สวัสดีครับ วันนี้จะมาระบายความในใจ และความสงสัยเกี่ยวกับการรับน้องของมหาวิทยาลัย ถ้าเข้ามาอ่านแล้วรบกวนอ่านให้จบนะครับ จะได้ไม่เข้าใจผิดกัน

ผมเป็น นศ ปี 1 อยู่ที่มหาลัยชื่อดัง ขอไม่บอกพิกัดนะครับ ก็ผ่านช่วงที่รับน้องมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว ซึ่งแน่นอน นศ ปี 1 ที่เพิ่งเข้ามา ก็ต้องเจอกับการรับน้อง ก็จะพานพบกับพี่ว๊าก พี่ระเบียบ รุ่นพี่ปี 2 (ที่ชอบไซโค) รวมถึงพี่ปีอื่นๆ ประปราย ซึ่งช่วงแรกๆ ผมไม่คิดว่าการรับน้องจะหนักหน่วงอะไรมาก คงจะแค่มานั่งฟังๆ ละก็จบๆ ไป แต่พอวันแรกของการรับน้องมาถึง ยอมรับเลยครับว่าจิตตกมาก น้ำหนักลด 4-5 กิโล เพราะผลมาจากความเครียดสะสม จนโรคกรดไหลย้อนกำเริบ แต่ก็ยังเข้าเชียร์อยู่เหมือนเดิม เพราะอยากได้ "รุ่น" และเราอยากเป็นน้องพวกเขาอย่างเต็มตัวจริงๆ
แต่เมื่อทุกอย่างเริ่มจะจบลงสำหรับการเข้าเชียร์ หลังๆ มา พวกพี่ว๊ากก็มีการเล่นมุข ขำๆ ฮาๆ ปล่อยออกมาบ้าง แต่ก็อย่างว่าละครับ ภาพเก่าๆ ภาพเดิมๆ ที่ผ่านมา มันยังคงวนเวียนฉายภาพอยู่ในหัว ลองคิดดูสิครับ ใครจะไปลืมลง การที่เราคนๆ หนึ่ง โดนตะคอก โดนด่าใส่หน้า กล่าวด่าว่าทอเสียงดังเอะอะโวยวาย โดยที่ไม่ได้ผิด ใครมันจะไปลืมได้ครับ แต่ก็ต้องทนๆ ขำๆตามคนอื่นไป เพราะไม่อยากทำตัวแปลกกว่าคนอื่น
พอวันสุดท้ายมาถึง พวกพี่ๆ ว๊ากก็เฉลย และบอกว่าพวกคุณได้รุ่นแล้ว มาเป็นน้องของพวกผมแล้ว และทุกอย่างก็ดูเหมือนจะไปได้ดี และผมก็ได้มันมา คำว่า "รุ่น" ซึ่งจนป่านนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะเอามันไปใช้อะไรดี
ขอเล่าย้อนความไปตอนเข้าเชียร์หน่อยนะครับ มีอยู่วันหนึ่ง วันนั้นผมและเพื่อนๆ ได้ไปตามถามชื่อรุ่นพี่ ก็มาหยุดอยู่ตรงกลุ่มโต๊ะพี่ๆ ผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง ประมาณ 4-5 คน ผมก็ไล่ถามตามปกติ แต่สักพักก็มีพี่ที่เป็นเกย์คนหนึ่ง เดินเข้ามา พร้อมกับพูดว่า "ออกไป" ใช่ครับ พี่คนนั้นบอกพวกผมแบบเรียบๆ แต่น้ำเสียงพี่เขาเหมือนจะจิกพวกผมให้ซะตรงนั้น พวกผมก็ยืนงงอยู่พักใหญ่ ก็เลยถอยออกมา ปรากฎว่าพี่ๆ เขาทะเลาะกัน ทั้งๆ ที่เพิ่งขึ้น ปี 2 มา เพิ่งผ่านการเข้าเชียร์มา แล้วไหนละครับ สิ่งที่เรียกว่าสามัคคี ไหนคือสิ่งที่บอกว่าเรารักกันนักกันหนา ภาพวันสุดท้ายของการเชียร์ ที่ร้องไห้ รักกันจะตาย มันขัดแย้งกับภาพที่ผมเห็น ณ ตอนนั้นมาก ผมก็แค่สงสัยน่ะครับ
กลับมาตอนที่หมดเชียร์นะครับ พอจบเชียร์ พี่รหัสก็จะมาเฉลยว่าใครเป็นพี่ใคร ตอนนั้นยอมรับครับว่าตื่นเต้นนิดหน่อย เพราะผมก็คุยเข้ากันดีกับพี่รหัสที่คุยในไลน์ พอเฉลยเอาเข้าจริง พี่คนที่คุยในไลน์ทุกวัน กลับไม่ใช่พี่รหัส เป็นพี่เทค ซึ่งผมก็แปลกใจเล็กน้อยว่า แล้วที่ผ่านมาตอนที่เข้าเชียร์ผมทำเพื่อใครอยู่? ไม่ใช่ว่าผมอยากมาเป็นน้องของพี่หรอ? ผมอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ พอถึงวันเปิดตระกูล พี่รหัสลุงรหัสอะไรพวกนี้ก็พาผมไปเลี้ยง ซึ่งเป็นเลี้ยงครั้งแรกของสายรหัส และเป็นเลี้ยงครั้งสุดท้าย จนถึงตอนนี้ เพราะหลังจากนั้นมา ก็ไม่เคยมีอะไรอีกเลย เวลานั่งเลื่อนอ่านไทม์ไลน์เฟสบุ๊ค ก็ได้แต่น้อยใจเล็กๆ ว่าสายรหัสอื่นเขาได้ไปเลี้ยงที่นู่นบ้าง ที่นี่บ้าง เอาจริงๆ ผมก็ไปเองได้ครับ ไปกินกับเพื่อน หรือคนเดียวก็ได้ แต่ก็นะครับ ผมเข้าเชียร์มาก็เพราะผมอยากมาเป็นน้องพี่ไม่ใช่หรอ? หลังจากนั้นทุกอย่างก็เงียบสงัด ไร้ซึ่งเงาของรุ่นพี่ พี่รหัส หรือสิ่งอันใดทั้งปวง เงียบเชียบมากจริงๆ ครับ
คณะผมพอผ่านการเข้าเชียร์มาสักพักก็ จะมีการจัดกิจกรรมงานกีฬาสีของทางคณะ ซึ่งผมรับผิดชอบทางด้านเกี่ยวกับงานศิลป์ คือทำเกี่ยวกับทางด้านศิลปะทุกอย่างของสีครับ ผมก็ได้มีเพื่อนมาช่วยเป็นลูกมืออยู่บ้างเพียง "หยิบมือ" มีแต่หน้าเดิมๆ คนเดิมๆ ที่มาช่วยผม ผมต้องขอบคุณพวกเขามาจริงๆ ถ้าไม่มีพวกเขางานก็คงไม่สำเร็จ แต่ก็มีหน้าแปลกๆ มาอยู่บ้าง หน้าแปลกในที่นี้หมายถึงคนใหม่ที่มาช่วยนะครับ ไม่ใช่ว่าเขาว่าหน้าแปลก 5555 แต่ก็มาก็เท่านั้นครับ มาจับๆ พู่กันพอให้มีขี้มือสัก 4-5 นาที นอกนั้นครึ่ง ชม. ที่เหลือคือถ่ายรูปลง Social ประมาณว่ามาช่วยกีฬาสี (?) อย่ามาเลยดีกว่าครับ ถ้ามาแล้วจะมาแค่นี้ มันก็ขัดกับภาพที่ผ่านมาของการเข้าเชียร์ ไหนละครับ ที่เคยแหกปากว่าจะรักกัน จะช่วยกัน ไปพร้อมๆ กัน ไม่ทิ้งเพื่อน บลาๆๆๆ นี้หรือครับ ที่พวกคุณแหกปากร้องตะโกนใส่หน้าพี่ว๊าก ผมก็เลยได้แต่รู้สึกซึ้งใจ และขอบคุณสำหรับภาพที่ปลอมเปลือกเสแสร้งแกล้งทำขึ้นมา เพื่อให้ดูว่าเรารักกัน ตามวัตถุประสงค์ของพี่ว๊าก
ผมก็แค่อยากมาระบายให้ทุกคนได้ลองมาอ่านดู ใครจะเห็นต่างก็ไม่เป็นไรครับ แต่ผมเจอมาแบบนี้กับตัวจริงๆ ยังมีเรื่องอื่นจิปาถะอีกมากมายครับ ที่มันขัดแย้งกับภาพลักษณ์ของการเข้าเชียร์ว่าทุกคนรักกัน เอาเข้าจริง พอจบเชียร์ กลุ่มใครก็กลุ่มมัน ไม่เห็นใครจะเห็นหัวใครสักคน ก็เลยรู้สึกเสียดายเวลาที่เข้าเชียร์ที่ผ่านมา ถ้ารู้ว่าเข้าไปแล้วมันจะเป็นผลแบบนี้ ผมยอมไม่เอาคำว่ารุ่น ไม่เอารุ่นพี่ คบแต่เพื่อนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจคงน่าจะดีกว่า เพราะมันก็ไม่ต่างกันอะไรมากมาย ซึ่งวันนี้ผมรู้สึกคำว่ารุ่น มันไม่ได้มีความหมายกับผมมาสักพักแล้วล่ะครับ มีไปก็เท่านั้น มีแล้วได้อะไร? ก็ไม่เห็นจะมีอะไร ชีวิตหลังจากการเข้าเชียร์ก็ยังเหมือนเดิม ปกติ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง ถ้าจะเป็นเรื่องขัดเกลาระเบียบ ผมว่ามันอยู่ที่นิสัยและสันดานของบุคคลนั้นๆ มากกว่าครับ คนมันจะดี ก็ดีได้ด้วยตนเอง คิดเอง โตแล้วก็ควรรู้ว่าอะไรควรไม่ควร ไม่ต้องให้ใครมาแหกปากตะคอกใส่หน้าหรอกครับ ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะครับ ผมก็แค่อยากจะระบายเท่านั้น มีความคิดเห็นอย่างไรก็โพสต์มาได้ครับ สวัสดีครับ.
การรับน้องของมหาลัย
ผมเป็น นศ ปี 1 อยู่ที่มหาลัยชื่อดัง ขอไม่บอกพิกัดนะครับ ก็ผ่านช่วงที่รับน้องมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว ซึ่งแน่นอน นศ ปี 1 ที่เพิ่งเข้ามา ก็ต้องเจอกับการรับน้อง ก็จะพานพบกับพี่ว๊าก พี่ระเบียบ รุ่นพี่ปี 2 (ที่ชอบไซโค) รวมถึงพี่ปีอื่นๆ ประปราย ซึ่งช่วงแรกๆ ผมไม่คิดว่าการรับน้องจะหนักหน่วงอะไรมาก คงจะแค่มานั่งฟังๆ ละก็จบๆ ไป แต่พอวันแรกของการรับน้องมาถึง ยอมรับเลยครับว่าจิตตกมาก น้ำหนักลด 4-5 กิโล เพราะผลมาจากความเครียดสะสม จนโรคกรดไหลย้อนกำเริบ แต่ก็ยังเข้าเชียร์อยู่เหมือนเดิม เพราะอยากได้ "รุ่น" และเราอยากเป็นน้องพวกเขาอย่างเต็มตัวจริงๆ
แต่เมื่อทุกอย่างเริ่มจะจบลงสำหรับการเข้าเชียร์ หลังๆ มา พวกพี่ว๊ากก็มีการเล่นมุข ขำๆ ฮาๆ ปล่อยออกมาบ้าง แต่ก็อย่างว่าละครับ ภาพเก่าๆ ภาพเดิมๆ ที่ผ่านมา มันยังคงวนเวียนฉายภาพอยู่ในหัว ลองคิดดูสิครับ ใครจะไปลืมลง การที่เราคนๆ หนึ่ง โดนตะคอก โดนด่าใส่หน้า กล่าวด่าว่าทอเสียงดังเอะอะโวยวาย โดยที่ไม่ได้ผิด ใครมันจะไปลืมได้ครับ แต่ก็ต้องทนๆ ขำๆตามคนอื่นไป เพราะไม่อยากทำตัวแปลกกว่าคนอื่น
พอวันสุดท้ายมาถึง พวกพี่ๆ ว๊ากก็เฉลย และบอกว่าพวกคุณได้รุ่นแล้ว มาเป็นน้องของพวกผมแล้ว และทุกอย่างก็ดูเหมือนจะไปได้ดี และผมก็ได้มันมา คำว่า "รุ่น" ซึ่งจนป่านนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะเอามันไปใช้อะไรดี
ขอเล่าย้อนความไปตอนเข้าเชียร์หน่อยนะครับ มีอยู่วันหนึ่ง วันนั้นผมและเพื่อนๆ ได้ไปตามถามชื่อรุ่นพี่ ก็มาหยุดอยู่ตรงกลุ่มโต๊ะพี่ๆ ผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง ประมาณ 4-5 คน ผมก็ไล่ถามตามปกติ แต่สักพักก็มีพี่ที่เป็นเกย์คนหนึ่ง เดินเข้ามา พร้อมกับพูดว่า "ออกไป" ใช่ครับ พี่คนนั้นบอกพวกผมแบบเรียบๆ แต่น้ำเสียงพี่เขาเหมือนจะจิกพวกผมให้ซะตรงนั้น พวกผมก็ยืนงงอยู่พักใหญ่ ก็เลยถอยออกมา ปรากฎว่าพี่ๆ เขาทะเลาะกัน ทั้งๆ ที่เพิ่งขึ้น ปี 2 มา เพิ่งผ่านการเข้าเชียร์มา แล้วไหนละครับ สิ่งที่เรียกว่าสามัคคี ไหนคือสิ่งที่บอกว่าเรารักกันนักกันหนา ภาพวันสุดท้ายของการเชียร์ ที่ร้องไห้ รักกันจะตาย มันขัดแย้งกับภาพที่ผมเห็น ณ ตอนนั้นมาก ผมก็แค่สงสัยน่ะครับ
กลับมาตอนที่หมดเชียร์นะครับ พอจบเชียร์ พี่รหัสก็จะมาเฉลยว่าใครเป็นพี่ใคร ตอนนั้นยอมรับครับว่าตื่นเต้นนิดหน่อย เพราะผมก็คุยเข้ากันดีกับพี่รหัสที่คุยในไลน์ พอเฉลยเอาเข้าจริง พี่คนที่คุยในไลน์ทุกวัน กลับไม่ใช่พี่รหัส เป็นพี่เทค ซึ่งผมก็แปลกใจเล็กน้อยว่า แล้วที่ผ่านมาตอนที่เข้าเชียร์ผมทำเพื่อใครอยู่? ไม่ใช่ว่าผมอยากมาเป็นน้องของพี่หรอ? ผมอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ พอถึงวันเปิดตระกูล พี่รหัสลุงรหัสอะไรพวกนี้ก็พาผมไปเลี้ยง ซึ่งเป็นเลี้ยงครั้งแรกของสายรหัส และเป็นเลี้ยงครั้งสุดท้าย จนถึงตอนนี้ เพราะหลังจากนั้นมา ก็ไม่เคยมีอะไรอีกเลย เวลานั่งเลื่อนอ่านไทม์ไลน์เฟสบุ๊ค ก็ได้แต่น้อยใจเล็กๆ ว่าสายรหัสอื่นเขาได้ไปเลี้ยงที่นู่นบ้าง ที่นี่บ้าง เอาจริงๆ ผมก็ไปเองได้ครับ ไปกินกับเพื่อน หรือคนเดียวก็ได้ แต่ก็นะครับ ผมเข้าเชียร์มาก็เพราะผมอยากมาเป็นน้องพี่ไม่ใช่หรอ? หลังจากนั้นทุกอย่างก็เงียบสงัด ไร้ซึ่งเงาของรุ่นพี่ พี่รหัส หรือสิ่งอันใดทั้งปวง เงียบเชียบมากจริงๆ ครับ
คณะผมพอผ่านการเข้าเชียร์มาสักพักก็ จะมีการจัดกิจกรรมงานกีฬาสีของทางคณะ ซึ่งผมรับผิดชอบทางด้านเกี่ยวกับงานศิลป์ คือทำเกี่ยวกับทางด้านศิลปะทุกอย่างของสีครับ ผมก็ได้มีเพื่อนมาช่วยเป็นลูกมืออยู่บ้างเพียง "หยิบมือ" มีแต่หน้าเดิมๆ คนเดิมๆ ที่มาช่วยผม ผมต้องขอบคุณพวกเขามาจริงๆ ถ้าไม่มีพวกเขางานก็คงไม่สำเร็จ แต่ก็มีหน้าแปลกๆ มาอยู่บ้าง หน้าแปลกในที่นี้หมายถึงคนใหม่ที่มาช่วยนะครับ ไม่ใช่ว่าเขาว่าหน้าแปลก 5555 แต่ก็มาก็เท่านั้นครับ มาจับๆ พู่กันพอให้มีขี้มือสัก 4-5 นาที นอกนั้นครึ่ง ชม. ที่เหลือคือถ่ายรูปลง Social ประมาณว่ามาช่วยกีฬาสี (?) อย่ามาเลยดีกว่าครับ ถ้ามาแล้วจะมาแค่นี้ มันก็ขัดกับภาพที่ผ่านมาของการเข้าเชียร์ ไหนละครับ ที่เคยแหกปากว่าจะรักกัน จะช่วยกัน ไปพร้อมๆ กัน ไม่ทิ้งเพื่อน บลาๆๆๆ นี้หรือครับ ที่พวกคุณแหกปากร้องตะโกนใส่หน้าพี่ว๊าก ผมก็เลยได้แต่รู้สึกซึ้งใจ และขอบคุณสำหรับภาพที่ปลอมเปลือกเสแสร้งแกล้งทำขึ้นมา เพื่อให้ดูว่าเรารักกัน ตามวัตถุประสงค์ของพี่ว๊าก
ผมก็แค่อยากมาระบายให้ทุกคนได้ลองมาอ่านดู ใครจะเห็นต่างก็ไม่เป็นไรครับ แต่ผมเจอมาแบบนี้กับตัวจริงๆ ยังมีเรื่องอื่นจิปาถะอีกมากมายครับ ที่มันขัดแย้งกับภาพลักษณ์ของการเข้าเชียร์ว่าทุกคนรักกัน เอาเข้าจริง พอจบเชียร์ กลุ่มใครก็กลุ่มมัน ไม่เห็นใครจะเห็นหัวใครสักคน ก็เลยรู้สึกเสียดายเวลาที่เข้าเชียร์ที่ผ่านมา ถ้ารู้ว่าเข้าไปแล้วมันจะเป็นผลแบบนี้ ผมยอมไม่เอาคำว่ารุ่น ไม่เอารุ่นพี่ คบแต่เพื่อนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจคงน่าจะดีกว่า เพราะมันก็ไม่ต่างกันอะไรมากมาย ซึ่งวันนี้ผมรู้สึกคำว่ารุ่น มันไม่ได้มีความหมายกับผมมาสักพักแล้วล่ะครับ มีไปก็เท่านั้น มีแล้วได้อะไร? ก็ไม่เห็นจะมีอะไร ชีวิตหลังจากการเข้าเชียร์ก็ยังเหมือนเดิม ปกติ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง ถ้าจะเป็นเรื่องขัดเกลาระเบียบ ผมว่ามันอยู่ที่นิสัยและสันดานของบุคคลนั้นๆ มากกว่าครับ คนมันจะดี ก็ดีได้ด้วยตนเอง คิดเอง โตแล้วก็ควรรู้ว่าอะไรควรไม่ควร ไม่ต้องให้ใครมาแหกปากตะคอกใส่หน้าหรอกครับ ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะครับ ผมก็แค่อยากจะระบายเท่านั้น มีความคิดเห็นอย่างไรก็โพสต์มาได้ครับ สวัสดีครับ.