จากนั้นเป้นต้นมา เราก็ไม่เคยเห็น รถแก๊สแบบพ่วง2ตอนอีกเลย (ตอนนี้ดูเหมือน รถบรรทุกน้ำมันแบบพ่วง2ตอน ก็ไม่เห็นบนท้องถนนเลยด้วยซ้ำ แม้ในต่างจังหวัด)
แม้จากนั้นก็ยังคงมีอุบัติเหตุรถบรรทุกก๊าซพลิกคว่ำ แต่ก็ดูสามารถจัดการกู้ภัยได้อย่างทันควันก่อนที่จะมีคนเจ็บคนตายหรือเกิดเหตุแบบเดียวกันอีกครั้ง
พูดถึงเหตุการณืวัวหายล้อมคอกแบบนี้ นึกถึงเหตุการณ์อีกเหตุการณืในประเทศออสเตรียเมื่อ11 พ.ย. ค.ศ.2000 โศกนาฎกรรมไฟไหม้รถไฟภูเขาKaprun คร่าชีวิตผู้คนไป 115 คน อุบัติเหตุนี้ทำให้พบกับสารภัดความ FAIL นานานับประการ ตั้งแต่รถที่ถูกดัดแปลงติดเครื่อทำความร้อนเข้าไปในห้องคนขับโดยไมไ่ด้มาตรฐาน ซึ่งเป้นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้ โดยหนึ่งในเครื่งอทำความร้อนในห้องคนขับอีกฟากเกิดไฟไหม้ (รถคันนี้มีห้องคนขับหัวท้ายแบบBTS) ตัวเครื่งอทำความร้อนก็ไม่ได้ออกแบบเพื่อติดตั้งบนยานพาหนะด้วยซ้ำ
แถมทั้งอุโมงค์และตัวรถไฟก็คือกับดักมรณะชัดๆ ในอุโมค์ไม่มีตัวส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือทำให้ผู้โดยสารขอความช่วยเหลือไม่ได้ ตัวรถไม่มุปกรณืทุบกระจกหรือติดต่อขอความช่วยเหลือใดๆด้วยซ้ำ คนขับก็ไม่สามารถติดต่อส่วนควบคุมปลายทางได้เพราะไฟได้ทำลายระบบสายไฟฟ้าของอุปกรณืสื่สอารจนหมด
แถมแม้หน่วยกู้ภัยจะไปถึงแล้ว แต่ก็ไม่สามารถเข้าถึงตัวรถได้อยางทันทีทันใดเพราะรถอยู่ในอุโมงค์ และในจำนวนผู้เสียชีวิตนั้นก็มีบางส่วนที่อยู่ปลายทางด้านบน เนื่องด้วยสูดควันพิษเข้าไป
พอตรจสอบก็มีการตั้งข้อสงสัยว่าทำไมไม่มีอะไรป้องกันเลย คำตอบคือ ตลอดเวลาหลายสิบปีที่มีรถไฟภูเขาให้บริการ ไม่เคยเกิดเหตุไฟไหม้เลย เลยไม่ได้คิดที่จะมีมาตรการป้องกันใดๆ (ถถถถถถถ)
จากนั้นมาก็แน่นอน ล้อมคอกแบบเสริมเหล็กกล้าบวกไททาเนี่ยมกันเลย ระบบความปลอดภัยของรถไฟภูเขาต้องขั้นเทพ มีเครื่งอส่งสัญญาณมือถือในอุโมงค์ ระบบระบายอากาษศ โน่นนี่นั่นเพื่อรับมือเหตุไฟไหม้รถไฟภูเขาต้องเต็มเหนี่ยว พร้อมเสมอ
แต่ที่สุดแสบคือ หลังการสืบสวนอันยาวนานมาร่วม7ปีนั้น ไม่มีใครต้องรับผิดชอบติดคุกในเรื่งอนี้แม้แต่คนเดียว (ถถถถถถ!!!!)
ปัจจุบันรถไฟถูเขาKaprunไม่มีบริการแล้ว อุดมงค์ปิดตาย และรถกระเช้าความเร็วสูงถูกนำมาใช้แทนที่
ขอขอบคุรรายการ Secomd From disaster สำหรับข้อมูลนี้
https://en.wikipedia.org/wiki/Kaprun_disaster
ผมว่าอย่างน้อย อุบัติเหตุรถบรรทุกแก๊สที่ถนนเพชรุรีตัดใหม่ ก็ไม่ได้เป็นแค่ ตื่นตูมเรื่องความปลอดภัยแล้วหายวับ
แม้จากนั้นก็ยังคงมีอุบัติเหตุรถบรรทุกก๊าซพลิกคว่ำ แต่ก็ดูสามารถจัดการกู้ภัยได้อย่างทันควันก่อนที่จะมีคนเจ็บคนตายหรือเกิดเหตุแบบเดียวกันอีกครั้ง
พูดถึงเหตุการณืวัวหายล้อมคอกแบบนี้ นึกถึงเหตุการณ์อีกเหตุการณืในประเทศออสเตรียเมื่อ11 พ.ย. ค.ศ.2000 โศกนาฎกรรมไฟไหม้รถไฟภูเขาKaprun คร่าชีวิตผู้คนไป 115 คน อุบัติเหตุนี้ทำให้พบกับสารภัดความ FAIL นานานับประการ ตั้งแต่รถที่ถูกดัดแปลงติดเครื่อทำความร้อนเข้าไปในห้องคนขับโดยไมไ่ด้มาตรฐาน ซึ่งเป้นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้ โดยหนึ่งในเครื่งอทำความร้อนในห้องคนขับอีกฟากเกิดไฟไหม้ (รถคันนี้มีห้องคนขับหัวท้ายแบบBTS) ตัวเครื่งอทำความร้อนก็ไม่ได้ออกแบบเพื่อติดตั้งบนยานพาหนะด้วยซ้ำ
แถมทั้งอุโมงค์และตัวรถไฟก็คือกับดักมรณะชัดๆ ในอุโมค์ไม่มีตัวส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือทำให้ผู้โดยสารขอความช่วยเหลือไม่ได้ ตัวรถไม่มุปกรณืทุบกระจกหรือติดต่อขอความช่วยเหลือใดๆด้วยซ้ำ คนขับก็ไม่สามารถติดต่อส่วนควบคุมปลายทางได้เพราะไฟได้ทำลายระบบสายไฟฟ้าของอุปกรณืสื่สอารจนหมด
แถมแม้หน่วยกู้ภัยจะไปถึงแล้ว แต่ก็ไม่สามารถเข้าถึงตัวรถได้อยางทันทีทันใดเพราะรถอยู่ในอุโมงค์ และในจำนวนผู้เสียชีวิตนั้นก็มีบางส่วนที่อยู่ปลายทางด้านบน เนื่องด้วยสูดควันพิษเข้าไป
พอตรจสอบก็มีการตั้งข้อสงสัยว่าทำไมไม่มีอะไรป้องกันเลย คำตอบคือ ตลอดเวลาหลายสิบปีที่มีรถไฟภูเขาให้บริการ ไม่เคยเกิดเหตุไฟไหม้เลย เลยไม่ได้คิดที่จะมีมาตรการป้องกันใดๆ (ถถถถถถถ)
จากนั้นมาก็แน่นอน ล้อมคอกแบบเสริมเหล็กกล้าบวกไททาเนี่ยมกันเลย ระบบความปลอดภัยของรถไฟภูเขาต้องขั้นเทพ มีเครื่งอส่งสัญญาณมือถือในอุโมงค์ ระบบระบายอากาษศ โน่นนี่นั่นเพื่อรับมือเหตุไฟไหม้รถไฟภูเขาต้องเต็มเหนี่ยว พร้อมเสมอ
แต่ที่สุดแสบคือ หลังการสืบสวนอันยาวนานมาร่วม7ปีนั้น ไม่มีใครต้องรับผิดชอบติดคุกในเรื่งอนี้แม้แต่คนเดียว (ถถถถถถ!!!!)
ปัจจุบันรถไฟถูเขาKaprunไม่มีบริการแล้ว อุดมงค์ปิดตาย และรถกระเช้าความเร็วสูงถูกนำมาใช้แทนที่
ขอขอบคุรรายการ Secomd From disaster สำหรับข้อมูลนี้
https://en.wikipedia.org/wiki/Kaprun_disaster