เส้นทาง ปรัชญา และ ไร้จุดหมาย

จุดประสงค์ในการเล่า

ผมเห็นใน Pantip ชอบเล่าเรื่องราวกัน ผมก็อยากลองตีแผ่เรื่องราวของชนชั้นระดับล่างบ้างเผื่ออาจมีคนสนใจ เรื่องราวต่อไปนี้มาจากเหตุการณ์รอบๆตัวผมนะครับ ผมจะไม่เอาเรื่องส่วนตัวของใครมาเล่าเด็ดขาด เรื่องไหนผมผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อนก็เตือนๆด้วยนะครับ บางอย่างมันนานเกือบ 10 ปีละ

เริ่ม...


♫ ♫ ~ ♬ ♫ วันเวลาผันเปลี่ยนเวียนไป ใจของคน ก็หมุนวนเปลี่ยนแปร ตั้งแต่เด็ก น้อย จนเติบแก่ ผ่านไปพบปัญหาสาระพัน ถูกกีดกันโดยชนชั้นเอาเปรียบเหยียบ ขย้ำ หัวใจทำลายขวัญ หยดหยาดเหงื่อทั้งน้ำเกลือน้ำกลั่น น้ำใจนั้น จงแบ่งปันผู้คน เสียงเพลงให้เปล่งออกมา จะโหยหาเสรีอันยิ่งใหญ่ เสียงเพลง ให้เปล่งออกมา จะโหยหาเสรีภาพ คงจะพ้น โดยการเป็นกลุ่มคน ความสับสน คือโลภโมโทสัน คือเอาเปรียบเอาไป ไม่แบ่งปัน เลยตีกัน จนล้มหายตายห่า ก็เห็นเงิน พบเงิน ก็จะเตะ ให้เตะ ให้ตาย ไม่มีราคา ชีวิตคน ดูเหมือนดั่งผักปลา อนาถหนา สังคมสังคัง เสียงเพลงให้เปล่งออกมา จะโหยหาเสรีอันยิ่งใหญ่ เสียงเพลงให้เปล่งออกมาจะโหยหาเสรีภาพ อันสังคมก็ยังเดินดั่งเก่า ดั่งไดโนเสาดั่งเต่าล้านปี คือสังคม ยศฐาบรรดามี มีศักดิ์มีศรี ถือนายถือบ่าว จะก้าวเดินต่อไปในภายหน้า ต้องสร้างศรัทธาหรือประชาธิปไตย ที่เป็นจริงเป็นจังดั่งตั้งใจ ให้ชาวไทยได้มีเสรีภาพ เสียงเพลงให้เปล่งออกมา
จะโหยหาเสรีอันยิ่งใหญ่ เสียงเพลงให้เปล่งออกมา จะโหยหาเสรีภาพ เสียงเพลงแห่งเสรีภาพ เสรีภาพ เสียงเพลงแห่งเสรีภาพ เสรีภาพ เสียงเพลงแห่งเสรีภาพ เสรีภาพ เสียงเพลงแห่งเสรีภาพ เสรีภาพ ♫ ♫ ~ ♬ ♫


"ที่นี่!!! สถานีชุมทางหาดใหญ่ ท่านที่เดินทางมากับขบวนรถเร็วที่ 171 กรุงเทพ - สุไหงโก-ลก โปรด...."

ดิน : ฮัลโหล... พี่บ่าว ผมถึงหาดใหญ่แล้วเนี่ย ยังไงพี่
พี่บ่าว น. : เคๆ พี่กำลังถึงน้อง เจอท่ารถหาดใหญ่...
ดิน : ไปยังไงพี่ ผมไม่เคยมาเลย
พี่บ่าว น. : นั่งวินเลยน้อง เคๆเจอกัน
...เรียบร้อย ยืนงงหน้าสถานีรถไฟ นั่นเป็นครั้งแรกที่คุยกันและต่อมาพี่คนนี้คือคนที่ผมนับถือเป็นพี่ชายที่รักเหมือนญาติเลยทีเดียว วีรเวรเดี๋ยวค่อยว่ากันนะครับ

ย้อนกลับไป 2 ปี

ณ วงเหล้าแห่งหนึ่งในหมู่บ้านที่แออัด
ไข่ย้อย : เห้ย -ยันหว่างเหมือนเดิมนะ กูจะทำบุญกับหลวงพ่อ
ไข่เค็ม : วันนี้ร่างกายไม่ไหววะ อาจจะนอนบ้านดินมันก่อน พักสายตา
ไข่ย้อย : ถ้าไม่ตื่น มีเตะนะ
ดิน : เห้ย เรื่องเรียนเอาไงวะ เซงๆวะบ้านมีปัญหาไม่รู้ได้เรียนต่อป่าว อาจทำงาน
ไข่เค็ม : เหมือนกันวะ ลงรามกันป่ะละ ไม่แพงนี่
ไข่ย้อย : ว้ายๆ กุสบายตัวแล้ววะ
ช่วงนั้นการเปิดรับนักศึกษาอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายแล้วครับ ที่ไม่รีบสมัครก็เพราะการเงินมีปัญหาถึงขั้นต้มผักจับฉ่ายเป็นหม้อๆกินกับข้าวเป็นเดือน ถ้าถามว่าทำไมไม่ไปกู้ละ แม่ผมมีคติคือไม่ยอมให้ลูกเป็นหนี้เด็ดขาดครับ

...ตอนขอเงินแม่ไปสมัครราม (ยากเย็นชะมัด) โดนบ่นสารพัด ว่า "ไหวหรอ หนังสือก็ไม่ค่อยอ่าน วันๆ-แต่เหล้า ไม่น่ารอด" ตอนไปสมัครรามก็นัดแนะไข่เค็มแล้วก็นั่งรถเมล์ไป (ไปไงวะ ไม่เคยไป)
...ตอนสมัครคนก็เยอะดี โดยเฉพาะสาวๆ (ที่นี่แปลกจะเห็นคนสวยๆได้เฉพาะวันลงทะเบียนกับสอบ ตึบเลย!!!) เลือกคณะทำไรเสร็จ ก็...เดินส่องหญิงสิครับ รอไรละ เดินๆไปซักพักมีเจ้ๆหน้าสวยๆมาชวนเข้าซุ้ม คิดในใจว่า "หน้าตาเถื่อนๆผมยาวๆแบบเรา แม้งไม่เหมาะมั้ง ซุ้มนครศรีธรรมราชก็ว่าไปอย่าง" ก็เลยบอกปัดเจ้คนงามไป ซักพักก็มีพี่ผู้ชายคนนึงมาชวนเข้าซุ้ม ผมก็มองๆนะ เฟี้ยวดีๆวะ สักรูปแนวโรมัน คริสเตียน ก็เลยเออออห่อหมกกับไข่เค็มไป สรุปว่ามีซุ้มแบบงงๆทั้งที่อยากเข้าซุ้มเถื่อนๆ
...เข้าซุ้มแล้วต่อไปก็รับน้อง โดน VIP อ่วมกว่าเพื่อน แต่ไม่เท่าไหร่ ขำๆสนุกๆ ตอนอยู่ซุ้มรู้สึกสาวที่สวยสุดในรุ่นจะมาหลงคนป่าอย่างเราเฉย วันกลับบ้านผมและไข่เค็มไม่ได้กลับบ้านนะครับ แก๊งเรานัดไปก้งในซอยมหาดไทย ห้องเพื่อนๆนี่แหละ ชาย 4 หญิง 3 ตุ๊ด 1 อะไรจะเกิดขึ้น...

เดี๋ยวมาต่อนะครับ หัวหน้าเรียกไปตบกระบาล

แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่