สวัสดีค่า เราชื่อไข่มุกน้า กลับมาเจอกันอีกแล้ว นี่เป็นกระทู้ที่ 2 ของเราค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก่อนอื่นขอขายของก่อนค่ะ ฝากกระทู้แรกของเราด้วยน้า เขียนเมื่อเดือนที่เเล้วเอง
กฎ 11 ข้อของการเที่ยวคนเดียว จากทริปที่ภูมิใจที่สุดในชีวิต (เกาหลีใต้)
http://pantip.com/topic/34492176
เดี๋ยวนี้มีเกาะที่พม่าเปิดใหม่เยอะ เราก็อ่านๆจากในพันทิปนี่แหละ อ่านเเล้วก็อยากไป เคย snorkeling ครั้งแรกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ที่ชลบุรี โรงเรียนพาไป ตอนนั้นกลัวมากเพราะเม่นเต็มเลยจ้า โชคดีที่น้ำค่อนข้างสูง ไม่งั้นมีเจ็บตัวแน่ เราก็เลยไม่ค่อยอะไรกับมันเท่าไหร่
จนมาได้อ่านกระทู้เกาะนาวโอพี ก็เฮ้ย อยากไปอ่ะ พอดีกับที่มันมี bike for dad แล้วคณะเกิดใจดีหยุดให้(กราบ) ก็เลยว่าง 4 วัน เราก็โทรไปหาแม่เลยจ้า แล้วนางก็เซย์เยสภายใน 2 วิ เย้ การเตรียมการทุกอย่างเสร็จภายใน 1 วัน 555 รีบมาก
1. รถทัวร์ เราไปของสมบัติทัวร์ vip ค่ะ ไป-กลับ 966฿/คน ออกจากสายใต้ 20.30 ถึงออฟฟิศสมบัติทัวร์ที่ระนองประมาณตี 5 ขากลับก็เวลาเดียวกันค่ะ แล้วก็มาเรียนต่อตอน 8 โมงเช้า ถึกไหมล่ะ รถทัวร์ใหม่ค่ะ เบาะนั่งสบาย ขับน่าจะโอเคมั้งเพราะหลับตลอดทาง มีของว่างกับน้ำเเจก ผ้าห่มกับหมอนสะอาดค่ะ แล้วมันจะมีแวะพัก ซึ่งเราสามารถเอาบัตรรถไปแลกข้าวได้ฟรีด้วย ของเราเป็นข้าวต้ม สรุปว่าผ่านค่ะ แนะนำเลย
2. ที่พัก เราพักที่ Nalin Place พึ่งเปิดใหม่ค่ะ สะอาด ทำเลดี อยู่ใกล้ออฟฟิศสมบัติทัวร์เลย ตอนเย็นจะมีตลาดของกินริมทางด้วย พี่พนักงานก็ใจดีค่ะ แต่ไม่มีอาหารเช้านะคะ ราคา 360฿/คน/คืน
3. ทริปดำน้ำ เราจองผ่าน Thailandlism ค่ะ เราไปทริปเกาะหัวใจวันเสาร์ นาวโอพีวันอาทิตย์ ทริปละ 3,500฿/คน สามารถเเจ้งให้มีรถรับส่งตัวเมืองกับท่าเรือได้นะคะ แล้วก็พึ่งรู้ว่าเป็นของคนละบริษัทกัน แต่ทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน ตอนจะกลับเเล้ว
เอาล่ะค่ะ พร้อมไปเที่ยวด้วยกันหรือยังเอ่ย ถ้าพร้อมแล้ว ไปกันเลยค่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รูปทั้งหมดเราถ่ายด้วย Fujifilm X-A2 นะคะ ที่ถ่ายใต้น้ำเราใส่ซองกันน้ำเอาค่ะ แล้วก็ไม่ได้ผ่านการแต่งรูปใดๆเลย จะได้ภาพสดๆจริงๆกันเนอะ
อาจเพราะเป็นทริปในประเทศ แล้วยังไปกับแม่ด้วย เราเลยเตรียมตัวเเบบปัจจุบันทันด่วนมาก แล้วก็ไม่ได้วางแผนอะไรไปเลย พอไปถึงออฟฟิศสมบัติทัวร์ตอนตี 5 เลยหาข้อมูลระหว่างรอสว่าง แล้วจุดหมายเเรกของเราคืออาหารเช้าค่ะ โดยเราจะไปกันที่ร้าน
บังกีโรตีอาหรับ
วิธีไปก็ง่ายๆค่ะ ออกจากออฟฟิศสมบัติทัวร์ เดินไปทางซ้าย ตรงไปเรื่อยๆเกือบ 1 กม. ก็ถึงเเล้วค่ะ ร้านจะอยู่ฝั่งเดียวกับเราเลย ร้านจะเปิดตั้งแต่ 6 โมง พอสายๆของก็เริ่มหมดเเล้วค่ะ เราไปตอนประมาณ 7 โมง คนค่อยเยอะ เลยได้ของเร็ว
เราสั่งข้าวหมกไก่ โรตีอาหรับ แกงไก่ มะตะบะไก่ อิ่มกำลังดีสำหรับ 2 คน และอร่อยมาก ราคาอยู่ที่ 160฿ ค่ะ (หลังจากนั้นก็มาเสียดายอยากไปกินอีก มันอร่อยอ่ะ น่าจะสั่งเยอะกว่านี้ ถ้าไประนองต้องไปร้านนี้อีกแน่ๆ)
จุดหมายต่อไปของเราคือแช่น้ำร้อนที่
บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน ค่ะ โดยได้พี่เจ้าของร้านโรตีโทรเรียกวินมอร์ไซต์ให้คนละคัน ราคา 60฿/คน พอไปถึงบ่อน้ำพุก็ขอเบอร์พี่เค้าไว้เวลาจะกลับด้วย พี่เค้าบอกว่าที่นี่หารถยาก
บ่อน้ำร้อนรักษะวารินเป็นน้ำพุร้อนธรรมชาตินะคะ โดยมีอยู่ 3 บ่อ คือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูกสาว แต่อันที่เราแช่กันคือบ่อที่สร้างขึ้น แล้วดึงน้ำจากบ่อธรรมชาติลงไปค่ะ ที่นี่ฟรีนะคะ
ว้าว ควันพวยพุ่งเลย ลืมบอกไปว่าอากาศยามเช้าที่นี่สดชื่นมาก เย็นสบายสุดๆเลย แล้วยังได้ไปแช่บ่อน้ำร้อน โอ๊ย ฟิน
อ้อ ถ้าใครจะมาเเนะนำให้มาตอนเช้าคนจะน้อยกว่านะคะ เป็นส่วนตัวสุดๆ
มีทริคนิดนึงค่ะ พี่วินเขาบอกมา คือตอนแรกให้จุ่มลงไปนิ่งแค่ขา รอให้ปรับตัวสัก 3 นาที แล้วค่อยถึงเอว รออีก 3 นาที ก็ทั้งตัวเลยค่ะ แรกลงไปนิ่งๆนะคะ ถ้าขยับมากจะร้อน ปรับตัวได้ค่อยขยับเนอะ แช่ประมาณ 15 นาทีก็พอนะคะ
หลังจากแช่น้ำกันจนพอใจเเล้วเราก็เปลี่ยนชุดไปนอนเล่นที่ศาลาค่ะ คือพื้นมันเป็นปูนที่ข้างล่างมีน้ำร้อนไหลผ่านตลอด มันก็เลยอุ่น แม่เราชอบมาก นางเอาผ้าปูเเล้วก็หลับไปเลย บอกว่าสบายตัวหายปวดเมื่อยดี
หลังจากนั้นก็ได้เวลากินค่ะ ประมาณ 11 โมง คือความจริงยังไม่หิว แต่ได้ยินว่าจะปิดถนน bike for dad ตอนบ่าย 2 เลยตกลงกันว่ากินแล้วกลับไปนอนเล่นที่โรงเเรมดีกว่า เราก็เอาเลยค่ะ ร้านตรงข้ามบ่อน้ำร้อนเลย
ร้านคุ้นลิ้น ก็สั่งส้มตำปูม้ากับปลาฮาลิบัต(?)นึ่งบ๊วยไป คืองงกับชื่อปลามาก ไม่รู้จัก ถึงกับต้องเสิร์ชอากู๋ เพราะมันอร่อย สรุปคือมันคล้ายๆปลาหิมะค่ะ เนื้อสีขาว มาจากทะเลน้ำเย็น เนื้อเลยนิ่มเพราะมีไขมันแทรกเยอะ ตามด้วยของหวาน ขนมโอ๊ะเอ๋ว เกิดมาพึ่งเคยได้ยินชื่อ เป็นขนมของภูเก็ตค่ะ คล้ายน้ำแข็งใส มีวุ้นที่ได้จากเมล็ดโอ๊ะเอ๋ว เหมือนวุ้นที่หนืดหนุบๆหน่อย และมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ อธิบายไม่ถูก ต้องลองเอง อร่อยค่ะ รวมมื้อนี้ 460฿ ค่ะ
แล้วก็โทรเรียกรถมารับไปโรงแรมค่ะ ราคา 60฿/คน เหมือนเดิม พอไปถึงสิ่งเเรกที่ทำคือนอนค่ะ ก็พอเที่ยงมันเริ่มร้อน กลับมานอนตากแอร์เย็นๆเอาแรงดีกว่า แล้วค่อยออกไปสำรวจตอนเย็น
แถวนั้นตอนเย็นจะมีร้านอาหารทั้งห้องแถว แผงลอย รถเข็นขายเต็มเลยค่ะ ไม่อดตายแน่นอน เรากับแม่เดินเล่นไปเรื่อยๆก่อนค่ะ ยังไม่ค่อยหิว ระหว่างทางก็เล็งร้านไปด้วย ว่าอันไหนน่ากิน เดินไปจนถึงตลาดผลไม้พม่า ส่วนใหญ่ขายส่งนะคะ แต่ปลีกก็มีบ้าง ซื้อกล้วยมาเป็นหวีเลย แล้วก็มะพร้าวอีกคนละลูก มะพร้าวที่นี่หอมใช้ได้เลยค่ะ
มะพร้าวหมดไปคนละลูกก็เดินกลับ ผ่านร้านของทอดกับเบอร์เกอร์ที่อยู่ติดกัน ก็สะดุดกับชื่อร้าน
กะโป๊ะ(?) มันคือข้าวเกรียบปลาค่ะ มีแบบหนากับบาง แบบบางจะกรอบกว่า แต่ไม่อมน้ำมันทั้งคู่ค่ะ แล้วน้ำมันที่ใช้ทอดก็ใสสะอาดดี กินกับน้ำจิ้มสีส้มๆ แล้วก็สั่งเบอร์เกอร์ร้านข้างๆอีก มีเนื้อให้เลือกเยอะมาก จำไม่ได้ 555 อันละ 50฿ อร่อยดีค่ะ อิ่มด้วย อันใหญ่เลยล่ะ
แล้วก็เดินต่อไปมาเจอร้านน้ำเต้าหู้ เลยเอาคนละ 2 ถุงไปใส่ตู้เย็นกินตอนเช้า แล้วเราก็สั่งเต้าฮวยน้ำขิงมากิน ที่นี่เค้าจะไม่มีปาท่องโก๋กรอบๆนะคะ มีแบบตัวใหญ่เลยวางไว้บนโต๊ะ ของแม่เป็นเต้าทึงเย็น กินคู่กับชาจีนโบราณหอมๆ
จุดหมายสุดท้ายก่อนกลับคือ 7-11 ตุนอาหารเก็บใส่ตู้เย็น กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะ ซึ่งระหว่างทางผ่าน 2-3 ร้านได้ ทุกมุมถนนจริงๆ
จบไปแล้วค่ะกับวันแรก slow life @ Ranong รีบกลับไปนอนเอาแรงต่อสู้กับพรุ่งนี้ดีกว่า Fighto!!!
มารอดูกันว่าการดำน้ำครั้งแรกในชีวิตของแม่เราจะเป็นยังไง นางฝากบอกว่ามันเด็ดมาก 555
[CR] อยู่ว่างๆ เลยชวนแม่แปลงร่างเป็นนางเงือก ดำดิ่งสู่ท้องทะเลพม่า (ระนอง หัวใจมรกต(Cock's Comb) นาวโอพี(Nyaung Oo Phee))
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดี๋ยวนี้มีเกาะที่พม่าเปิดใหม่เยอะ เราก็อ่านๆจากในพันทิปนี่แหละ อ่านเเล้วก็อยากไป เคย snorkeling ครั้งแรกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ที่ชลบุรี โรงเรียนพาไป ตอนนั้นกลัวมากเพราะเม่นเต็มเลยจ้า โชคดีที่น้ำค่อนข้างสูง ไม่งั้นมีเจ็บตัวแน่ เราก็เลยไม่ค่อยอะไรกับมันเท่าไหร่
จนมาได้อ่านกระทู้เกาะนาวโอพี ก็เฮ้ย อยากไปอ่ะ พอดีกับที่มันมี bike for dad แล้วคณะเกิดใจดีหยุดให้(กราบ) ก็เลยว่าง 4 วัน เราก็โทรไปหาแม่เลยจ้า แล้วนางก็เซย์เยสภายใน 2 วิ เย้ การเตรียมการทุกอย่างเสร็จภายใน 1 วัน 555 รีบมาก
1. รถทัวร์ เราไปของสมบัติทัวร์ vip ค่ะ ไป-กลับ 966฿/คน ออกจากสายใต้ 20.30 ถึงออฟฟิศสมบัติทัวร์ที่ระนองประมาณตี 5 ขากลับก็เวลาเดียวกันค่ะ แล้วก็มาเรียนต่อตอน 8 โมงเช้า ถึกไหมล่ะ รถทัวร์ใหม่ค่ะ เบาะนั่งสบาย ขับน่าจะโอเคมั้งเพราะหลับตลอดทาง มีของว่างกับน้ำเเจก ผ้าห่มกับหมอนสะอาดค่ะ แล้วมันจะมีแวะพัก ซึ่งเราสามารถเอาบัตรรถไปแลกข้าวได้ฟรีด้วย ของเราเป็นข้าวต้ม สรุปว่าผ่านค่ะ แนะนำเลย
2. ที่พัก เราพักที่ Nalin Place พึ่งเปิดใหม่ค่ะ สะอาด ทำเลดี อยู่ใกล้ออฟฟิศสมบัติทัวร์เลย ตอนเย็นจะมีตลาดของกินริมทางด้วย พี่พนักงานก็ใจดีค่ะ แต่ไม่มีอาหารเช้านะคะ ราคา 360฿/คน/คืน
3. ทริปดำน้ำ เราจองผ่าน Thailandlism ค่ะ เราไปทริปเกาะหัวใจวันเสาร์ นาวโอพีวันอาทิตย์ ทริปละ 3,500฿/คน สามารถเเจ้งให้มีรถรับส่งตัวเมืองกับท่าเรือได้นะคะ แล้วก็พึ่งรู้ว่าเป็นของคนละบริษัทกัน แต่ทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน ตอนจะกลับเเล้ว
เอาล่ะค่ะ พร้อมไปเที่ยวด้วยกันหรือยังเอ่ย ถ้าพร้อมแล้ว ไปกันเลยค่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อาจเพราะเป็นทริปในประเทศ แล้วยังไปกับแม่ด้วย เราเลยเตรียมตัวเเบบปัจจุบันทันด่วนมาก แล้วก็ไม่ได้วางแผนอะไรไปเลย พอไปถึงออฟฟิศสมบัติทัวร์ตอนตี 5 เลยหาข้อมูลระหว่างรอสว่าง แล้วจุดหมายเเรกของเราคืออาหารเช้าค่ะ โดยเราจะไปกันที่ร้าน บังกีโรตีอาหรับ
วิธีไปก็ง่ายๆค่ะ ออกจากออฟฟิศสมบัติทัวร์ เดินไปทางซ้าย ตรงไปเรื่อยๆเกือบ 1 กม. ก็ถึงเเล้วค่ะ ร้านจะอยู่ฝั่งเดียวกับเราเลย ร้านจะเปิดตั้งแต่ 6 โมง พอสายๆของก็เริ่มหมดเเล้วค่ะ เราไปตอนประมาณ 7 โมง คนค่อยเยอะ เลยได้ของเร็ว
เราสั่งข้าวหมกไก่ โรตีอาหรับ แกงไก่ มะตะบะไก่ อิ่มกำลังดีสำหรับ 2 คน และอร่อยมาก ราคาอยู่ที่ 160฿ ค่ะ (หลังจากนั้นก็มาเสียดายอยากไปกินอีก มันอร่อยอ่ะ น่าจะสั่งเยอะกว่านี้ ถ้าไประนองต้องไปร้านนี้อีกแน่ๆ)
จุดหมายต่อไปของเราคือแช่น้ำร้อนที่ บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน ค่ะ โดยได้พี่เจ้าของร้านโรตีโทรเรียกวินมอร์ไซต์ให้คนละคัน ราคา 60฿/คน พอไปถึงบ่อน้ำพุก็ขอเบอร์พี่เค้าไว้เวลาจะกลับด้วย พี่เค้าบอกว่าที่นี่หารถยาก
บ่อน้ำร้อนรักษะวารินเป็นน้ำพุร้อนธรรมชาตินะคะ โดยมีอยู่ 3 บ่อ คือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูกสาว แต่อันที่เราแช่กันคือบ่อที่สร้างขึ้น แล้วดึงน้ำจากบ่อธรรมชาติลงไปค่ะ ที่นี่ฟรีนะคะ
ว้าว ควันพวยพุ่งเลย ลืมบอกไปว่าอากาศยามเช้าที่นี่สดชื่นมาก เย็นสบายสุดๆเลย แล้วยังได้ไปแช่บ่อน้ำร้อน โอ๊ย ฟิน
อ้อ ถ้าใครจะมาเเนะนำให้มาตอนเช้าคนจะน้อยกว่านะคะ เป็นส่วนตัวสุดๆ
มีทริคนิดนึงค่ะ พี่วินเขาบอกมา คือตอนแรกให้จุ่มลงไปนิ่งแค่ขา รอให้ปรับตัวสัก 3 นาที แล้วค่อยถึงเอว รออีก 3 นาที ก็ทั้งตัวเลยค่ะ แรกลงไปนิ่งๆนะคะ ถ้าขยับมากจะร้อน ปรับตัวได้ค่อยขยับเนอะ แช่ประมาณ 15 นาทีก็พอนะคะ
หลังจากแช่น้ำกันจนพอใจเเล้วเราก็เปลี่ยนชุดไปนอนเล่นที่ศาลาค่ะ คือพื้นมันเป็นปูนที่ข้างล่างมีน้ำร้อนไหลผ่านตลอด มันก็เลยอุ่น แม่เราชอบมาก นางเอาผ้าปูเเล้วก็หลับไปเลย บอกว่าสบายตัวหายปวดเมื่อยดี
หลังจากนั้นก็ได้เวลากินค่ะ ประมาณ 11 โมง คือความจริงยังไม่หิว แต่ได้ยินว่าจะปิดถนน bike for dad ตอนบ่าย 2 เลยตกลงกันว่ากินแล้วกลับไปนอนเล่นที่โรงเเรมดีกว่า เราก็เอาเลยค่ะ ร้านตรงข้ามบ่อน้ำร้อนเลย ร้านคุ้นลิ้น ก็สั่งส้มตำปูม้ากับปลาฮาลิบัต(?)นึ่งบ๊วยไป คืองงกับชื่อปลามาก ไม่รู้จัก ถึงกับต้องเสิร์ชอากู๋ เพราะมันอร่อย สรุปคือมันคล้ายๆปลาหิมะค่ะ เนื้อสีขาว มาจากทะเลน้ำเย็น เนื้อเลยนิ่มเพราะมีไขมันแทรกเยอะ ตามด้วยของหวาน ขนมโอ๊ะเอ๋ว เกิดมาพึ่งเคยได้ยินชื่อ เป็นขนมของภูเก็ตค่ะ คล้ายน้ำแข็งใส มีวุ้นที่ได้จากเมล็ดโอ๊ะเอ๋ว เหมือนวุ้นที่หนืดหนุบๆหน่อย และมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ อธิบายไม่ถูก ต้องลองเอง อร่อยค่ะ รวมมื้อนี้ 460฿ ค่ะ
แล้วก็โทรเรียกรถมารับไปโรงแรมค่ะ ราคา 60฿/คน เหมือนเดิม พอไปถึงสิ่งเเรกที่ทำคือนอนค่ะ ก็พอเที่ยงมันเริ่มร้อน กลับมานอนตากแอร์เย็นๆเอาแรงดีกว่า แล้วค่อยออกไปสำรวจตอนเย็น
แถวนั้นตอนเย็นจะมีร้านอาหารทั้งห้องแถว แผงลอย รถเข็นขายเต็มเลยค่ะ ไม่อดตายแน่นอน เรากับแม่เดินเล่นไปเรื่อยๆก่อนค่ะ ยังไม่ค่อยหิว ระหว่างทางก็เล็งร้านไปด้วย ว่าอันไหนน่ากิน เดินไปจนถึงตลาดผลไม้พม่า ส่วนใหญ่ขายส่งนะคะ แต่ปลีกก็มีบ้าง ซื้อกล้วยมาเป็นหวีเลย แล้วก็มะพร้าวอีกคนละลูก มะพร้าวที่นี่หอมใช้ได้เลยค่ะ
มะพร้าวหมดไปคนละลูกก็เดินกลับ ผ่านร้านของทอดกับเบอร์เกอร์ที่อยู่ติดกัน ก็สะดุดกับชื่อร้าน กะโป๊ะ(?) มันคือข้าวเกรียบปลาค่ะ มีแบบหนากับบาง แบบบางจะกรอบกว่า แต่ไม่อมน้ำมันทั้งคู่ค่ะ แล้วน้ำมันที่ใช้ทอดก็ใสสะอาดดี กินกับน้ำจิ้มสีส้มๆ แล้วก็สั่งเบอร์เกอร์ร้านข้างๆอีก มีเนื้อให้เลือกเยอะมาก จำไม่ได้ 555 อันละ 50฿ อร่อยดีค่ะ อิ่มด้วย อันใหญ่เลยล่ะ
แล้วก็เดินต่อไปมาเจอร้านน้ำเต้าหู้ เลยเอาคนละ 2 ถุงไปใส่ตู้เย็นกินตอนเช้า แล้วเราก็สั่งเต้าฮวยน้ำขิงมากิน ที่นี่เค้าจะไม่มีปาท่องโก๋กรอบๆนะคะ มีแบบตัวใหญ่เลยวางไว้บนโต๊ะ ของแม่เป็นเต้าทึงเย็น กินคู่กับชาจีนโบราณหอมๆ
จุดหมายสุดท้ายก่อนกลับคือ 7-11 ตุนอาหารเก็บใส่ตู้เย็น กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะ ซึ่งระหว่างทางผ่าน 2-3 ร้านได้ ทุกมุมถนนจริงๆ
จบไปแล้วค่ะกับวันแรก slow life @ Ranong รีบกลับไปนอนเอาแรงต่อสู้กับพรุ่งนี้ดีกว่า Fighto!!!
มารอดูกันว่าการดำน้ำครั้งแรกในชีวิตของแม่เราจะเป็นยังไง นางฝากบอกว่ามันเด็ดมาก 555