คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
ผมว่าอการแบบนี้ ลักษณะคือผิดความคาดหวังครับ ก็เกิดอาการนอยส์ ผมว่าคุณอยู่นิ่งๆครับ ไม่ต้องอะไร ถ้าเขาคิดได้เขาจะกลับมาหาคุณเอง แต่ถ้าเขาคิดไม่ได้ ผมแนะนำว่าถอยออกมา แล้วใช้ชีวิตของตัวเองต่อไปอย่างมีค่า มีเขาเราก็อยู่ได้ ไม่มีเขาเราก็อยู่ได้ ชีวิตเราเลือกเองครับ สุข กับ ทุกข์ ขอให้โชคดีในความรักครับ
ผมอยากให้แง่คิดสักนิดครับ เรือนร่างเรา จิตใจเรา พ่อแม่เป็นผู้ให้ เติบโตมาเรากลับอายที่จะให้พ่อแม่เห็นเรือนร่าง แต่เราจะนำพาเรือนร่างที่เราหวงกกับผู้ให้กำเนิด ไปให้กับชายคนหนึ่งที่เป็นใครไม่รู้ และไม่รู้ว่าจะใช่พ่อของลูกในอนาคตหรือเปล่า จากประสบการณ์ผมอยากบอกว่า จงเก็บและรักษาไว้ให้สำหรับคนที่เป็นพ่อของลูกจะดีกว่าครับ เพราะถ้าคุณไป เท่ากับว่าคุณนำพาตัวเองเข้าไปเสี่ยงในที่ลับ มนุษย์คือสิ่งที่ถูกสร้างมาเพื่อให้สืบพันธ์ ดังนั้นรักษาและดูแลสำหรับไว้สืบพันธ์ (นั่นหมายถึงไว้ให้กับคนที่ทำหน้าที่พ่อของลูกจะดีกว่า)
ผมอยากให้แง่คิดสักนิดครับ เรือนร่างเรา จิตใจเรา พ่อแม่เป็นผู้ให้ เติบโตมาเรากลับอายที่จะให้พ่อแม่เห็นเรือนร่าง แต่เราจะนำพาเรือนร่างที่เราหวงกกับผู้ให้กำเนิด ไปให้กับชายคนหนึ่งที่เป็นใครไม่รู้ และไม่รู้ว่าจะใช่พ่อของลูกในอนาคตหรือเปล่า จากประสบการณ์ผมอยากบอกว่า จงเก็บและรักษาไว้ให้สำหรับคนที่เป็นพ่อของลูกจะดีกว่าครับ เพราะถ้าคุณไป เท่ากับว่าคุณนำพาตัวเองเข้าไปเสี่ยงในที่ลับ มนุษย์คือสิ่งที่ถูกสร้างมาเพื่อให้สืบพันธ์ ดังนั้นรักษาและดูแลสำหรับไว้สืบพันธ์ (นั่นหมายถึงไว้ให้กับคนที่ทำหน้าที่พ่อของลูกจะดีกว่า)
แสดงความคิดเห็น
ว่าด้วยเรื่องการชวนไปบ้านของฝ่ายชาย
โดยความสัมพันธ์เริ่มจากการเป็นเพื่อนกันมาก่อน คุยกันมาเรื่อยๆ มีสถานะที่ไม่ใช่แฟน แต่ก่ไม่ใช่เพื่อน ความสัมพันธ์มันกึ่งๆกันอยู่
แต่เพื่อนเค้า เพื่อนเรารับรู้ว่า คบกัน เคยเจอกันแค่ครั้งเดียว แต่เราว่าไม่ใช่ปัญหาเพราะ วีดีโอคอลล์หากันตลอด ทะเลาะกันบ้าง คุยๆเลิกๆมาตลอด เลิกคุยมากสุดเกือบ 2 เดือนเลยทีเดียว พอกับมาคุยกันเค้าก่คุยเรื่องอยากแต่งงาน อยากอยู่กับเรา อยากมีครอบครัว ชวนมาอยู่ด้วยกัน ประมาณนี้ แต่ด้วยความที่เรายังเรียนอยู่ ปี 3 ส่วนเค้าเรียนจบแล้ว รอรับปริญญา แต่อายุห่างกันแค่ปีเดียว เราก่คิดว่ามันไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ เพราะเราเองก่ยังเรียนไม่จบ ยังขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่ ทางบ้านเราค่อนข้างหัวโบราณและหวงลูกสาวมากๆ เราจึงปฏิเสธเค้าไปหลายครั้งว่ามันยังไม่เหมาะสม รอเรียนจบก่อน เพราะเราก่ไม่ได้ฟิคว่าต้องแต่งล่ะค่อยอยู่ เรียนรู้กัได้แต่ขอเวลาที่พร้อมก่อน เค้าก่เข้าใจและก่บอกว่าจะรอ
เรื่องมันเริ่มต้นประมาณพฤจิกายน เค้าชวนเราไปบ้าน ไปเค้าดาวน์ตอนสิ้นปี ค้างด้วย 2 คืน ด้วยความที่เราก่อยากู้จักครอบครัวของเค้าก่เลยตกปากรับคำชวนไป แต่ก่ลืมขออนุญาติแม่ เราคุยกับแม่เกือบทุกเรื่อง เลยขอแม่ไป เราเป็นเด็กดีนะ อยู่ในกรอบที่ควรจะเป็นตลอด แม่ก่ไม่ได้ห้ามอะไรแต่ก่เป็นห่วง ให้เราคิดเองว่ามันควรหรือไม่ควร แต่ใจจริงเรารู้แหละว่าแม่ไม่อยากให้ไป
เราเลยคุยกะเค้าว่าไม่อยากไปแล้ว ขอเป็นโอกาศอื่นได้มั้ย ? ตัวเค้าก่เสียความรู้สึกเเหละ เพราะเค้าบอกที่บ้านไปแล้วว่าเราจะไปด้วย เรามารู้ทีหลังว่าเค้าแพลนไว้ว่าจะพาเราไปนั่นนี่ ไปทำความคุ้นเคยกับที่บ้านเค้า เพื่อนเค้า ไปนอนดูดาวด้วยกัน ฯลฯ เราก่เสียใจนะที่ไปไม่ได้.... ไม่ได้ทะเลาะกัน แต่เหมือนห่างๆกัน เราทักไปก่ตอบคำ ไม่มาแหย่ โทไปก่ไม่รับ ล่ะไม่มีการโทกลับ เป็นอย่างี้มา 1 อาทิตย์แล้ว
เราควรทำยังไงต่อไปดี ?
รอให้เวลาบอกทุกอย่าง หรือ ถามเค้าไปตรงๆ เราเองก่ไม่เคยไปนอนบ้านใคร ทางบ้านเราก่ค่อนข้างปิดเรื่องพวกนี้
ปล.แม่เราทำงานที่นครปฐม ส่วนพ่อ ก่รับเหมางานอยู่ที่แม่ฮ่องสอนต้องรอส่งงานตอนปีใหม่ ทำให้ไม่มมีใครอยู่ที่บ้านเลย
(แต่ญาติๆอยู่ปากหอยปากปูเพียบ)
ปล2.เค้าคบกับแฟนเก่ามา 5 ปี เคยพาเข้าบ้านตลอด ปีใหม่ก่เหมือนจะมีแพรนอย่างที่ชวนเรา เรารุ้เพราะแฟนเก่าเค้าบอกมา
ปล3.เราไม่เคยคุยกับใครนานขนาดนี้แล้วเหมือนมันตัดไม่ขาดสักที เลิกไปก่กลับมาคืนดีกันใหม่ ส่วนมากจะเรื่องที่เค้าไม่ค่อยสนใจเรา ไม่ค่อยตอบ ทิ้งเวลาไปสัก 2 - 3 อาทิตย์ เค้าก่จะมาง้อเราเองตลอด
ปล4.ยังไม่ได้ตกลงเป็นเเฟนกัน เหมือนเราไม่ได้คุยเรื่องนี้กันตั้งแต่ต้น แต่ถ้าใครถามเค้าก่บอก ว่าทีเมีย >//<
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ ^^