อ่านให้จนนะครับ อย่าเบื่อผมละ ผิดพลาดยังไงก็ขอโทษด้วยครับผมแค่อยากจะพิมพ์ยาวๆให้เข้าใจแบบลึกๆ
ขอใช้นามแฝงว่า บี ครับ คือบีเขาเป็นเพื่อนผมตั้งแต่มัธยมต้น พอจบจากมัธยมผมก็มาอยู่กรุงเทพไม่ได้เรียนต่อ
เพราะตอนมาอยู่กรุงเทพค่อนข้างเกเรมาก แต่ก็เกเรไม่นานครับปี2ปี ผมก็เลยหางานทำแล้วก็ทำงานเรื่อย
จนตอนนี้ครับ เพื่อนๆขึ้นปี1กันแล้ว และบีเขาก็มาเรียนในกรุงเทพครับ ก็นัดเจอกันบ่อยๆตามประสาเพื่อน
ตอนนั้นก็ไม่ได้แอบรักนะครับเพราะเขามีแฟนอยู่แล้ว แต่เมื่อไม่มานี้เขาก็อกหัก ก็กลายเป็นสาวโสดมาเรื่อยๆ
และเรื่อยแอบรักมันก็เพิ่งเกิดขึ้นกับผม เมื่อวันที่30ธันวาที่ผ่ามา ผมก็ไม่รู้นะครับว่าแอบชอบตอนไหน มันเพิ่งเกิดหรือแอบชอบมานานแล้ว
วันที่30 ผมขับรถไปดูคอนเสิร์ตที่พัทยากับเขา2 อย่างกะเป็นแฟนกัน ด้วยที่ช่วงนี้ผมไม่อยากที่จะมีแฟนเพราะคิดว่าตัวเองไม่พร้อม
ผมก็เลยยังตอบหัวใจตัวเองไม่ถูกว่าจะเอายังไงดี จะจีบไม่จีบ เวลามันก็เดินไปเร็วมากจนพวกเราเดินทางกลับ ก็เลยไม่มีโอกาสเคลียร์หัวใจตัวเอง

วันต่อมา เรานัดกันไปเคาท์ดาวน์ที่เมกาบางนา ผมเลยถามว่ามีใครไปบ้าง ด้วยความที่เขามีคนคุยเยอะอยู่แล้ว อารมณ์แบบคุยเรื่อยเปื่อยอ่ะครับ ไม่ได้จริงจัง
บีบอกบีจะพากิ๊กไปด้วย ผมคิดในใจถ้ามันพาจริงๆตรูจะทำตัวยังไง ก็เลยขอในใจว่าให้เขามาคนเดียว สุดท้ายก้าคนเดียวจริงๆด้วยครับ
สรุปคือเที่ยวกัน2คนอีกตามเคย ผมก็คิดแผนอย่างที่ว่าจะบอกเขาตอนไหนเวลาไหน แต่เอาเข้าจริงๆครับ ตอนที่อยู่ต่อหน้ากันที่ต้องคุยด้วยกัน
ทุกๆครั้งเขาจะนั่งกดโทรศัพและแชทกับคนที่เขาคุยด้วยอยู่ ผมก็เกิดความคิดในใจ เขาก็มีความสุขดี อกหักมาก็ไม่ได้เศร้าอะไรมากนิ
เขาแต่เขาก็บ่นอยู่บ่อยครั้งนะครับว่าเศร้าอยากมีแฟน มันก็ทำให้ผมปล่อยเวลาผ่านไปอีกตามเคย

วันต่อมาวันที่1 เรานัดกันไปกินเหล้าที่ตลาดนัดรถไฟ เหมือนเดิมครับ ถามมีใครมาเปล่า เขาก็บอกจะพากิ๊กไปด้วย
สุดท้ายก็เดินกัน2คนเหมือนเดิมมมมทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนเดิมครับ นั่งต่อหน้ากันก็เหมือนเดิม ผมก็ไม่กล้าบอกเหมือนเดิม จนพวกเราเมาครับ
ผมก็ไม่อยากกลับบ้านเลยขอไปนอนที่หอบีแล้วกัน อยู่ห้องบีก็ปกติครับตามประสาเพื่อน ซื้อไรมากินเรื่อยเปื่อย ก็หลับก็นอนกันไป
วันต่อมาวันที่2มกรา เราพัก1วันครับ ผมก็มีเวลาคิดทั้งวัน ว่าผมต้องการอะไร ผมกำลังทำอะไรอยู่ คือสับสนอ่ะครับเอาง่ายๆ
ด้วยความพี่ผมรักเพื่อนมากไม่ว่าจะคนไหน ผมก็ไม่อยากเสียเพื่อนไปเพราะคำว่ารักคเดียว อีกอย่างเดือนหน้าเป็นต้นไปผมต้องย้ายที่ทำงาน
เพื่อทำงานเก็บตังค์ตามหาฝัน มันก็ไม่มีเวลาว่าง ถ้าบอกรักไปแล้ว แต่ไมมีเวลาว่างที่จะดูแลมันคงไม่ใช่จุดเริ่มต้นที่ดี
ผมก็เลยตัดสินใจว่าจะขอดูแลเพื่อนรักคนนี้ในสถานะเพื่อนก็แล้วกัน
วันที่3มกรา หิวเหล้าครับ เลยนัดกันกินเหล้าที่ห้องบี 2คนอีกตามเคย ครั้งนี้ผมมาสถานะเพื่อนรักที่แท้จริงไม่ใช่คนแอบรัก
คิดไปคิดมามันก็มีความสุขได้อีกแบบนะครับ การที่เรารักใครสักคนแต่ต้องมาดูแลแบบเป็นเพื่อนกันนี่ มีความสุขอีกแบบ
บีเขาก็ดูแลตัวเองได้ มีความสุขกับสิ่งที่ทำมากพอ
นั่นคือความคิดของวันนั้นนะครับ
แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น2จิต2ใจอีกรอบ ถ้าบอกรักอะไรที่ตามมาก็ไม่อยากจะคิด ถ้าไม่บอกรักตอนนี้ผมก็อยู่ได้นะแต่ถ้าเมื่อไหร่ที่บีมีแฟน
ผมคงอยู่ไม่ได้ อดเป็นห่วงไม่ได้กลัวคนอื่นจะทำให้บีเสียใจ
ก็เลยจะมาปรึกษาพี่ๆนี่ละครับ ผมต้องเอายังไงกับควมรักครั้งนี้ดี
แอบรักเพื่อน แต่ช่วงนี้ไม่มีเวลาว่างไม่มีเวลาดูแล ก็เลยไม่บอกรัก
ขอใช้นามแฝงว่า บี ครับ คือบีเขาเป็นเพื่อนผมตั้งแต่มัธยมต้น พอจบจากมัธยมผมก็มาอยู่กรุงเทพไม่ได้เรียนต่อ
เพราะตอนมาอยู่กรุงเทพค่อนข้างเกเรมาก แต่ก็เกเรไม่นานครับปี2ปี ผมก็เลยหางานทำแล้วก็ทำงานเรื่อย
จนตอนนี้ครับ เพื่อนๆขึ้นปี1กันแล้ว และบีเขาก็มาเรียนในกรุงเทพครับ ก็นัดเจอกันบ่อยๆตามประสาเพื่อน
ตอนนั้นก็ไม่ได้แอบรักนะครับเพราะเขามีแฟนอยู่แล้ว แต่เมื่อไม่มานี้เขาก็อกหัก ก็กลายเป็นสาวโสดมาเรื่อยๆ
และเรื่อยแอบรักมันก็เพิ่งเกิดขึ้นกับผม เมื่อวันที่30ธันวาที่ผ่ามา ผมก็ไม่รู้นะครับว่าแอบชอบตอนไหน มันเพิ่งเกิดหรือแอบชอบมานานแล้ว
วันที่30 ผมขับรถไปดูคอนเสิร์ตที่พัทยากับเขา2 อย่างกะเป็นแฟนกัน ด้วยที่ช่วงนี้ผมไม่อยากที่จะมีแฟนเพราะคิดว่าตัวเองไม่พร้อม
ผมก็เลยยังตอบหัวใจตัวเองไม่ถูกว่าจะเอายังไงดี จะจีบไม่จีบ เวลามันก็เดินไปเร็วมากจนพวกเราเดินทางกลับ ก็เลยไม่มีโอกาสเคลียร์หัวใจตัวเอง
วันต่อมา เรานัดกันไปเคาท์ดาวน์ที่เมกาบางนา ผมเลยถามว่ามีใครไปบ้าง ด้วยความที่เขามีคนคุยเยอะอยู่แล้ว อารมณ์แบบคุยเรื่อยเปื่อยอ่ะครับ ไม่ได้จริงจัง
บีบอกบีจะพากิ๊กไปด้วย ผมคิดในใจถ้ามันพาจริงๆตรูจะทำตัวยังไง ก็เลยขอในใจว่าให้เขามาคนเดียว สุดท้ายก้าคนเดียวจริงๆด้วยครับ
สรุปคือเที่ยวกัน2คนอีกตามเคย ผมก็คิดแผนอย่างที่ว่าจะบอกเขาตอนไหนเวลาไหน แต่เอาเข้าจริงๆครับ ตอนที่อยู่ต่อหน้ากันที่ต้องคุยด้วยกัน
ทุกๆครั้งเขาจะนั่งกดโทรศัพและแชทกับคนที่เขาคุยด้วยอยู่ ผมก็เกิดความคิดในใจ เขาก็มีความสุขดี อกหักมาก็ไม่ได้เศร้าอะไรมากนิ
เขาแต่เขาก็บ่นอยู่บ่อยครั้งนะครับว่าเศร้าอยากมีแฟน มันก็ทำให้ผมปล่อยเวลาผ่านไปอีกตามเคย
วันต่อมาวันที่1 เรานัดกันไปกินเหล้าที่ตลาดนัดรถไฟ เหมือนเดิมครับ ถามมีใครมาเปล่า เขาก็บอกจะพากิ๊กไปด้วย
สุดท้ายก็เดินกัน2คนเหมือนเดิมมมมทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนเดิมครับ นั่งต่อหน้ากันก็เหมือนเดิม ผมก็ไม่กล้าบอกเหมือนเดิม จนพวกเราเมาครับ
ผมก็ไม่อยากกลับบ้านเลยขอไปนอนที่หอบีแล้วกัน อยู่ห้องบีก็ปกติครับตามประสาเพื่อน ซื้อไรมากินเรื่อยเปื่อย ก็หลับก็นอนกันไป
วันต่อมาวันที่2มกรา เราพัก1วันครับ ผมก็มีเวลาคิดทั้งวัน ว่าผมต้องการอะไร ผมกำลังทำอะไรอยู่ คือสับสนอ่ะครับเอาง่ายๆ
ด้วยความพี่ผมรักเพื่อนมากไม่ว่าจะคนไหน ผมก็ไม่อยากเสียเพื่อนไปเพราะคำว่ารักคเดียว อีกอย่างเดือนหน้าเป็นต้นไปผมต้องย้ายที่ทำงาน
เพื่อทำงานเก็บตังค์ตามหาฝัน มันก็ไม่มีเวลาว่าง ถ้าบอกรักไปแล้ว แต่ไมมีเวลาว่างที่จะดูแลมันคงไม่ใช่จุดเริ่มต้นที่ดี
ผมก็เลยตัดสินใจว่าจะขอดูแลเพื่อนรักคนนี้ในสถานะเพื่อนก็แล้วกัน
วันที่3มกรา หิวเหล้าครับ เลยนัดกันกินเหล้าที่ห้องบี 2คนอีกตามเคย ครั้งนี้ผมมาสถานะเพื่อนรักที่แท้จริงไม่ใช่คนแอบรัก
คิดไปคิดมามันก็มีความสุขได้อีกแบบนะครับ การที่เรารักใครสักคนแต่ต้องมาดูแลแบบเป็นเพื่อนกันนี่ มีความสุขอีกแบบ
บีเขาก็ดูแลตัวเองได้ มีความสุขกับสิ่งที่ทำมากพอ
นั่นคือความคิดของวันนั้นนะครับ
แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น2จิต2ใจอีกรอบ ถ้าบอกรักอะไรที่ตามมาก็ไม่อยากจะคิด ถ้าไม่บอกรักตอนนี้ผมก็อยู่ได้นะแต่ถ้าเมื่อไหร่ที่บีมีแฟน
ผมคงอยู่ไม่ได้ อดเป็นห่วงไม่ได้กลัวคนอื่นจะทำให้บีเสียใจ
ก็เลยจะมาปรึกษาพี่ๆนี่ละครับ ผมต้องเอายังไงกับควมรักครั้งนี้ดี