เพราะความไว้ใจฉันจึงกลายเป็นคนโง่

ขอมาแชร์ประสบการ์ณจากชีวิตหน่อยแล้วกันนะค่ะ เพื่อใครจะประสบปัญหาเหมือนเราในสมัยก่อน กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ
เริ่มต้นเลยเรารู้จักผู้ชายคนนึงที่ทำงานเราพี่เค้าเข้ามาจีบเราก่อน ซึ่งตอนนั้นเราก็ยังไม่เคยมีแฟน เลยลองคุยกันดู ช่วงแรกๆพี่เค้าเป็นคนดีมาก เป็นสุภาพบุรุษเลยก็ว่าได้ ตามใจ ห่วงใย เอาใจใส่เราตลอด จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเราถึงได้รักพี่เค้าได้อย่างง่ายดาย เราเกิดมาไม่มีพ่อไม่มีแม่ค่ะ แม่เราเสียตั้งแต่เด็ก ส่วนพ่อเราเสียใจมากเลยทึ้งเราไปเลย เราจึงอยู่แค่กับอาซึ่งที่บ้านอาก็มีลูก 3 คนเราจึงไม่ค่อยได้รับความรักเท่าไหร่ พอมีคนมาทำดีกับเราจึงไม่แปลกที่เราจะรู้สึกดี เรากับพี่เค้าเริ่มคบกันได้ไม่นาน ก็เริ่มมีเรื่องมาให้ปวดหัวเลย มีผู้หญิงโทรมาหาพี่เค้า พี่เค้าบอกเป็นแฟนเก่าเราก็ไม่ได้ติดใจอะไรเค้าก็ให้เราฟังเวลาเค้าคุย ผู้หญิงคนนั้นก็คุยกับเราบอกไม่มีอะไรจะไม่โทราแล้วเพราะรู้ว่าพี่เค้ามีแฟนแล้ว ทุกครั้งที่อยู๋ด้วยกันพี่เค้าจะเอาโทสับไว้กับเราให้เราเชค หรือเล่นอะไรได้ตลอด ไม่เคยมีอะไรปิดบังกัน จนมาถึงวันปีใหม่ เราไปกินเลี้ยงปีใหม่ของบริษัท เราไม่เคยกินเหล้าหรืออะไรเลย วันนั้นพี่เค้าก็ลองให้เรากิน ด้วยความที่เราเป็นแฟนกัน ไว้ใจเค้า เค้าไม่เคยล่วงเกินเราเลย เลยตัดสินใจกินค่ะ แล้วแจ๊คพอต 2 แก้วเราเมาไม่เป็นท่า พี่เค้าเลยพาไปบ้านเพื่อนเค้าเราเลยมีอะไกันครั้งแรก แบบไม่รู้ตัว เช้ามาเราเลยรีบไปซื้อยาคุมมาทาน หลังจากนั้นความผูกพันอะไรหลายๆอย่างก็เริ่มขึ้น พ่อพี่เค้าป่วยเราเลยไปช่วยเค้าดูแล เช็ดขี้เช็ดเยี่ยว อยู่กับพี่เค้าเป็นเพื่อนตลอดเวลา เพราะเราเชื่อว่าคนเราจะเห็นใจกันก็่อเมื่ออีกฝ่ายแย่ที่สุด หลังจากนั้นไม่นานพ่อพี่เค้าก็เสีย แต่ก่อนที่เค้าจะเสียรู้ไหมเค้าจับมือเราแน่นมากและน้ำตาไหล เรายังคิดอยู่ในใจ เค้าคงอยากจะขอบคุณที่เรามาอยู่ช่วยดูแลเค้าหละมั้ง หลังจากเค้าเสียเราก็ย้ายเข้ามาอยู๋บ้านเค้าเต็มตัว ดูแลแม่เค้าด้วย แล้วเราก็ท้อง แต่ช่วงที่เราท้องเรายังไม่รู้ตัวเลย เราไปทำงานเป็นปกติ เราไปเป็นพนักงานของดรีมเวิร์ด ช่วงนั้นเราเหนื่อยมาก ต้องใส่ส้นสูงยืนวิ่งทั้งวันขายคูปอง แต่เราก็ไม่เคยบ่นเพราะเราอยากจะสร้างครอบครัว จนกระทั่งท้องได้ 4 เดือน เราไปหาหมอเพราะเราทานอะไรไม่ได้เลย+กับต้องทำงานหนัก พอเค้ารู้ว่าเราท้องเค้าก็ให้เราลาออกจากงาน รู้ไหมว่ากลายเป็นว่าเราต้องขอเงินพี่เค้าอยู่ฝ่ายเดียว พอพ่อเราทราบเรื่องว่าเราท้องเค้าก็กลับมาหาเรา มาส่งเงินให้เราใช้ ออกรถให้เรา แต่เรื่องทั้งหมดก็เริ่มเกิดขึ้นตรงนี้ นิสัยและสันดานท่าแท้ของผู้ชายคนนี้กำลังเริ่มขึ้น
พี่เค้าได้ลาออกจากงานที่เก่าเพราะติดพนันบอล จนมีปันหากับเพื่อนแล้วขโมยเครื่องเกมส์จากร้านไปขาย ทาร้านเค้าก็เริ่มตามตัวมาข่มขู่ที่บ้าน เรากำลังท้องแต่ด้วยความที่ไม่อยากให้พี่เค้าเป็นอะไรก็พากันหนีออกมานั่งข้างนอกเดินตั้งหลายกิโลแต่เพราะคำว่ารักเหนื่อยแค่ไหนเราก็ทำได้ จนทางนู้นกลับไปเราเลยไปอ้อนวอนขอร้องอย่าให้เค้าทำอะไรเลย เรายังท้องอยู่ทางนั้นจึงไม่เอาเรื่อง พี่เค้าเลยไปสมัครงานใหม่ทำอยู่ที่ห้างใหญ่ตรงรังสิต ตอนนั้นพ่อเราเห็นว่าทำงานไกลค่ารถแพงเลยตัดสินใจ ดาวน์รถมอไซให้เค้าขับไปทำงาน แต่เค้ากลับไม่เคยมีความคิดเลย ไปทำงานกลับบ้านมาเมาทุกวัน บางทีก็ไปนั่งกินเหล้ากลับตี3-5 เป็นยังงี้ประจำ เราก็นั่งรอพี่เค้านะ ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนน้นเราคิดอะไรอยู่ รอพอเค้ากลับมาเมาเหล้าไม่อาบน้ำ เราต้องมานั่งถอดถุงเท้า เช็ดตัวให้เค้าทั้งๆที่เราท้องอยู่ไม่ได้พักผ่อน เค้าเมาจนไปทำงานไม่ได้บ้าง บางวันไปสายมั้ง จนเราคลอดลูก เชื่อไหมเค้าไม่ได้มาเยี่ยมเรามารับเราวันกลับทีเดียว แต่เราก็คิดว่าคงเป็นเพราะเค้าเหนื่อยงาน พอเรามาเราก็ต้องเลี้ยงลูกเอง แบกลูกไปซื้อกับข้าวที่ตลาดเองเดินไกลมาก แต่เราก็ทำเพราะแม่แฟนเราเดินไม่ไหวเป็นเก๊าท์ เราไม่เคยฝากลูกเอาไว้เลยเพราะแม่แฟนเค้าดูแลไม่ได้ บางครั้งเราเดินไปจะเป็นลม เราต้องรีบนั่งพักเพราะเรากลัวลูกเป็นอะไร แบกกับข้าวศื้อหมู อะไรหนัก 3-4 โล ไหนจะลูกอีก เราบางครั้งร้องไห้เลยไม่รู้เวรกรรมอะไรของเราหนักหนา จนมาแจ็คพอต เค้าเมาจนประสบอุบัติเหตุ คืนนั้นเรานอนไม่หลับเลย กระวนกระวาย นอนร้องไห้ จนเราเห็นพ่อเค้าที่เสียไปแล้วมาให้เราเห็น แล้วร้องไห้ ยิ่งทำให้เราคิดหนัก จนช่วงสายๆทางรพ.โทรมาหาเราว่า ใช่ญาติคนไข้ไหมค่ะ คนไข้ชื่ออภิเชษฐ์ เชื่อไหมเราสั่นไปหมดทั้งตัว เชื่อไหมใจนึงเราก็โกรธ อีกใจก็เป็นห่วง มีลูกแต่ก็ยังทำตัวเหมือนเดิม เราแบกลูกเราขึ้นรถเมล์ไปโรงพยาบาล ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย ไปถึงสภาพเค้าแย่มาก เงินอะไรก็ไม่มีกันเลย หายไปหมดทั้งดทสับด้วย เราไม่รู้ว่าเราควรทำไงกับชีวิต จนอีกวันนึงเราต้องมารับเค้ากลับจาก รพ. เพราะเค้ายังปวดหัวอยู่เราแบกลูกข้ามสะพานลอย ร้อนๆ เดินกันเป็นกิโลเพราะไม่มีเงิน เชื่อไหมเราเดินร้องไห้ไป มองลูกไป เค้ามาขอโทษเราบอกจะไม่ทำอีก เราทนกับเหตุการ์ณเมาแล้วไม่กลับบ้าง กลับเช้าบ้างมาตลอดแต่เค้ากลับไม่เคยเห็นใจเราเลย จนเค้าต้องออกจากงานที่เก่า เงินก็ไม่มี งานก็ไม่มี กลายเป็นพ่อเรากับย่าเรารับภาระหนักเพราะสงสารหลาน ซื้อข้าวสาร ของกินมาให้ บางวันเราต้องกินข้าวกับน้ำพริกเพราะไม่มีกับข้าว บางครั้งต้องแบกลูกขึ้นรถเมล์จากคลอง 6 ไป งามวงศ์วาน ขึ้นรถ 3-4 ต่อกว่าจะไปถึงเพื่อไปขอเงินที่บ้านแล้วแบกข้าวสารกับของกินกับมา เราทำยังงี้ทุกอาทิตย์ เพียงเพราะอยากให้ลูฏมีพ่อและแม่ครบ จนโรงงานแก้วแถวคลอง 3 นี่แหละเค้ามารับสมัครพนังงาน จุคพีคมันเริ่มเกิคค่ะ เราเห็นด้านมืดแบบสุด สิ่งที่เราไม่คิดว่าเค้าจะกล้ามันเผยออกมาแบบเราคลาดไม่ถึง
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
tag ภาพยนตร์ครอบครัว ไม่น่าจะตรงกับเนื้อหา ถ้าแก้ไขได้น่าจะเอาออกนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่