คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 44
เราหนุ่มสุดหล่อ จขกท บุรุษผู้รักการอ่าน ในห้องนอนมีหนังสือจริงมากกว่า 650 เล่มนะ
มาออกความเห็นบ้างแล้วกันตอนแรกถามเฉยๆ
คือตอนแรกคิดว่าไม่มีอะไรมาแทนหนังสือจริงได้แต่เวลาผ่านไปก็เปลี่ยนใจ แล้วก็เปลี่ยนใจกลับไปคิดว่าไม่มีอะไรแทนหนังสือจริงได้เหมือนเดิมอีกแล้ว สุดท้ายความคิดมันก็ตีกัน ไม่รุ้อะไรเป็นอันดับ 1 นั้นค่อยๆเขียนไป ไล่ความคิดไปดีกว่า
ขอพูดในภาพรวม
1.eboook นี่มันเหมือนไม่สปอยน๊า คือถ้าเราไม่ไปคลิกดูว่าแถบเลื่อนถึงไหนแล้ว
เราอ่านอย่างเดียว มันจะไม่เหมือนหนังสือจริง เพราะมันใกล้จบแล้วหนังสือมันจะบางแล้วจะรู้ว่า ใกล้จบแล้ว
แต่ e book ไม่มีแบบนี้ไง คือ เนื้อเรื่องจะดำเนินไปถึงจุดไหนแล้วเราก็ไม่รู้ไงสำหรับผมมันเจ๋งมาก
2.ebook นี่เหมือนดูหนังเลยอ่ะ เพราะมันไม่ต้องเอามือมาคอยจับไง เอาจอตั้งไว้ กินข้าวไป อ่านไป เหมือนดูหนังเลย คือการถ่ายทอดสดทางตัวหนังสือชัดๆ เจ๋งมาก กลับไปอ่านหนังสือจริงจะหงุดหงิดมากต้องคอยเอานิ้วมาคอยคั่น คอยถือตลอดเวลาเบย
3 อ่านหนังสือจริงอยู่ตอนนี้ก็คือหนังสือเรียน มันต้องคอยเขียนสมการ พลิกหน้าไปมา พลิกไปทำแบบฝึกหัดบ้าง พลิกไปดูเฉลยบ้าง
อ่าน ebook แล้วมัน brutal ลำบากมาก กว่าจะเปลี่ยนหน้าก็ช้า เพราะมันไม่ใช่ไฟล์ real pdf มันเป็นไฟล์สแกน มีรูปมี สมการมีตัวหนังสือ
การเปลี่ยหน้าไปมา นี่ลำบากมาก ebook จึงเหมาะสำหรับนวนิยายหรืออะไรที่ต้องอ่านต่อไปเรื่อยๆไม่ต้องมาคอยเปลี่ยนหน้าไปมา นี่แหละเจ๋ง
4.หนังสือเสียง audiobook อ่ะหรอ ตอนนี้ตปทเขามี audible บริการ audiobook จาก amazon เห็นมีขับรถไปฟังไป ทำงานบ้านเล็กๆน้อยไปฟังๆไป ฟังก่อนนอน มีคนเทพๆเสียงดีๆมาคอยอ่านให้ฟัง สำหรับผมอ่ะ ไฟล์มันใหญ่ เทียบกันอีบุคประมาณ 3-5 เมกหรือน้อยกว่า หนังสือเสียงปกติจะประมาณ 500-900 เมกนู่น เห็นไหมขนาดต่างกันพอสมควร แล้วเคยฟังเพชรพระอุมาอยู๋แบบไฟล์เสียง มีเสียงผญสูงอายุมาอ่านให้ฟัง เสียงเป็นเสียงโมโนโทน นึกว่าฟังเล็กเชอร์วิชาแม่เหล็กไฟฟ้าที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเสียอีก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คือมันจะหลับให้ได้ รพินทร์ไพรวัล กับดาริน เอทำไมเสียงเหมือนกันเป๊ะเลยหว่า จังหวะจะบู๊ก็เนิบนาบไม่ทันใจ มาอ่านเองมันกว่าเยอะ ตอนไหนบู๊ก็อ่านเร็วๆ เพราะอยากรู้ ตอนไหนมีพวกเรื่องอาถรรพ์ในป่าก็ค่อยๆอ่านช้าๆ เสพบรรยากาส อ่านตอนกลางคืนก็เสียวสันหลังบ้างเหมือนกัน สรุปคือหนังสือเสียงสำหรับผมไม่โอเลย แต่แปลกใจทำไมตปท ฮิตกันใครสนใจลองไปดูได้ที่
http://www.audible.com/
5.หนังสือจริงชอบลืมว่าที่คั่นหนังสืออยู่ตรงไหน บางที่ที่คั่นก็ติดไปกับหนังสือที่ยืม บางทีลืมคั่นก็จำไม่ได้ว่าอ่านถึงตรงไหน ต้องเสียเวลามาเปิดไล่อ่านดูว่าอ่านไปถึงตรงไหน เสียเวลา แต่พอมี e-book นี่คือจบ มันจำไว้ให้เองตลอด ดีมากกกกกกเลย ชอบบบบบ
สรุปนะเรียงลำดับชอบมากไปน้อย
1.e book จาก ipad ปรับความเข้มแสงน้อยสุด ไปปรับในแอปอีกรอบ ปิดไฟนอนอ่านนวนิยายได้ยาวๆ นี่มันสวรรค์สุดๆ ตะนอนอ่านท่าไหนก็สะดวก ไม่ต้องใช้มืออ่าน ไม่เจ็บตาด้วย ปรับขนาดฟ้อนได้ด้วย เน้นอ่านนวนิยายกำลังภายใน เล่มยาวๆ หนังสือเรียนไม่เกี่ยว นี่แหละมันฟินมากๆยกให้อันดับ 1
2. หนังสือจริงๆ ก็มีหนังสือให้เลือกหลากหลายมากกว่า แต่ตอนหลังดูเทรนแล้ว เล่มไหนดังๆมีebook หมดเลย แถมหนังสือเก่าๆ คนก็เริ่มเอามาทำเป็น ebook กันแล้ว อนาคต ebook มาจะชนะ แต่สำหรับตอนนี้หนังสือจริงยังคงมีให้เลือกเยอะกว่า แล้วผมเรียนอยู่ด้วยต้องอ่าน ตำรา เทก ถ้าต้องพลิกไปมาหนังสือจริงๆมันยังดีกว่า
3. ebook จาก kindle เมื่อก่อนตอนซื้อมาใหม่ๆเห่อมาก เดี๋ยวนี้ชอบอ่านในไอแพดมากกว่า เพราะซื้อแบบรุ่นไม่มีแสง แต่ kindle นี่ตัวอักษรคม ขนาดเล็ก เบา อ่านเพลิน เอาไปอ่านพวก manga แบบ ตัวอักษรไม่เล็กเกินไปจะฟินมาก เพลินมาก อ่านนวนิยายตอนเดินทางก็ฟินระดับหนึ่ง แต่สำหรับผมสู้ ipad ไม่ได้
4.audio book แบบที่ได้กล่าวไป ช้า ชวนง่วง เดี๋ยวต้องลองไปฟัง ตปทดูบ้างอาจจะเปลี่ยนใจในอนาคต
5.e book ในคอม โนตบุค อ่านมากๆจะเจ็บตา ต้องนั่งอ่าน นอน ตะแคงอ่านไม่ได้ อ่านพอขำๆได้ แต่ชอบเล่มไหนจริงต้องโยนใส่ kindle ipad
6.e book ในสมาทโฟน โทรศัพท์เก่าๆอ่านแล้วไม่ฟิน ว่ามีเงินจะลองซื้อไอโฟนแบบจอใหญ่สุดดูเอาไว้มาโทรและที่สำคัญคือจะเอาไว้อ่านหนังสือด้วยน่าจะโอ แต่ตอนนี้ยังไม่มีจอใหญ่ๆ เลยมาในอันดับสุดท้าย
พูดถึงหนังสือนี่มันเจ๋งมากๆนะ ผมคิดว่าหอสมุดนี่คือรากฐานของอารยธรรมมนุษย์ หนังสือคือแหล่งรวมเรื่องราวต่างๆของอารยธรรมมนูษย์ คือทามแมชชีนไปไว้พูดคุยกับคนเมื่อร้อยปี พันปีมาแล้วที่เขาเคยเขียนเอาไว้ ผมได้คุยมาหมดแล้วทั้งธรรมะของพระพุทธเจ้า เรขาคณิตของยูคลิดเมื่อสองพันห้าร้อยกว่าปี ผมยังได้คุยกับคนดังๆมากมาย ทั้งที่มีชีวิตอยู่และได้เสียชีวิตไปแล้ว มันคือการสื่อสารที่เจ๋งมากๆสำหรับผม อาจจะเป็นการสื่อสารที่ใช้เวลานิดนึงกว่าจะได้พูดคุยกัน แต่เมื่อคุยกันแล้ว มันเป็นการคุยกันอย่างถึงลูกถึงคนถึงพริกถึงขิง โจ๋งครึ่ม แบบคุยกันจริงๆก็คงไม่สนุกเท่านี้อ่ะ แบบเขียนลงหนังสือนี่มันยืนยง อมตะ นิรันดรจริงๆ
too many books , so little time
จบ
มาออกความเห็นบ้างแล้วกันตอนแรกถามเฉยๆ
คือตอนแรกคิดว่าไม่มีอะไรมาแทนหนังสือจริงได้แต่เวลาผ่านไปก็เปลี่ยนใจ แล้วก็เปลี่ยนใจกลับไปคิดว่าไม่มีอะไรแทนหนังสือจริงได้เหมือนเดิมอีกแล้ว สุดท้ายความคิดมันก็ตีกัน ไม่รุ้อะไรเป็นอันดับ 1 นั้นค่อยๆเขียนไป ไล่ความคิดไปดีกว่า
ขอพูดในภาพรวม
1.eboook นี่มันเหมือนไม่สปอยน๊า คือถ้าเราไม่ไปคลิกดูว่าแถบเลื่อนถึงไหนแล้ว
เราอ่านอย่างเดียว มันจะไม่เหมือนหนังสือจริง เพราะมันใกล้จบแล้วหนังสือมันจะบางแล้วจะรู้ว่า ใกล้จบแล้ว
แต่ e book ไม่มีแบบนี้ไง คือ เนื้อเรื่องจะดำเนินไปถึงจุดไหนแล้วเราก็ไม่รู้ไงสำหรับผมมันเจ๋งมาก
2.ebook นี่เหมือนดูหนังเลยอ่ะ เพราะมันไม่ต้องเอามือมาคอยจับไง เอาจอตั้งไว้ กินข้าวไป อ่านไป เหมือนดูหนังเลย คือการถ่ายทอดสดทางตัวหนังสือชัดๆ เจ๋งมาก กลับไปอ่านหนังสือจริงจะหงุดหงิดมากต้องคอยเอานิ้วมาคอยคั่น คอยถือตลอดเวลาเบย
3 อ่านหนังสือจริงอยู่ตอนนี้ก็คือหนังสือเรียน มันต้องคอยเขียนสมการ พลิกหน้าไปมา พลิกไปทำแบบฝึกหัดบ้าง พลิกไปดูเฉลยบ้าง
อ่าน ebook แล้วมัน brutal ลำบากมาก กว่าจะเปลี่ยนหน้าก็ช้า เพราะมันไม่ใช่ไฟล์ real pdf มันเป็นไฟล์สแกน มีรูปมี สมการมีตัวหนังสือ
การเปลี่ยหน้าไปมา นี่ลำบากมาก ebook จึงเหมาะสำหรับนวนิยายหรืออะไรที่ต้องอ่านต่อไปเรื่อยๆไม่ต้องมาคอยเปลี่ยนหน้าไปมา นี่แหละเจ๋ง
4.หนังสือเสียง audiobook อ่ะหรอ ตอนนี้ตปทเขามี audible บริการ audiobook จาก amazon เห็นมีขับรถไปฟังไป ทำงานบ้านเล็กๆน้อยไปฟังๆไป ฟังก่อนนอน มีคนเทพๆเสียงดีๆมาคอยอ่านให้ฟัง สำหรับผมอ่ะ ไฟล์มันใหญ่ เทียบกันอีบุคประมาณ 3-5 เมกหรือน้อยกว่า หนังสือเสียงปกติจะประมาณ 500-900 เมกนู่น เห็นไหมขนาดต่างกันพอสมควร แล้วเคยฟังเพชรพระอุมาอยู๋แบบไฟล์เสียง มีเสียงผญสูงอายุมาอ่านให้ฟัง เสียงเป็นเสียงโมโนโทน นึกว่าฟังเล็กเชอร์วิชาแม่เหล็กไฟฟ้าที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเสียอีก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คือมันจะหลับให้ได้ รพินทร์ไพรวัล กับดาริน เอทำไมเสียงเหมือนกันเป๊ะเลยหว่า จังหวะจะบู๊ก็เนิบนาบไม่ทันใจ มาอ่านเองมันกว่าเยอะ ตอนไหนบู๊ก็อ่านเร็วๆ เพราะอยากรู้ ตอนไหนมีพวกเรื่องอาถรรพ์ในป่าก็ค่อยๆอ่านช้าๆ เสพบรรยากาส อ่านตอนกลางคืนก็เสียวสันหลังบ้างเหมือนกัน สรุปคือหนังสือเสียงสำหรับผมไม่โอเลย แต่แปลกใจทำไมตปท ฮิตกันใครสนใจลองไปดูได้ที่
http://www.audible.com/
5.หนังสือจริงชอบลืมว่าที่คั่นหนังสืออยู่ตรงไหน บางที่ที่คั่นก็ติดไปกับหนังสือที่ยืม บางทีลืมคั่นก็จำไม่ได้ว่าอ่านถึงตรงไหน ต้องเสียเวลามาเปิดไล่อ่านดูว่าอ่านไปถึงตรงไหน เสียเวลา แต่พอมี e-book นี่คือจบ มันจำไว้ให้เองตลอด ดีมากกกกกกเลย ชอบบบบบ
สรุปนะเรียงลำดับชอบมากไปน้อย
1.e book จาก ipad ปรับความเข้มแสงน้อยสุด ไปปรับในแอปอีกรอบ ปิดไฟนอนอ่านนวนิยายได้ยาวๆ นี่มันสวรรค์สุดๆ ตะนอนอ่านท่าไหนก็สะดวก ไม่ต้องใช้มืออ่าน ไม่เจ็บตาด้วย ปรับขนาดฟ้อนได้ด้วย เน้นอ่านนวนิยายกำลังภายใน เล่มยาวๆ หนังสือเรียนไม่เกี่ยว นี่แหละมันฟินมากๆยกให้อันดับ 1
2. หนังสือจริงๆ ก็มีหนังสือให้เลือกหลากหลายมากกว่า แต่ตอนหลังดูเทรนแล้ว เล่มไหนดังๆมีebook หมดเลย แถมหนังสือเก่าๆ คนก็เริ่มเอามาทำเป็น ebook กันแล้ว อนาคต ebook มาจะชนะ แต่สำหรับตอนนี้หนังสือจริงยังคงมีให้เลือกเยอะกว่า แล้วผมเรียนอยู่ด้วยต้องอ่าน ตำรา เทก ถ้าต้องพลิกไปมาหนังสือจริงๆมันยังดีกว่า
3. ebook จาก kindle เมื่อก่อนตอนซื้อมาใหม่ๆเห่อมาก เดี๋ยวนี้ชอบอ่านในไอแพดมากกว่า เพราะซื้อแบบรุ่นไม่มีแสง แต่ kindle นี่ตัวอักษรคม ขนาดเล็ก เบา อ่านเพลิน เอาไปอ่านพวก manga แบบ ตัวอักษรไม่เล็กเกินไปจะฟินมาก เพลินมาก อ่านนวนิยายตอนเดินทางก็ฟินระดับหนึ่ง แต่สำหรับผมสู้ ipad ไม่ได้
4.audio book แบบที่ได้กล่าวไป ช้า ชวนง่วง เดี๋ยวต้องลองไปฟัง ตปทดูบ้างอาจจะเปลี่ยนใจในอนาคต
5.e book ในคอม โนตบุค อ่านมากๆจะเจ็บตา ต้องนั่งอ่าน นอน ตะแคงอ่านไม่ได้ อ่านพอขำๆได้ แต่ชอบเล่มไหนจริงต้องโยนใส่ kindle ipad
6.e book ในสมาทโฟน โทรศัพท์เก่าๆอ่านแล้วไม่ฟิน ว่ามีเงินจะลองซื้อไอโฟนแบบจอใหญ่สุดดูเอาไว้มาโทรและที่สำคัญคือจะเอาไว้อ่านหนังสือด้วยน่าจะโอ แต่ตอนนี้ยังไม่มีจอใหญ่ๆ เลยมาในอันดับสุดท้าย
พูดถึงหนังสือนี่มันเจ๋งมากๆนะ ผมคิดว่าหอสมุดนี่คือรากฐานของอารยธรรมมนุษย์ หนังสือคือแหล่งรวมเรื่องราวต่างๆของอารยธรรมมนูษย์ คือทามแมชชีนไปไว้พูดคุยกับคนเมื่อร้อยปี พันปีมาแล้วที่เขาเคยเขียนเอาไว้ ผมได้คุยมาหมดแล้วทั้งธรรมะของพระพุทธเจ้า เรขาคณิตของยูคลิดเมื่อสองพันห้าร้อยกว่าปี ผมยังได้คุยกับคนดังๆมากมาย ทั้งที่มีชีวิตอยู่และได้เสียชีวิตไปแล้ว มันคือการสื่อสารที่เจ๋งมากๆสำหรับผม อาจจะเป็นการสื่อสารที่ใช้เวลานิดนึงกว่าจะได้พูดคุยกัน แต่เมื่อคุยกันแล้ว มันเป็นการคุยกันอย่างถึงลูกถึงคนถึงพริกถึงขิง โจ๋งครึ่ม แบบคุยกันจริงๆก็คงไม่สนุกเท่านี้อ่ะ แบบเขียนลงหนังสือนี่มันยืนยง อมตะ นิรันดรจริงๆ
too many books , so little time
จบ
แสดงความคิดเห็น
เดี๋ยวนี้นักอ่านมีทางเลือกมากมายทั้งหนังสือจริง,E-book,Audiobook แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ชอบแบบไหนที่สุด?