คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 18
ใช้เงินมือเติบ ฟุ้งเฟ้อ จมไม่ลง นิสัยพาลพอถูกว่าก็อ้างว่าพี่ก็ทำ อะไรๆ ก็คนอื่นไม่ดีหมด
เรียนเก่งแล้วคิดว่าชีวิตจริงหาเงินได้เก่งหรือคะ ถ้าเก่งจริงๆ ทำไมไปทำงานได้แค่ 27000 คนจบโทโพรไฟล์แจ๋วๆ เรียกเป็นแสนได้ค่ะ
พี่ชายคุณเขาจะภาษาห่วย เรียนไม่เก่งหรืออะไรก็ตาม แต่ "เขาหาเงินได้และเลี้ยงครอบครัวได้ รวมทั้งส่งเด็กนิสัยเสียอย่างคุณเรียนจนจบด้วย"
หาเงินยังไม่เป็น ยังอวดดีคิดว่าตัวเองเก่งกว่าใครๆ เรียนจบแล้วยังต้องให้พ่อแม่จ่ายค่าบัตรให้ ไม่สงสารท่านบ้างหรือคะ
แต่จะว่าคุณคนเดียวไม่ได้ พ่อแม่รังแกฉันจริงๆ
เรียนเก่งแล้วคิดว่าชีวิตจริงหาเงินได้เก่งหรือคะ ถ้าเก่งจริงๆ ทำไมไปทำงานได้แค่ 27000 คนจบโทโพรไฟล์แจ๋วๆ เรียกเป็นแสนได้ค่ะ
พี่ชายคุณเขาจะภาษาห่วย เรียนไม่เก่งหรืออะไรก็ตาม แต่ "เขาหาเงินได้และเลี้ยงครอบครัวได้ รวมทั้งส่งเด็กนิสัยเสียอย่างคุณเรียนจนจบด้วย"
หาเงินยังไม่เป็น ยังอวดดีคิดว่าตัวเองเก่งกว่าใครๆ เรียนจบแล้วยังต้องให้พ่อแม่จ่ายค่าบัตรให้ ไม่สงสารท่านบ้างหรือคะ
แต่จะว่าคุณคนเดียวไม่ได้ พ่อแม่รังแกฉันจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 63
เคลียร์กันตอบกันตรงนี้เลยครับ ไม่ต้องผ่านพ่อแล้ว เพราะพ่อเป็นคนกลาง พ่อมาอ่านกระทู้ พ่อเห็นที่น้องพิมพ์แล้วพ่อก็เหนื่อยใจ พ่อได้แต่พูดว่า ถ้าอยากทำงานบริษัทใหญ่ๆ ก็ทำไป ไปช่วยให้เจ้าของบริษัทเขารวยไปก็แล้วกัน
พี่ขอถามตรงๆ เลยนะ ถามมันตรงนี้แหล่ะ จะได้ไม่ต้องหาว่ามาพูดกลับคำอะไรอีก
บริษัทที่ก่อตั้งขึ้นมา จากกิจการที่ยอดขายแค่เดือนละไม่ถึง 2 ล้านบาท มา จนถึงวันนี้กิจการมียอดขายวันละประมาณ 2 ล้านบาท ทำขึ้นมาด้วยกำลังหลักของตัวพี่เอง รวมถึงออยแฟนพี่ก็มีส่วนช่วยด้วยในช่วงหลัง ซึ่งถ้าน้องเป็นออย น้องจะรู้สึกยังไงครับ ตอนนี้ออยได้เงินเดือนเท่าพนักงานปกตินะครับ คือ 18,000 กว่าบาท ก็เห็นเค้าอยู่ได้ มีความสุขดี พี่ทำบัตรเครดิตเสริมให้เค้าใช้ เดือนนึงเห็นรูดไม่เกิน 3 พัน ส่วนรถนั้นพี่ให้ใช้เป็นพิเศษเอง ถ้าน้องมองว่าต้องได้หุ้น พี่ควรแบ่งให้เขาด้วยหรือเปล่า รวมถึงอาหน่อยด้วยซึ่งอาหน่อยก็มาช่วยตั้งแต่ปีแรกๆ ของการไปซื้อของเมืองจีนเลย แต่อาหน่อยก็ไม่เอาหุ้น เพราะเกรงใจ และเขาพอเพียงกับเงินเดือนในระดับบริหารและพร้อมเกษียณที่นี่ แล้วถ้าน้องบอกว่าต้องได้ครึ่งนึงเลย มันจะไม่มากเกินไปเหรอ ในเมื่อตอนน้องมาบ้าน น้องยังไม่เคยเข้ามาดูที่บริษัทเลย ถามหน่อย ถ้าอาทิตย์หน้าน้องมาที่บริษัท เดินเข้ามา จะมีพนักงานจำน้องได้ไหม พี่กล้าพนันเลยว่า พนักงานส่วนใหญ่จะคิดว่าน้องเป็นลูกค้า เพราะตั้งแต่ตั้งบริษัทมา น้องไม่เคยมาเหยียบบริษัทเลย
พี่พูดแบบเห็นแก่ตัวเลยนะ เอาตรงๆ ตรงนี้พี่ทำมาเอง เหนื่อย เครียด ขนาดไหน รู้บ้างไหม ตอนพี่วางโครงสร้างของทั้งหมด มันไม่มีสูตรสำเร็จมาจากไหนเลย ตอนเรียนมามันไม่มี ตอนทำก็ไม่มีใครเป็นแบบอย่าง พี่ก็ลองผิดลองถูกไปกว่าจะตัดสินใจได้ต้องปรับแก้เป็นร้อยรอบ ยิ่งตอนขยายออกมาใหม่ๆ แทบบ้า เดือนแรกของการขยายที่ขาดทุน เพราะต้องสั่งของเยอะ ไม่มีเงินหมุน เงินสดก็ไปสั่งของจากจีนหมดอีก ตอนนั้นพี่ต้องไปปรึกษาหมอจิตเวชเลย เครียดมาก กลัว Fail ตอนขาดทุนพี่ก็โดนแม่กดดันมากให้เลิก ทิ้งบริษัทแล้วกลับมาเป็นร้านเล็กๆ ซึ่งพี่ก็เถียงกับแม่วันละหลายครั้ง กว่าจะผ่านช่วงขาดทุนมาได้ 5 เดือนมันเหมือน 5 ปีเลยนะ พอผ่านมาได้ก็โล่งใจขึ้น ตอนนี้ก็สบายกว่าแต่ก่อนแล้ว แต่ต้องทำตลาดของที่เข้ามาขายใหม่อยู่ การพักผ่อนของพี่แทบไม่มีเลย ตอนเช้า ตอนกลางวัน กินข้าวที่ครัวของบริษัท ตอนเย็นออกไปกินร้านอาหารทั่วไป กินเสร็จก็ต้องรีบกลับมาเช็คงาน ไม่มีเวลาดูหนัง ไม่มีเวลาเดินห้างเลย น้องเห็นไม่ใช่เหรอใน Slack มีงานส่งให้พี่ตรวจเยอะขนาดไหน ที่เห็นนี่ยังไม่รวม Direct Message นะ
ตอนนี้พี่เสนอให้ได้เต็มที่คือ พี่แบ่งเงินเก็บทั้งหมดของพี่กับออยที่มีให้ได้ทั้งหมด 10 ล้าน + รับภาระจ่าย BMW AH5 + ยกป้ายประมูลใน STI A-Line ให้ + บ้าน 1 หลังโอนให้เลย + จ้างแม่บ้านให้ดูแลบ้านให้ 1 คน เต็มที่ได้เท่านี้ ถ้าเลือกเท่านี้ก็จบกันไป แต่ถ้าทางเลือกนี้ไม่เอา เห็นว่าน้อยเกินไป อยากได้มากกว่านี้ เช่น หุ้น หรือ เงินเดือน ต้องกลับมาทำงาน ให้เห็นผลงาน ในเมื่อว่าพี่โง่ ก็โชว์ความเก่งออกมาให้ดูหน่อย
พี่จะสั่งสินค้ามาชุดนึง ของเหมือนกันแต่แปะมา 2 ยี่ห้อ ให้มาทำตลาด แล้วมาทำตลาดแข่งกับพี่ ถ้าของน้องขายชนะพี่ โดยพึ่งพางบ Marketing น้อยกว่า พี่จะยอมรับว่าน้องเก่งกว่า ถ้าพี่แพ้ พี่จะให้หุ้นตามที่น้องต้องการเลยคือถือคนละ 49%
พี่ขอถามตรงๆ เลยนะ ถามมันตรงนี้แหล่ะ จะได้ไม่ต้องหาว่ามาพูดกลับคำอะไรอีก
บริษัทที่ก่อตั้งขึ้นมา จากกิจการที่ยอดขายแค่เดือนละไม่ถึง 2 ล้านบาท มา จนถึงวันนี้กิจการมียอดขายวันละประมาณ 2 ล้านบาท ทำขึ้นมาด้วยกำลังหลักของตัวพี่เอง รวมถึงออยแฟนพี่ก็มีส่วนช่วยด้วยในช่วงหลัง ซึ่งถ้าน้องเป็นออย น้องจะรู้สึกยังไงครับ ตอนนี้ออยได้เงินเดือนเท่าพนักงานปกตินะครับ คือ 18,000 กว่าบาท ก็เห็นเค้าอยู่ได้ มีความสุขดี พี่ทำบัตรเครดิตเสริมให้เค้าใช้ เดือนนึงเห็นรูดไม่เกิน 3 พัน ส่วนรถนั้นพี่ให้ใช้เป็นพิเศษเอง ถ้าน้องมองว่าต้องได้หุ้น พี่ควรแบ่งให้เขาด้วยหรือเปล่า รวมถึงอาหน่อยด้วยซึ่งอาหน่อยก็มาช่วยตั้งแต่ปีแรกๆ ของการไปซื้อของเมืองจีนเลย แต่อาหน่อยก็ไม่เอาหุ้น เพราะเกรงใจ และเขาพอเพียงกับเงินเดือนในระดับบริหารและพร้อมเกษียณที่นี่ แล้วถ้าน้องบอกว่าต้องได้ครึ่งนึงเลย มันจะไม่มากเกินไปเหรอ ในเมื่อตอนน้องมาบ้าน น้องยังไม่เคยเข้ามาดูที่บริษัทเลย ถามหน่อย ถ้าอาทิตย์หน้าน้องมาที่บริษัท เดินเข้ามา จะมีพนักงานจำน้องได้ไหม พี่กล้าพนันเลยว่า พนักงานส่วนใหญ่จะคิดว่าน้องเป็นลูกค้า เพราะตั้งแต่ตั้งบริษัทมา น้องไม่เคยมาเหยียบบริษัทเลย
พี่พูดแบบเห็นแก่ตัวเลยนะ เอาตรงๆ ตรงนี้พี่ทำมาเอง เหนื่อย เครียด ขนาดไหน รู้บ้างไหม ตอนพี่วางโครงสร้างของทั้งหมด มันไม่มีสูตรสำเร็จมาจากไหนเลย ตอนเรียนมามันไม่มี ตอนทำก็ไม่มีใครเป็นแบบอย่าง พี่ก็ลองผิดลองถูกไปกว่าจะตัดสินใจได้ต้องปรับแก้เป็นร้อยรอบ ยิ่งตอนขยายออกมาใหม่ๆ แทบบ้า เดือนแรกของการขยายที่ขาดทุน เพราะต้องสั่งของเยอะ ไม่มีเงินหมุน เงินสดก็ไปสั่งของจากจีนหมดอีก ตอนนั้นพี่ต้องไปปรึกษาหมอจิตเวชเลย เครียดมาก กลัว Fail ตอนขาดทุนพี่ก็โดนแม่กดดันมากให้เลิก ทิ้งบริษัทแล้วกลับมาเป็นร้านเล็กๆ ซึ่งพี่ก็เถียงกับแม่วันละหลายครั้ง กว่าจะผ่านช่วงขาดทุนมาได้ 5 เดือนมันเหมือน 5 ปีเลยนะ พอผ่านมาได้ก็โล่งใจขึ้น ตอนนี้ก็สบายกว่าแต่ก่อนแล้ว แต่ต้องทำตลาดของที่เข้ามาขายใหม่อยู่ การพักผ่อนของพี่แทบไม่มีเลย ตอนเช้า ตอนกลางวัน กินข้าวที่ครัวของบริษัท ตอนเย็นออกไปกินร้านอาหารทั่วไป กินเสร็จก็ต้องรีบกลับมาเช็คงาน ไม่มีเวลาดูหนัง ไม่มีเวลาเดินห้างเลย น้องเห็นไม่ใช่เหรอใน Slack มีงานส่งให้พี่ตรวจเยอะขนาดไหน ที่เห็นนี่ยังไม่รวม Direct Message นะ
ตอนนี้พี่เสนอให้ได้เต็มที่คือ พี่แบ่งเงินเก็บทั้งหมดของพี่กับออยที่มีให้ได้ทั้งหมด 10 ล้าน + รับภาระจ่าย BMW AH5 + ยกป้ายประมูลใน STI A-Line ให้ + บ้าน 1 หลังโอนให้เลย + จ้างแม่บ้านให้ดูแลบ้านให้ 1 คน เต็มที่ได้เท่านี้ ถ้าเลือกเท่านี้ก็จบกันไป แต่ถ้าทางเลือกนี้ไม่เอา เห็นว่าน้อยเกินไป อยากได้มากกว่านี้ เช่น หุ้น หรือ เงินเดือน ต้องกลับมาทำงาน ให้เห็นผลงาน ในเมื่อว่าพี่โง่ ก็โชว์ความเก่งออกมาให้ดูหน่อย
พี่จะสั่งสินค้ามาชุดนึง ของเหมือนกันแต่แปะมา 2 ยี่ห้อ ให้มาทำตลาด แล้วมาทำตลาดแข่งกับพี่ ถ้าของน้องขายชนะพี่ โดยพึ่งพางบ Marketing น้อยกว่า พี่จะยอมรับว่าน้องเก่งกว่า ถ้าพี่แพ้ พี่จะให้หุ้นตามที่น้องต้องการเลยคือถือคนละ 49%
ความคิดเห็นที่ 175
พอละครับ ขาดกันแล้ว บอกกันได้แม้กระทั่งรหัสผ่านที่ผมให้ไว้เผื่อผมป่วยในกรณีฉุกเฉิน จะได้มาคุมบริษัทได้ไม่มีปัญหา ในครอบครัวมีแค่ 3 คนที่รู้ ต่อจากนี้ความเชื่อใจมันหมดไปแล้วครับ พอกันที ตัดขาดความสัมพันธ์ไปเลยครับ
ส่วนเรื่องพี่... นั้น ไม่ต้อง... แล้วครับ เพราะเจ้าตัวเขาอ่านกระทู้อยู่ แล้วสงสัยว่าเป็นคุณก็เลยโทรมาคุยกับผมแล้ว และเรื่องนี้ผมโทรคุยกับออยแล้ว ค่ำวันเสาร์หน้าจะเข้าไปกรุงเทพ แล้วนัดกินข้าวกับแนนวันอาทิตย์ครับ ออยเค้าไม่ได้ว่าอะไร เพราะว่าที่ไปเที่ยวด้วยกันนั้น ไปกับกลุ่มเพื่อนอีก 4-6 คน ไม่ได้ไปกัน 2 คน ซึ่งดูแล้วทำไมคุณต้องมาพูดในเชิ่งให้คนที่มาอ่านเข้าใจผิดในเชิงชู้สาวด้วยครับ จริงอยู่ว่ามีการรักใคร่ชอบคอกันก็จริง แต่เรื่องนี้ได้คุยกับแนนมาเกือบ 10 ปีแล้วว่าคงเป็นแฟนกันไม่ได้ คงเป็นได้แค่เพื่อนสนิทกัน ส่วนเรื่องที่ให้ออยรู้ไม่ได้ แต่คุณเอามาเปิดเผยนั้นก็เป็นเหตุเพราะไม่อยากให้คนที่เรารักต้องไม่สบายใจว่าเรามี 2 ใจหรือเปล่า แต่ยังไงผมก็ยังยืนยันว่าไม่ได้คิดจะหลอกใช้ใครครับ และจะแต่งงานจริงแน่นอน ขอให้มีความพร้อมก่อน และขอพิธีที่ไม่ต้องใหญ่ครับ
ส่วนเรื่องข้อตกลงนั้นที่เคยตกลงกันไว้ เป็นอันยกเลิกทั้งหมด จะมาต่อว่าว่าผมกลับคำก็ได้ครับ ตอนนี้พ่อกับแม่หลับไปแล้ว คงเปิดกระทู้ดูเรื่องที่คุณพูดไม่ได้ แต่พรุ่งนี้จะเปิดให้ท่านดู แล้วจะให้ท่านระงับบัตรเครดิตเสริมทั้งหมด และวันจันทร์จะให้รถสไลด์ไปยกรถที่ใช้กลับมาด้วยครับ รถคันที่คุณใช้อยู่เป็นชื่อของผม ผมให้ยืมใช้ ตอนนี้เอาคืนแล้วครับ ไม่มีการให้มาเลือกรถของที่บ้านใหม่ เพราะรถที่บ้านผมถือเป็นกรรมสิทธิ์ของผม แม้ในบางคันจะซื้อในนามบริษัทก็ตาม ถ้าอยากได้รถใช้ก็ซื้อคันใหม่เองครับ หรือถ้าเต็มที่ไม่ไหวจริงๆ ผมดาวน์รถในกลุ่ม Ecocar รุ่นไหนก็ได้ให้ 30% ครับ ที่เหลือไปผ่อนเอาเอง ถ้าจะไม่ใช้ Ecocar อยากใช้รถดีกว่านี้ ซื้อเองครับ
ต่อจากนี้ ไม่มีการติดต่อกันแล้วครับ พอกันที ผมผิดก็จริง ที่เอาเรื่องส่วนตัวขึ้นเว็บ Pantip แต่คุณก็น่าจะใช้สติบ้างก่อนที่จะเอาข้อมูลส่วนตัวที่ไม่น่าพูดพิมพ์ออกมา ยิ่งเป็นการพิมพ์ด้วยแล้ว ไม่เหมือนกับการพูดจา ต้องพิมพ์ทีละคำ สามารถไตร่ตรองได้ดีก่อนพิมพ์อยู่แล้ว การทำแบบนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติกันมากๆ ครับ
ต่อจากนี้ถ้ามีการพูดจา นำชื่อจริง ของบุคคลใดบุคคลนึงในบ้าน หรือ ชื่อบริษัท ผมอาจจะพิจารณาดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาททาง พรบ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งคุณน้องก็ทราบดีว่าผมรู้จักกับเจ้าหน้าที่อยู่
ส่วนเรื่องพี่... นั้น ไม่ต้อง... แล้วครับ เพราะเจ้าตัวเขาอ่านกระทู้อยู่ แล้วสงสัยว่าเป็นคุณก็เลยโทรมาคุยกับผมแล้ว และเรื่องนี้ผมโทรคุยกับออยแล้ว ค่ำวันเสาร์หน้าจะเข้าไปกรุงเทพ แล้วนัดกินข้าวกับแนนวันอาทิตย์ครับ ออยเค้าไม่ได้ว่าอะไร เพราะว่าที่ไปเที่ยวด้วยกันนั้น ไปกับกลุ่มเพื่อนอีก 4-6 คน ไม่ได้ไปกัน 2 คน ซึ่งดูแล้วทำไมคุณต้องมาพูดในเชิ่งให้คนที่มาอ่านเข้าใจผิดในเชิงชู้สาวด้วยครับ จริงอยู่ว่ามีการรักใคร่ชอบคอกันก็จริง แต่เรื่องนี้ได้คุยกับแนนมาเกือบ 10 ปีแล้วว่าคงเป็นแฟนกันไม่ได้ คงเป็นได้แค่เพื่อนสนิทกัน ส่วนเรื่องที่ให้ออยรู้ไม่ได้ แต่คุณเอามาเปิดเผยนั้นก็เป็นเหตุเพราะไม่อยากให้คนที่เรารักต้องไม่สบายใจว่าเรามี 2 ใจหรือเปล่า แต่ยังไงผมก็ยังยืนยันว่าไม่ได้คิดจะหลอกใช้ใครครับ และจะแต่งงานจริงแน่นอน ขอให้มีความพร้อมก่อน และขอพิธีที่ไม่ต้องใหญ่ครับ
ส่วนเรื่องข้อตกลงนั้นที่เคยตกลงกันไว้ เป็นอันยกเลิกทั้งหมด จะมาต่อว่าว่าผมกลับคำก็ได้ครับ ตอนนี้พ่อกับแม่หลับไปแล้ว คงเปิดกระทู้ดูเรื่องที่คุณพูดไม่ได้ แต่พรุ่งนี้จะเปิดให้ท่านดู แล้วจะให้ท่านระงับบัตรเครดิตเสริมทั้งหมด และวันจันทร์จะให้รถสไลด์ไปยกรถที่ใช้กลับมาด้วยครับ รถคันที่คุณใช้อยู่เป็นชื่อของผม ผมให้ยืมใช้ ตอนนี้เอาคืนแล้วครับ ไม่มีการให้มาเลือกรถของที่บ้านใหม่ เพราะรถที่บ้านผมถือเป็นกรรมสิทธิ์ของผม แม้ในบางคันจะซื้อในนามบริษัทก็ตาม ถ้าอยากได้รถใช้ก็ซื้อคันใหม่เองครับ หรือถ้าเต็มที่ไม่ไหวจริงๆ ผมดาวน์รถในกลุ่ม Ecocar รุ่นไหนก็ได้ให้ 30% ครับ ที่เหลือไปผ่อนเอาเอง ถ้าจะไม่ใช้ Ecocar อยากใช้รถดีกว่านี้ ซื้อเองครับ
ต่อจากนี้ ไม่มีการติดต่อกันแล้วครับ พอกันที ผมผิดก็จริง ที่เอาเรื่องส่วนตัวขึ้นเว็บ Pantip แต่คุณก็น่าจะใช้สติบ้างก่อนที่จะเอาข้อมูลส่วนตัวที่ไม่น่าพูดพิมพ์ออกมา ยิ่งเป็นการพิมพ์ด้วยแล้ว ไม่เหมือนกับการพูดจา ต้องพิมพ์ทีละคำ สามารถไตร่ตรองได้ดีก่อนพิมพ์อยู่แล้ว การทำแบบนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติกันมากๆ ครับ
ต่อจากนี้ถ้ามีการพูดจา นำชื่อจริง ของบุคคลใดบุคคลนึงในบ้าน หรือ ชื่อบริษัท ผมอาจจะพิจารณาดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาททาง พรบ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งคุณน้องก็ทราบดีว่าผมรู้จักกับเจ้าหน้าที่อยู่
ความคิดเห็นที่ 7
คุณทำตัวเป็นคุณหนูที่เรียกร้องเอาแต่ได้ กิจการที่บ้านก็ไม่ทำ แต่อยากได้ผลประโยชน์
ถ้าคุณไปทำงานที่บริษัทอื่น การที่คุณอยากได้อะไร แล้วต้องเก็บเงินซื้อเองน่ะ มันเรื่องปรกตินะคะ ใครจะมาจ่ายให้คุณ (ก็คุณเลือกเอง)
จะให้คนที่บ้านเลี้ยงดูคุณไปตลอดเลยเหรอคะ อ่านแล้วทั้งสองกระทู้ รู้สึกถึงความเอาแต่ใจอย่างมาก
ถ้าคุณไปทำงานที่บริษัทอื่น การที่คุณอยากได้อะไร แล้วต้องเก็บเงินซื้อเองน่ะ มันเรื่องปรกตินะคะ ใครจะมาจ่ายให้คุณ (ก็คุณเลือกเอง)
จะให้คนที่บ้านเลี้ยงดูคุณไปตลอดเลยเหรอคะ อ่านแล้วทั้งสองกระทู้ รู้สึกถึงความเอาแต่ใจอย่างมาก
แสดงความคิดเห็น
ความจริงจากกระทู้ 34626564