เราก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เกาะกระแสรีวิวในพันทิปมานานตั้งแต่ยังแบเบาะ ใครว่าครีมตัวไหนดีเราก็ลองหามาใช้ไปซะหมด ดีบ้างไม่ดีบ้าง
จนในที่สุด....หน้าพังค่ะ
รูปด้านล่างนี้คือหนังหน้าในอดีตที่แสนเศร้า กับหนังหน้าปัจจุบันที่แสนสุขค่ะ
พื้นเพเป็นคนผิวหน้าปกติ มีสิวบ้างพอให้รู้ว่าฮอร์โมนมันพุ่งพล่านเล็กๆน้อยๆตามวันนั้นๆของเดือน แต่พอโตเป็นสาวก็แบบ อะนะ อยากสวยบ้างอะไรบ้าง เหมือนพี่อั้ม พี่ใหม่ ดาวิกา ไรงิ (แก่กว่าเค้าเกือบรอบยังกล้าเรียกพี่ อิอิ) ก็เลยเฟ้นหาสกินแคร์ ครีมต่างๆนานาชนิดมาทำให้ขาว สวย ดูดี ที่ไหนมีทรีตเมนต์ เลเซอร์อะไรเด็ดๆ ไม่รอช้าจ้าจัดมาหมด และในที่สุดผิวหน้าเราก็พังทลายค่ะ สิวอุดตัน สิวผด ผื่นแดง หน้ามันเยิ้ม และไหนยังรอยสิวที่มีอยู่ทั่วทุกอณูของหน้า มันถาโถมเข้ามาจนสุขภาพจิตเริ่มตก ทุกครั้งที่มองกระจก เหมือนโดนมีดปักอก อยากจะตัดหัวออกแล้วให้มันงอกใหม่ขึ้นมา ดราม่ามากค่ะบอกตรง ไปไหนก็มีแต่คนทัก คนสงสาร เรียกได้ว่าเจอใครก็มีแต่คนแนะนำให้ไปหาหมอคนนู้นคนนี้ เราก็...ไปค่ะ ไม่รอช้าอีกเช่นเคย วินาทีนั้นยอมทุกอย่างค่ะ ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว นอกจากตังค์ หมดเงินกับค่ารักษาไปเยอะมาก++ เอาเป็นว่าน่าจะหลักล้านได้ ไม่ใช่แค่ 2-3 เดือนนะคะ สะสมมาเป็น 2-3 ปี แต้มบัตรเครดิตนี่ไม่ต้องพูดถึง แลกของมาจนจะครบหมดแล้ว 555+ รักษาแล้วหน้าก็ดีขึ้น แต่มันเหมือนแค่ชั่วคราว ไม่นานปัญหาสิว หน้าแพ้ก็กลับมาอีก อยากลองใช้ครีมใหม่ๆ รองพื้นใหม่ๆก็ไม่ได้เลย เปลี่ยนยาสระผมยังสิวขึ้นหน้าเลยค่ะ ส่วนไปเที่ยวต่างจังหวัดนี่ไม่ต้องพูดถึงค่ะ หน้าเยินทันทีที่เท้าก้าวลงจากรถ หนักจริงๆค่ะตอนนั้น สุขภาพหน้าและสุขภาพจิตตกต่ำสุดๆ
ในที่สุดก็มาพบหมอคนหนึ่งที่บอกว่า จริงๆผิวหนูนี่แห้งมากนะ งงเลยค่ะเสี้ยววินาทีนั้น แห้งยังงัยคะ? กระดาษซับมัน 2 แผ่นยังเอาไม่อยู่ คุณหมอบอกว่าเพราะผิวแห้งมากมันเลยระคายเคืองง่ายและผิวก็ต้องผลิตน้ำมันออกมาเยอะเพื่อให้ผิวเกิดความชุ่มชื่น แต่พอผิวผลิตน้ำมันออกมามากเกิดความจำเป็นก็เลยเป็นสาเหตุของปัญหาที่เราเผชิญอยู่ โอ้มายก้อด!!! ฉันเพิ่งจะเข้าใจนะเนี่ย!!! จากนั้นคุณหมอก็เล่าสาเหตุเลยว่า พวกครีมไวเทนนิ่งต่างๆที่เราเคยใช้ ไหนจะเลเซอร์นู้นนี่อีกมันทำให้ความชุ่มชื้นใต้ผิวเราถูกทำลายและเสียสมดุล ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำคือกำราบสิวที่มีแทบทุกรูขุมขน เติมความชุ่มชื้นและรักษาสมดุลของมันไว้ และนี่เองค่ะเราจะมาเล่าว่าอาวุธเด็ดๆอะไรบ้างที่ทำให้เราชนะสงครามหน้าเห่อ และผิวไม่แพ้อีกต่อไป หลังจากลองมาทุกวิถีทาง เราอยากจะเสนออีกหนึ่งทางลัดแก่ผู้ที่มีปัญหา จะได้ไม่ต้องเสียทั้งเวลาและเงินทองมหาศาล ต้องบอกก่อนนะคะว่าไม่เยอะ ไม่หลายตัว เพราะเราถือคติว่าใช้แค่ที่จำเป็นพอ ไม่อยากรบกวนผิวเยอะค่ะเดี๋ยวผิวสุดที่รักของดิฉันจะอาละวาดอีก อย่างไรก็ดีสิ่งที่เราจะมาบอกต่อนี้ เป็นตัวที่เราใช้แล้วดี เห็นผล ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละท่านด้วยค่ะว่าจะมีปฏิกิริยาตอบสนองเหมือนหรือแตกต่างไปอย่างไร (เกรินยาวไปหน่อยต้องขออภัยนะคะ อยากให้เห็นภาพว่าตอนนั้นมันดราม่าจริงๆ)
ตัวแรกขอเริ่มจากตัวนี้ค่ะ Acne-Aid Gentle Cleanser
บอกก่อนเลยค่ะว่าตัวล้างหน้าสำหรับเราหาตัวที่ไม่แพ้ยากมากกก จนมาเจอตัวนี้ตัวล้างหน้า Soap-free ในตำนานของผู้มีผิวแพ้ง่าย อ่อนโยนจริงๆค่ะ ถ้าวันไหนไม่ได้ทากันแดดหรือไม่แต่งหน้า ตัวเดียวเอาอยู่ค่ะ ล้างแล้วผิวไม่แห้งตึงจนเกินไป สะอาดสไตล์อ่อนโยนๆ เนื้อจะเหมือนครีมๆเหลวๆ ไม่มีฟอง ช่วงแรกที่หน้ายังมันอยู่บอกเลยค่ะว่าต้องล้าง 2 รอบ เพราะรู้สึกว่าครีมมันเจาะไม่ทะลุน้ำมันหน้าเรา แต่พอล้างรอบสองแล้วโอมากๆค่ะ ส่วนวันไหนที่ทากันแดดหรือแต่งหน้าก็ต้องใช้ makeup remover นะคะ ลืมไม่ได้ ตัวนี้หาซื้อได้ง่ายทั่วไปเลยค่ะ
ต่อมา เรื่องสิวๆค่ะ Duac Once Daily Gel
ตัวนี้ต้องบอกก่อนว่าหาซื้อยากมาก ก.ไก่ ล้านตัว เราหาได้เฉพาะตามโรงพยาบาลค่ะ (ใครหาซื้อได้ง่ายกว่านี้รบกวนบอกทีค่ะ) เจ้าตัวนี้ดีตรงที่เค้าเป็นลูกผสมระหว่าง Clindamycin 1% กับ Benzoyl Peroxide 5% ปลื้มมากๆค่ะทาตัวเดียวจบ เราจะทาก่อนนอนตรงบริเวณที่มีสิวขึ้น ที่สำคัญคือไม่ต้องล้างออกเหมือน Benzac ทั่วไป ไม่แสบผิวด้วยค่ะ ตรงไหนตุ่ยๆปุ๊บป้ายเลยค่ะ พอทาได้ 2-3 วัน สิวจะค่อยๆยุบตัวและหลุดไปค่ะ แต่ต้องระวังเล็กน้อยถ้าทามากไปผิวอาจแห้งได้ บางทีซาดิสโบ๊ะหนาผิวลอกเบย แต่โดยรวมดีมาก เลิฟค่ะ
ครีมบำรุงผิว Kindness Happy Glow Antioxidant Radiance Moisturizer
ครีมตัวนี้เราใช้มาได้ประมาณ 3 เดือน ซื้อมาจากร้าน Oleaf organic แถวสุขุมวิท 49 ตัวนี้เค้าเน้นว่าเป็นครีมฟื้นฟูผิวให้ผิวแข็งแรงจากสารสกัด Astaxanthin และ Betaglucan ที่สำคัญคืออ่อนโยนแม้ผิวแพ้ง่ายแบบเรา เนื้อครีมสีส้มอ่อนๆ เนื้อดูเข้มข้นแต่ซึมง่ายมาก หลังจากทาสิ่งแรกที่สังเกตได้คือผิวดูแน่น คือมันนุ่มและดูอิ่มน้ำมากค่ะ รู้เลยค่ะว่าผิวสมดุลคืออะไร พอทาไปได้ประมาณ 2 อาทิตย์พวกร่องรอยสมรภูมิสงคราม รอยสิวก็จางลงเลยค่ะ แถมสิวไม่ขึ้นเลย รักมากกกก ยกให้เป็นหนึ่งในยาสามัญประจำบ้าน 55+ ตัวนี้น่าจะมีวางขายตามร้านสินค้าเพื่อสุขภาพออแกนิค และทางเว็บไซต์ www.kindnessskin.com (เค้าแถมสติ๊กเกอร์มาให้ตกแต่งกระปุกด้วย เลยติดซะเต็มที่เลย 555+)
ตัวบำรุงต่อมา Physiogel Soothing Care AI Cream
ตัวนี้เมื่อก่อนใช้บ่อยมาก ดีเช่นกันค่ะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ใช้แล้ว แต่ขอแถมให้ละกันนะคะ ตัวนี้หาซื้อได้ตามร้านขายยาค่ะ เค้าเคลมว่าเหมาะสำหรับผิวแห้งที่ระคายเคือง เนื้อครีมจะค่อนข้างข้นพอทาแรกๆจะรู้สึกเคลือบๆ มันหน่อยแต่ไม่ถึงกับเหนอะมาก แรกๆช่วงแพ้จัดๆ หน้าแดงๆ เราทาหนักมากค่ะ มันช่วยทุเลาผิวที่แดงและระคายเคืองลงมากค่ะ แต่พอทาไปเรื่อยๆก็รู้สึกเหมือนมันแค่เคลือบบนผิว พอล้างออกผิวก็ยังรู้สึกแห้งอยู่ ส่วนตัวคิดว่าเหมาะสำหรับบรรเทาอาการแพ้เป็นหลัก ถ้าทาคู่ครีมบำรุงผิวด้วยจะดีเว่อร์ไปเลยค่ะ
นี่แหละค่ะ ทั้งหมดที่เราใช้เพื่อลาขาดจากหน้าเห่อๆ สิวๆ และร่องรอยทั้งหมด หวังว่าจะเป็นอีกช่องทางลัดหนึ่งให้เพื่อนๆที่กำลังประสบปัญหาเหมือนหรือมากน้อยไปกว่าเรา เป็นกำลังใจให้นะคะ ที่สำคัญที่สุดคือกำลังใจค่ะ ถ้าใจสู้ซะอย่างยังงัยก็หายค่ะ อย่าเครียดจนเกินไป ทำใจให้มีความสุข ทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเยอะๆ ออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งภายในและภายนอกค่ะ
บอกเล่าประสบการณ์ผิวแพ้ง่าย หน้าเห่อ วันนี้ฉันชนะแล้ว!!!
จนในที่สุด....หน้าพังค่ะ
รูปด้านล่างนี้คือหนังหน้าในอดีตที่แสนเศร้า กับหนังหน้าปัจจุบันที่แสนสุขค่ะ
พื้นเพเป็นคนผิวหน้าปกติ มีสิวบ้างพอให้รู้ว่าฮอร์โมนมันพุ่งพล่านเล็กๆน้อยๆตามวันนั้นๆของเดือน แต่พอโตเป็นสาวก็แบบ อะนะ อยากสวยบ้างอะไรบ้าง เหมือนพี่อั้ม พี่ใหม่ ดาวิกา ไรงิ (แก่กว่าเค้าเกือบรอบยังกล้าเรียกพี่ อิอิ) ก็เลยเฟ้นหาสกินแคร์ ครีมต่างๆนานาชนิดมาทำให้ขาว สวย ดูดี ที่ไหนมีทรีตเมนต์ เลเซอร์อะไรเด็ดๆ ไม่รอช้าจ้าจัดมาหมด และในที่สุดผิวหน้าเราก็พังทลายค่ะ สิวอุดตัน สิวผด ผื่นแดง หน้ามันเยิ้ม และไหนยังรอยสิวที่มีอยู่ทั่วทุกอณูของหน้า มันถาโถมเข้ามาจนสุขภาพจิตเริ่มตก ทุกครั้งที่มองกระจก เหมือนโดนมีดปักอก อยากจะตัดหัวออกแล้วให้มันงอกใหม่ขึ้นมา ดราม่ามากค่ะบอกตรง ไปไหนก็มีแต่คนทัก คนสงสาร เรียกได้ว่าเจอใครก็มีแต่คนแนะนำให้ไปหาหมอคนนู้นคนนี้ เราก็...ไปค่ะ ไม่รอช้าอีกเช่นเคย วินาทีนั้นยอมทุกอย่างค่ะ ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว นอกจากตังค์ หมดเงินกับค่ารักษาไปเยอะมาก++ เอาเป็นว่าน่าจะหลักล้านได้ ไม่ใช่แค่ 2-3 เดือนนะคะ สะสมมาเป็น 2-3 ปี แต้มบัตรเครดิตนี่ไม่ต้องพูดถึง แลกของมาจนจะครบหมดแล้ว 555+ รักษาแล้วหน้าก็ดีขึ้น แต่มันเหมือนแค่ชั่วคราว ไม่นานปัญหาสิว หน้าแพ้ก็กลับมาอีก อยากลองใช้ครีมใหม่ๆ รองพื้นใหม่ๆก็ไม่ได้เลย เปลี่ยนยาสระผมยังสิวขึ้นหน้าเลยค่ะ ส่วนไปเที่ยวต่างจังหวัดนี่ไม่ต้องพูดถึงค่ะ หน้าเยินทันทีที่เท้าก้าวลงจากรถ หนักจริงๆค่ะตอนนั้น สุขภาพหน้าและสุขภาพจิตตกต่ำสุดๆ
ในที่สุดก็มาพบหมอคนหนึ่งที่บอกว่า จริงๆผิวหนูนี่แห้งมากนะ งงเลยค่ะเสี้ยววินาทีนั้น แห้งยังงัยคะ? กระดาษซับมัน 2 แผ่นยังเอาไม่อยู่ คุณหมอบอกว่าเพราะผิวแห้งมากมันเลยระคายเคืองง่ายและผิวก็ต้องผลิตน้ำมันออกมาเยอะเพื่อให้ผิวเกิดความชุ่มชื่น แต่พอผิวผลิตน้ำมันออกมามากเกิดความจำเป็นก็เลยเป็นสาเหตุของปัญหาที่เราเผชิญอยู่ โอ้มายก้อด!!! ฉันเพิ่งจะเข้าใจนะเนี่ย!!! จากนั้นคุณหมอก็เล่าสาเหตุเลยว่า พวกครีมไวเทนนิ่งต่างๆที่เราเคยใช้ ไหนจะเลเซอร์นู้นนี่อีกมันทำให้ความชุ่มชื้นใต้ผิวเราถูกทำลายและเสียสมดุล ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำคือกำราบสิวที่มีแทบทุกรูขุมขน เติมความชุ่มชื้นและรักษาสมดุลของมันไว้ และนี่เองค่ะเราจะมาเล่าว่าอาวุธเด็ดๆอะไรบ้างที่ทำให้เราชนะสงครามหน้าเห่อ และผิวไม่แพ้อีกต่อไป หลังจากลองมาทุกวิถีทาง เราอยากจะเสนออีกหนึ่งทางลัดแก่ผู้ที่มีปัญหา จะได้ไม่ต้องเสียทั้งเวลาและเงินทองมหาศาล ต้องบอกก่อนนะคะว่าไม่เยอะ ไม่หลายตัว เพราะเราถือคติว่าใช้แค่ที่จำเป็นพอ ไม่อยากรบกวนผิวเยอะค่ะเดี๋ยวผิวสุดที่รักของดิฉันจะอาละวาดอีก อย่างไรก็ดีสิ่งที่เราจะมาบอกต่อนี้ เป็นตัวที่เราใช้แล้วดี เห็นผล ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละท่านด้วยค่ะว่าจะมีปฏิกิริยาตอบสนองเหมือนหรือแตกต่างไปอย่างไร (เกรินยาวไปหน่อยต้องขออภัยนะคะ อยากให้เห็นภาพว่าตอนนั้นมันดราม่าจริงๆ)
ตัวแรกขอเริ่มจากตัวนี้ค่ะ Acne-Aid Gentle Cleanser
บอกก่อนเลยค่ะว่าตัวล้างหน้าสำหรับเราหาตัวที่ไม่แพ้ยากมากกก จนมาเจอตัวนี้ตัวล้างหน้า Soap-free ในตำนานของผู้มีผิวแพ้ง่าย อ่อนโยนจริงๆค่ะ ถ้าวันไหนไม่ได้ทากันแดดหรือไม่แต่งหน้า ตัวเดียวเอาอยู่ค่ะ ล้างแล้วผิวไม่แห้งตึงจนเกินไป สะอาดสไตล์อ่อนโยนๆ เนื้อจะเหมือนครีมๆเหลวๆ ไม่มีฟอง ช่วงแรกที่หน้ายังมันอยู่บอกเลยค่ะว่าต้องล้าง 2 รอบ เพราะรู้สึกว่าครีมมันเจาะไม่ทะลุน้ำมันหน้าเรา แต่พอล้างรอบสองแล้วโอมากๆค่ะ ส่วนวันไหนที่ทากันแดดหรือแต่งหน้าก็ต้องใช้ makeup remover นะคะ ลืมไม่ได้ ตัวนี้หาซื้อได้ง่ายทั่วไปเลยค่ะ
ต่อมา เรื่องสิวๆค่ะ Duac Once Daily Gel
ตัวนี้ต้องบอกก่อนว่าหาซื้อยากมาก ก.ไก่ ล้านตัว เราหาได้เฉพาะตามโรงพยาบาลค่ะ (ใครหาซื้อได้ง่ายกว่านี้รบกวนบอกทีค่ะ) เจ้าตัวนี้ดีตรงที่เค้าเป็นลูกผสมระหว่าง Clindamycin 1% กับ Benzoyl Peroxide 5% ปลื้มมากๆค่ะทาตัวเดียวจบ เราจะทาก่อนนอนตรงบริเวณที่มีสิวขึ้น ที่สำคัญคือไม่ต้องล้างออกเหมือน Benzac ทั่วไป ไม่แสบผิวด้วยค่ะ ตรงไหนตุ่ยๆปุ๊บป้ายเลยค่ะ พอทาได้ 2-3 วัน สิวจะค่อยๆยุบตัวและหลุดไปค่ะ แต่ต้องระวังเล็กน้อยถ้าทามากไปผิวอาจแห้งได้ บางทีซาดิสโบ๊ะหนาผิวลอกเบย แต่โดยรวมดีมาก เลิฟค่ะ
ครีมบำรุงผิว Kindness Happy Glow Antioxidant Radiance Moisturizer
ครีมตัวนี้เราใช้มาได้ประมาณ 3 เดือน ซื้อมาจากร้าน Oleaf organic แถวสุขุมวิท 49 ตัวนี้เค้าเน้นว่าเป็นครีมฟื้นฟูผิวให้ผิวแข็งแรงจากสารสกัด Astaxanthin และ Betaglucan ที่สำคัญคืออ่อนโยนแม้ผิวแพ้ง่ายแบบเรา เนื้อครีมสีส้มอ่อนๆ เนื้อดูเข้มข้นแต่ซึมง่ายมาก หลังจากทาสิ่งแรกที่สังเกตได้คือผิวดูแน่น คือมันนุ่มและดูอิ่มน้ำมากค่ะ รู้เลยค่ะว่าผิวสมดุลคืออะไร พอทาไปได้ประมาณ 2 อาทิตย์พวกร่องรอยสมรภูมิสงคราม รอยสิวก็จางลงเลยค่ะ แถมสิวไม่ขึ้นเลย รักมากกกก ยกให้เป็นหนึ่งในยาสามัญประจำบ้าน 55+ ตัวนี้น่าจะมีวางขายตามร้านสินค้าเพื่อสุขภาพออแกนิค และทางเว็บไซต์ www.kindnessskin.com (เค้าแถมสติ๊กเกอร์มาให้ตกแต่งกระปุกด้วย เลยติดซะเต็มที่เลย 555+)
ตัวบำรุงต่อมา Physiogel Soothing Care AI Cream
ตัวนี้เมื่อก่อนใช้บ่อยมาก ดีเช่นกันค่ะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ใช้แล้ว แต่ขอแถมให้ละกันนะคะ ตัวนี้หาซื้อได้ตามร้านขายยาค่ะ เค้าเคลมว่าเหมาะสำหรับผิวแห้งที่ระคายเคือง เนื้อครีมจะค่อนข้างข้นพอทาแรกๆจะรู้สึกเคลือบๆ มันหน่อยแต่ไม่ถึงกับเหนอะมาก แรกๆช่วงแพ้จัดๆ หน้าแดงๆ เราทาหนักมากค่ะ มันช่วยทุเลาผิวที่แดงและระคายเคืองลงมากค่ะ แต่พอทาไปเรื่อยๆก็รู้สึกเหมือนมันแค่เคลือบบนผิว พอล้างออกผิวก็ยังรู้สึกแห้งอยู่ ส่วนตัวคิดว่าเหมาะสำหรับบรรเทาอาการแพ้เป็นหลัก ถ้าทาคู่ครีมบำรุงผิวด้วยจะดีเว่อร์ไปเลยค่ะ
นี่แหละค่ะ ทั้งหมดที่เราใช้เพื่อลาขาดจากหน้าเห่อๆ สิวๆ และร่องรอยทั้งหมด หวังว่าจะเป็นอีกช่องทางลัดหนึ่งให้เพื่อนๆที่กำลังประสบปัญหาเหมือนหรือมากน้อยไปกว่าเรา เป็นกำลังใจให้นะคะ ที่สำคัญที่สุดคือกำลังใจค่ะ ถ้าใจสู้ซะอย่างยังงัยก็หายค่ะ อย่าเครียดจนเกินไป ทำใจให้มีความสุข ทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเยอะๆ ออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งภายในและภายนอกค่ะ