จขกท. ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะอยากมีพื้นที่ระบายความในใจบ้างครับ ยอมรับว่าช่วงเวลานี้ จขกท. มีความเครียดสะสมมาก บางครั้งปวดหัวบ่อยมาก ถ้าไม่ได้ระบายก็คิดว่าคงจะอีดอัดมากแน่ๆ เริ่มเลยล่ะกันครับ ขอเล่าเกี่ยวกับตัวเองก่อน จขกท. อายุ 26 ปี เป็นมนุษย์เงินเดือนคนนึง การศึกษาปริญญาตรี มีบ้านอยู่ กทม. และอาศัยอยู่ กทม. เริ่นต้นทำงานมาได้ 2 ปีกว่าๆ เงินเดือนปัจจุบันประมาณ 21,000 บาท พอหักเงินค่าประกันสังคมและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้ว ก็เหลือประมาณ 19,000 บาท ซึ่งดูจากตัวเลขแล้ว น้อยมากและอาจจะไม่พอสำหรับใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ บวกกับมีปัญหาหนี้ทุนการศึกษา และหนี้นอกระบบที่แม่เราก่อเอาไว้ตั้งแต่เรายังเรียนประถมเรื่อยมาจนปัจจุบัน แน่นอนว่า จขกท. ต้องมีส่วนร่วมในการร่วมใช้หนี้อย่างแน่นอนหลังเรียนจบมา
ถามว่าทำไมแม่ต้องเป็นหนี้ เหตุผลก็คือพ่อของเรา ไม่ออกทำมาหากิน ตกงานอยู่หลายปี เดิมทำงานรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป แต่เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี คนเลยเลือกที่จะซื้อใหม่มากกว่าเอามาซ่อม ก็เลยไม่มีงาน พ่อเรามีนิสัยเป็นคนทิฏฐิ ชอบทำอะไรเดิมๆ ไม่มีงานก็นอนเฝ้าร้าน อยู่ 5-6 ปี จนเราขึ้นมหาลัย ถึงจะยอมออกทำงาน กว่าจะออกทำงานได้ทะเลาะกันหลายยก จนสุขภาพกายและใจเสียไปมาก พ่อเราเค้าเป็นคนไม่ยอมฟังอะไรใคร ยอมรับว่าสมัยประถมถึงมอปลายใช้ทุนทรัพย์ ที่เป็นหนี้สินเรียนมาตลอด พอมาระดับมหาลัย เรากู้ กรอ. เรียนมาตลอด 4 ปี ค่าเทอมเรากู้เองทั้งหมด ส่วนค่ากินค่าใช้ยังขอพ่อแม่
นึกแล้วก็ยังเสียใจอยู่ว่า ทำไมตอนนั้นเราไม่รับพิเศษทำ เช่น สอนพิเศษ จะได้มีเงิน พอเรียนจบมาพ่อแม่จะได้ไม่มีสิทธิ์มากดดันอะไรเรามาก อาจจะเป็นเพราะไม่มีใครแนะนำ เพื่อนไม่ค่อยมี ระหว่างที่เราเรียนมาพ่อแม่ก็ทะเลาะกันมาตลอด ไม่เคยมีความสุขในชีวิตเท่าไหร่ การเรียนก็แทบจะไม่รอด เข้ากับเพื่อนไม่ค่อยจะได้ เพราะไม่ได้รับน้อง เค้าก็ต่อต้าน แต่ก็ประคับประคองตัวเองมาจนเรียนจบ ยอมรับว่าช่วงเปิดเทอม เราไม่ค่อยอยู่บ้านครับ เบื่อบ้าน วันๆไม่มีอะไรที่มันจรรโลงใจ เลยมาอาศัยอยู่หอสมุดมหาวิทยาลัย วันไหนมีเรียนก็กลับบ้านดึกๆ วันเสาร์-อาทิตย์ ก็อยู่บ้านตั้งแต่เช้าจรดดึก
จนเราเรียนจบ จบออกมาใหม่ๆ โดนพ่อแม่ด่าเป็นประจำทุกวันเสมอ และเริ่มหนักขึ้นๆหลังจากจบได้ประมาณ 3 เดือน ทะเลาะกันร้องไห้ประจำ ด่าเราจนเสียใจ เพราะเหตุผลที่ว่าจบมา 2-3 เดือนแล้ว ทำไมไม่ไปทำงานสักที จะได้มีเงินมาใช้หนี้สิน เอาแต่นอนเฝ้าบ้าน ยอมรับครับว่าปีแรกที่จบเราก็ออกทำงานนะ แต่ทำบางที่ไม่นานก็ออก เพราะเราทำไม่ได้ Life Style เราไม่เอื้ออำนวย ทำไปก็ไม่มีความสุข จนผ่านมา 1 ปีกว่าๆ ก็ได้งานที่แรกที่พอจะเป็นงานเป็นกับเค้า ได้เงินเดือน 15,000 ก็ทำเรื่อยมาจบครบ 1 ปี ก็ลาออกมา ทำงานที่ปัจจุบัน เพื่ออัพเงินเดือนและได้สวัสดิการโบนัส จะได้มีเงินเก็บ
หลังจากที่เล่ามา ขอเข้าประเด็นที่ตรงกับหัวข้อกระทู้ครับ คงไม่พ้นเรื่องหนี้สิน เราเคยเรียกแม่มาคุยเรื่องหนี้สินทั้งหมด ว่าเป็นหนี้ใครบ้าง แม่ก็เขียนลงกระดาษมาให้ดู รวมประมาณ 8-9 แสนบาท แต่เรารู้ว่ามันมากกว่านั้นแต่แม่ไม่บอก เพราะแม่บอกหนี้ในส่วนของลูกติดสามีเก่า กับ การไปใช้หนี้แทนพี่ๆน้องๆของแม่ ไม่ได้ ถ้าบอกจะทะเลาะกับพ่อ ส่วนพ่อยืนกรานจะไม่ช่วยใช้หนี้สักบาท เพราะเป็นหนี้ที่แม่ไปกู้มาเอง เค้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้ปรึกษาก่อนไปเป็นหนี้
พ่อ จขกท. อายุ 53 งานที่ทำ จะเข้างานประมาณ 12.00 ทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด ช่วงเช้าวันหยุดของเรา เราจะได้เจอพ่อ พ่อมักจะกระหน่ำบ่นและระบายความลำเค็ญใส่เราอย่างไม่หยุดยั้ง ด่าว่าแม่ด้วยคำเสียๆหายๆ หนี้สินอะไรเยอะแยะ

พูดว่าตัวเองตั้งแต่หนุ่มยันแก่ยังไม่ได้สบายเลย ลำบากส่งลูกเรียนมาด้วยตัวคนเดียว เลือดตาแทบกระเด็น (ซึ่งความจริงเราก็รู้อยู่ว่า ความจริงเป็นยังไง แต่เราพูดออกมาไม่ได้ กลัวพ่อจะไม่เหมือนเดิม เลยเก็บความรู้สึกไว้) ยอมรับว่าเรารู้สึกไม่ดีเลยกับคำพูดความเท็จของพ่อ ช่วงที่ จขกท. กลับจากทำงานมา พ่อก็มักจะหาเรื่อง บ่นด่าว่าคนในบ้านอยู่บ่อยๆ จนบางครั้งมีร้องไห้ ทะเลาะกัน โดยเฉพาะกับแม่บ่อยมาก ทะเลาะกับ จขกท. ก็มี พ่อชอบด่าด้วยคำพูดที่มันเจ็บๆ ทุกวันนี้รู้สึกว่าจิตใจเราอ่อนล้ามากที่ต้องอดทนกับคำบ่น ด่า ว่าของพ่อทุกวันหลังเลิกงานและวันหยุด จนบางครั้งอยากจะพูดออกไปให้พ่อรู้สึกตัวบ้าง แต่เราก็ไม่ทำ ไม่รู้เพราะอะไร อีกส่วนก็เข้าใจว่าพ่อเราไม่มีคนสั่งสอน ปู่ย่าเลิกกันแต่เด็กๆ มีปัญหาครอบครัว ชีวิตเลยไม่ค่อยจะเข้าใจคนอื่น
พอน้องเราเข้ามหาลัย ค่าเทอมๆละ 25,000 มีเงินไม่พอ น้องเรากู้ทุน กยศ. ได้เทอมละ 7000 แค่นั้น เพราะเป็นสาขาเปิดใหม่ กองทุนยังไม่รองรับ พ่อเราเลยไปกู้เงินธนาคาร มาจำนวนหนึ่ง มาปีนี้ต้องเริ่มใช้หนี้ บ่นทุกวันว่าเค้าเป็นหนี้เยอะเหลือเกิน เกิดมาไม่เคยเป็นหนี้เป็นสินใคร ทุกวันนี้ไม่มีเงินกินเงินใช้ ข้าวเที่ยงไม่ได้กิน ข้าวของเครื่องใช้พ่อจะไม่ซื้อเข้ามาในบ้านอีก เพราะไม่มีตัง พูดทุกวันกรอกหูเรา และไม่ช่วยเราข้าว กับข้าว ของเครื่องใช้ที่จำเป็นเลย จนชีวิตเริ่มลำบาก จนเราต้องยอมจ่ายเงินที่ให้พ่อทุกเดือนๆ เพิ่มขึ้นมา เค้าก็ยังบ่นว่าไม่พออีก
ตอนนี้เริ่มรู้สึกว่า จิตใจเริ่มอ่อนล้า ไม่มีจิตใจจะทำอะไร ไม่อยากอยู่บ้าน ไม่อยากกลับบ้าน บ้างครั้งรู้สึกปวดหัวบ่อยๆช่วงวันหยุด เพราะเบื่อคำบ่น คำด่า คำว่า ของพ่อเรามากๆ เป็นแบบนี้ทุกวัน บางครั้งเรามีอะไรจะไปปรึกษา ก็มักจะได้คำด่าจิกหัวกลับมาด้วยทุกครั้งที่คุย บางครั้งมีปัญหาที่ต้องคุยกับเค้า แต่เค้ามักจะขัดแย้งกับเราอยู่เสมอ พ่อชอบคิดอะไรที่มันเกินจริง ผิดธรรมชาติไปเยอะ เราก็เถียงให้สติเค้ากลับมา จนบางครั้งทะเลาะขึ้นเสียงใส่เรา แม่กับน้องต้องมาหยุด แต่ที่ยังต้องอยู่เพราะเราเองก็ต้องเป็นหลักของบ้านบ้าง ใจนึงก็อยากย้ายมาอยู่หอคนเดียวบ้าง ใช้ชีวิตคนเดียวอย่างที่ไม่เคยใช้ ตอนนี้เปิดสอนพิเศษเป็นงานเสริม แต่ก็ยังไม่มีใครติดต่อมา ยอมรับว่าเครียดมากครับ เบื่อบ้านมาก มีใครเคยเป็นแบบนี้บ้างครับ และอยากขอคำแนะนำว่าควรจะทำยังไงกับชีวิตต่อไปให้มันมีความสุขขึ้นมาบ้าง
รู้สึกเบื่อบ้าน ไม่อยากอยู่บ้าน
ถามว่าทำไมแม่ต้องเป็นหนี้ เหตุผลก็คือพ่อของเรา ไม่ออกทำมาหากิน ตกงานอยู่หลายปี เดิมทำงานรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป แต่เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี คนเลยเลือกที่จะซื้อใหม่มากกว่าเอามาซ่อม ก็เลยไม่มีงาน พ่อเรามีนิสัยเป็นคนทิฏฐิ ชอบทำอะไรเดิมๆ ไม่มีงานก็นอนเฝ้าร้าน อยู่ 5-6 ปี จนเราขึ้นมหาลัย ถึงจะยอมออกทำงาน กว่าจะออกทำงานได้ทะเลาะกันหลายยก จนสุขภาพกายและใจเสียไปมาก พ่อเราเค้าเป็นคนไม่ยอมฟังอะไรใคร ยอมรับว่าสมัยประถมถึงมอปลายใช้ทุนทรัพย์ ที่เป็นหนี้สินเรียนมาตลอด พอมาระดับมหาลัย เรากู้ กรอ. เรียนมาตลอด 4 ปี ค่าเทอมเรากู้เองทั้งหมด ส่วนค่ากินค่าใช้ยังขอพ่อแม่
นึกแล้วก็ยังเสียใจอยู่ว่า ทำไมตอนนั้นเราไม่รับพิเศษทำ เช่น สอนพิเศษ จะได้มีเงิน พอเรียนจบมาพ่อแม่จะได้ไม่มีสิทธิ์มากดดันอะไรเรามาก อาจจะเป็นเพราะไม่มีใครแนะนำ เพื่อนไม่ค่อยมี ระหว่างที่เราเรียนมาพ่อแม่ก็ทะเลาะกันมาตลอด ไม่เคยมีความสุขในชีวิตเท่าไหร่ การเรียนก็แทบจะไม่รอด เข้ากับเพื่อนไม่ค่อยจะได้ เพราะไม่ได้รับน้อง เค้าก็ต่อต้าน แต่ก็ประคับประคองตัวเองมาจนเรียนจบ ยอมรับว่าช่วงเปิดเทอม เราไม่ค่อยอยู่บ้านครับ เบื่อบ้าน วันๆไม่มีอะไรที่มันจรรโลงใจ เลยมาอาศัยอยู่หอสมุดมหาวิทยาลัย วันไหนมีเรียนก็กลับบ้านดึกๆ วันเสาร์-อาทิตย์ ก็อยู่บ้านตั้งแต่เช้าจรดดึก
จนเราเรียนจบ จบออกมาใหม่ๆ โดนพ่อแม่ด่าเป็นประจำทุกวันเสมอ และเริ่มหนักขึ้นๆหลังจากจบได้ประมาณ 3 เดือน ทะเลาะกันร้องไห้ประจำ ด่าเราจนเสียใจ เพราะเหตุผลที่ว่าจบมา 2-3 เดือนแล้ว ทำไมไม่ไปทำงานสักที จะได้มีเงินมาใช้หนี้สิน เอาแต่นอนเฝ้าบ้าน ยอมรับครับว่าปีแรกที่จบเราก็ออกทำงานนะ แต่ทำบางที่ไม่นานก็ออก เพราะเราทำไม่ได้ Life Style เราไม่เอื้ออำนวย ทำไปก็ไม่มีความสุข จนผ่านมา 1 ปีกว่าๆ ก็ได้งานที่แรกที่พอจะเป็นงานเป็นกับเค้า ได้เงินเดือน 15,000 ก็ทำเรื่อยมาจบครบ 1 ปี ก็ลาออกมา ทำงานที่ปัจจุบัน เพื่ออัพเงินเดือนและได้สวัสดิการโบนัส จะได้มีเงินเก็บ
หลังจากที่เล่ามา ขอเข้าประเด็นที่ตรงกับหัวข้อกระทู้ครับ คงไม่พ้นเรื่องหนี้สิน เราเคยเรียกแม่มาคุยเรื่องหนี้สินทั้งหมด ว่าเป็นหนี้ใครบ้าง แม่ก็เขียนลงกระดาษมาให้ดู รวมประมาณ 8-9 แสนบาท แต่เรารู้ว่ามันมากกว่านั้นแต่แม่ไม่บอก เพราะแม่บอกหนี้ในส่วนของลูกติดสามีเก่า กับ การไปใช้หนี้แทนพี่ๆน้องๆของแม่ ไม่ได้ ถ้าบอกจะทะเลาะกับพ่อ ส่วนพ่อยืนกรานจะไม่ช่วยใช้หนี้สักบาท เพราะเป็นหนี้ที่แม่ไปกู้มาเอง เค้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้ปรึกษาก่อนไปเป็นหนี้
พ่อ จขกท. อายุ 53 งานที่ทำ จะเข้างานประมาณ 12.00 ทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด ช่วงเช้าวันหยุดของเรา เราจะได้เจอพ่อ พ่อมักจะกระหน่ำบ่นและระบายความลำเค็ญใส่เราอย่างไม่หยุดยั้ง ด่าว่าแม่ด้วยคำเสียๆหายๆ หนี้สินอะไรเยอะแยะ
พอน้องเราเข้ามหาลัย ค่าเทอมๆละ 25,000 มีเงินไม่พอ น้องเรากู้ทุน กยศ. ได้เทอมละ 7000 แค่นั้น เพราะเป็นสาขาเปิดใหม่ กองทุนยังไม่รองรับ พ่อเราเลยไปกู้เงินธนาคาร มาจำนวนหนึ่ง มาปีนี้ต้องเริ่มใช้หนี้ บ่นทุกวันว่าเค้าเป็นหนี้เยอะเหลือเกิน เกิดมาไม่เคยเป็นหนี้เป็นสินใคร ทุกวันนี้ไม่มีเงินกินเงินใช้ ข้าวเที่ยงไม่ได้กิน ข้าวของเครื่องใช้พ่อจะไม่ซื้อเข้ามาในบ้านอีก เพราะไม่มีตัง พูดทุกวันกรอกหูเรา และไม่ช่วยเราข้าว กับข้าว ของเครื่องใช้ที่จำเป็นเลย จนชีวิตเริ่มลำบาก จนเราต้องยอมจ่ายเงินที่ให้พ่อทุกเดือนๆ เพิ่มขึ้นมา เค้าก็ยังบ่นว่าไม่พออีก
ตอนนี้เริ่มรู้สึกว่า จิตใจเริ่มอ่อนล้า ไม่มีจิตใจจะทำอะไร ไม่อยากอยู่บ้าน ไม่อยากกลับบ้าน บ้างครั้งรู้สึกปวดหัวบ่อยๆช่วงวันหยุด เพราะเบื่อคำบ่น คำด่า คำว่า ของพ่อเรามากๆ เป็นแบบนี้ทุกวัน บางครั้งเรามีอะไรจะไปปรึกษา ก็มักจะได้คำด่าจิกหัวกลับมาด้วยทุกครั้งที่คุย บางครั้งมีปัญหาที่ต้องคุยกับเค้า แต่เค้ามักจะขัดแย้งกับเราอยู่เสมอ พ่อชอบคิดอะไรที่มันเกินจริง ผิดธรรมชาติไปเยอะ เราก็เถียงให้สติเค้ากลับมา จนบางครั้งทะเลาะขึ้นเสียงใส่เรา แม่กับน้องต้องมาหยุด แต่ที่ยังต้องอยู่เพราะเราเองก็ต้องเป็นหลักของบ้านบ้าง ใจนึงก็อยากย้ายมาอยู่หอคนเดียวบ้าง ใช้ชีวิตคนเดียวอย่างที่ไม่เคยใช้ ตอนนี้เปิดสอนพิเศษเป็นงานเสริม แต่ก็ยังไม่มีใครติดต่อมา ยอมรับว่าเครียดมากครับ เบื่อบ้านมาก มีใครเคยเป็นแบบนี้บ้างครับ และอยากขอคำแนะนำว่าควรจะทำยังไงกับชีวิตต่อไปให้มันมีความสุขขึ้นมาบ้าง