ความรัก หรือ ความเคยชิน

บางทีคำว่า "ความเคยชิน" มันก็น่ากลัวนะครับ

"ผมไม่แน่ใจว่า หลายสิ่งที่ผมทำให้ภรรยาผมอยู่ทุกวี่ทุกวัน หรือแม้กระทั่งที่เขาทำให้กับผม เราทำให้กันเพราะความรัก หรือทำให้เพราะความเคยชิน เป็นอัตโนมัติไปแล้ว"

เป็นวลีเชิงตั้งคำถามในตัวเองที่กัลยาณมิตรของกระผมท่านหนึ่งได้เคยคุยกับกระผม ในยามที่ชิวิตคู่ของเขา มีปัญหา หรือมีเรื่องระหองระแหงกัน และ

สำหรับผม วลีข้างต้นนี้ช่างเชื้อชวนให้หาคำตอบเป็นอย่างยิ่ง

ชีวิตคู่ที่แต่งงานกันมาหลายๆปี ส่วนตัวผมคิดว่าทุกคู่ล้วนแต่มีปัญหาให้แก้ทั้งนั้น ไม่มากก็น้อย ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง บางเรื่องก็แก้ง่าย บางเรื่องก็แก้ยาก มันเป็นธรรมดาของการใช้ชีวิตร่วมกัน

ยิ่งอยู่ด้วยกันมานาน บางเรื่องที่ทำให้เป็นประจำกลับกลายเป็นหน้าที่ บางเรื่องก็มองไม่เห็นมองข้ามกันไป ปัญหาความไม่พอใจ ไม่ไว้ใจอาจมีเกิดขึ้นได้เสมอ ความเคยชินนี่แหล่ะผมว่าบางครั้งเป็นตัวร้าย บ่อนทำลายชีวิตคู่ของคนมานักต่อนักแล้ว

และไอ้ความเคยชินอีกนั่นแหล่ะ ทำให้เรามักจะมองไม่เห็นสิ่งดีๆในคู่ของเรา เพราะอะไร.. ก็เพราะสิ่งดีๆที่เราทำ หรือคู่ของเราทำให้เรา เราทำกันอยู่ทุกวี่ทุกวันอยู่แล้ว เช่น ทำอาหารให้ ซักผ้า ถูบ้าน ขับรถให้ พาไปหาหมอ ไปรับลูก สอนการบ้าน ฯลฯ

-------------------------------------------------

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งดีๆที่คู่สามี ภรรยา ทำให้กันทุกวันนะครับแต่ไปๆ มาๆ กลับมองไม่เห็นกัน กลับมองว่ามันคือหน้าที่ ที่ฉัน หรือเธอต้องทำ

อ้าวว..เป็นงั้นไป

พอคิดแบบนี้ ไอ้สิ่งไม่ดีที่นานๆจะหลุดสักครั้ง มันกลับมองเห็นชัดเจน บดบังสิ่งดีๆที่ทำกันทุกวี่วันจนมิดเลย ปัญหามันก็เลยเกิด..

ผมมั่นใจเลยคู่ สามี ภรรยา (โดยทั่วๆไปนะ) ทุกคู่ จะทำสิ่งดีๆ กับสิ่งไม่ดี ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ แล้ว สิ่งดีๆที่เรามีให้กันน่าจะมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เพียงแต่คุณไม่มองมัน คุณมัวแต่ไปมองหาไอ้สิ่งไม่ดีที่คู่ของเราทำให้เราโมโห หรือเจ็บใจ ซึ่งมันมีไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำในการใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมาหลายๆปี แล้วก็เอาไอ้เปอร์เซ็นต์น้อยๆตรงนี้ มาทำลายสิ่งดีๆจนไม่เหลือเลย

ลองค่อยๆคิด เปิดใจทบทวนดูนะครับ แล้วคุณจะเห็นสิ่งที่ผมพยายามจะสื่อ

แล้วทำไมมันเป็นแบบนั้นหล่ะ

ผมก็ไม่แน่ใจว่าทำไม มันอาจจะเป็นเรื่องของจิตวิทยา มันอาจจะเป็นเรื่องของจิตใจมนุษย์ ที่ลึกๆแล้วทุกคนล้วนเห็นแก่ตัว หรือมันอาจจะเป็นสัญชาตญาณในการปกป้องตัวเองของมนุษย์ที่มันมักเกิดขึ้นแบบอัตโนมัติ ไม่ทันรู้ตัว

หรือถ้าจะพูดในแนวธรรมะ คือเรารู้ไม่เท่าทันความคิด เวลาโกรธ จิตมันสั่งให้เราทำอะไรก็ได้ ที่จะทำให้เรารู้สึกดีขึ้น และให้ฝ่ายที่ทำให้เราโกรธรู้สึกเจ็บใจ หรือเสียใจเฉกเช่นเดียวกับเรา

โดยที่เราลืมไปเลยว่าไอ้คนที่เราอยากให้เจ็บใจนั้น คือคนที่อยู่เคียงข้างเรามาตลอดหลายสิบปี และที่สำคัญกว่านั้น ไอ้คนที่อยู่เคียงข้างเรามาหลายๆปีคนนี้ มันทำอะไรดีๆให้เรามามากมายเหลือเกิน มากกว่าสิ่งไม่ดีที่เขาทำหลายเท่านัก

อยู่ที่วิธีคิดหล่ะนะ.. ผมว่า

---------------------------------------------------

ย้อนกลับไปที่วลีข้างต้น ที่ว่า "ผมไม่แน่ใจว่า หลายสิ่งที่ผมทำให้ภรรยาผมอยู่ทุกวี่ทุกวัน หรือแม้กระทั่งที่เขาทำให้กับผม เราทำให้กันเพราะความรัก หรือทำให้เพราะความเคยชิน เป็นอัตโนมัติไปแล้ว"

ผมกล้ายืนยันเลยครับ ทุกอย่างที่เราทำให้กันล้วนมีพื้นฐานมาจากความรักทั้งนั้น ต่อให้ชินกันยังไง อยู่กันมานานแค่ไหน ถ้าไม่มีความรักเป็นที่ตั้ง มนุษย์หน้าไหนก็ไม่อดทนมาทำอะไรให้มันเหนื่อยหรอกครับ

สิ่งที่สามี หรือภรรยา ทำให้กันและกัน ล้วนทำให้เพราะรักทั้งนั้น (ไม่รัก จะทำให้ทำไม)

อยู่ที่เราเลือกจะมองมุมไหน มองมุมใหญ่ มองภาพรวม คือมองแต่ความดีของคู่ของเรา ซึ่งมีเยอะว่า ความไม่ดีแน่ๆ ผมมั่นใจ

หรือจะเลือกมองแต่ความไม่ดี ขึ้นอยู่ที่คุณ

เพราะถ้าความไม่ดีมันเยอะกว่าจนเห็นได้ชัด เช่นนั้น คงอยู่ด้วยกันไม่ได้มาเป็นสิบปีหรอกครับ คู่ที่เลิกๆกัน ส่วนมาก เลิกกันก่อนสิบปีทั้งนั้น ลอง
วิเคราะห์ดูนะครับ

เพราะผมเชื่อของผมแบบนี้ ผมเลือกที่จะมองแต่ในแง่ความดีของภรรยาผม ซึ่งตาชั่งความดีของเธอมันยังหนักกว่าสิ่งที่เธอบกพร่อง มากมายนัก
และผมก็เชื่อว่า เธอก็คงมองผมแบบเดียวกัน

เราถึงไม่ค่อยทะเลาะกันเท่าไหร่

ด้วนความเคารพทุกคู่รักครับ

"ขจรพัฒน์"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่