ศาลแพ่งยกฟ้องคดี ′อภิสิทธิ์′ ให้ถอนคำสั่งกลาโหมปลดออกจากราชการ
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลแพ่งมีคำพิพากษา ในคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งของกระทรวงกลาโหม ที่ให้ปลดโจทก์ออกจากราชการ
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า เหตุที่จำเลยปลดโจทก์ออกจากราชการ
เนื่องจากโจทก์ขาดการตรวจเลือกทหารแล้วนำใบสำคัญ (ใบสด.9) แทนฉบับที่ชำรุดสูญหายอันเป็นเท็จ มาแสดงต่อสัสดีจังหวัดนครนายก ทำให้สัสดีจังหวัดนครนายกไม่ทราบความจริงว่าโจทก์ครบเวลาที่จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหาร จึงไม่ได้ระบุสถานะว่า เป็นผู้ขาดการเกณฑ์ทหาร เป็นเหตุให้สัสดีจังหวัดนครนายกออกใบสำคัญ สด.3 (ใบขึ้นทะเบียนกองประจำการ) ให้แก่โจทก์ อีกทั้งโจทก์ไม่มีใบสด.41 ซึ่งเป็นเอกสารแสดงว่าได้รับการผ่อนผันกรณีศึกษาที่ต่างประเทศว่าไม่ต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหาร โจทก์จึงเป็นผู้ขาดคุณสมบัติและไม่มีคุณสมบัติที่จะบรรจุเข้ารับราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตรได้ การสมัครและบรรจุโจทก์เป็นข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร กับการแต่งตั้งโจทก์เป็นนายทหารสัญญาบัตรฯ ตามคำสั่งกระทรวงกลาโหมเป็นการไม่ชอบ
คำสั่งของจำเลยที่ให้ปลดโจทก์ออกจากราชการ จึงเป็นคำสั่งที่ชอบแล้ว ไม่มีเหตุเพิกถอนคำสั่งของจำเลย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1451385786
หลักฐานชัด หนีทหาร เข้ารับราชการโดยมิชอบ ขึ้นทะเบียนเป็นนายร้อยโดยมิชอบ
ต้องถอดยศ เรียกคืนเบี้ยหวัดบำนาญ
เรื่องจากกลาโหม ไปถึงกองทัพบกสามปีแล้ว แต่กองทัพบกไม่ดำเนินอะไร
มีคำพิพากษาออกมาแล้ว
ว่าคำสั่งปลดออกจากราชการฐานผิดวินัย ทุจริต ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ชอบด้วยกฎหมาย
ชัดเจนขนาดนี้ จะรออะไรอยู่อีกหรือเปล่าครับ
ประชาธิปัตย์ก็หาหัวหน้าพรรคใหม่ได้แล้ว แหลหนีทหารหมดสิทธิ์แล้ว ไม่มีความชอบธรรมแล้วในทางการเมือง
จะไปสอนหนังสือก็ไม่ควร เพราะมีชนักติดหลังเยอะเหลือเกิน ล้วนแต่เรื่องดี ๆ ทั้งนั้น
เอาคนหนีทหารมาเป็นหัวหน้าพรรค แล้วทั้งพรรค ทั้งหัวหงอกหัวดำก็พากันช่วยแถว่าไม่ได้หนี ๆ
ไม่อายประชาชนสักนิด
ไม่ใช่มีอคติ อยากเห็นแหลหนีทหารประสบเคราะห์กรรมหรอกครับ
แต่รังเกียจในความแหล โกหก และอาศัยเส้นเอาเปรียบคนอื่นอยู่ตลอด
อยากเห็นความเป็นธรรม
รอดูครับ ว่าความเป็นธรรมจะเกิดหรือไม่
ผู้มีอำนาจหน้าที่ในเรื่องนี้ จะดำเนินการอย่างไรต่อไป
เอาล่ะครับ ถึงขนาดนี้แล้ว จะรออะไรอยู่อีกล่ะครับ และ พรรคประชาธิปัตย์ ก็ควรหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ได้แล้ว
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลแพ่งมีคำพิพากษา ในคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งของกระทรวงกลาโหม ที่ให้ปลดโจทก์ออกจากราชการ
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า เหตุที่จำเลยปลดโจทก์ออกจากราชการ เนื่องจากโจทก์ขาดการตรวจเลือกทหารแล้วนำใบสำคัญ (ใบสด.9) แทนฉบับที่ชำรุดสูญหายอันเป็นเท็จ มาแสดงต่อสัสดีจังหวัดนครนายก ทำให้สัสดีจังหวัดนครนายกไม่ทราบความจริงว่าโจทก์ครบเวลาที่จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหาร จึงไม่ได้ระบุสถานะว่า เป็นผู้ขาดการเกณฑ์ทหาร เป็นเหตุให้สัสดีจังหวัดนครนายกออกใบสำคัญ สด.3 (ใบขึ้นทะเบียนกองประจำการ) ให้แก่โจทก์ อีกทั้งโจทก์ไม่มีใบสด.41 ซึ่งเป็นเอกสารแสดงว่าได้รับการผ่อนผันกรณีศึกษาที่ต่างประเทศว่าไม่ต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหาร โจทก์จึงเป็นผู้ขาดคุณสมบัติและไม่มีคุณสมบัติที่จะบรรจุเข้ารับราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตรได้ การสมัครและบรรจุโจทก์เป็นข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร กับการแต่งตั้งโจทก์เป็นนายทหารสัญญาบัตรฯ ตามคำสั่งกระทรวงกลาโหมเป็นการไม่ชอบ คำสั่งของจำเลยที่ให้ปลดโจทก์ออกจากราชการ จึงเป็นคำสั่งที่ชอบแล้ว ไม่มีเหตุเพิกถอนคำสั่งของจำเลย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1451385786
หลักฐานชัด หนีทหาร เข้ารับราชการโดยมิชอบ ขึ้นทะเบียนเป็นนายร้อยโดยมิชอบ
ต้องถอดยศ เรียกคืนเบี้ยหวัดบำนาญ
เรื่องจากกลาโหม ไปถึงกองทัพบกสามปีแล้ว แต่กองทัพบกไม่ดำเนินอะไร
มีคำพิพากษาออกมาแล้ว
ว่าคำสั่งปลดออกจากราชการฐานผิดวินัย ทุจริต ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ชอบด้วยกฎหมาย
ชัดเจนขนาดนี้ จะรออะไรอยู่อีกหรือเปล่าครับ
ประชาธิปัตย์ก็หาหัวหน้าพรรคใหม่ได้แล้ว แหลหนีทหารหมดสิทธิ์แล้ว ไม่มีความชอบธรรมแล้วในทางการเมือง
จะไปสอนหนังสือก็ไม่ควร เพราะมีชนักติดหลังเยอะเหลือเกิน ล้วนแต่เรื่องดี ๆ ทั้งนั้น
เอาคนหนีทหารมาเป็นหัวหน้าพรรค แล้วทั้งพรรค ทั้งหัวหงอกหัวดำก็พากันช่วยแถว่าไม่ได้หนี ๆ
ไม่อายประชาชนสักนิด
ไม่ใช่มีอคติ อยากเห็นแหลหนีทหารประสบเคราะห์กรรมหรอกครับ
แต่รังเกียจในความแหล โกหก และอาศัยเส้นเอาเปรียบคนอื่นอยู่ตลอด
อยากเห็นความเป็นธรรม
รอดูครับ ว่าความเป็นธรรมจะเกิดหรือไม่
ผู้มีอำนาจหน้าที่ในเรื่องนี้ จะดำเนินการอย่างไรต่อไป