนี้ชมพระอาทิตย์ขึ้นครับ
ลองแบบพานอรามาครับ สังเกตุดีๆจะเห็นพระจันทร์เล็กๆด้านขวาด้วยนะ
เช้ามาอากาศสดใส ซัดมาม่าทันใด ได้ใจจริงๆ ขอบคุณภาพจากพี่จ๊ะด้วยครับ
สายๆลงมาจากดอยแวะสวนสตรอเบอร์รี่ของพี่สาวครับ
มาถึงสวนตอนที่เค้าเก็บไปแล้วเรียบร้อยย อดเก็บเบยยย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก่อนไปส่งสองหนุ่มกลับ แวะต้มไข่และแช่น้ำแร่ออนเซ็น ที่บ่อน้ำพุร้อนโป่งเดือด ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง
ทริปสองหนุ่มสิ้นสุดลง... แต่ ทริปของพวกเรากำลังจะเริ่มต้นอีกครั้ง
ผมวางทริปคร่าวๆ ตั้งใจว่าจะพาเพื่อนๆที่สนใจไปร่วมทริป "พิชิตม่อนอังเกตุ ลุยเกษตร เก็บถั่ว เก็บสตรอเบอร์รี่ ศึกษาวิถีชีวิตชนเผ่า"
โดยตั้งใจว่าจะไปวันที่ 5-7 กุมภาพันธ์ 2559 รับจำนวน 10 คน รายละเอียดดังนี้
วันที่ 5
- เดินทางโดยรถทัวร์ออกจากหมอชิตคืนวันศุกร์ที่ 5 ประมาณ 20.00 น. ไปถึงเชียงใหม่ไม่เกิน 7.30 น.
วันที่ 6
- รับประทานอาหารเช้า กินข้าวซอย อาหารขึ้นชื่อของภาคเหนือ
- เช่ารถกระบะ 1 คัน ที่เชียงใหม่ เดินทางไปบ้านขุนสาใน ระยะทางประมาณ 85 กิโลเมตร
- รับประทานอาหารเที่ยงที่บ้านขุนสาใน (บ้านผมเอง)
- หลังจากรับประทานอาหารเที่ยง เดินทัวร์หมู่บ้าน ศึกษาวิถีชีวิตชนเผ่า และใส่ชุดม้งถ่ายรูปกัน
- ประมาณ 14.30 น. เดินเท้าขึ้นไปยังจุดชมวิวม่อนอังเกตุ ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร *ย้ำว่าเดินนะครับ สาเหตุที่ให้เดินเท้าเพราะว่าอยากให้ได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ นะจ๊ะ *
- 16.30 น. เดินทางถึงจุดชมวิวม่อนอังเกตุ ไหว้พระ กางเต็นท์ ชมพระอาทิตย์ตกดิน ดินเนอร์ รอบกองไฟ และนอนครับ
วันที่ 7
- ชมพระอาทิตย์ขึ้น ถ้าโชคดีอาจจะได้เห็นทะเลหมอกด้วย
- เก็บเต็นท์+สัมภาระ ไหว้พระ
- 08.00 น. เดินลงจากม่อนอังเกตุกลับด้วยรถกระบะ
- 09.00 น. ไปสวนชาวบ้าน เก็บถั่ว/เก็บสตรอเบอร์รี่
ภาพบรรยากาศเก็บสตรอเบอร์รี่
ภาพบรรยากาศเก็บถั่วลันเตา (ถั่วหวาน)
- รับประทานอาหารเที่ยงร่วมกันที่สวนชาวบ้าน
- 13.00 น. เยี่ยมชมสวนดอกกุหลาบ
- 14.30 น. เดินทางไปบ่อน้ำพุร้อนโป่งเดือด
- 16.00 น. ต้มไข่ + แช่น้ำแร่ ประมาณ 1 ชั่วโมง
ต้มไข่ๆ
แช่น้ำแร่สบายอุรา
- 17.30 น. เดินทางกลับเชียงใหม่
- 19.00 น. ถึงเชียงใหม่ เดินทางกลับกทม.โดยสวัสดิภาพ
****ค่าใช้จ่าย****
1. ไปเชียงใหม่ กลับกทม. ไม่เกิน 1500 บาท ออกกันเองนะ
2. รถเช่า+น้ำมัน ไม่เกิน 3000 บาท 10 คน คนละ 300 บาท เผื่อๆแล้วนะ
3. ค่าธรรมเนียม เข้าชมอุทยาน (บ่อน้ำพุร้อน) คนละ 40 บาท
4. ค่าบริการแช่น้ำแร่ คนละ 50 บาท
5. ค่าอาหารมื้อเช้าที่เชียงใหม่ ไม่เกินคนละ 100 บาท
6. ค่าอาหารส่วนกลางสำหรับเตรียมไปกินที่ม่อนอังเกตุ 2 มื้อ คนละ 200 บาท
7. สมทบค่าอาหารที่ทานร่วมกับชาวบ้าน มื้อละ 50 บาท
เฉลี่ยรวมทริปนี้ 2 คืน 2 วัน คนละไม่เกิน 2500 บาท ไม่มีการโอนเงินล่วงหน้าใดๆทั้งสิ้น ทุกอย่างแฟร์ๆ ช่วยกันแชร์คร้าบบ
*หมายเหตุ เต็นท์ต้องเตรียมไปเอง ถ้าไม่มีจริงๆ รวมๆกันซื้อที่เชียงใหม่นะจ๊ะ ส่วนผ้าห่มเอาที่บ้านผมไปดีฝ่า ประหยัดๆ
สุดท้ายก่อนจะท้ายสุด ทริปนี้ขอคนที่พร้อมลุย อยากลองทำอะไรใหม่ๆ รักธรรมชาติ ไม่ติดหรูนะครับ เราต้องเดินเท้าขึ้นเขา 4 กิโลเมตรนะจ๊ะ ^^
---สนใจร่วมทริป "พิชิตม่อนอังเกตุ ลุยเกษตร เก็บถั่ว เก็บสตรอเบอร์รี่ ศึกษาวิถีชีวิตชนเผ่า" inbox พูดคุยได้เลยครับ รับแค่ 10 คนจ้าาาา---