[CR][SR] หิ้วกล้องฟิล์ม นั่งรถไฟ เมาเรือ ไปท้าลมหนาวที่เกาะเต่า

เราชื่อ พลอย เราเดินทางไปมาหลายที่มากมายในประเทศไทย เชื่อเราสิ ยิ่งเรายิ่งเที่ยวเมืองไทย เรายิ่งหลงรักประเทศไทย มีอะไรอีกมากมายให้เราออกไปค้นหา เก็บกระเป๋าออกไปเที่ยวกันเถอะเนอะทุกคน
________________________________________________________________________________________________
      เริ่มจากทริปนี้เราวางแผนจะไปเที่ยวดอยหลวงเชียงดาว ที่จังหวัดเชียงใหม่หลังจากที่เคยไปมาแล้วรอบนึง แต่ดั๊นไม่ได้ขึ้นดอยหลวงเชียงดาว (รีวิวทริปเรา)http://pantip.com/topic/34243187 แต่ครั้งนี้ก็มีเหตุให้ไม่ได้ไป เพราะดันติดสอบโปรเจคจบ ซึ่งเราก็ต้องเลือกโปรเจคมาเป็นอันดับหนึ่ง  พอสอบโปรเจคจบผ่านไป เราก็มาคุยกับเพื่อนว่าอยากไปเที่ยว แล้วก็มาสุมหัวกันจะไปไหนดี มีหลายที่ในลิสต์มาก ทั้ง เกาะเสม็ด เชียงใหม่ แต่มาสรุปกันที่เราจะนั่งรถไฟไปเกาะเต่ากัน เมื่อสรุปทริปและจำนวนคนไปได้แล้ว เราก็ไปกันเถอะ ทริปสี่วันสามคืนที่เกาะเต่ากำลังเริ่มขึ้นแล้ววว
      เราสามคนออกเดินทางวันที่ 17 ธันวาคม 2558 ด้วยรถไฟสปินเตอร์(ด่วนพิเศษ) แอร์นั่ง ขบวน 43 เวลา 08.05 น. รถไฟออกจากสถานีตรงเวลามาก เรากับเพื่อนเกือบตกรถไฟเพราะมัวแต่ไว้ใจการข่นส่งด้วยรถเมล์ฟรี แต่พอนั่งมาครึ่งทาง เราก็ไม่ไว้ใจอีกต่อไปเพราะเหลือเวลาอีกเกือบ 20 นาที เราเลยใช้บริการพี่สุชาติตรงดิ่งไปหัวลำโพง ซึ่งถึง 8.00 น. พอดี พอถึงก็รีบวิ่งบึ่งขึ้นรถไฟ แต่ยังมีเวลาหยุดถ่ายรูปนิดหน่อยก่อนขึ้น

        บนรถไฟจะมีของว่างให้กินตอนเช้า ด้วยความที่ไม่ได้กินอะไรมา ขนมปังฟาร์มเฮ้าส์กับน้ำส้มก็ลงท้องอย่างรวดเร็ว เราสามารถบอกคุณพี่คนเสริฟได้นะว่าจะเอาน้ำอะไร มีน้ำส้ม โค๊ก น้ำเปล่า กาแฟ ตามที่เราอยากทานเลย ตลอดทางรถไฟของเราก็วิ่งฉิวไปด้วยความเร็วที่คนอื่นบนรางต้องหลบให้ ซึ่งไม่แวะให้เราซื้ออะไรกินเลย การนั่งรถไฟแบบนี้แนะนำให้เอาเพลงใส่โทรศัพท์มาเยอะๆ เพราะถ้าคุณนั่งเล่นโซเชียลไปเรื่อยๆแบตก็จะหมด ฟังเพลงแล้วนอน ถือว่าเป็นการพักผ่อนที่ควรให้รางวัลแก่ร่างกาย
       พอถึงเวลาประมาณเกือบเที่ยง ก็มีอาหารกลางวันก็จะมีอาหารกลางวันมาเสริ์ฟ เป็นเซตข้าวยี่ห้อปุ้มปุ้ย มีข้าวสวย แกงไก่และก็ปลาต้มหวาน มีบริการเสริ์ฟน้ำจากพี่คนเสริ์ฟโดยจะถามทุกคนว่าจะรับน้ำใส่น้ำแข็งหรือน้ำเปล่าๆอย่างเดียว พอกินเสร็จเราก็จะมีแผนกเก็บถาดอาหาร และชั่วโมงการฟังเพลงนอนสต๊อปก็มาถึงแบบยาวๆไป....
       17.15 น. และแล้วเราก็มาถึงสถานีสุราษฎร์ธานี หลังจากที่เรานั่งหลับ ตื่น หลับ ตื่นกันบนรถไฟมา 8 ชั่วโมง รถไฟเรามาถึงเลท 30 นาที ซึ่งก็ถือว่าไม่มากมายเกินไป เรารอซักพักก็มีเพื่อนของเพื่อนมารับเราซึ่งเป็นคนสุราษพาไปกินข้าวบริเวณศาลเจ้าประจำจังหวัด เพื่อรอเรือนอน

       ต้องขอบคุณเจ้าบ้านจังหวัดนี้มากๆเลย ใจดีมากๆ พาเลี้ยงข้าว ให้ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่บ้าน แล้วยังสนับสนุนค่าเรือนอนและช่วยซื้อตั๋วให้กับเด็กน้อยสามคนที่มาเที่ยว ขอบคุณมากค่า
________________________________________________________________________________________________
       22.00 น. เราก็ขึ้นเรือ ไหว้ขอบคุณคุณพ่อและคุณแม่ของเพื่อน โบกมือบ๊ายบาย(เหมือนจะออกทะเลไปไหนไกลๆ) ภาพในเรือนอนไม่ได้ถ่ายมา ตื่นเต้นมาก เพราะเป็นการขึ้นเรือนอนครั้งแรกของเราสามคน นั่งตากลมไปซักพัก ฝนตก แยกย้ายวงแตก นอน แล้วเตียงมีสองชั้น ก็นอนอย่างสงบเพราะเราต้องแล่นเรือผ่านแม่น้ำเข้าทะเล แต่ใครจะรู้ว่าเราจะลุกขึ้นมาเมาเรือตอนตี 4 คือแบบเมามาก เพราะเรือมันแล่นเป็นคลื่น นึกภาพโค้งติดๆกันเป็นเส้นคลื่น แบบนั้นเลย ขึ้น ลง ขึ้น ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา ก็เลยค่อยไต่เตียงลงมาซัดยาเมาเรือ แล้วไปเข้าห้องน้ำ ช่วงเดิน เรือก็เอียงไปมา ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา ห้องน้ำมีสองฝั่ง เอียงจนประตูห้องน้ำตีเปิดปิดอะ พอเข้าไปข้างใน ก็เอียงไปมา ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา (นึกในใจนี่ขนาดเรือเหล็กนะ) และก็พยุงตัวเองกลับมา นั่งอยู่เตียงเพื่อนที่นอนข้างล่าง บอกเพื่อนว่าเมาเรือไม่ไหวละ จนเพื่อนต้องสละเตียงล่างให้แล้วไปนอนข้างบนแทน ซึ้งใจมาก T^T ฤทธิ์ยาออกเต็มที่ ง่วง เรือเอียงซ้าย ขวา ขึ้น ลง โอเคหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นอีกทีเช้าแล้ว เรือกำลังเข้าฝั่ง

            18 ธันวาคม 2558 ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นบนเรือ สวยไปอีกแบบนะ ลมปะทะหน้าเย็น พระอาทิตย์กำลังขึ้น แสงสีส้ม โอ่ยยย สวยจริงๆ อิจฉาคนมากับแฟน โรแมนติกมั่กๆเลย

      เมื่อถึงท่าเรือ อย่างแรกที่เราทำคือไปหาซื้อตั๋วเรือกลับ ซึ่งเราต้องรออีก 1 ชั่วโมงจนกว่าเค้าเตอร์จะเปิด เดินถ่ายรูปเล่นรอ เพื่อนไปซื้อข้าวเหนียวไก่ทอดมา ราคาแบบแพงตามสเตปราคาบนเกาะ เราก็เริ่มเดินออกไปหาราคาค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ แล้วก็เจอร้านที่ไม่ต้องวางมัดจำ 5000 บาท ค่ามอเตอร์ไซค์ 250 บาท/วัน/คัน เราก็จัดการเช่า พอรู้ว่าพี่เค้าขายตั๋วเรือลมพระยาด้วย ก็จัดการซื้อ คนละ 600 บาท พร้อซื้อทัวร์ดำน้ำรอบเกาะด้วย คนละ 750 บาท (ร้านพี่เค้าอยู่ก่อนถึงเซเว่นนิดนึง ถ้าเดินจากท่าเรือ)
      เมื่อมาถึงที่พัก เราเข้าห้องได้ 10 โมง แต่สามารถฝากของไว้ที่รีเซปชั่น เราก็ล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนชุดเตรียมไปดำน้ำรอบเกาะ ระหว่างนั้นก็เดินถ่ายรูปเล่นรอพี่ทัวร์ดำน้ำขับรถมารับ

       พอถ่ายรูปเสร็จ ก็ออกไปขึ้นรถ ไปเตรียมขึ้นเรือ วันที่เราไปเป็นวันธรรมดา เพื่อร่วมทริปดำน้ำเลยมีแต่ฝรั่ง ทุกคนมีอาวุธประจำกายคือสนอคเคิล แว่นดำน้ำ และเสื้อชูชีพ ระหว่างออกเรือไป บนเรือจะมีกาแฟ ชา ขนมบริการตลอด วันนี้เราบังเอิญพบกับเพื่อนชื่อมรสุม คลื่นลมแรงมาก เรือโคลง ขึ้น ลง ขึ้น ลง แบบกินข้าวเหนียวไก่ไป ไก่แทบจะบินออกมา เหมือนเล่นเครื่องเล่นโลดโผน และแล้วเจ้าของกระทู้ก็เมาเรืออีกครั้ง เพื่อนต้องวิ่งวุ่นหายาเมาเรือให้กิน เราก็โคลงขึ้น ลง ขึ้น ลง  โอ้แม่เจ้า T^T ไม่สนุกเลย พอไปถึงจุดแรก กัปตันปล่อยลงไปดำน้ำ คลื่นแรงมาก แบบตีวิ่ววววว วิ่วววว เราก็นั่งเมาเรือ ไม่ลงดีกว่า กัปตันเรือเดินมา เรวก็บอกกัปตันว่าเมาเรือ กัปตันก็รีบหายาให้กิน แล้วบอกว่าไม่ต้องลงหรอกจุดนนี้คลื่นแรงมาก เมื่อวานมีคนจีนเกือบไปรอดเพราะคลื่น แล้วเค้าก็ให้ลูกเรือเรียกลูกทริปขึ้นเรือ จากเราที่ต้องขับรอบเกาะ เราไม่สามารถไปได้ เพราะคลื่นแรงมาก เราต้องวนกลับทางเดิม แล้วไปดำตรงแถวชาร์คเบย์แทน เป็นจุดที่เราลงไปดำกับเพื่อน โอ้ สวยนะ แบบมีประการัง มีปลาว่าย เต็มไปหมดเลย มีปลาดอรี่ในเรืองนีโม่ด้วย แต่ไม่ให้มีฉลามเลย T^T
      พอขึ้นมาลูกเรือก็แจกกล้วยหอมให้ทาน ซัดไปสามลูก หิวมาก เรือแล่นมาเรื่อยๆลงอีกจุด จุดนี้ไม่สวยเท่าจุดเมื่อกี้ แต่ได้ให้อาหารปลา แล้วแบบปลาล้อมรอบตัว ฟินไปอีกแบบตอนดำน้ำ พอขึ้นมาก็ทานข้าวกล่อง ผัดกระเพราไข่ดาวตามสไตล์คนไทย เรือของเราก็แล่นต่อไป ไปปล่อยลงอีกจุด แต่เราง่วงมากเพราะยาแก้เมาเรือ เราเลยให้เพื่อนไปเล่นกัน ส่วนเรานั่งหลับ จนกัปตันมาเห็น ก็บอกให้ไปนอนบนเรือมันจะโปร่งกว่า พอนอนไปซักพัก นอนไม่หลับ ก็ออกมานั่งคุยกับพี่ผู้หญิงคนนึงที่เค้ามาคนเดียว (คิดในใจโคตรเท่เลยยยยย ไอดอลเลย) พอคุยกันซักพัก แลกเปลี่ยน เรือก็ออก โคลงเคลงขึ้น ลง ขึ้น ลง ลมปะทะหน้า ขึ้น ลง โอ้แม่เจ้า นี่มันเครื่องเล่นในชีวิตจริงที่คุณควรมาเล่นนะ เรามาถึงเกาะนางยวนได้ในสภาพพยายามฮึบไม่อาเจียนออกมา มันโลดโผนกว่าข้างล่างเยอะเลย จอร์จ...  
                              กองหินก่อนถึงเกาะนางยวน ธรรมชาติสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างสวยงาม  
                              เกาะนางยวน มีที่พักที่เดียว คือ นางยวนรีสอร์ท สามารถเดินเพื่อไปถ่ายรูปบนจุดสูงสุดได้


      ตรงนี้จะเป็นจุดที่ทะเลแหวก แต่เรามาช่วงที่ไม่ใช่หน้าร้อน น้ำเลยขึ้นสูง คลื่นสีใส่กันซู่ซู่ (เลยเป็นที่มาของจุดระวัง strong current) แต่คลื่นแรงมาก คือมันเท่าเข่า แต่ตีสูงขึ้นหัว ถ้ามีของมีค่ามาด้วยควรมีกระเป๋ากันน้ำ และถือให้สูงเหนือหัวเพื่อความปลอดภัย ควรเดินอย่างมีสติไปตามแนวทราย เป็นแถว เพื่อความปลอดภัยด้วยค่ะ

      เกาะนางยวนจากมุมสูง สวยงามตามท้องเรื่อง สมดังกับที่ขนานนาม แต่เบื้องหลังของภาพนี้คือเดินหอบสังขารขึ้นไป รอต่อคิวทุกคนที่มุ่งมาถ่ายรูปเหมือนกัน ช่วยถ่ายรูปให้คนอื่น สนุกไปอีกแบบ พอเสพความสวยงามเสร็จแล้ว เราก็เดินลง ให้คนอื่นได้มาเสพความสวยงามในจุดของเราบ้าง

      ช่วงนั่งเรือกลับไปที่เกาะเต่า เราเจอขบวนการเรือเรนเจอร์ด้วย มีหลายสีเลย สีน่ารักมาก ลอยละล่องอยู่กลางทะเล 
พอถึงที่พักเราก็รีบอาบน้ำ เพื่อจะไปดูพระอาทิตย์ตก แต่สรุปว่าฟ้าปิดไม่เห็น เราเลยไปหาของกินโดยใช้บริการเซเว่น หมดไปคนละไม่เกิน 100 บาท อิ่มอร่อย มานอนพักที่ห้อง ก็ออกไปเดินเล่นชายหาด ดูไฟยามค่ำคืน แสงสีเกาะเต่า

      ร้านนี้ชื่อ เดอะซันเซท กัปตันแนะนำร้านนี้เรามา ถึงไม่แนะนำเราก็น่าจะเดินมาอยู่แล้ว เพราะติดที่พักแค่ห้าก้าวถึง โปรเหล้าร้านนี้ก่อนห้าทุ่ม บัคเกจ 1 แถม 1 ถังละ 350 บาท เบียร์ซื้อ 2 แถม 1 ช่วงสองทุ่มสามทุ่มจะมีการแสดงควงกระบองไฟ เราก็เดินเล่นรอไปก่อน


      นั่งดูด้วยความตื่นเต้น แบบไม่เคยดูแบบจริงๆ นี่ครั้งแรกเลย พี่ๆเค้าเล่นกันเป็นจังหวะมาก มีแบบให้ผู้ชมเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย เจ๋งมากๆ แล้วเล่นกันแบบไม่เหนื่อยเลย เล่นกันจนกว่าลูกค้าจะย้ายตัวเองไปพูลปาร์ตี้กันต่อ จนคนตรงนี้หมดพี่เค้าถึงจะหยุดเล่น สำหรับภาพวันนี้เราขอตัดภาพเพียงเท่านี้ พบกันพรุ่งนี้ --zZZZZ
ชื่อสินค้า:   ทริปแบคแพค
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่