รีวิว_ทุกสิ่งที่ต้องรู้กันไปเรียนต่างประเทศ / วิธีสอบ IELTS แบบคนไม่เก่ง

Intro
          เริ่มต้นจากความรู้สึกที่ว่า “เมืองนอกมันไปยากหวะ” คือมันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่มันเป็นเรื่องของเวลา โอกาส แล้วความสามารถทางภาษาต่างๆนาๆ  ยิ่งสำหรับคนที่ไม่ได้รวยมาก มันคือการเทหน้าตักจริงๆ ยิ่งอายุเริ่มใกล้ 30 ด้วยโอกาสมันยิ่งเล็กลงๆ  ผมเข้าใจว่าคนที่รู้สึกแบบนี้ในบ้านเรามันน่าจะมีอยู่เยอะ เลยยากมาตั้งกระทู้ ช่วยเหลือคนอื่นในด้านข้อมูลบ้าง เพราะรีวิวส่วนใหญ่ จะมาจากน้องๆที่ยังเรียนอยู่ หรือเพิ่งเรียนจบ มุมมองแบบคนทำงานมัน (ที่ไม่ค่อยมีตัง และไม่เก่งภาษา) เลยขาดไป

           คนที่อ่านแล้วน่าจะได้ประโยชน์ที่สุด คือ คนที่ทำงานแล้ว และมองหาโอกาสการศึกษาต่างประเทศ แต่ติดปัญหาทางภาษาหรือ ไม่มี know how เลยว่า เค้าไปกันยังไงบ้าง   ผมจะพยายามเอาข้อมูลมาเล่าให้ฟังนะครับ ว่าเค้าทำอะไรกันบ้างกว่าจะมาถึงตรงนี้  ทั้ง การเตรียมตัวเตรียมใจ / การเลือกประเทศ / การเตรียมสอบ IELTS/การสอบ IELTS/หลังสอบเสร็จ/การหาที่เรียน/ทำ visa  ในส่วนหลังๆอาจจะเกี่ยวข้องเฉพาะแต่คนที่ไป ออสเตรเลียนะครับ  ยังไงตต้องขอบอกก่อนว่าสิ่งที่เขียนอยู่นี้ มันมาจากความเห็นของผมเองล้วนๆ ซึ่งอาจจะไม่ต้องกับบางท่านที่เคยเขียนมาก่อนหน้านี้ รวมถึงขออภัยล่วงหน้าหากมีบางช่วงบางตอนที่พิมพ์ตกหล่น หรือสะกดผิดไปบ้าง ขอบคุณครับ



Passion & Risks
    สิ่งที่รู้สึกอย่างแรกก่อนเลยคือมันต้อง “อยากไป” อย่างตัวผมเองผมมีความรู้สึกว่า ผมเจอ เพดาน ในการทำงานของผมเองแล้ว ด้วยตำแหน่งที่มันค่อนข้างตัน อยากบินสูงกว่าเดิม ภาษามันต้องมา  ดังนั้นการไปเมืองนอกนี่แหละที่เป็นกุญแจของเราอีกอย่างนึง  ส่วนของคนอื่นอาจจะไม่เหมือนกัน แต่มีต้องมี passion ก่อนแหละ ไม่ว่าจะทำอะไร

       แต่ชีวิตไม่มีก้าวไหนที่ไม่เสี่ยง  ปัจจัยอะไรบ้างหละ ที่เสี่ยง เมื่อเลือกไปเรียนต่างประเทศ คิดเรื่องพวกนี้ให้ได้ก่อน ที่จะก้าวต่อไป

-    แน่ๆเลยคือเวลา ยิ่งคนที่ทำงานแล้ว ระหว่างที่หายไป ปี-สองปีนี้ ภาระอะไรบ้างที่ต้องทิ้งไป พ่อ-แม่  สัตว์เลี้ยง ค่าผ่อนต่างๆนาๆ เคลียร์ตัวเองให้ดี หาทางออกให้ได้
-    เงิน เอาตรงๆเลย ไม่มีตังจะไปได้ยังไง ยิ่งถ้าไม่เก่งนี่ยากจริงๆ แถมไม่มีอะไรการันตีว่ากลับมาแล้วการงานจะดีกว่าเดิมรึเปล่า  แถมการขอ VISA  ส่วนใหญ่ ต้องมี statement อีก
-    ความสัมพันธ์ ใครมีคู่แล้วต้องจัดการกันดีๆ ยิ่งถ้าเราหายไปปีสองปีแบบนี้ แต่ถ้ามั่นใจ อะไรก็ไม่ต้องกลัว

Target
    เมื่อเคลียร์ตัวเองได้แล้ว  ต่อมาก็ล๊อคเป้าเลย จะไปที่ไหน   ใน mindset ของผม ผมเรียงลำดับความสำคัญตามนี้นะ



1.    งบ ค่าครองชีพ และระยะเวลา
เงินจะเป็นตัวกำหนด ระยะเวลาของคุณที่นั้น ลองเช๊คตัวเองว่ามีเงินเก็บเท่าไหร่ สปอนเซอให้ได้เท่าไหร่  ไปอยู่ที่นู้นแล้วต้องใช้จ่ายเท่าไหร่ บางที่ทำงานได้ บางที่ไม่ให้ทำงาน (visaนักเรียน สิงคโปร์ไม่ให้ทำงาน)
ข้อดีเล็กๆ ของการเรียน ปตท. คือ website เค้าค่อนข้างละเอียด ว่าต้องเรียนเท่าไหร่ยัง ค่าเทอมท่าไหร่ มันทำให้เราวางแผนง่ายนะ บางที่ทำตาราง budget สำหรับ inter student เลยด้วยซ้ำ ของบ้านเรานี้เข้าไปแล้วต้องมๆหานิดนึง สงสาร ต่างชาติที่ต้องมาเรียนบ้านเราเหมือนกัน 555

ส่วนใคร ที่ไปแค่เรียนภาษา ลองขอ ราคาจากเอเจ้นดูได้ก่อนเลย จิ้มๆดูเลยๆที่ เก็บไว้เป็นข้อมูล
  
2.    คุณภาพการศึกษา ในสาขานั้นๆ
บางประเทศจะมีชื่อด้านการศึกษาในด้านต่างๆ (ผิดถูกช่วยท้วงด้วยนะข้อนี้ผมไม่ค่อยชัวร์) เช่น  ด้านการโรงแรม ก็ต้องออสเตรเลีย  ด้านโลจิสติกต้องเยอรมัน ด้านจิตวิทยาต้องสิงคโปร์ ด้านออกแบบและแฟชั่นต้องฝรั่งเศส

3.    สภาพสังคม สภาพอากาศ
ข้อนี้อารมณ์ล้วนๆ ผมเลยจัดไว้อย่างสุดท้าย  ส่วนตัวผมชอบ เมืองใหญ่ๆแต่ไม่ใหญ่ที่สุด ไม่หนาวมาก แถมมีฟุตบอลให้ดู ผมเลยเลือกบริสเบน  เพราะบริสเบนมีทีมนี้...

BRISBANE ROAR



ป.ล. สำหรับคนที่เรียนเก่ง และภาษาได้ระดับดี (IELTS 6.5-7.0) มันจะมีทุนประจำปีที่เขาให้กับประเทศเราแจก (ตรงนี้ใครมีมาช่วยกันแชร์นะ)

ทุน daad ของเรียนฟรีของ เยอรมัน
https://www.daad.org/scholarship

ทุน Endeavour ของออสเตรเลียร์
https://internationaleducation.gov.au/Endeavour%20program/Scholarships-and-Fellowships/Pages/default.aspx
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่