ศูนย์ Samsung ช่วยชี้แจ้งด้วยครับ !!

สวัสดีครับ ผมมีปัญหาทุกข์ร้อนใจมากเกี่ยวกับ samsung Note 4 คือปัญหาด้านกล้องถ่ายรูปครับ เริ่มจากผมซื้อโทรศัพท์มาจากศูนย์ทรูวันที่ 27/02/2558 กล้องถ่ายรูปไม่ชัดครับ คือความเข้มของสีเครื่องผมมันจาง เมื่อเทียบกับเครื่องอื่น ซึ่งในตอนแรกผมเข้าใจว่ารุ่นนี้เป็นเหมือนกันหมด แต่พอผมได้เปรียบเทียบกับเพื่อนที่มหาลัย หลายๆคนที่ใช้ note4 เหมือนกัน คือเครื่องของทุกคนสีคมชัดแจ๋วเลย มีเครื่องผมนี่แหละที่มีปัญหา ผมเลยลองค้นหาข้อมูลในพันทิป หลายคนบอกว่าศูนย์ที่สีลมบริการดี ผมเลยจะไปซ่อมที่นั่น

ซ่อมครั้งที่ 1 วันที่ 25/6/2558 เดินทางไปซ่อมที่สาขาสีลม เข้าศูนย์ด้วยอาการ
1.จอเหลือง
2.ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียงค้าง
3.GPS ตำแหน่งไม่ตรง เครื่องร้อนไว
4.อาการสีของกล้องที่ไม่เข้ม
หลังจากทิ้งเครื่องไว้ซ่อมหนึ่งวัน สรุปได้ว่า
1.อาการจอเหลืองคือเกิดจากจอไหม้ และได้ทำการเปลี่ยนจอให้ใหม่ (ผมเสียดายฟิล์มกันกระแทก) พี่เค้าบอกว่าถ้าจะซ่อมก็ต้องเปลี่ยนจอ เก็บฟิล์มไว้ไม่ได้
2.อาการปุ่มเพิ่ม/ลดเสียงค้าง ซึ่งอาจเกิดจากเศษฝุ่นผงเข้าไปติด เอาแปรงปัดออกให้ก็คงจะหาย
อาการที่ 3 พี่ได้เปลี่ยนบอร์ดให้ใหม่แล้ว และ 4 ก็เปลี่ยนกล้องให้ใหม่เช่นกัน ซึ่งผมก็กลับมาใช้ที่หอพักคิดว่ากล้องปกติแล้ว(แต่คือมันยังไม่หาย) โดยตอนนั้นใช้เปลี่ยนบอร์ดใหม่ซอฟต์แวร์เลยกลับมาเป็น Android 4.4 อยู่ ผมก็ต้องมาลงแอพใหม่ ตั้งค่าต่างๆของเครื่องใหม่อีก
พอถึงช่วงที่ไม่มีเรียนก็ไม่อยู่หอ กลับมาบ้าน(แถวพระราม2) เลยเอา Note4 ไปอัพเป็นเวอร์ชั่น 5 ที่ศูนย์ซัมซุงเซ็นทรัลพระราม 2 เพราะคิดว่าอัพซอฟต์แวร์ที่ศูนย์คงชัวร์กว่าอัพด้วยตัวเอง ซึ่งผมก็เข้ารับการอัพวันที่ 4/7/2558  พอผมกลับมหาลัย ไปเทียบกล้องกับnote4เครื่องของเพื่อนนั้น ปรากฎว่ากล้องของผมมันยังเหมือนเดิม ไม่หายสักที แต่ผมก็ต้องทนๆใช้ไปก่อน เพราะเครื่องนี้ผมซื้อมาเพราะมันคือ Note ผมใช้งานมันจริงๆ จดเวลาเรียน อัดเสียงตอนอาจารย์สอนไปด้วย หรือไม่ก็ตอนประชุมอัดเสียงไปด้วย จดไปด้วย หรือตารางกิจกรรมที่ทำที่มหาลัย คือผมคิดว่ามันมีปัญหาที่กล้องอย่างเดียว รอไว้ช่วงหยุดยาวกลับบ้านค่อยกลับไปศูนย์  
พอมาถึงช่วงหยุดยาวกลับบ้าน ผมก็เข้าศูนย์ครั้งที่ 3 สาขาเซ็นทรัลพระราม2 (เพราะใกล้บ้าน) 27/7/2558 พนักงานบอกอาการแบบนี้ไม่เคยเจอ เปิดเทียบกะโทรศัพท์ของพนักงานคนข้างๆที่ใช้ Note4 เหมือนกัน ก็เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ดังนั้นผมจึงตัดเรื่องซอฟต์แวร์ออกไป ต้องเป็นเพราะฮาร์ดแวร์ แต่พนักงานบอกงั้นเดียวขอลองล้างเครื่องใหม่ ไอ้เราก็ไม่ได้สำรองข้อมูลมาด้วย เพราะคิดว่ายังไงก็คงไม่ได้ล้างเครื่อง เสียดายข้อมูลมาก บอกพนักงานว่ามันคงไม่เกี่ยวที่ซอฟต์แวร์หรอกพี่ พนักงานบอกลองดู ไอ้เราก็กลั้นใจให้เค้าลบข้อมูลในเครื่องไปที่มีรูปอยู่ เพราะถ้ามัวเอามาสำรองข้อมูลคงไม่ทันแน่ๆ กว่าจะถึงคิวยี่สิบกว่าคิว รอเป็นสองชั่วโมงกว่าจะถึงคิว พอล้างเครื่องเสร็จกล้องมันก็เหมือนเดิม ยังซีดอยู่ แล้วพนักงานก็คุยกันกับโต๊ะข้างๆบอกเครื่องร้อนไวมากก แบตนี่ร้อนเวอร์ ไอ้เรานั่งฟังเค้าคุยกันก็น้ำตาจะไหล นี่ซื้อเครื่องมือ 1 นะ ทำไมซวยขนาดนี้ แล้วพนักงานก็เดินไปคุยกะช่างที่ข้างใน บอกว่าต้องลองเปลี่ยนบอร์ดใหม่ อะไหล่โน๊ตสี่มาเดือนหน้า ทิ้งเครื่องไว้มั้ย แล้วเค้าก็หยิบกล่องลูกค้าที่ส่งเคลมโน๊ตสี่ให้ดูสามสี่กล่อง เหอะะ...แต่ก็ไม่ได้ทิ้งเครื่องไว้ เพราะเดียวต้องไปเข้าค่ายสัมนา เลยขอเอาเครื่องกลับ พนักงานบอกต้องลองเปลี่ยนบอร์ดใหม่ดู ถ้าไม่หายก็เดียวลองเปลี่ยนกล้องใหม่ ต้องเปลี่ยนจนกว่าจะหาย โห่ยย...ได้ยินน้ำตาจะไหล พึ่งจะเปลี่ยนบอร์ดเครื่องมาเดือนนึงพอดี(26/6/58) ต้องเปลี่ยนอีกแล้วหรอ ครั้งที่แล้วติดฟิล์มกระจกกันกระแทกไว้เปลี่ยนจอใหม่ก็โดนลอกใหม่ แล้วพอเปลี่ยนบอร์ดใหม่ก็ต้องไปแจ้งศูนย์บริการเครือข่ายอีก(ล็อคMAC address wifi) ให้เปลี่ยนเลขอิมี่เครื่องที่ล็อคอินกะ wifi ไว้ แล้วเปลี่ยนทีก็ลงแอพใหม่ ถึงแม้มันจะมีให้แบ็คอัพไว้ก็เถอะ... ก็มาลงใหม่ข้อมูลประวัติเก่าๆก็หาย แล้วแอพก็มีตั้งเยอะ ต้องมาล็อคอิน ตั้งค่าแอพใหม่หมดอีก คือเบื่อมากกก ซื้อมาไม่กี่เดือนแต่ล้างเครื่องโครตบ่อย หลังจากที่ไม่ได้ซ่อมเพราะอะไหล่ note4 ใหม่และผมไปเข้าค่ายจวบจนเปิดเทอม ใช้ไปเรื่อยๆเครื่องมีอาการจอเหลืองอีกแล้ว (จอไหม้) ซึ่งผมก็ใช้งานปกตินะเน้นใช้โน๊ตเขียนๆ ถ่ายรูปและก็เล่นเฟสบุค แอพอื่นๆพวกไลน์ไม่ค่อยเล่น ยิ่งเป็นเกมผมไม่เล่นเลย ในเครื่องผมไม่มีเกมเลย มีแต่พวกแอพการเรียนทั้งนั้น ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าทำไมมันไหม้อีกแล้ว
และเข้าศูนย์ครั้งที่ 4 วันที่ 1/9/2558 สาขาเซ็นทรัลพระราม2 เช่นเดิม รอคิวนานมากกว่าจะได้ซ่อม เพราะคนมาซ่อมเยอะจริงๆ ก็น่าเห็นใจพนักงาน พอถึงคิวผมพนักงานบอกว่ามันเป็นอาการซ่อมซ้ำต้องทิ้งเครื่องไว้ทดสอบ ซ่อมเสร็จเดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมา ซึ่งเวลาผ่านไป ไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมา หา ผมเลยกดโทรไปเบอร์ที่อยู่ในบิล คือโทรทุกเบอร์ที่จะติดต่อสาขาเซ็นทรัลพระราม 2 ไม่มีติดสักเบอร์ ผมเลยโทรหา Call Center พนักงานเลยตามเรื่องให้และบอกจะให้ทางศูนย์พระราม 2 ติดต่อกลับมา ผ่านไปสักระยะนึง ทางสาขาเซ็นทรัลพระราม 2 ก็ติดต่อกลับมาว่าเครื่องเสร็จแล้วไปรับได้ อารมณ์ตอนนั้นจากที่โมโห พอได้ยินว่าเครื่องเสร็จแล้ว ผมนี่รีบไปเลย ประมาณช่วงเย็นๆ พอไปถึงพนักงานก็ไปเอาเครื่องมาให้บอกว่าเปลี่ยนจอให้ใหม่แล้ว ผมก็ตรวจสอบดู พอผมกดดูผมดูก็รู้ว่ากล้องสีมันซีดเหมือนเดิม พนักงานเข้าไปซ่อมใหม่ สักพักใหญ่ๆออกมาบอกว่าเปลี่ยนกล้องให้แล้ว แล้วก็กรอบตัวเครื่องใหม่ ผมถามพนักงานว่ามี Note4 อีกเครื่องให้ลองมั้ย คือผมจะทำการเปรียบเทียบกัน เค้าบอกไม่มี ผมก็ถามเรื่องฟิล์มกันกระแทกของผมอีก คือผมเปลี่ยนหลายรอบมาก รอบนึงก็หลายบาท เค้าบอกมีขายยี่ห้อโฟกัส ผมก็ถามว่าผมซ่อมหลายครั้งหมดเงินกับฟิล์มกันกระแทกหลายบาทผมต้องซื้อเปลี่ยนเองตลอดเลยหรอ พนักงานก็เลยเดินไปข้างหลังไปคุยกะใครก็ไม่รู้ แล้วก็ออกมาบอกว่าให้ส่วนลดเหลือ 300 กว่าบาทนี่แหละ ผมก็โอเคให้เค้าติดให้เลย แล้วก็เซ็นรับเครื่อง  พอผมออกมาจากศูนย์ ผมแวะร้านมือถือที่เค้าให้ลอง ผมเปิดกล้องเครื่องผมกับเครื่องตัวโชว์ที่ร้าน ซึ่งมันก็เห็นชัดเจนว่าเครื่องผมกล้องไม่หาย ผมเลยเดินกลับไปที่ศูนย์ช่างเค้าก็เอาไปทำให้ใหม่ รอสักพักใหญ่ๆ พนักงานบอกเปลี่ยนกล้อง เปลี่ยนเคสกรอบรอบตัวเครื่องให้แล้ว ผมก็ดูว่ามันไม่หาย ตอนนั้นห้างก็ใกล้จะปิดแล้วด้วย เค้าบอกต้องทิ้งเครื่องไว้อีกแล้วคราวนี้เป็นอาทิตย์ ผมบอกผมไม่สะดวกช่วงนี้ต้องใช้เครื่องเพราะอยู่ในช่วงเปิดเทอม เค้าบอกงั้นน้องเอาเครื่องไปใช้ก่อน  พร้อมเมื่อไหร่แล้วมาซ่อม เดี๋ยวพี่จะยังไม่ปิดจ็อบเครื่องน้อง ผมก็โอเครกลับบ้าน แล้วจากที่ใช้ผมรู้สึกคุณภาพฟิล์มไม่ดีเลย ผมเลยเปลี่ยนไปใช้อีกยี่ห้อนึง
เหตุการณ์ผ่านไปได้สักระยะนึง เครื่องผมจอไหม้อีกแล้วครับ จอเหลืองเลย คราวนี้นานหน่อยเพราะช่วงสอบไฟนอล ผมเลยทนใช้ไป เพราะเวลามาซ่อมทีต้องแบคอัพข้อมูลกับทำอะไรเครื่องอีกเยอะแยะ ผมเลยรอช่วงว่างๆ พอหลังสอบไฟนอลเสร็จช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ผมกลับบ้านก็เลยเอาไปซ่อมอาการจอไหม้ที่สาขาเซ็นทรัลพระราม2 เช่นเคย  เมื่อวันที่ 26/12/2558 ผมก็บอกเรื่องจอ เรื่องแบหมดไวกับกล้องเช่นเดิม ช่างบอกว่าเดี๋ยวเปลี่ยนจอ และก็ทิ้งเครื่องไว้สองสามวันดูอาการ และขอเอาไว้ทุกอย่างตัวเครื่อง ฝาหลัง แบตเตอรี่ ปากกา แล้วก็ดูรอยรอบตัวเครื่อง ซึ่งดูนานมาก ผมคิดในใจ พนักงานพึ่งจะเปลี่ยนขอบมาได้ไม่นาน ไม่มีรอยตกอยู่ล่ะ เพราะเครื่องผมใส่เคส led flip wallet note 4 ของศูนย์ซัมซุงแท้ไว้ตลอด มีแค่พวกรอยขีดข่วนเล็กน้อยที่เกิดจากการเสียดสีกับกางเกงไรงี้ แล้วก็เขียนบิลให้ ผมถามช่างว่า เนี๊ยพี่ผมโทรหาที่นี่ไม่เคยติดเลย ผมต้องมาเช็คเองตลอด ช่างก็วงเล็บดอกจันไว้ให้บอกให้โทรมาเบอร์นี้นะ โทรติดแน่นอน เวลาล่วงเลยไปสองวัน เลยอยากถามอาการว่าไปถึงไหนแล้ว ประมาณ 11 โมงกว่า ห้างเปิดแล้ว เลยโทรไปตามเบอร์ที่ช่างระบุไว้ในบิล บอกว่าไม่มีหมายเลขที่ท่านเรียก ส่วนเบอร์อื่นๆก็โทรไม่ติดเช่นกัน ผมเลยโทรหา Call Center ให้ตามเรื่องให้ เค้าบอกเดี๋ยวให้ทางศูนย์พระราม 2 ติดต่อกลับมา สักพักใหญ่ๆ ทางพระราม 2 ติดต่อกลับมา เค้าบอกอาการของเครื่องผม เดี๋ยวจะมีช่างใหญ่จากศูนย์ซัมซุงมาซ่อมให้ไรงี้ เดี๋ยวจะโทรบอก ผมย้ำกำชับพนักงานว่าต้องโทรมาบอกจริงๆนะ เค้าก็บอกโอเครประมาณนี้  พอช่วงเย็นๆสี่ห้าโมงเย็น พนักงานก็โทรมาจริงๆ บอกว่าเครื่องซ่อมเสร็จแล้วให้ไปรับได้ พอไปเช็คเครื่อง กล้องโทรศัพท์ก็ยังไม่หาย ยังมีอาการผิดปกติอยู่ เลยบอกพนักงาน เอา note 4 เครื่องอื่นมาเทียบดู ซึ่งมันแตกต่างกันชัดเจนมากแถมเครื่องก็มีรอยตก พนักงานต้อนรับบอกรอสักครู่ แล้วพนักงานก็เดินไปคุยกับช่างที่รับเครื่องเรา แล้วก็เดินไปด้านหลัง สักพักมีพนักงาน ผู้หญิงมาคุยด้วย เขาบอกว่าเขาเป็นช่างใหญ่ที่นี่ เค้าพูดประมาณว่า "เครื่องนี้จะไม่ซ่อมแล้ว เพราะจากประวัติมาซ่อมหลายครั้งและทำการเปลี่ยนอะไหล่ให้แล้วไม่หาย ซึ่งจะส่งเรื่องเข้าไปที่ samsung ศูนย์ใหญ่ ว่าจะมีมาตรการเยียวยา ลูกค้าอย่างไร ซึ่งไม่แน่อาจจะได้รับข่าวดี แต่ไม่รับปาก โดยตอนนี้ศูนย์ใหญ่หยุดปีใหม่ เปิดทำการอีกทีวันที่ 4 มกรา แล้วจะทำเรื่องจากที่นี่ส่งเรื่องเข้าไป และทางสำนักงานใหญ่จะเรียกเครื่องคุณลูกค้าไปทดสอบความผิดปกติ โดยให้ลูกค้าทิ้งเครื่องไว้เป็นอาทิตย์ ซึ่งถ้าลูกค้าจะใช้เครื่องช่วงปีใหม่ให้เอาเครื่องกลับไปใช้ก่อน ถ้าศูนย์ใหญ่ติดต่อกลับมาเมื่อไหร่ เดียวทางเราจะเรียกเครื่องลูกค้ากลับมา ส่วนในกรณีที่เครื่องเป็นรอย ถ้าศูนย์ใหญ่ตัดสินว่าจะเยียวยาลูกค้าอย่างไรแล้ว ถ้าศูนย์ใหญ่ส่งคืนเครื่องทางเราจะเปลี่ยนกรอบให้ใหม่และจะติดฟิล์มกันกระแทกให้ใหม่"  
ผมถามว่าแล้วให้ผมเอาเครื่องกลับไปใช้แบบนี้แล้วไม่ติดฟิล์มให้ผม ถ้าผมไปทำเครื่องตกจอแตกมา จะเปลี่ยนให้ผมใหม่มั้ยครับ พี่เค้าก็บอกว่า งั้นเดี๋ยวติดให้ใหม่ไปเลย (ผมซีเรียสเรื่องจอแตกพอสมควร เพราะเห็นราคาค่าซ่อมจอ Note4 อยู่ที่ 4,000-5,000)  แล้วผมก็ย้ำพี่เค้าหนักเค้าหนาว่าติดต่อมานะครับ เพราะหลังปีใหม่ผมเปิดเทอมแล้ว แล้วต้นเดือนมกราต้องไปเขาชนไก่ พี่หัวหน้าเค้าก็บอก จะทำเรื่องให้คุณลูกค้าเร็วที่สุด แล้วก็กลับไปด้านหลัง
ระหว่างที่ผมรอพนักงานติดฟิล์มให้ ผมถามพนักงานต้อนรับว่า พี่มันมีกรณีแบบผมมั้ยที่ซ่อมแล้วไม่หายสักที เค้าบอกว่าก็มีส่วนมากจะเกิดจากล็อตของสินค้า
บอกเลยครับตอนนั้นผมสั่นมากแบบโมโหนะ ผมเสียใจกับสินค้าแต่ก็เข้าใจพนักงานอ่ะ คือมันก็ไม่รู้จะทำยังไงกับเครื่องของผมจริงๆ ผมก็โอเครที่พี่เค้ารับปากผม ผมก็อยากให้มันหายเหมือนกัน
หลังจากนั้นปีเก่าผ่านไป ล่วงเลยวันที่ 4มกรามา ผมก็ได้แต่เฝ้ารอตามที่พนักงานได้บอกผมไว้ว่าอยู่เฉยๆเดี๋ยวจะติดต่อกลับมา จนมาถึงเมื่อวานวันที่ 7 ผมเห้นว่าเงียบนาน เลยโทรไปถาม Call Center เค้าบอกว่าเรื่องของผมยังไม่ถูกส่งเรื่องเข้ามา ผมเลยถามว่าไหนพนักงานบอกจะส่งเรื่องตั้งแต่วันที่ 4 ที่สำนักงานใหญ่เปิดทำการ เค้าบอก ณ ตอนนี้ยังไม่มีเรื่องส่งเข้ามา เดี๋ยวเค้าจะประสานเรื่องให้ แต่ถ้าอยากให้ไวต้องไปตามเรื่องที่สาขาเอง

ตอนผมซื้อเครื่องนี้ 25,900 ส่วนลดจากทรู 2,000 เหลือ 23,900 และใช้โปรรายเดือนทรู ซึ่งราคาตอนนั้นพอๆกับ iPhone6 ซึ่งผมก็ชอบ iPhoneนะ เครื่องเก่าผมก็ iPhone คนรอบข้างก็สนับสนุนให้เอา iPhone มากกว่า ทั้งราคาไม่ตกง่ายเหมือนซัมซุง แต่ที่ผมเลือก Note4 เพราะผมมองว่า ผมซื้อมาใช้ไม่ได้ซื้อมาขาย การจะซื้อมือถือทั้งทีก็ต้องการที่มันดีไปเลย ณ ช่วงเวลานั้น ใช้ไปนานๆ จนเรียนจบค่อยเปลี่ยนรุ่น และสิ่งที่สำคัญมันตอบโจทย์ชีวิตการเรียนผมมากกว่า ทั้งจดบันทึก ทั้งบันทึกเสียงระหว่างอาจารย์สอน ถ่ายสไลด์บนกระดาน หรือการโหลดแนวข้อสอบเก่าๆมาขีดเขียน อยากวาดรูป อยากทำไรมันดูง่ายไปหมด ซึ่งถ้าเครื่องผมปกติไม่มีปัญหาแบบคนอื่นนะ ผมว่า Note เป็นมือถือที่เจ๋งที่สุดเครื่องนึงเลย แต่มาตอนนี้ผมรู้สึกว่า" ผมเสียใจ ที่ผมคิดผิด "
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่