::แตกต่างเหมือนกัน|2 วัน 1 คืน ที่คีรีวง::

สวัสดีชาวพันทิปทุกคนจ้า นี่เป็นกระทู้แรกของเรา สำนวนการเขียนอาจยังไม่สละสลวยงดงามสักเท่าไหร่ยังไงก็ฝากด้วยนะจ้ะ เอาล่ะ ไม่ขอพิรี้พิไรล่ะนะ เริ่มเลยละกัน!!!
ช่วงปิดเทอมแบบนี้ หลายคนอาจเหนื่อยล้าจากการสอบและการอ่านหนังสือกันอย่างหนักหน่วง ได้เวลาพักร่าง ชาร์จพลังกันสักหน่อย การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการเตรียมตัวกันสักเท่าไหร่นัก เพราะอย่างที่รู้ๆกันว่าเวลานัดกันจริงจังทีไรพังตลอด มันก็ต้องใช้ไม้นี้แหละ อยากไปก็ไปกันเลย ได้กี่คนก็ไปกันเท่านั้นแหละ การเดินทางครั้งนี้ประกอบด้วยสมาชิก 4 คน พวกเราเกิดอาการอยากไปที่ไหนสักที่ที่ได้อยู่กับธรรมชาติจริงจังสักวัน สัมผัสชีวิตชาวบ้านกันสักหน่อย เลยคิดถึงที่นี่เลย “คีรีวง สถานที่ที่อากาศบริสุทธิ์ที่สุดในประเทศไทย” เอาล่ะ ที่นี่แหละ ไปสูดหายใจลึกๆกันให้เต็มปอดกัน

การเดินทางครั้งนี้พวกเราเดินทางกันวันที่ 20 ธันวาคม 2558 โดยการขนส่ง/เดินทางที่ถือได้ว่าไม่แน่นอนที่สุด นั่นคือรถไฟ ใช่แล้ว รถไฟ ที่สำคัญ รถไฟฟรี!!!  ไอที่ว่าไม่แน่นอนนั่นก็คือเวลาที่โคตรจะไม่แน่นอน จุดเริ่มต้นของเราก็คือสถานีชุมทางหาดใหญ่ พวกเราได้แต่หวังว่าวันนี้จะตรงเวลา แต่แล้วก็นะ ฮ่าๆ แท่ แด้มมมมมม เลทค่ะคุณผู้ชม เอ่อ คือ เช็คเวลามาว่าเมื่อวานมาตรง กะไว้ว่าวันนี้ไม่น่าจะสาย แต่แล้วก็ตามเคย ปล่อยเลยตามเลย ชีวิตเรียบๆ ช้าๆ ฮี่ๆ เอาน่าไหนๆ ก็เลือกทางนี้แล้วถูกและชิลด์ ก็ได้ถูกและชิลด์สมใจกันอย่างแรง มารอกันตั้งแต่ 08.30 น. จนกระทั่ง 10.45 น. รถไฟถึงจะออกจากสถานีชุมทางหาดใหญ่













แต่การที่รถไฟเสียเวลาไปใช่ว่าจะเลวร้ายซะทีเดียว มิตรภาพบนรถไฟนั้นเกิดขึ้นได้ง่าย มีเวลาคุยกับที่นั่งใกล้ๆมากขึ้น นอกหน้าต่างยังมีอะไรให้เราได้มองเยอะแยะมากมาย ความเป็นอยู่ของผู้คน สีเขียวๆข้างทาง ลมที่พัดเข้ามาจากหน้าต่างรถไฟ เสียงพูดคุย เสียงพ่อค้าแม่ขาย เสียงเด็กน้อยร้องไห้ เสียงปลอบประโลม ช่วยคลายระยะเวลาที่ยาวนานบนรถไฟลงได้บ้างในความคิดแม้อาจยาวนานเท่าเดิมในความเป็นจริง บางครั้งการที่เราช้าลงบ้างอาจจะทำให้เราสัมผัสอะไรได้มากขึ้นเช่นกัน เมื่อลองคิดๆดูแล้ว พวกเราใช้เวลาบนรถไฟเกือบ 6 ชม. เต็ม กว่าจะมาถึงสถานีนครศรีธรรมราชซึ่งเป็นจุดหมายแรกของเราในเวลา 16.38 น. เพื่อไปต่อสองแถว











จากนั้นก็เดินหาคิวรถสองแถวเพื่อต่อไปยังคีรีวง ไปคิวรถไม่ถูกก็ถามคุณป้าแม่ค้าแถวสถานีรถไฟได้เลย รับรองเจอชัวร์และไม่นานเราก็เจอ.......ร้านสาคูไส้หมู เอ่ออออ เดี๋ยวนะ กำจัดความหิวกันก่อน จากนั้นเดินต่อไปเรื่อยๆก็เจอ......คิวรถจ้า เจอคิวรถจริงๆละ "นครศรี-คีรีวง" เจอป้ายแบบนี้โดดขึ้นกันได้เลย ถึงที่พักแน่นอน รถสองแถวจะพาเราไปจนถึงที่หมายเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์กันให้เต็มที่ ระยะเวลาในการนั่งรถสองแถวก็ราวๆ 30 นาที ค่าโดยสาร 30 บาท บอกคุณน้าคนขับรถได้เลยว่าเราพักที่ไหน เค้ารู้จักกันหมด รีสอร์ทนั้นของพี่คนนั้น โฮมสเตย์นี้ของลุงคนนี้ ถึงที่พักปลอดภัยชัวร์ๆค่ะ ส่วนพวกเราก็พักกันที่ เพ็ชรคีรี โฮมสเตย์ ในราคา 350 บาทต่อคืน พร้อมอาหารมื้อเย็น 1 มื้อแสนอร่อย วันนี้กับข้าวเด็ดมากกก ปลาทูแดดเดียว ต้มกะทิสายบัว แกงมะเขือยาวกับกุ้ง ผักกูดลวกจิ้มน้ำพริก ข้าวเปล่าเติมได้ไม่อั้น แต่กับข้าวได้รอบเดียวน้า อิ่มเลยหล่ะ สำหรับที่พักเมื่อเทียบกับราคาก็ถือว่าโอเค แต่จะมีปัญหานิดนึงตรงที่ห้องน้ำ ส้วมมีปัญหาจากลูกค้าเจ้าก่อนหน้า เลยต้องไปเข้าห้องส้วมนอกบ้านซะงั้น เรามาถึงที่พักก็เย็นแล้วเลยทำได้แค่ออกไปเดินกินลมชมบรรยากาศ สำรวจกันเบาๆก่อนลุยจริง บรรยากาศดีมากจริงๆ ลมเย็นๆพัดผ่านเติมพลังให้ทั้งกายและใจได้ดีไม่น้อย รอยยิ้มจากผู้คนในท้องถิ่น การทักทายอย่างเป็นกันเอง อีกอย่างพวกเราเป็นคนใต้พอเจอก็พ่นภาษาใต้ใส่กันรัวๆค่ะ ยาวววววว




















เย็นวันนี้เดินสำรวจกันได้ไม่นานนักก็ค่ำมืดซะแล้ว ถือเป็นการเซอร์เวย์เบื้องต้นละกัน พรุ่งนี้ลุยต่อยาวๆ ก็หมดเวลาของวันนี้ วันแรกของพวกเราประทับใจมากๆ สัมผัสได้ถึงความเป็นกันเองของผู้คนที่นี่ รอยยิ้ม เสียงทักทาย สร้างความประทับใจได้อย่างดี.

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่