สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคนค่า นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ลองเขียนรีวิวพันทิป มันอาจจะยังไม่โอเคเท่าไหร่ แต่ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค่า
คือจะเล่าให้ฟังคร่าวๆ ก่อน ว่าเรื่องไปเชียงใหม่นี่ เรากับเพื่อนในกลุ่ม รับปากกันจะไปกันตั้งแต่ปิดเทอม ปี 1 ซึ่งได้ไปจริงๆ ก็ขึ้นมาอยู่ปี 3 กันแล้วนี่แล.555😂 (*หวังไว้มากๆ ว่าจะได้ไปกันจริงๆ แต่กว่าจะได้ไปนี่แทบจะเลิกล้มความตั้งใจกันเลยทีเดียว ด้วยปัญหากันหลายๆ อย่างของแต่ละคน แต่พีคสุดก็ว่าด้วยเรื่องตังนี่แหละ ไม่ค่อยมีใครพร้อมกันเท่าไหร่.5555)
เอาล่ะๆ มาเข้าเรื่องกันดีกว่าาา....
เรากับเพื่อนอีก 2 คนก็มานั่งฟีคกันว่า แต่ละคืนจะไปซุกหัวนอนที่ไหนกันดี. (ตอนนั่นเป็นอะไรที่อยากจะร้องไห้ (มันยากมากสำหรับพวกเราที่จะไปเที่ยวโดยไม่ได้อาศัยทัวร์หรือแพคเกตท่องเที่ยวอะไร) ต้องนั่งวางแผนกันทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องที่พัก!!!)
หลังจากนั่นพวกเราก็ได้ห้องพักครบ 3 ที่แล้ว (เดียวจะเอาไว้เล่าอีกทีโน่ะ.)
ต่อไปก็คือ 'การจองรถ' (เพื่อนในห้องแนะนำให้นั่งเครื่องบินไป ใจเราก็อยากนั่งน่ะ แต่เพื่อนในกลุ่มบอกว่า ต้องนั่งรถตู้ขึ้นกทม.อีก เสียตังหลายต่อไม่เอาด้วยหรอกก เสียใจ)
จองรถของเราในที่นี่ เราจองของ 'สมบัติทัวร์' แบบ VIP ราคาก็อยู่ที่ 1,005 บาท/ที่นั่ง (*เราว่ามันก็คุ้มนะ เพราะตอนเรานั่งมันก็โอเคพอใช้ได้ บริการโอเค ดูแลทุกอย่าง เรื่องอาหารการกินก็ถือว่าดีในระดับหนึ่ง มีแวะพักทานข้าวที่จ.กำแพงเพชร เพราะมันเป็นจุดพักรถ แล้วก็เปลี่ยนคนขับรถไปในตัว ก็โอเคทุกอย่าง ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ใครๆ คิดเลย ไว้ใจได้.👍🏻)
อ้อ!! เราลืมบอกไปว่าพวกเรานั่งรถกันจากหัวหิน - เชียงใหม่ทีเดียวเลย.
เราเดินทางวันที่ 24 ธ.ค. ตอน 17.30 น. เพราะว่านั่งรถตอนกลางคืน จะได้นอนพักเอาแรงไปในตัวไง. ถึงเชียงใหม่ก็ใช้เวลา 10 ชั่วโมงพอดี เราไปถึงก็ประมาณ 06.40 น. หลังจากลงรถ ก็พากันไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ ออกมาโบกรถก็ประมาณ 7 โมงเช้าพอดี ได้เห็นวิถีของคนเชียงใหม่หลายๆ อย่าง พอได้ซึมซับบรรยากาศตอนเช้าแปปหนึ่ง ก็ขอเซลฟี่นิดนึง ...
หลังจากเซลฟี่เสร็จก็โบกรถแดงกันเลยจ้าา วิ่งตรงไปที่โรงแรมของพวกเราที่จะพักกันคืนแรก
คืนแรกนั่น - เราตกลงจะพักกันที่ รร.กาลาโต้ คอฟฟี่แอนด์โฮสเทล @เชียงใหม่ อยู่ในโครงการสหศรีภูมิเพลส (ตอนเราโบกรถ บอกลุงคนขับว่า ไปสหศรีภูมิเพชรค่ะ!! ลุฃคนขับทำหน้างง 'สหศรีภูมิเพชร' ??? ลุงก็พยักหน้า แล้วก็บอกว่าเก็บคนละ 30 บาทนะ เราก็โอเคได้ค่ะ ก็ขึ้นรถตรงดิ่งมาที่โรงแรมเลย พอถึงลุงก็จอดรถ ก็ลงจากรถจะไปจ่ายเงิน ลุงบอก 'สหศรีภูมิเพลสน่ะลูก ไม่ใช่เพชร' นี่ถึงกับหน้าแตก อายมาก พูดชื่อโครงการเค้าผิด ลุงก็หัวเราะ แล้วก็รับเงินไป (*ลืมถ่ายป้ายหน้าโครงการมาว่าเป็นยังไง)
รร.กาลาโต้ คอฟฟี่แอนด์โฮสเทล @เชียงใหม่
หลังจากลงจากรถแดงมาก็พากันเดินหาโรงแรม ถามคนแถวนั่นบอกอ่อ เดินไปอีก 10 เมตรก็ถึงแล้วน้อง คือ ป้ายโรงแรมเล็กมาก ถ้าไม่สังเกตดีๆ นี่นึกว่าต้องเดินเข้าไปอีก 10 กิโล.😅
พอถึง รร. ก็จะเจอพี่ที่เคาเตอร์ของที่พัก พี่เค้าบอกว่า เช็คอินหลังบ่าย 2 นะครับ | เราก็บอกโอเคค่ะ งั้นพวกเราขอฝากกระเป๋าไว้ก่อนนะคะ
*เก็บภาพบรรยากาศที่พักนิดนึง.☺️
ชั้นสองของโรงแรมจะเป็นค่าเฟ่เล็กๆ ไว้สำหรับบริการลูกค้าที่เข้าพักกับทางโรงแรม (*เก๋ไปอีกก เสียดายตรงที่ไม่ได้ใช้บริการนี่แหละ.😭)
ส่วนตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปก็จะเป็นห้องพักสำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการ
ห้องน้ำแคบมากกก *เครื่องทำน้ำอุ่นนี้เปิดมาแทบกระโดดออกจากห้องน้ำ คือน้ำมันแรงแล้วก็ร้อนไวมากก >.< แต่สบายตัวสุดๆ
พอฝากกระเป๋าเสร็จ เราก็เลยถามพี่เค้าว่า
เรา : พี่ค่ะ แถวนี่มีร้านโจ้กแถวไหนที่อร่อยๆ ขึ้นชื่อบ้างค่ะ
พี่คนนั่น : อ่อ!! ร้านโจ้กสมเพชรนะ อร่อยมากเลย เดินไปแปปเดียวก็ถึง ผ่านที่กลับรถไป 2 ยูเทินก็ถึงแล้ว
หลังจากนั่นก็พากันเดินออกจากโรงแรมไปร้านโจ้กสมเพชร เดินไปประมาณ 20 นาทีก็ถึงร้าน
แต่พอไปถึงนี่ถึงกับยืนอึ้งเลยคะ เต็ม!!! คนเยอะมาก ท่าทางจะอร่อยสมชื่อจริงๆ
*แอบติดนางแบบนิดหนึ่ง.😹
Cr.จากเฟสเพื่อน (ของตัวเองถ่ายแต่ลงแต่ใน ig อย่างเดียวลืมลงเฟส.😂)
พอหลังจากกินเสร็จก็พากันเดินกลับมาที่ท่ารถแดง ลุงถามว่าไปดอยสุเทพมั่ย เราก็บอกว่าไปค่ะ ก็นั่งรอ (ท่ารถแดงที่นั่นต้องรอครบ 10 คนก่อนถึงจะออกรถได้ แต่ถ้าเป็นรถที่กำลังวิ่งอยู่ในเมืองก็สามารถขึ้นได้เลยไม่ต้องรอ)
พอครบ 10 คนก็ออกรถได้ ระหว่างทางก็จะผ่านน้ำตกห้วยแก้ว, สวนสัตว์เชียงใหม่ แล้วก็ถึงดอยสุเทพ พอไปถึงลงจากรถเสร็จกำลังจะพากันเดินขึ้นดอยสุเทพ ก็มีลุงคนหนึ่งเดินมาดักหน้าถามว่า เหมารถขึ้นขุนช่างเคี่ยนมั่ย ลุงให้คนละ 300 บาท/ไป-กลับ, แล้วเดียวลุงพาแวะตามทางเลย) เรากับเพื่อนก็คิดว่าจะเอายังไง สุดท้ายก็เอาตามคำลุงบอกเลยจ้าา ก็พากันนั่งรถขึ้นไปขุนช่างเคี่ยน จุดสูงสุดของเส้นทางดอยสุเทพ
พอตกลงกันก็พากันนั่งรถขึ้นขุนช่างเคี่ยนกัน ระหว่างทางก็เกิดเหตุการ์ณนิดหน่อย คือก่อนหน้านี้มีเหตุดินสไลด์ลงจากภูเขามา ทางเลยสัญจรไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่
แต่พอไปถึงมันก็ไม่มีไรมาก เป็นหมู่บ้านชาวเขาชาวม้งที่ดูธรรมชาติสุดๆ (*ตอนแรกนี่เข้าใจว่าเป็นเส้นทางเดียวกับดอกพญาเสือโคร่งแน่ๆ แต่พอไปถึงนี่ถึงกับทรุดเพราะมันคนละเส้นทางเลย อยากร้องไห้.😭😭😭)
แต่ก็ถือว่าได้มาซึมซับบรรยากาศแบบชาวเขาชาวม้งไปในตัว ก็โอเค บรรยากาศดีสุดๆ ได้เห็นโรงเรียนเล็กๆ ที่มีลูกชาวเขาชาวม้งไม่ถึง 100 มานั่งเรียนกันอย่างมีความสุข (เราเป็นเด็กในเมืองยังตั้งใจเรียนไม่ได้ครึ่งของเด็กที่นี่เลย ถึงพวกเค้าจะเรียนไม่ค่อยเข้าใจภาษาไทย แต่ก็สามารถออกเสียงได้ชัดเจนนิดหน่อย ก็ถือว่าเก่งแล้ว แล้วเราจะยังขี้เกียจเรียนอยู่มั่ย??) อุ้บ.🙊 ไหงไปพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องเข้าละ.5555
เอาเป็นว่าไปดูรูปกันเลยดีกว่าโน่ะ.😹
เด็กๆ ชาวเขาชาวม้ง นี่หน้าตาเหมือนกันเลยเนอะ.👶🏻 น่ารัก.😍
วิถีชาวเขาชาวม้งก็จะมีอยู่ไม่กี่อย่าง ทำงานบ้าน, ทอผ้าเอาไว้ใช้ฤดูหนาว, เลี้ยงลูก, แล้วก็อีกหลายๆ อย่าง)
หมาที่นั่นเค้าก็มีน่ะ น่ารักด้วย แต่น่าสงสารตรงที่อากาศเย็นแล้ว พวกมันไม่มีผ้าอุ่นๆ ให้คอนได้ซุกได้นอนได้ใส่เลยสักตัว หนาวแย่เนอะ.😫
ส่วนจุดถ่ายรูปที่ไหน ถ้าไปถึงแล้ว ไม่ถ่ายรูปนี่ไม่ใช่พวกเราค่ะ เพราะมีเจ้าแม่แห่งการเซลฟี่ในกลุ่มนี่ 1 คน บ้าถ่ายรูปมากกก วันหนึ่งมีเป็นร้อยรูปเลยค่ะ แต่ฝีมือการถ่ายรูปนี่อยากจะร้องไห้หนักมาก.😹
หลังจากนั้นก็ขึ้นรถลงจากขุนช่างเคี่ยนแวะที่จุดถ่ายรูปดอยปุยค่ะ (ไปดูรูปกันเล้ยยย..!!)
แวะถ่ายรูปเสร็จก็ลงมาที่หมู่บ้านชางม้งดอยปุยค่ะ ได้ถ่ายในชุดชาวม้งด้วย *บอกเลยว่าอายมากก -////-
ต่อมาก็ลงมาที่พระตำหนักภูพิงค์ ใช้เวลาอยู่ในนี่นานมากถึงกับ 2 ชม.กันเลยทีเดียว มารู้ตัวอีกทีตอนเค้าประกาศปิดสถานที่ คือเวลา 15.30 น. (คือเค้าเปิดใช้เข้าชมตั้งแต่ 08.30 - 15.30 น.)
คือบรรยากาศดีมาก สมแล้วกับเวลาที่อยู่ในนี้ ได้ถ่ายกันจ้าละหวั่นมาก ได้สักร้อยรูปละมั่ง.😂 ดูเลยยๆ
คือที่เชียงใหม่ฤดูหนาวแล้วก็จริง แต่ก็ยังมีแดดออกตอนกลางวัน ก็คือร้อนอะ #แบบว่ามือบังแดดก็ไม่มิดอ่ะ.😹
ถัดไปก็ลงมาที่ดอยสุเทพกัน ... ก็พากันนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปประมาณ 5 นาทีก็ถึงตัววัด คนเยอะมากกก โดยเฉพาะทัวร์จีน ที่ไว้รองเท้านี่คือแบบ ถ้าใครใส่รองเท้าแบบเชยๆ ที่เค้าใส่กันเยอะๆ นี้มีสิทธิ์หายได้นะ จะบอกไว้ก่อน.😭
ไปทุกที่ๆ มีหมาจริงๆ.😹 (เผอิญว่าเจ้าของกระทู้เป็นคนรักสัตว์ ชอบหมา ชอบแมว เล่นได้หมด ยกเว้น 'แมลงสาบ' เพราะมันบินได้!!!!.😭)
หลังจากไหว้พระทำบุญเสร็จ ก็นั่งรถแดงกลับลงมายังที่พัก กลับมาอาบน้ำ จัดที่นอนกัน หลังจากนั่นก็พากันเดินออกไปหาไรกิน ตอนแรกว่าจะไปไรกินที่กาดหน้ามอ แต่คนแถวนั่นบอกว่า มันไกลมาก ไปก็รถติด ให้ไปกาดหลวงใกล้ๆ ดีกว่า ก็เลยพากันไปกาดหลวงไปหาไรกิน
สุดท้ายก็จบที่การกินขนมจีนน้ำยาน้ำเงี้ยวกันแล้วแต่ใครจะกิน แต่ขอบอกว่าอร่อยมากกก!!!😱
เที่ยวเชียงใหม่ 4 วัน 3 คืน #NChiangmaitrips2015
คือจะเล่าให้ฟังคร่าวๆ ก่อน ว่าเรื่องไปเชียงใหม่นี่ เรากับเพื่อนในกลุ่ม รับปากกันจะไปกันตั้งแต่ปิดเทอม ปี 1 ซึ่งได้ไปจริงๆ ก็ขึ้นมาอยู่ปี 3 กันแล้วนี่แล.555😂 (*หวังไว้มากๆ ว่าจะได้ไปกันจริงๆ แต่กว่าจะได้ไปนี่แทบจะเลิกล้มความตั้งใจกันเลยทีเดียว ด้วยปัญหากันหลายๆ อย่างของแต่ละคน แต่พีคสุดก็ว่าด้วยเรื่องตังนี่แหละ ไม่ค่อยมีใครพร้อมกันเท่าไหร่.5555)
เอาล่ะๆ มาเข้าเรื่องกันดีกว่าาา....
เรากับเพื่อนอีก 2 คนก็มานั่งฟีคกันว่า แต่ละคืนจะไปซุกหัวนอนที่ไหนกันดี. (ตอนนั่นเป็นอะไรที่อยากจะร้องไห้ (มันยากมากสำหรับพวกเราที่จะไปเที่ยวโดยไม่ได้อาศัยทัวร์หรือแพคเกตท่องเที่ยวอะไร) ต้องนั่งวางแผนกันทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องที่พัก!!!)
หลังจากนั่นพวกเราก็ได้ห้องพักครบ 3 ที่แล้ว (เดียวจะเอาไว้เล่าอีกทีโน่ะ.)
ต่อไปก็คือ 'การจองรถ' (เพื่อนในห้องแนะนำให้นั่งเครื่องบินไป ใจเราก็อยากนั่งน่ะ แต่เพื่อนในกลุ่มบอกว่า ต้องนั่งรถตู้ขึ้นกทม.อีก เสียตังหลายต่อไม่เอาด้วยหรอกก เสียใจ)
จองรถของเราในที่นี่ เราจองของ 'สมบัติทัวร์' แบบ VIP ราคาก็อยู่ที่ 1,005 บาท/ที่นั่ง (*เราว่ามันก็คุ้มนะ เพราะตอนเรานั่งมันก็โอเคพอใช้ได้ บริการโอเค ดูแลทุกอย่าง เรื่องอาหารการกินก็ถือว่าดีในระดับหนึ่ง มีแวะพักทานข้าวที่จ.กำแพงเพชร เพราะมันเป็นจุดพักรถ แล้วก็เปลี่ยนคนขับรถไปในตัว ก็โอเคทุกอย่าง ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ใครๆ คิดเลย ไว้ใจได้.👍🏻)
อ้อ!! เราลืมบอกไปว่าพวกเรานั่งรถกันจากหัวหิน - เชียงใหม่ทีเดียวเลย.
เราเดินทางวันที่ 24 ธ.ค. ตอน 17.30 น. เพราะว่านั่งรถตอนกลางคืน จะได้นอนพักเอาแรงไปในตัวไง. ถึงเชียงใหม่ก็ใช้เวลา 10 ชั่วโมงพอดี เราไปถึงก็ประมาณ 06.40 น. หลังจากลงรถ ก็พากันไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ ออกมาโบกรถก็ประมาณ 7 โมงเช้าพอดี ได้เห็นวิถีของคนเชียงใหม่หลายๆ อย่าง พอได้ซึมซับบรรยากาศตอนเช้าแปปหนึ่ง ก็ขอเซลฟี่นิดนึง ...
หลังจากเซลฟี่เสร็จก็โบกรถแดงกันเลยจ้าา วิ่งตรงไปที่โรงแรมของพวกเราที่จะพักกันคืนแรก
คืนแรกนั่น - เราตกลงจะพักกันที่ รร.กาลาโต้ คอฟฟี่แอนด์โฮสเทล @เชียงใหม่ อยู่ในโครงการสหศรีภูมิเพลส (ตอนเราโบกรถ บอกลุงคนขับว่า ไปสหศรีภูมิเพชรค่ะ!! ลุฃคนขับทำหน้างง 'สหศรีภูมิเพชร' ??? ลุงก็พยักหน้า แล้วก็บอกว่าเก็บคนละ 30 บาทนะ เราก็โอเคได้ค่ะ ก็ขึ้นรถตรงดิ่งมาที่โรงแรมเลย พอถึงลุงก็จอดรถ ก็ลงจากรถจะไปจ่ายเงิน ลุงบอก 'สหศรีภูมิเพลสน่ะลูก ไม่ใช่เพชร' นี่ถึงกับหน้าแตก อายมาก พูดชื่อโครงการเค้าผิด ลุงก็หัวเราะ แล้วก็รับเงินไป (*ลืมถ่ายป้ายหน้าโครงการมาว่าเป็นยังไง)
รร.กาลาโต้ คอฟฟี่แอนด์โฮสเทล @เชียงใหม่
หลังจากลงจากรถแดงมาก็พากันเดินหาโรงแรม ถามคนแถวนั่นบอกอ่อ เดินไปอีก 10 เมตรก็ถึงแล้วน้อง คือ ป้ายโรงแรมเล็กมาก ถ้าไม่สังเกตดีๆ นี่นึกว่าต้องเดินเข้าไปอีก 10 กิโล.😅
พอถึง รร. ก็จะเจอพี่ที่เคาเตอร์ของที่พัก พี่เค้าบอกว่า เช็คอินหลังบ่าย 2 นะครับ | เราก็บอกโอเคค่ะ งั้นพวกเราขอฝากกระเป๋าไว้ก่อนนะคะ
*เก็บภาพบรรยากาศที่พักนิดนึง.☺️
ชั้นสองของโรงแรมจะเป็นค่าเฟ่เล็กๆ ไว้สำหรับบริการลูกค้าที่เข้าพักกับทางโรงแรม (*เก๋ไปอีกก เสียดายตรงที่ไม่ได้ใช้บริการนี่แหละ.😭)
ส่วนตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปก็จะเป็นห้องพักสำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการ
ห้องน้ำแคบมากกก *เครื่องทำน้ำอุ่นนี้เปิดมาแทบกระโดดออกจากห้องน้ำ คือน้ำมันแรงแล้วก็ร้อนไวมากก >.< แต่สบายตัวสุดๆ
พอฝากกระเป๋าเสร็จ เราก็เลยถามพี่เค้าว่า
เรา : พี่ค่ะ แถวนี่มีร้านโจ้กแถวไหนที่อร่อยๆ ขึ้นชื่อบ้างค่ะ
พี่คนนั่น : อ่อ!! ร้านโจ้กสมเพชรนะ อร่อยมากเลย เดินไปแปปเดียวก็ถึง ผ่านที่กลับรถไป 2 ยูเทินก็ถึงแล้ว
หลังจากนั่นก็พากันเดินออกจากโรงแรมไปร้านโจ้กสมเพชร เดินไปประมาณ 20 นาทีก็ถึงร้าน
แต่พอไปถึงนี่ถึงกับยืนอึ้งเลยคะ เต็ม!!! คนเยอะมาก ท่าทางจะอร่อยสมชื่อจริงๆ
*แอบติดนางแบบนิดหนึ่ง.😹
Cr.จากเฟสเพื่อน (ของตัวเองถ่ายแต่ลงแต่ใน ig อย่างเดียวลืมลงเฟส.😂)
พอหลังจากกินเสร็จก็พากันเดินกลับมาที่ท่ารถแดง ลุงถามว่าไปดอยสุเทพมั่ย เราก็บอกว่าไปค่ะ ก็นั่งรอ (ท่ารถแดงที่นั่นต้องรอครบ 10 คนก่อนถึงจะออกรถได้ แต่ถ้าเป็นรถที่กำลังวิ่งอยู่ในเมืองก็สามารถขึ้นได้เลยไม่ต้องรอ)
พอครบ 10 คนก็ออกรถได้ ระหว่างทางก็จะผ่านน้ำตกห้วยแก้ว, สวนสัตว์เชียงใหม่ แล้วก็ถึงดอยสุเทพ พอไปถึงลงจากรถเสร็จกำลังจะพากันเดินขึ้นดอยสุเทพ ก็มีลุงคนหนึ่งเดินมาดักหน้าถามว่า เหมารถขึ้นขุนช่างเคี่ยนมั่ย ลุงให้คนละ 300 บาท/ไป-กลับ, แล้วเดียวลุงพาแวะตามทางเลย) เรากับเพื่อนก็คิดว่าจะเอายังไง สุดท้ายก็เอาตามคำลุงบอกเลยจ้าา ก็พากันนั่งรถขึ้นไปขุนช่างเคี่ยน จุดสูงสุดของเส้นทางดอยสุเทพ
พอตกลงกันก็พากันนั่งรถขึ้นขุนช่างเคี่ยนกัน ระหว่างทางก็เกิดเหตุการ์ณนิดหน่อย คือก่อนหน้านี้มีเหตุดินสไลด์ลงจากภูเขามา ทางเลยสัญจรไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่
แต่พอไปถึงมันก็ไม่มีไรมาก เป็นหมู่บ้านชาวเขาชาวม้งที่ดูธรรมชาติสุดๆ (*ตอนแรกนี่เข้าใจว่าเป็นเส้นทางเดียวกับดอกพญาเสือโคร่งแน่ๆ แต่พอไปถึงนี่ถึงกับทรุดเพราะมันคนละเส้นทางเลย อยากร้องไห้.😭😭😭)
แต่ก็ถือว่าได้มาซึมซับบรรยากาศแบบชาวเขาชาวม้งไปในตัว ก็โอเค บรรยากาศดีสุดๆ ได้เห็นโรงเรียนเล็กๆ ที่มีลูกชาวเขาชาวม้งไม่ถึง 100 มานั่งเรียนกันอย่างมีความสุข (เราเป็นเด็กในเมืองยังตั้งใจเรียนไม่ได้ครึ่งของเด็กที่นี่เลย ถึงพวกเค้าจะเรียนไม่ค่อยเข้าใจภาษาไทย แต่ก็สามารถออกเสียงได้ชัดเจนนิดหน่อย ก็ถือว่าเก่งแล้ว แล้วเราจะยังขี้เกียจเรียนอยู่มั่ย??) อุ้บ.🙊 ไหงไปพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องเข้าละ.5555
เอาเป็นว่าไปดูรูปกันเลยดีกว่าโน่ะ.😹
เด็กๆ ชาวเขาชาวม้ง นี่หน้าตาเหมือนกันเลยเนอะ.👶🏻 น่ารัก.😍
วิถีชาวเขาชาวม้งก็จะมีอยู่ไม่กี่อย่าง ทำงานบ้าน, ทอผ้าเอาไว้ใช้ฤดูหนาว, เลี้ยงลูก, แล้วก็อีกหลายๆ อย่าง)
หมาที่นั่นเค้าก็มีน่ะ น่ารักด้วย แต่น่าสงสารตรงที่อากาศเย็นแล้ว พวกมันไม่มีผ้าอุ่นๆ ให้คอนได้ซุกได้นอนได้ใส่เลยสักตัว หนาวแย่เนอะ.😫
ส่วนจุดถ่ายรูปที่ไหน ถ้าไปถึงแล้ว ไม่ถ่ายรูปนี่ไม่ใช่พวกเราค่ะ เพราะมีเจ้าแม่แห่งการเซลฟี่ในกลุ่มนี่ 1 คน บ้าถ่ายรูปมากกก วันหนึ่งมีเป็นร้อยรูปเลยค่ะ แต่ฝีมือการถ่ายรูปนี่อยากจะร้องไห้หนักมาก.😹
หลังจากนั้นก็ขึ้นรถลงจากขุนช่างเคี่ยนแวะที่จุดถ่ายรูปดอยปุยค่ะ (ไปดูรูปกันเล้ยยย..!!)
แวะถ่ายรูปเสร็จก็ลงมาที่หมู่บ้านชางม้งดอยปุยค่ะ ได้ถ่ายในชุดชาวม้งด้วย *บอกเลยว่าอายมากก -////-
ต่อมาก็ลงมาที่พระตำหนักภูพิงค์ ใช้เวลาอยู่ในนี่นานมากถึงกับ 2 ชม.กันเลยทีเดียว มารู้ตัวอีกทีตอนเค้าประกาศปิดสถานที่ คือเวลา 15.30 น. (คือเค้าเปิดใช้เข้าชมตั้งแต่ 08.30 - 15.30 น.)
คือบรรยากาศดีมาก สมแล้วกับเวลาที่อยู่ในนี้ ได้ถ่ายกันจ้าละหวั่นมาก ได้สักร้อยรูปละมั่ง.😂 ดูเลยยๆ
คือที่เชียงใหม่ฤดูหนาวแล้วก็จริง แต่ก็ยังมีแดดออกตอนกลางวัน ก็คือร้อนอะ #แบบว่ามือบังแดดก็ไม่มิดอ่ะ.😹
ถัดไปก็ลงมาที่ดอยสุเทพกัน ... ก็พากันนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปประมาณ 5 นาทีก็ถึงตัววัด คนเยอะมากกก โดยเฉพาะทัวร์จีน ที่ไว้รองเท้านี่คือแบบ ถ้าใครใส่รองเท้าแบบเชยๆ ที่เค้าใส่กันเยอะๆ นี้มีสิทธิ์หายได้นะ จะบอกไว้ก่อน.😭
ไปทุกที่ๆ มีหมาจริงๆ.😹 (เผอิญว่าเจ้าของกระทู้เป็นคนรักสัตว์ ชอบหมา ชอบแมว เล่นได้หมด ยกเว้น 'แมลงสาบ' เพราะมันบินได้!!!!.😭)
หลังจากไหว้พระทำบุญเสร็จ ก็นั่งรถแดงกลับลงมายังที่พัก กลับมาอาบน้ำ จัดที่นอนกัน หลังจากนั่นก็พากันเดินออกไปหาไรกิน ตอนแรกว่าจะไปไรกินที่กาดหน้ามอ แต่คนแถวนั่นบอกว่า มันไกลมาก ไปก็รถติด ให้ไปกาดหลวงใกล้ๆ ดีกว่า ก็เลยพากันไปกาดหลวงไปหาไรกิน
สุดท้ายก็จบที่การกินขนมจีนน้ำยาน้ำเงี้ยวกันแล้วแต่ใครจะกิน แต่ขอบอกว่าอร่อยมากกก!!!😱