สรุปการเดินทางวันที่ 11 ของทริปที่ 141
แลเดอยาแคมป์ สะเมิง เชียงใหม่
ลานที่ 9 ของทริป
เมื่อคืนที่จกต.ริมน้ำปาย อากาศดี หนาว น่าจะ 10 ต้นๆ เพื่อนบ้านมีอยู่หลายหลัง เสียงดนตรีจากร้านต่างๆ ดังไม่มาก แต่ดึกมากๆ ตี 2 ร้านเดิมก็ยังคงดังมากกกกกก เหมือนคืนก่อน แต่ลุงแฉเอาอยู่ คืออุดหูครับ
ตื่นก่อน 6 โมงเช้า เก็บถุงนอน ผ้าห่ม หมอน และพับเบาะรองนอน แล้วออกมาเข้าห้องน้ำ หมอกฟรุ้งเหนือลำน้ำ น้ำค้างเกาะเต็มทาร์ปทั้งบนและล่าง
กลับมาแล้วเริ่มทะยอยเก็บของ ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. เสร็จก่อน 8 โมง แล้วขอไปอาบน้ำอุ่นให้สบายตัวก่อน
ย้อนกลับมาทางเดิมแล้วแวะตลาดสด เติมน้ำแข็ง กับข้าวนิดหน่อย แล้วเดินทางต่อ เลี้ยวซ้ายไปด้านเมืองแปง ถนนดี 2 เลนสวน แต่ไม่มีไหล่ทาง มีทั้งชันมากชันน้อย โค้งมากโค้งนิด แล้วออกบ้านเหมืองแร่ ถนนกว้างขึ้น ผ่านน้ำพุร้อนบ้านเหมืองแร่ริมถนน น่ากางเต็นท์มาก น้ำพุร้อนค่อนข้างร้อนมากครับ
ขับรถต่อไปเข้าอำเภอกัลยาณิวัฒนา มีชันมากชันน้อย โค้งมากโค้งน้อยเช่นเดิม ถนนดีเกือบตลอดสาย แล้วผ่านป่าสนวัดจันทร์ของออป. ผ่านวัดจันทร์ ที่มีโบสถ์ใส่แว่น คราวนี้ทางไม่ค่อยดี ซัก 5 กม. ได้มั้ง
ถนนผ่านป่าเขาที่มีต้นสนต้นใหญ่ 2 ข้าง ป่าอุดมสมบูรณ์ ขับสนุก จนใกล้ม่อนเหยียบเมฆ กำลังทำถนนอีกช่วง และมีอีกบางช่วงที่ถนนไม่ค่อยดี แต่จะไม่แย่เหมือน 2 ช่วง
แล้วก็มาถึงที่นอนคืนนี้ ขับรถแล้วจอดในลาน ผมทักมาก่อนแล้ว ไม่มีใครอยู่ แต่ทักกับเจ้าของ เลือกจุดที่เห็นไร่สตรอเบอรี่สวยๆ แดดมา เลือกกาง Bushcraft เพื่อให้กันหนาวดีขึ้น
ใช้เวลา 20 นาที และจัดบ้านต่ออีกเกือบชม.แล้วทำมื้อเช้าและเที่ยงต่อ ใช้เวลาอีกครึ่งชม.ก็เสร็จ นั่งกินพร้อมชมวิวไร่สตรอเบอรี่ด้วยความสุข
บ่าย 3 โมงกว่า ขับรถไปจุดรับซื้อ อยากได้แบบแดงๆ ฉ่ำๆ แบบต้องกินไม่เกินพรุ่งนี้ จะได้ทำแยมไว้กิน แต่เพราะยังเป็นต้นฤดูที่ออกยังไม่เยอะ และโลละ 150 เลยยังไม่ซื้อดีกว่า
บ่าย 4 โมง แดดเริ่มอ่อนแรง เจอเจ้าของลานพอดี จ่ายตังค์ค่ากาง เจ้าของใจดีลดให้เหลือ 160 บาท จาก 200 บาท ขอบคุณมากๆ ครับ ออ เจอคุณแม่ด้วย (มั้ง) กำลังเก็บผักกวางตุ้งที่ปลูกไว้ ให้มาเก็บได้ ขอบคุณมากครับ
ต้มน้ำอาบดีกว่า มีแนวโน้มว่าจะหนาวกว่าทุกวัน ห้องน้ำบ้านๆ สะอาด แต่น้ำขุ่น เลยอาบแต่ตัวเอาพอครับ สบายตัวอยู่เหมือนกัน
กลับมาเตรียมมื้อเย็นรองท้อง แดดเริ่มอ่อนแรง อากาศก็เริ่มเย็นลงจนรู้สึกได้ ใส่เสื้อกันหนาวและหมวกไอ้โม่ง ไฟจากเตาแก๊สช่วยให้อุ่นขึ้นครับ
นั่งกินด้วยความสุข อากาศหนาวๆ ประมาณ 17 จิบน้ำแก่นฝางอุ่นๆ กะเมนูง่ายๆ แสงเริ่มอ่อนลง แค่นี้ก็มีความสุขมากๆ ครับ
เช็ดล้างจานชามแล้วเตรียมของสำหรับมื้อเช้า คราวนี้เริ่มมืด เสียงจิ้งหรีดดังเป็นเพื่อน ฟ้าเปิด เห็นดวงดาวอยู่เยอะ แม้จะมีไฟสว่างจากโซล่าของลานบ้าง พรุ่งนี้เช้าตรู่ จะเห็นมากมายแน่นอน และคืนนี้น่าจะมีโอกาสต่ำกว่า 10 ครับ
มีความสุขครับ
วิถีแค้มปิ้งวิถีพอเพียงวิถีความสุข
สรุปค่าใช้จ่ายประจำวัน
1.มื้อเช้า+เที่ยง 60 บาท
2.น้ำแข็ง 60 บาท
3.มื้อเย็น 30 บาท
4.ค่ากาง 200 บาท
รวม 350 บาท
สะสม 7,515 บาท
สรุปการเดินทางวันที่ 11 ของทริปที่ 141
แลเดอยาแคมป์ สะเมิง เชียงใหม่
ลานที่ 9 ของทริป
เมื่อคืนที่จกต.ริมน้ำปาย อากาศดี หนาว น่าจะ 10 ต้นๆ เพื่อนบ้านมีอยู่หลายหลัง เสียงดนตรีจากร้านต่างๆ ดังไม่มาก แต่ดึกมากๆ ตี 2 ร้านเดิมก็ยังคงดังมากกกกกก เหมือนคืนก่อน แต่ลุงแฉเอาอยู่ คืออุดหูครับ
ตื่นก่อน 6 โมงเช้า เก็บถุงนอน ผ้าห่ม หมอน และพับเบาะรองนอน แล้วออกมาเข้าห้องน้ำ หมอกฟรุ้งเหนือลำน้ำ น้ำค้างเกาะเต็มทาร์ปทั้งบนและล่าง
กลับมาแล้วเริ่มทะยอยเก็บของ ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. เสร็จก่อน 8 โมง แล้วขอไปอาบน้ำอุ่นให้สบายตัวก่อน
ย้อนกลับมาทางเดิมแล้วแวะตลาดสด เติมน้ำแข็ง กับข้าวนิดหน่อย แล้วเดินทางต่อ เลี้ยวซ้ายไปด้านเมืองแปง ถนนดี 2 เลนสวน แต่ไม่มีไหล่ทาง มีทั้งชันมากชันน้อย โค้งมากโค้งนิด แล้วออกบ้านเหมืองแร่ ถนนกว้างขึ้น ผ่านน้ำพุร้อนบ้านเหมืองแร่ริมถนน น่ากางเต็นท์มาก น้ำพุร้อนค่อนข้างร้อนมากครับ
ขับรถต่อไปเข้าอำเภอกัลยาณิวัฒนา มีชันมากชันน้อย โค้งมากโค้งน้อยเช่นเดิม ถนนดีเกือบตลอดสาย แล้วผ่านป่าสนวัดจันทร์ของออป. ผ่านวัดจันทร์ ที่มีโบสถ์ใส่แว่น คราวนี้ทางไม่ค่อยดี ซัก 5 กม. ได้มั้ง
ถนนผ่านป่าเขาที่มีต้นสนต้นใหญ่ 2 ข้าง ป่าอุดมสมบูรณ์ ขับสนุก จนใกล้ม่อนเหยียบเมฆ กำลังทำถนนอีกช่วง และมีอีกบางช่วงที่ถนนไม่ค่อยดี แต่จะไม่แย่เหมือน 2 ช่วง
แล้วก็มาถึงที่นอนคืนนี้ ขับรถแล้วจอดในลาน ผมทักมาก่อนแล้ว ไม่มีใครอยู่ แต่ทักกับเจ้าของ เลือกจุดที่เห็นไร่สตรอเบอรี่สวยๆ แดดมา เลือกกาง Bushcraft เพื่อให้กันหนาวดีขึ้น
ใช้เวลา 20 นาที และจัดบ้านต่ออีกเกือบชม.แล้วทำมื้อเช้าและเที่ยงต่อ ใช้เวลาอีกครึ่งชม.ก็เสร็จ นั่งกินพร้อมชมวิวไร่สตรอเบอรี่ด้วยความสุข
บ่าย 3 โมงกว่า ขับรถไปจุดรับซื้อ อยากได้แบบแดงๆ ฉ่ำๆ แบบต้องกินไม่เกินพรุ่งนี้ จะได้ทำแยมไว้กิน แต่เพราะยังเป็นต้นฤดูที่ออกยังไม่เยอะ และโลละ 150 เลยยังไม่ซื้อดีกว่า
บ่าย 4 โมง แดดเริ่มอ่อนแรง เจอเจ้าของลานพอดี จ่ายตังค์ค่ากาง เจ้าของใจดีลดให้เหลือ 160 บาท จาก 200 บาท ขอบคุณมากๆ ครับ ออ เจอคุณแม่ด้วย (มั้ง) กำลังเก็บผักกวางตุ้งที่ปลูกไว้ ให้มาเก็บได้ ขอบคุณมากครับ
ต้มน้ำอาบดีกว่า มีแนวโน้มว่าจะหนาวกว่าทุกวัน ห้องน้ำบ้านๆ สะอาด แต่น้ำขุ่น เลยอาบแต่ตัวเอาพอครับ สบายตัวอยู่เหมือนกัน
กลับมาเตรียมมื้อเย็นรองท้อง แดดเริ่มอ่อนแรง อากาศก็เริ่มเย็นลงจนรู้สึกได้ ใส่เสื้อกันหนาวและหมวกไอ้โม่ง ไฟจากเตาแก๊สช่วยให้อุ่นขึ้นครับ
นั่งกินด้วยความสุข อากาศหนาวๆ ประมาณ 17 จิบน้ำแก่นฝางอุ่นๆ กะเมนูง่ายๆ แสงเริ่มอ่อนลง แค่นี้ก็มีความสุขมากๆ ครับ
เช็ดล้างจานชามแล้วเตรียมของสำหรับมื้อเช้า คราวนี้เริ่มมืด เสียงจิ้งหรีดดังเป็นเพื่อน ฟ้าเปิด เห็นดวงดาวอยู่เยอะ แม้จะมีไฟสว่างจากโซล่าของลานบ้าง พรุ่งนี้เช้าตรู่ จะเห็นมากมายแน่นอน และคืนนี้น่าจะมีโอกาสต่ำกว่า 10 ครับ
มีความสุขครับ
วิถีแค้มปิ้งวิถีพอเพียงวิถีความสุข
สรุปค่าใช้จ่ายประจำวัน
1.มื้อเช้า+เที่ยง 60 บาท
2.น้ำแข็ง 60 บาท
3.มื้อเย็น 30 บาท
4.ค่ากาง 200 บาท
รวม 350 บาท
สะสม 7,515 บาท