"ต้องบอกก่อนเลยว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่ความผิดของ บริษัท แต่เป็นตัวลูกจ้างเอง"
เหตุเกิดเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมานี้เอง เรื่องมีอยู่ว่าผมกับเพื่อนๆได้ออกเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองเชียงใหม่ เป็นเวลา 5 วัน ที่นี่วันสุดท้ายก่อนกลับเราก็ตกลงกันว่าจะเช่ารถเที่ยวรอบเมือง ก็เดินดูรอบๆเพื่อที่จะหาร้านซึ่งส่วนใหญ่จะไม่เหลือกันเพราะเป็นช่วงเทศกาลด้วยก็เดินกันมาทั้งวัน สุดท้ายเราก็มาได้ร้านผ่านป้ายโฆษณาที่โรงแรม (เพิ่งเห็น -- ) บวกกับเจ้าของโรงแรมก็แนะนำมาด้วย เราก็โทรไปสอบถามว่ามีรถมั้ย ทางนั้นก็บอกว่ามีเดี๋ยวจะส่งรถมาให้ ก็รอสักพักพอมาปุ๊ปก็เห็นพนักงานมากันสองคนอีกคนนั่งมอไซมาเพื่อที่จะรับกลับ เขาก็ถามเรานู้นนี่นั่น เขาก็ท่าทางจะชวนคุยดี เราก็ทำเอกสารตกลงเช่ายืมรถปกติ เขาก็เอาบัตรประชาชนเรากับเงินมัดจำ 6000 บาทไป เพื่อนเราก็อาสาไปกดตังออกมาซึ่งเป็นเงินค่าเทอมที่ต้องจ่ายก่อนสิ้นปีนี้มาให้ ก็ตกลงรับรถกันไป เราก็ขอเบอร์ , line เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้ติดต่อ
พอถึงเวลาคืนเราก็ตกลงกับเขาว่าจะคืนที่สนามบินก่อนกลับในวันพรุ่งนี้ วันต่อมา เขาก็มาตามนัดหมาย พอถึงช่วงคืนรถเขาก็ให้คืนมาแต่บัตรประชาชน แล้วอ้างว่าเงินค่ามัดจำเดี๋ยวให้บริษัทโอนมาให้ภายหลังไม่เกินสองสามชั่วโมงเพราะพี่ไม่ได้หยิบเงินมา พวกเราก็ งง สิ แต่เห็นไม่เป็นไรบริษัทเขามีชื่อ น่าจะไว้ใจได้ เราก็โอเครๆ เขาก็ขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ตรวจสภาพรถเลย ?? ด้วยความประมาท พวกเราก็ไม่ได้เอะใจอะไร
พอกลับถึง กทม เพื่อนก็มาบอกว่าเงินที่มัดจำไปยังไม่ได้คืนเลยก็เลยโทรไปถาม ก็ยังดีที่เขารับ เขาก็บ่ายเบี่ยงไปเรื่อย ปัดความผิดชอบให้บริษัทบ้างพอโทรไปถามที่บริษัทเขาบอกเงินอยู่ที่เขา บริษัทไม่รับผิดชอบ...ลูกจ้างเมิงหนะ (แล้วสรุปตรูจะเชื่อใครดี ?? นี่มันเงินมัดจำลูกค้าหน่ะ -- ) สุดท้ายเขาก็บอกจะโอนให้ภายในเย็นนี้ พวกเราก็ได้แต่ รอ รอ พอรอถึงเย็นก็ยังไม่มีการโอนมาเราก็คิดว่าให้เวลาเขา อีกสักนิดก็ได้มั้ง รอไปอีกสองชั่งโมงก็เงียบหาย
เลยตัดสินใจ line ไปซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการโทรคุยมากกว่า จนวันนึงผ่านไปเต็มๆ
เช้าวันต่อมาเขาก็ทักมาถาม ว่าได้เงินรึยัง
เราก็เลยโทรไปคุย เขาก็บอกว่าจะโอนให้ภายในเย็นนี้ ??? (กี่เย็นแล้ว) หลังจากนั้นก็เงียบหายไปเลย ในใจพวกเราก็เลยคิดว่าโดนแล้วแน่ๆ ก็เลย หาข้อมูลเตรียมแจ้งความ แล้วก็ลองโทรไปหาที่บริษัทเขาก็เล่าให้ฟังว่าลูกจ้างคนนี้มีโกงมาแล้วหลายคดีโดนมาแล้วหลายราย (ในใจก็คิดว่าทำไมเมิงไม่บอกให้เร็วกว่านี้ -- หรือมีส่วนด้วย ? แล้วพวกนายไม่คิดทำอะไรหน่อยหรอ ? ปล่อยให้มาถึงขนาดนี้ได้ยังไง )
ฉะนั้นเราจะไม่มีทางบ่อยไป เอาให้ถึงที่สุด เขาก็บอกว่าเนี่ยยังติดหนี้อยู่กับที่บริษัทอยู่เลย แต่เดี๋ยวจะช่วยคุยให้ เราก็บอกไปว่าจะแจ้งความมีชื่อ หลักฐานพร้อม พวกเราก็ตามโทรจี้ด้วยทุกเบอร์ที่มีก็ได้คำตอบเดิมคือ เดี๋ยวโอนให้ -- เวลาผ่านไป ยืดเยื้ออยู่แบบนี้เป็นสามวันเต็มผมเริ่มหมดหวังและความอดทนแล้วคิดว่า จะแจ้งความจริงๆแล้ว เขาก็โทรมาขอ พน ก่อน 5 โมงเย็นเราก็บอกว่าถ้าไม่ได้ครั้งนี้ จะเอาจริง พอ 5 โมงตรงเราก็โทรไปทันทีเลยแล้วบอกอยู่หน้าสน.แล้วเขาก็บอกแปปนึงกำลังออกไป.....
สรุปเขาก็โอนมาให้ตอน 6 โมงเย็น ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่เสียไป ไม่คุ้มเลยกับเงินอยากจะบอกว่าไม่ควรให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกกับคนที่มาใช้บริการ เหนื่อยมากๆกับปัญหาครั้งนี้ คิดว่าถ้าไม่โทรตามจิก ขู่ว่าจะแจ้งความก็คงไม่โอนมา จึงอยากเตือนเพื่อนๆว่าเงินมัดจำไม่ต้องรอโอนรับมาเลยก่อนจะคืน รถ ถึงแม้จะเป็นบริษัทมีชื่อเราก็ไม่ควรประมาท แล้วถ้าเจอเหตุการณ์คล้ายๆกันแบบนี้เราก็ไม่ควรปล่อยปละละเลยช่วย ๆ กันถึงแม้จะเป็นเงินไม่กี่บาท (สำหรับบางคน)
เตือนภัยเช่ารถเที่ยวเชียงใหม่
เหตุเกิดเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมานี้เอง เรื่องมีอยู่ว่าผมกับเพื่อนๆได้ออกเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองเชียงใหม่ เป็นเวลา 5 วัน ที่นี่วันสุดท้ายก่อนกลับเราก็ตกลงกันว่าจะเช่ารถเที่ยวรอบเมือง ก็เดินดูรอบๆเพื่อที่จะหาร้านซึ่งส่วนใหญ่จะไม่เหลือกันเพราะเป็นช่วงเทศกาลด้วยก็เดินกันมาทั้งวัน สุดท้ายเราก็มาได้ร้านผ่านป้ายโฆษณาที่โรงแรม (เพิ่งเห็น -- ) บวกกับเจ้าของโรงแรมก็แนะนำมาด้วย เราก็โทรไปสอบถามว่ามีรถมั้ย ทางนั้นก็บอกว่ามีเดี๋ยวจะส่งรถมาให้ ก็รอสักพักพอมาปุ๊ปก็เห็นพนักงานมากันสองคนอีกคนนั่งมอไซมาเพื่อที่จะรับกลับ เขาก็ถามเรานู้นนี่นั่น เขาก็ท่าทางจะชวนคุยดี เราก็ทำเอกสารตกลงเช่ายืมรถปกติ เขาก็เอาบัตรประชาชนเรากับเงินมัดจำ 6000 บาทไป เพื่อนเราก็อาสาไปกดตังออกมาซึ่งเป็นเงินค่าเทอมที่ต้องจ่ายก่อนสิ้นปีนี้มาให้ ก็ตกลงรับรถกันไป เราก็ขอเบอร์ , line เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้ติดต่อ
พอถึงเวลาคืนเราก็ตกลงกับเขาว่าจะคืนที่สนามบินก่อนกลับในวันพรุ่งนี้ วันต่อมา เขาก็มาตามนัดหมาย พอถึงช่วงคืนรถเขาก็ให้คืนมาแต่บัตรประชาชน แล้วอ้างว่าเงินค่ามัดจำเดี๋ยวให้บริษัทโอนมาให้ภายหลังไม่เกินสองสามชั่วโมงเพราะพี่ไม่ได้หยิบเงินมา พวกเราก็ งง สิ แต่เห็นไม่เป็นไรบริษัทเขามีชื่อ น่าจะไว้ใจได้ เราก็โอเครๆ เขาก็ขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ตรวจสภาพรถเลย ?? ด้วยความประมาท พวกเราก็ไม่ได้เอะใจอะไร
พอกลับถึง กทม เพื่อนก็มาบอกว่าเงินที่มัดจำไปยังไม่ได้คืนเลยก็เลยโทรไปถาม ก็ยังดีที่เขารับ เขาก็บ่ายเบี่ยงไปเรื่อย ปัดความผิดชอบให้บริษัทบ้างพอโทรไปถามที่บริษัทเขาบอกเงินอยู่ที่เขา บริษัทไม่รับผิดชอบ...ลูกจ้างเมิงหนะ (แล้วสรุปตรูจะเชื่อใครดี ?? นี่มันเงินมัดจำลูกค้าหน่ะ -- ) สุดท้ายเขาก็บอกจะโอนให้ภายในเย็นนี้ พวกเราก็ได้แต่ รอ รอ พอรอถึงเย็นก็ยังไม่มีการโอนมาเราก็คิดว่าให้เวลาเขา อีกสักนิดก็ได้มั้ง รอไปอีกสองชั่งโมงก็เงียบหาย
เลยตัดสินใจ line ไปซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการโทรคุยมากกว่า จนวันนึงผ่านไปเต็มๆ
เช้าวันต่อมาเขาก็ทักมาถาม ว่าได้เงินรึยัง
เราก็เลยโทรไปคุย เขาก็บอกว่าจะโอนให้ภายในเย็นนี้ ??? (กี่เย็นแล้ว) หลังจากนั้นก็เงียบหายไปเลย ในใจพวกเราก็เลยคิดว่าโดนแล้วแน่ๆ ก็เลย หาข้อมูลเตรียมแจ้งความ แล้วก็ลองโทรไปหาที่บริษัทเขาก็เล่าให้ฟังว่าลูกจ้างคนนี้มีโกงมาแล้วหลายคดีโดนมาแล้วหลายราย (ในใจก็คิดว่าทำไมเมิงไม่บอกให้เร็วกว่านี้ -- หรือมีส่วนด้วย ? แล้วพวกนายไม่คิดทำอะไรหน่อยหรอ ? ปล่อยให้มาถึงขนาดนี้ได้ยังไง )
ฉะนั้นเราจะไม่มีทางบ่อยไป เอาให้ถึงที่สุด เขาก็บอกว่าเนี่ยยังติดหนี้อยู่กับที่บริษัทอยู่เลย แต่เดี๋ยวจะช่วยคุยให้ เราก็บอกไปว่าจะแจ้งความมีชื่อ หลักฐานพร้อม พวกเราก็ตามโทรจี้ด้วยทุกเบอร์ที่มีก็ได้คำตอบเดิมคือ เดี๋ยวโอนให้ -- เวลาผ่านไป ยืดเยื้ออยู่แบบนี้เป็นสามวันเต็มผมเริ่มหมดหวังและความอดทนแล้วคิดว่า จะแจ้งความจริงๆแล้ว เขาก็โทรมาขอ พน ก่อน 5 โมงเย็นเราก็บอกว่าถ้าไม่ได้ครั้งนี้ จะเอาจริง พอ 5 โมงตรงเราก็โทรไปทันทีเลยแล้วบอกอยู่หน้าสน.แล้วเขาก็บอกแปปนึงกำลังออกไป.....
สรุปเขาก็โอนมาให้ตอน 6 โมงเย็น ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่เสียไป ไม่คุ้มเลยกับเงินอยากจะบอกว่าไม่ควรให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกกับคนที่มาใช้บริการ เหนื่อยมากๆกับปัญหาครั้งนี้ คิดว่าถ้าไม่โทรตามจิก ขู่ว่าจะแจ้งความก็คงไม่โอนมา จึงอยากเตือนเพื่อนๆว่าเงินมัดจำไม่ต้องรอโอนรับมาเลยก่อนจะคืน รถ ถึงแม้จะเป็นบริษัทมีชื่อเราก็ไม่ควรประมาท แล้วถ้าเจอเหตุการณ์คล้ายๆกันแบบนี้เราก็ไม่ควรปล่อยปละละเลยช่วย ๆ กันถึงแม้จะเป็นเงินไม่กี่บาท (สำหรับบางคน)