ปั่นจักรยานเที่ยว "ทุ่งแสลงหลวง" และ "น้ำหนาว" ...โดยทีมงานหมีปั่น !

เมื่อลมเย็น และอากาศหนาวมาเยือน พวกเรานักปั่นจะอยู่เฉยได้อย่างไร ต้องไปปั่นสิ ! โอกาสดี ๆ แบบนี้ หาไม่ได้ง่าย ๆ นะ

เมื่ออิ่มได้รับโจทย์จากเพื่อนร่วมทริปว่า "ขอไปที่หนาว ๆ นะ" เรานี่รีบหาข้อมูลทันที แล้วตัดสินใจเลยว่า หนาวนี้... ขอไปปั่นลุยหมอกที่ "ทุ่งแสลงหลวง" กันดีกว่า ! เลยได้เป็นทริปสำรวจทางทุ่งแสลงหลวง เก็บข้อมูลไว้มาพาชาวสมาชิกท่านอื่น ๆ ไปเที่ยวด้วยกันปีหน้าจ้า ส่วนน้ำหนาวนั้นเราถือเป็นขอแถมจ้า (แต่เป็นของแถมที่โหดมากทีเดียว)
*ค่าใช้จ่ายอิ่มสรุปไว้ให้ด้านล่างนะคะ*

ปล. หากสนใจร่วมทริปกับเรา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมในการปั่นจักรยานเที่ยว inbox มาหาเราได้เลยที่ https://www.facebook.com/Spinningbear2013 ยินดีต้อนรับค่ะ
---------
ก่อนอื่น...ไปชมวีดีโอรวบรวมบรรยากาศของ "ทริปหมีปั่น...สำรวจเส้นทางทุ่งแสลงหลวง" กันก่อนนะจ๊ะ จุ๊บ ๆ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ---------
วันที่ 1: 14 ธ.ค. 2558 (ระยะทางปั่นรวมประมาณ 30 กม.)
ออกเดินทางจาก กทม. ตั้งแต่ตี 5 แล้วแวะทานข้าวเช้าที่ "ร้านอาหารมาลี เขาค้อ" (https://goo.gl/maps/c9BLJ34K2Fv) เป็นร้านอาหารขึ้นชื่อ หลายคนแนะนำค่ะ รสชาติดีจัดจ้าน เมนูแนะนำมี 1) ไข่เจียวฟู 2) แกงป่า 5 สหาย 3) ผัดยอดฟักแม้วน้ำมันหอย 4) เห็ดหอมทอดซีอิ๊ว  ปั่นแบบหมี ๆ ต้องอิ่มกายสบายท้องก่อนปั่นทุกครั้งนะจ๊ะ




จากนั้น เรารีบลุยต่อไป "ทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา)" (https://goo.gl/maps/iTUe9rK2Bx42) ที่เลือกพักในฝั่งนี้ เพราะอยู่ใกล้ทุ่งนางพญาค่ะ เหมาะมาก ๆ สำหรับการปั่นจักยานเที่ยว ก่อนปั่นเที่ยว เรากางเต็นท์ให้เรียบร้อยก่อน กลับมาจะได้อาบน้ำแล้วพักสบาย ๆ จ้า


บรรยากาศทั้งหน้าเต็นท์และหลังเต็นท์ได้ใจจริง ๆ ด้านหลังเป็นป่าสน ส่วนด้านหน้า มองเห็นภูเขา และเส้นทางไปทุ่งนางพญา วิวตอนเช้าเป็นหมอกล้วน ๆ



ได้เวลาออกปั่น ! แวะชักภาพ กับป้าย "ทุ่งแสลงหลวง" กันก่อน


เส้นทางปั่นไป "ทุ่งนางพญาเมืองเลน" ต้องปั่นออกไปทางป้อมยามอีกที แล้วเลี้ยวซ้ายนะคะ  


มีพี่ ๆ มอไซด์วิบากมาลุยด้วยนะจ๊ะ เห็นแล้วแอบคึก ๆ ในใจว่า สงสัยทางจะโหดแน่ ๆ เล้ย...งานนี้ มันส์ !

ความเป็นทุ่งหญ้าสะวันนา อาจทำให้ทุ่งแสลงหลวงดูแห้งแล้งนิด ๆ ตอนอ่านรีวิวเราก็คิดอย่างนั้น แต่พอมาเห็นเองแล้ว กลับรู้สึกว่าที่นี่มีเสน่ห์มาก ๆ สวยงามในแบบของเขาจริง ๆ


บอกกันตรง ๆ เลยจ้า ว่าทางโหดระดับ 10 ต้องระมัดระวังกันมาก ๆ หน่อยนะคะ (ดินแดง หินลอย เนินชัน เป็นระยะ ๆ ค่ะ) นี่ขนาดยังไม่ถึงจุดชมวิวแรกเลยนะเนี้ย



เราแวะชมวิว "เขาย่า" เวลากลางวัน ณ ศาลาดุสิตา ก่อน

อยู่ดี ๆ เจ้าผีเสื้อก็มาเกาะแขน ไม่รู้ว่าเพราะหวาน หรือ เค็มกันแน่นะ 555


บอกตรง ๆ ว่าก่อนจะขึ้นมาถึงป้ายนี้ มีเนินโหดมากอยู่ 1 เนิน โยกตัวไปข้างหน้าแบบสุดฤทธิ์ ใช้เกียร์ต่ำ ๆ หน้าเล็กหลังใหญ่ ไปเรื่อย ๆ อย่ารีบ เพราะอาจลื่นล้มได้ ที่สำคัญ ! คอยดูแลหัวใจด้วยเน้อ อย่าให้มันเต้นแรงไปนะคะ


ปั่น ๆ อยู่เงยหน้าขึ้นหายใจ เจอวิวอย่างนี้ บอกเลย หายเหนื่อย !


และในที่สุด...เราก็มาถึงแล้วค่ะ "ทุ่งนางพญาเมืองเลน ดินแดนแห่งทุ่งหญ้าป่าสน 2 ใบ" สวย สงบ ร่มรื่นมาก ๆ ค่ะ
ช่างพี่นี่ รู้มุมกล้องดีจริง ๆ



พวกเราไม่รีรอ หาที่นั่ง แกะเสบียง แล้วเริ่มต้นมื้อกลางวันท่ามกลางธรรมชาติ กันเลยจ้า จะมาทัวร์ริ่ง ต้องอยู่ง่ายกินง่ายนะ รู้ไหมมม
ปล. ทานเสร็จแล้ว อย่าลืมเก็บขยะไปทิ้งด้านนอกด้วยนะคะ


ขากลับปั่นออกมาเรื่อย ๆ แดดเริ่มร่ม วิวก็จะงามไปอีกแบบหนึ่ง


ภูเขา ต้นไม้ ทุ่งหญ้า และจักรยาน เข้ากันดีจริง ๆ


ปั่นไปกลับทั้งหมดเพียง 30 กม. เท่านั้น แต่หนุ่ม ๆ ของเรา พอกลับมาถึงจุดกางเต็นท์ นางนอนตายกันหยังเขียดเลยจ้า


หลังจากนั้น พวกเราแยกย้าย กันไปอาบน้ำ แล้วกลับมาต้มมาม่า ใส่ปลาทูน่า และไข่ทานกันจ้า (จริง ๆ ที่ทุ่งแสลงหลวงมีร้านค้าด้วยนะคะ แต่เรามิรู้ จึงเตรียมของกินไปแบบจัดเต็ม ฮือ ๆ) ปล. ห้องน้ำที่นี่สะอาดมาก ๆ ค่ะ ประทับใจจริง ๆ

เราจองโปรแกรมส่องสัตว์ตอนกลางคืนไว้ด้วยค่ะ 600 บาท ต่อกลุ่ม (กลุ่มหนึ่งได้ประมาณ 10 คนค่ะ) แต่ในบริเวณจุดกางเต็นท์บางทีก็จะมีเจ้าเนื้อทรายเดินหาอาหารตอนกลางคืนด้วยนะคะ แบบนี้


โดยส่วนตัว ชอบมากค่ะ ทุ่งแสลงหลวง วิว เช้า , กลางวัน , เย็น มีเสน่ห์ และสวยหมดทุกเวลา
---------
วันที่ 2: 15 ธ.ค. 2558 (ระยะทางปั่นในแสลงหลวง ประมาณ 10 กม. และปั่นขึ้นน้ำหนาวอีก 40 กม.)
ที่นี่ กว่าฟ้าจะสว่างก็ 6 โมงนิด ๆ แล้วจ้า อิ่มรีบปลุกทีมงาน ไม่ตื่นก็เขย่าเต็นท์ ให้ออกมาดูวิวหมอก แล้วเตรียมตัวปั่นขึ้นไปชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น ณ ศาลาดุสิตาอีกครั้งค่ะ

เปิดไฟใส่หมวก รีบปั่นไปจุดชมวิว ดุสิตา เดี๋ยวไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้นนะ !


วิวพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ สวยงามไม่เหมือนใครค่ะ

ปั่นขึ้นมาจริง ๆ นะ ไม่ได้โม้ !


ปั่นไม่เหนื่อยเล้ยยย ขาไปใส่เสื้อกันหนาวจัดเต็ม ขากลับ ปลดออกหมดเล้ย



แสงแรกของวันค้าบบบ ฟรุงฟริ้งมากก


วันนี้ ค่อนข้างโหดสักหน่อย ต้องตีรถไปฝั่งน้ำหนาว แล้วปั่นขึ้นอีก 40 โล เรามีเวลาเพียง 5-6 ชั่วโมงเท่านั้นเพื่อปั่นให้ถึงน้ำหนาว บอกเลยว่าน้อยเกินไป ไม่ควรทำตามเด็ดขาด หลังจากเก็บเต็นท์และข้าวของเรียบร้อยแล้ว เราออกเดินทางเลยจ้า
ระหว่างวิ่งเส้น 12 กำลังจะไปจอดรถที่ อบต. ปากช่อง เพื่อปั่นขึ้นน้ำหนาว เราแวะทานกาแฟที่ร้านนี้ก่อนจ้า โมอาย (https://goo.gl/maps/7jHLZNBkJDH2)

รสชาติน้ำ และ กาแฟที่นี่ ค่อนข้างธรรมดาค่ะ ราคาประมาณแก้วละ 45 บาท ถ้านับว่าได้นั่งดื่มกาแฟและชมวิวไปด้วยก็โอเคจ้า


เราแวะมาขออนุญาตพี่ ๆ ที่ อบต.ปากช่อง (https://goo.gl/maps/uLXR5yZHwBD2) จอดรถไว้ 1 คืนเพื่อปั่นขึ้นจักยานขึ้นอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวจ้า พี่ ๆ ที่นี่ใจดีมากค่ะ ต้อนรับอย่างดี พูดคุยถามไถ่ ให้เข้าห้องน้ำ สุดยอด !
เหตุที่เราเลือกปั่นขึ้นน้ำหนาว เพราะความอยากรู้ล้วน ๆ ไม่เคยเห็นใครรีวิวเส้นทางนี้มาก่อน เลยมาเองให้หายสงสัยเลยจ้า พี่ ๆ ที่อบต.บอกมีเนินเดียวแหละน้อง แล้วเป็นยังไง ไปดู !


เนินแรกมาแล้ววว ! มีเนินเดียวจริง ๆ นะ ขึ้นเนินเนี้ยเนินเดียว แล้วไม่มีลงอีกเลย อยากจะร้องไห้ T T


รถเอียงลงมาเลยจ้าาา


ณ สะพานห้วยตอง สะพานข้ามภูเขา ที่มีตอม่อสูงสุดในไทย (https://goo.gl/maps/Tt4EwhYwGy72)


ทางจากอบต.ปากช่องไปน้ำหนาว บอกเลยว่าขึ้นอย่างเดียวขึ้นล้วน ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นเนินที่มีความชันประมาณ 8% 40 โล ปั่นได้ 5 กม.ต่อ ชั่วโมงเท่านั้น ผ่านจุดสูงสุดของถนนสาย 12 มาด้วย (ความสูง 937 ม. จากระดับน้ำทะเล) ในภาพดูเหมือนไม่สูง แต่ของจริงนี่ ชันใช้ได้เลยจ้ะ ความชันระดับใจสั่นเลยนะ



เรามาถึงอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ตอนประมาณ 18.30 น. รอดขึ้นมาเพียงอิ่มและช่างพี ส่วนพี่จิ๋ว และพี่เอ็ม เพื่อนร่วมทางอีก 2 ท่าน ไม่ไหวค่ะ แกปั่นกลับจากสะพานห้วยตองลงไปเอารถที่อบต. แล้วขับขึ้นจ้า หลังจากนั้นก็ขับคอยตามเซอร์วิสเราตลอดจนถึงที่หมายเลยค่ะ
เนื่องจากเหนื่อยจัด ตอนกลางคืน เราจัดหมูกระทะ ณ ร้านป้าแดงกันเลยจ้า อร่อยสุด ๆ (ร้านป้าแดง น้ำหนาว ลองเสิชใน Facebook ได้ค่ะ)
---------
วันที่ 3: 16 ธ.ค. 2558
เมื่อคืนนี้เราทานหมูกระทะ ทีร้านป้าแดง ในอช. ตอนเช้าก็มาทานอีกจ้า ทานข้าวเช้าท่ามกลางธรรมชาติ สดชื่น !
เมนูแนะนำ ! 1) ต้มยำไก่บ้าน 2) ลูกมะระหวาน (ฟักแม้ว) ผัดไข่ 3) ไก่ทอด 4) ปลาทอดกระเทียม 5) ไข่เจียวจักรพรรดิ เด็ดทุกอย่างจ้า





หลังจากนั้น เรากลับมาเก็บของ อาบน้ำ บอกลาอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว แล้วขับรถกลับกรุงเทพเลยจ้า ^ ^ เอ้อ ! เกือบลืม อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว .... น้ำหนาว สมชื่อจริง ๆ นะจ๊ะ อิ่มเผลอสระผมไป รู้สึกคิดผิดอย่างแรง 5555 ทริปนี้ เก็บระยะทางได้ประมาณ 84 กม. ส่วนความเร็วเฉลี่ย อยู่ที่ 10 กม.ต่อชั่วโมงเท่านั้นจ้า ยิ้ม
---------
ค่าใช้จ่ายหลัก ๆ
1) ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติคนละ 20 บาท (ลด 50% สำหรับวันธรรมดา) และค่ารถอีก 30 บาท
2) ค่ากางเต็นท์ คนละ 30 บาท
4) ค่าส่องสัตว์ตอนกลางคืนที่ทุ่งแสลงหลวง = 600 บาท
5) ค่าเช่าเตา + ถ่าน ที่ทุ่งแสลงหลวง = 70 บาท
---------
ขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ติดตามอ่านกันจนจบนะจ๊ะ อย่าลืมแวะเข้ามาทักทายกันได้ที่ www.facebook.com/Spinningbear2013 นะคะอ่านกระทู้อื่น ๆ ของเราได้ที่
1) ปั่นจักรยานเที่ยว "น่าน" ... นครแห่งความเนิบ --> http://pantip.com/topic/34488498
2) ปั่นจักรยานเที่ยว “พุระกำ” ธรรมชาติ ณ สวนผึ้ง น่าหลงใหลกว่าที่คุณคิด --> http://pantip.com/topic/34539927

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่