นัดสัมภาษณ์ 7:15 น วันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมา เลือกนัดตอนเช้าเพราะคิดว่าท่านกงศุลน่าจะยังอารมณ์ดีอยู่ โอกาสได้ของเราอาจจะเพิ่มขึ้นมาอีกนิดนึง ไปถึงด้านหน้าสถานทูตประมาณ 6.30 ยืนรออยู่สักพัก โดนยุงรุมกัดไปหลายจุด สักพักมีพี่ยามผู้หญิงมาเช็คทุกคนที่อยู่ในแถวว่ามีมือถือมากี่เครื่อง เหมือนว่าจะเอาเข้าไปฝากข้างในได้แค่เครื่องเดียว แนะนำว่าถ้าไปพกโทรศัพท์มือถือไปเครื่องเดียวพอค่ะ power bank และสิ่งอื่นเก็บไว้ที่บ้านจะได้ไม่ต้องยุ่งยากฝากของที่อื่น
เอกสารที่ผมเตรียมไป
-ใบสมัคร DS160 *สำคัญมากถึงมากที่สุด* เป็นเอกสารที่ต้องยื่นในทุกด่านที่ผ่าน ห้ามลืมเด็ดขาด
-Passport เล่มเก่า *ไม่ใช้* ถือไปเพื่อความสบายใจส่วนตัว เพราะมีวีซ่ายุโรปหลายหน้ามาก อยากโชว์ท่านกงศุล สำหรับคนที่เคยได้วีซ่าที่อื่นมาแล้ว รวมถึงวีซ่าอเมริกา แนะนำว่าควรถือไปด้วย
-รูปถ่าย 2 นิ้วตัวจริง *ไม่ใช้
-ใบเสร็จการชำระค่าสัมภาษณ์ *ไม่ใช้
-แผนการเดินทาง *ไม่ใช้* แต่ควรถือไปเผื่อว่าท่านกงศุลขอดู และควรอ่านแผนการท่องเที่ยวที่เขียนไปด้วย เพราะว่าท่างกงศุลบางคนถามรายละเอียด
-สเตทเมนท์ + book bank ข้อมูลอัพเดตย้อนหลัง 6 เดือน *ไม่ใช้* มียอดคงเหลือ 5x,xxx บาท
-หนังสือเชิญจากแฟน *ไม่ใช้*
-หนังสือแนะนำตัว *ไม่ใช้*
-หนังสือรับรองการทำงานจากทางบริษัท *ไม่ใช้*
สรุปไม่ได้อะไรเลยนอกจากใบ DS160 ดังนั้น จขกท จึงสรุปเอาเองว่า เอกสารตัวนี้สำคัญมาก ผ่านไม่ผ่าน น่าจะมาจากเอกสารชุดนี้
ขั้นตอนก่อนจะได้เข้าสัมภาษณ์มีตามนี้
1. ด่านแรกหลังจากผ่านด่านตรวจความปลอดภัยเข้ามาแล้ว ก็มานั่งรอน้องผู้หญิงในตู้กระจกเรียกคิว น้องจะเรียกคิวตามเวลานัด ไปถึงยื่นซอง DS160 ที่มี Passport น้องจะกระดาษใบเล็กๆ ที่มีเลข EMS อยู่ น้องจะให้อ่านป้ายเขียวๆ ขวามือ สรุปใจความได้ว่าให้จดเลข EMS ไว้ สำหรับการ passport tracking.
2. เข้าห้องต่อคิวสกรีนเอกสารและสัมภาษณ์กับพนักงานไทย ยังคงใช้แค่ passport กับ DS160 เหมือนเดิม ยืนรอในแถว คนก่อนหน้า จขกท หลายๆ คน โดนถามเยอะมาก ขั้นตอนนี้เป็นการสกรีนเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง ชื่อตรงกันหรือเปล่า เบอร์โทรศัพท์ถูกหรือเปล่า ไปไหน ไปทำอะไร ไปกี่วัน และส่วนมากจะเรียกขอใบรับรองการทำงาน และขอข้อมูลในการติดต่อเพิ่มเติม พอถึงคิว จขกท เหตุการ์ณ์เกิดขึ้นเร็วมาก แทบจะไม่ได้ถามอะไร
พนักงาน : สวัสดีค่ะ
จขกท : สวัสดีค่ะ
พนักงาน : ไปทำอะไรที่อเมริกาคะ
จขกท : ไปเที่ยวแล้วก็ไปหาแฟน
พนักงาน : ไปหาแฟน (ทวนทำไม ตกใจ 555)
หลังจากนั้นพนักงานคนไทยก็ให้เราแสกนนิ้วสี่นิ้วทั้งสองมือ นึกในใจ ทำไมคนอื่นถามเยอะจัง ทำไมเราตอบแค่นั้นจบ โอ้ย ๆ หรือเราจะไม่ผ่านตั้งแต่ตอนนี้ เอกสารรับรองการทำงานก็ไม่ขอ
3. หลังจากนั้นก็มาต่อแถวแสกนนิ้วซ้ำอีกรอบกับเจ้าหน้าที่ฝรั่งผู้ชาย ผมดำ หน้าตาดี
4. และก็มาต่อแถวรอสัมภาษณ์ด้วยอาการตื่นเต้น จขกท เป็นคนที่ 5 ในคิว น้องผู้หญิงคนที่ยืนคนแรกสัมภาษณ์กับท่านกงศุลหุ่นซาตาคลอส ถามประมาณสามคำถาม
Q : Why are you doing to the US?
Q : Where will you go?
Q : Where else have you been?
สามคำถามจริงๆ แล้วน้องก็ได้วีซ่ามาครอบครอง หน้าตามีความสุขและฟินมาก คิดในใจ ขอให้เราได้คุณซานตาคลอสนะ สาธุ สักพัก สามคนข้างหน้าเราก็ไปสัมภาษณ์กับตี๋หล่อ สัมภาษณ์นานมาก และไม่แน่ใจว่าน้องได้หรือเปล่า จขกท ก็แอบดีใจ เย้ เย้ ได้ซานตาแน่นอน แต่ๆ แต่ ๆ ก็มีชายชาวจีนมาาัมภาษณ์แบบรอบพิเศษนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ฝันสลายและสุดท้ายเราก็ต้องได้ไปสนทนากับตี๋หล่อตู้ข้าง ๆ
เริ่มต้นการสนทนาด้วยภาษาไทย
ท่านกงศุล : สวัสดีครับ
จขกท : สวัสดีค่ะ
และปรับโหมดเป็นภาษาอังกฤษอย่างรวดเร็ว
ท่านกงศุล : Why are you going to the US?
จขกท : Sightseeing and to see my boyfriend
(มองหน้า มองจอ พิมพ์ พิมพ์ พิมพ์ พิมพ์ พิมพ์อะไรเยอะแยะค่ะ หนูกลัว)
ท่านกงศุล : Where in the US will you go?
จขกท : Florida, Milton Florida.
ท่านกงศุล : What's the name of your boyfriend?
จขกท : Xxx Xxx
ท่านกงศุล : What does he do?
จขกท : He's a corpsman.
เอาแล้ว โดนแล้วแน่เรา วกมาเรื่องแฟนแล้ว
ท่านกงศุล : Sorry?
จขกท : He's corpsman. He's in military.
ถามย้ำครั้งที่สอง นึกในใจไม่ได้ยินเหรอค่ะ หนูออกจะพูดจาเสียงดังฟังชัด
ท่านกงศุล : He's ex military?
จขกท : He's corpsman. You know corpsman? Working in military.
รอบที่สาม เริ่มหงุดหงิดท่างกงศุล ไม่รู้จักเหรอ Copsman เนี่ย ย้ำทำไมหลายรอบ และแล้วสิ่งที่กลัวก็เกิดขึ้น กลัวมาจากบ้านว่าจะไปเหวี่ยงและกวนใส่ท่านกงศุล และสิ่งที่กลัวก็เกิดขึ้น โอ้โนนนนนนนน ไม่นะ ไม่
ท่านกงศุล : What branch is he in?
จขกท : Navy
ท่านกงศุล : How did you meet him?
จขกท : I first met him online. And I just met him last May. Oh I mean this May.
ท่านกงศุล : Where did you met him?
จขกท : Okinawa Japan
Timeline ผิดมาก ตอบผิดเดือน ท่านกงศุลเปิดเล่ม Passport ดู พลิกไป พลิกมา นึกในใจ ตอบผิดทำไงดี โอ้ยยยยย เครียด
ท่านกงศุล : Why Japan? He's not in US military?
จขกท : He's based there for 3 years now he's back in the States.
ท่านกงศุล : Ok. What do you do?
จขกท : I'm a personal assistant to General Manager in charge of Asia Pacific Area.
ท่านกงศุล : จะปายยยยยอยู่ที่ฟลอริด้า กี่วานนนนนน How long will you stay in Florida?
จขกท : 12 days.
ท่านกงศุล : What did you do here?
จขกท : To see my back then boyfriend.
หลังจากคำถามนี้ ท่านกงศุลพิมพ์ยาวมาก และนานมาก ยืนสงบนิ่ง เงียบๆ อยู่ประมาณสองสามนาที นึกในใจ หรือว่าเราจะไม่ได้นะ แงงงงงงงงงงง ร้องไห้ล่วงหน้าหนักมาก หลังจากพิพม์เสร็จ
ท่านกงศุล : Ok. Your visa is approved. You will get it in 3-4 days.
จขกท : Thank you.
ดีใจมากกกกก รีบเดินออกอย่างรวดเร็ว กลัวท่านกงศุลเปลี่ยนใจ มาสิงอยู่ที่นี่สักพัก อ่านมาเยอะมาก มีแต่คนบอกว่าไม่ควรบอกว่าเรารู้จักใคร แต่เรากับแฟนคิดว่าเราไม่ได้มีอะไรปกปิด ก็บอกไปตามความจริง และเราก็ได้วีซ่ามาครอบครอง รอลุ้นอีกทีว่าจะได้ 10 ปีหรือเปล่า
หวังว่ากระทู้นี้คงจะเป็นประโยชน์ ขอให้ทุกคนโชคดีในการขอวีซ่านะคะ
[CR] แชร์ประสบการณ์สัมภาษณ์วีซ่า อเมริกา ไม่ยากอย่างที่ใครว่าไว้
เอกสารที่ผมเตรียมไป
-ใบสมัคร DS160 *สำคัญมากถึงมากที่สุด* เป็นเอกสารที่ต้องยื่นในทุกด่านที่ผ่าน ห้ามลืมเด็ดขาด
-Passport เล่มเก่า *ไม่ใช้* ถือไปเพื่อความสบายใจส่วนตัว เพราะมีวีซ่ายุโรปหลายหน้ามาก อยากโชว์ท่านกงศุล สำหรับคนที่เคยได้วีซ่าที่อื่นมาแล้ว รวมถึงวีซ่าอเมริกา แนะนำว่าควรถือไปด้วย
-รูปถ่าย 2 นิ้วตัวจริง *ไม่ใช้
-ใบเสร็จการชำระค่าสัมภาษณ์ *ไม่ใช้
-แผนการเดินทาง *ไม่ใช้* แต่ควรถือไปเผื่อว่าท่านกงศุลขอดู และควรอ่านแผนการท่องเที่ยวที่เขียนไปด้วย เพราะว่าท่างกงศุลบางคนถามรายละเอียด
-สเตทเมนท์ + book bank ข้อมูลอัพเดตย้อนหลัง 6 เดือน *ไม่ใช้* มียอดคงเหลือ 5x,xxx บาท
-หนังสือเชิญจากแฟน *ไม่ใช้*
-หนังสือแนะนำตัว *ไม่ใช้*
-หนังสือรับรองการทำงานจากทางบริษัท *ไม่ใช้*
สรุปไม่ได้อะไรเลยนอกจากใบ DS160 ดังนั้น จขกท จึงสรุปเอาเองว่า เอกสารตัวนี้สำคัญมาก ผ่านไม่ผ่าน น่าจะมาจากเอกสารชุดนี้
ขั้นตอนก่อนจะได้เข้าสัมภาษณ์มีตามนี้
1. ด่านแรกหลังจากผ่านด่านตรวจความปลอดภัยเข้ามาแล้ว ก็มานั่งรอน้องผู้หญิงในตู้กระจกเรียกคิว น้องจะเรียกคิวตามเวลานัด ไปถึงยื่นซอง DS160 ที่มี Passport น้องจะกระดาษใบเล็กๆ ที่มีเลข EMS อยู่ น้องจะให้อ่านป้ายเขียวๆ ขวามือ สรุปใจความได้ว่าให้จดเลข EMS ไว้ สำหรับการ passport tracking.
2. เข้าห้องต่อคิวสกรีนเอกสารและสัมภาษณ์กับพนักงานไทย ยังคงใช้แค่ passport กับ DS160 เหมือนเดิม ยืนรอในแถว คนก่อนหน้า จขกท หลายๆ คน โดนถามเยอะมาก ขั้นตอนนี้เป็นการสกรีนเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง ชื่อตรงกันหรือเปล่า เบอร์โทรศัพท์ถูกหรือเปล่า ไปไหน ไปทำอะไร ไปกี่วัน และส่วนมากจะเรียกขอใบรับรองการทำงาน และขอข้อมูลในการติดต่อเพิ่มเติม พอถึงคิว จขกท เหตุการ์ณ์เกิดขึ้นเร็วมาก แทบจะไม่ได้ถามอะไร
พนักงาน : สวัสดีค่ะ
จขกท : สวัสดีค่ะ
พนักงาน : ไปทำอะไรที่อเมริกาคะ
จขกท : ไปเที่ยวแล้วก็ไปหาแฟน
พนักงาน : ไปหาแฟน (ทวนทำไม ตกใจ 555)
หลังจากนั้นพนักงานคนไทยก็ให้เราแสกนนิ้วสี่นิ้วทั้งสองมือ นึกในใจ ทำไมคนอื่นถามเยอะจัง ทำไมเราตอบแค่นั้นจบ โอ้ย ๆ หรือเราจะไม่ผ่านตั้งแต่ตอนนี้ เอกสารรับรองการทำงานก็ไม่ขอ
3. หลังจากนั้นก็มาต่อแถวแสกนนิ้วซ้ำอีกรอบกับเจ้าหน้าที่ฝรั่งผู้ชาย ผมดำ หน้าตาดี
4. และก็มาต่อแถวรอสัมภาษณ์ด้วยอาการตื่นเต้น จขกท เป็นคนที่ 5 ในคิว น้องผู้หญิงคนที่ยืนคนแรกสัมภาษณ์กับท่านกงศุลหุ่นซาตาคลอส ถามประมาณสามคำถาม
Q : Why are you doing to the US?
Q : Where will you go?
Q : Where else have you been?
สามคำถามจริงๆ แล้วน้องก็ได้วีซ่ามาครอบครอง หน้าตามีความสุขและฟินมาก คิดในใจ ขอให้เราได้คุณซานตาคลอสนะ สาธุ สักพัก สามคนข้างหน้าเราก็ไปสัมภาษณ์กับตี๋หล่อ สัมภาษณ์นานมาก และไม่แน่ใจว่าน้องได้หรือเปล่า จขกท ก็แอบดีใจ เย้ เย้ ได้ซานตาแน่นอน แต่ๆ แต่ ๆ ก็มีชายชาวจีนมาาัมภาษณ์แบบรอบพิเศษนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ฝันสลายและสุดท้ายเราก็ต้องได้ไปสนทนากับตี๋หล่อตู้ข้าง ๆ
เริ่มต้นการสนทนาด้วยภาษาไทย
ท่านกงศุล : สวัสดีครับ
จขกท : สวัสดีค่ะ
และปรับโหมดเป็นภาษาอังกฤษอย่างรวดเร็ว
ท่านกงศุล : Why are you going to the US?
จขกท : Sightseeing and to see my boyfriend
(มองหน้า มองจอ พิมพ์ พิมพ์ พิมพ์ พิมพ์ พิมพ์อะไรเยอะแยะค่ะ หนูกลัว)
ท่านกงศุล : Where in the US will you go?
จขกท : Florida, Milton Florida.
ท่านกงศุล : What's the name of your boyfriend?
จขกท : Xxx Xxx
ท่านกงศุล : What does he do?
จขกท : He's a corpsman.
เอาแล้ว โดนแล้วแน่เรา วกมาเรื่องแฟนแล้ว
ท่านกงศุล : Sorry?
จขกท : He's corpsman. He's in military.
ถามย้ำครั้งที่สอง นึกในใจไม่ได้ยินเหรอค่ะ หนูออกจะพูดจาเสียงดังฟังชัด
ท่านกงศุล : He's ex military?
จขกท : He's corpsman. You know corpsman? Working in military.
รอบที่สาม เริ่มหงุดหงิดท่างกงศุล ไม่รู้จักเหรอ Copsman เนี่ย ย้ำทำไมหลายรอบ และแล้วสิ่งที่กลัวก็เกิดขึ้น กลัวมาจากบ้านว่าจะไปเหวี่ยงและกวนใส่ท่านกงศุล และสิ่งที่กลัวก็เกิดขึ้น โอ้โนนนนนนนน ไม่นะ ไม่
ท่านกงศุล : What branch is he in?
จขกท : Navy
ท่านกงศุล : How did you meet him?
จขกท : I first met him online. And I just met him last May. Oh I mean this May.
ท่านกงศุล : Where did you met him?
จขกท : Okinawa Japan
Timeline ผิดมาก ตอบผิดเดือน ท่านกงศุลเปิดเล่ม Passport ดู พลิกไป พลิกมา นึกในใจ ตอบผิดทำไงดี โอ้ยยยยย เครียด
ท่านกงศุล : Why Japan? He's not in US military?
จขกท : He's based there for 3 years now he's back in the States.
ท่านกงศุล : Ok. What do you do?
จขกท : I'm a personal assistant to General Manager in charge of Asia Pacific Area.
ท่านกงศุล : จะปายยยยยอยู่ที่ฟลอริด้า กี่วานนนนนน How long will you stay in Florida?
จขกท : 12 days.
ท่านกงศุล : What did you do here?
จขกท : To see my back then boyfriend.
หลังจากคำถามนี้ ท่านกงศุลพิมพ์ยาวมาก และนานมาก ยืนสงบนิ่ง เงียบๆ อยู่ประมาณสองสามนาที นึกในใจ หรือว่าเราจะไม่ได้นะ แงงงงงงงงงงง ร้องไห้ล่วงหน้าหนักมาก หลังจากพิพม์เสร็จ
ท่านกงศุล : Ok. Your visa is approved. You will get it in 3-4 days.
จขกท : Thank you.
ดีใจมากกกกก รีบเดินออกอย่างรวดเร็ว กลัวท่านกงศุลเปลี่ยนใจ มาสิงอยู่ที่นี่สักพัก อ่านมาเยอะมาก มีแต่คนบอกว่าไม่ควรบอกว่าเรารู้จักใคร แต่เรากับแฟนคิดว่าเราไม่ได้มีอะไรปกปิด ก็บอกไปตามความจริง และเราก็ได้วีซ่ามาครอบครอง รอลุ้นอีกทีว่าจะได้ 10 ปีหรือเปล่า
หวังว่ากระทู้นี้คงจะเป็นประโยชน์ ขอให้ทุกคนโชคดีในการขอวีซ่านะคะ