วันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 12.30 น. ดิฉันได้เข้าไปติดต่อทำบัตรประชาชน ณ ที่ว่าการอำเภอแห่งหนึ่งในจังหวัดพะเยา เป็นอำเภอที่มีชื่อเป็นดอกไม้สีเหลือง ต้นมีหนามเล็กๆ
แต่เนื่องจากบัตรอยู่ในกรณีสูญหายเจ้าหน้าที่เลยบอกกับดิฉันว่าต้องมีผู้เซ็นรับรอง เป็นผู้ใหญ่บ้านกับผู้ช่วยเท่านั้น ดิฉันจึงเรียนถามว่า เจ้าบ้านไม่ได้หรอคะ ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า ไม่ได้ค่ะ ถ้าจะเอาคนอื่นมาเซ็นแทนก็รอคุยกับปลัดเองท่านจะเข้ามาบ่าย ดิฉันจึงมองนาฬิกา อืมม.. อีกตั้งครึ่งชั่วโมง จะรอมันก็ได้อยู่นะ แต่ฉันจะเสียเวลาทำไม เจ้าหน้าที่อาจจะไม่รู้จริงๆก็ได้ งั้นลองโทรไปถามกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทยดีกว่า ก็ได้รับคำตอบมาเป็นอย่างดีค่ะว่าเจ้าบ้านเซ็นรับรองแทนได้ ใช้เอกสาร/บัตร ที่ทางราชออกให้ก็ได้ พร้อมกับสำเนาทะเบียนบ้าน ดิฉันจึงตัดสินใจกลับบ้านก่อนแล้วคิดว่าช่วงบ่ายค่อยกลับมาอีกทีละกันแต่ยังไงวันนี่ก็อยากจะทำให้เสร็จเพราะไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินใดใดได้เลยเงินติดตัวก็มีอยู่200 โธ่
เวลา 14.30 น. ดิฉันจึงตัดสินใจกลับมาที่ว่าการอำเภออีกครั้งพร้อมกับเจ้าบ้านของดิฉัน ก็เจอเจ้าพนักงานคนเดิม ก็มองดิฉันอย่างเบื่อๆแล้วพูดกับเจ้าพนักงานอีกคนว่า ตะกี้ก็มาก็บอกว่าให้เอาผู้ใหญ่หรือผู้ช่วยมาเซ็นแทน นี่ก็คิดในใจ อ่าวก็เพิ่งโทรไปถามกรมการปกครองมานะเว้ย กระทรวงมหาดไทยเลยนะเว้ย แล้วเจ๊แกก็หันมาบอกว่า ทำไม่ได้นะคะ บอกแล้วว่าถ้าจะให้คนอื่นเซ็นแทนต้องรอคุยกับปลัดตอนบ่าย แต่น้องเค้าก็ไม่รอ(พูดกับคุณปู่) แล้วตอนนี้ปลัดท่านก็ออกไปแล้วด้วยไปเปลี่ยนเสื้อผ้าจะมาร่วมงานที่อำเภอตอน4โมงค่ะ ดิฉันก็คิด เอ้าาาาาา นี่มันเพิ่งบ่ายสองครึ่ง ปลัดเข้างานบ่าย ออกไปก่อนบ่ายสองครึ่งแล้วงานเริ่มตั้ง4โมง โอโห เวลาราชการนี่หว่า แล้ววันนึงนี่ท่านทำงานวันละกี่ชั่วโมง แล้วประชาชนอย่างดิฉันจะทราบเวลาทำงานที่แน่นอนของท่านได้อย่างไรล่ะตะ ตอนนั้นคือโมโหมาก แต่คุณปู่ท่านไม่อยากให้มีปัญหาเลยตัดสินใจกลับ สรุปวันนั้นคือเสียเวลาและเสียความรู้สึกมาก แต่ก็คิดว่าเออช่างเถอะรออีกวันจะเป็นไร
17 ธ.ค. 2558
วันนี้ดิฉันมาพร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านค่ะการทำบัตรประชาชนจึงผ่านไปด้วยดีได้บัตรเรียบร้อยแต่เมื่อถึงเวลาเก็บค่าธรรมเนียมเรียเก็บดิฉันในอัตรา50บาท ดิฉันชะงักไปครู่นึงก็เมืาอวานเพื่อนมันบอก20บาทนิแต่ก๋ไม่อยากเถียงอะไรเพราะญาติพี่น้องก็ทำงานในนั้นเยอะคนรู้จักแม่อีก ถ้ามาวีนในนี้คงไม่งาม จึงยอมจ่ายโดยให้ธนบัตร100บาทไป จึงได้เงินทอนมา50บาทแถมยังไม่มีใบเสร็จรับเงินอีกต่างหาก ก็คิดในใจอืมม โดนละ หรือเค้ามองว่าประชาชนคือชาวบ้านตาดำๆ ไม่มีความรู้ เลยทำแบบนี้ แล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกค่ะเพราะแม่ก็บอกว่าเป็นแบบนี้มานานแล้ว ชาวบ้านที่มารับบริการก็จ่ายเงินให้โดยไม่ทักท้วงอะไรเลยเจ้าพนักงานก็เก็บเงินกันปกติจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากกลับบ้านดิฉันก็ตั้งสเตตัสเฟสเชิงสงสัยเบาๆเกี่ยวกับอัตราค่าธรรมเนียมการทำบัตรประชาชนกรณีบัตรสูญหาย หลายคนก็บอกว่า จ่ายแค่20เท่านั้นแถมยังมีใบเสร็จรับเงินจากทางราชการ บางคนก็บอกว่า 30แต่ดิฉันสิคะโดนไป50 ภายใต้ท้องฟ้าเดียวกัน บนผืนแผ่นดินเดียวกัน ระบอบการปกครองเดียวกัน แต่ทำไมการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างกัน หรือว่าเราใช้กฎหมายคนละฉบับกันล่ะคะ?
คิดแล้วก็ได้แต่สงสัย ไอ่เงิน30บาทของเรามันจะไปอยู่ไหนนะ ทำไมไม่ให้ใบเสร็จรับเงินล่ะโปร่งใสมากแค่ไหนล่ะ และทำแบบนี้เป็นปรกตินิสัยหรืออย่างไรทำไมเจ้าพนักถึงได้เก็บเงินประชาชนแบบนี้อย่างหน้าตาเฉย
หลังจากนั้นจึงได้กลับไปเปิดหาข้อมูลเกี่ยวกับกฎกระทรวงเรื่องค่าธรรมและการยกเลิกค่าธรรมเนียมในการทำบัตรประชาชน พ.ศ.2555 ก็ทำให้ทราบว่าที่จริงแล้ว ค่าธรรมเนียมในการทำบัตรประชาชนกรณีสูญหายเรียกเก็บ เพียงแค่ฉบับละ 20 บาทเท่านั้น
ดิฉันไม่ได้มองว่าตัวเองคือปัญญาชนหรืออะไร แต่กระทู้นี้ในฐานะของประชาชนธรรมดาคนนึงที่เห็นว่าการทุจริตเล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นในสังคมไทย มันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วจริงๆ เงิน30บาทมันอาจจะเล็กน้อยสำหรับใครๆ แต่สำหรับชาวบ้านหาเช้ากินค่ำธรรมดามันอาจจะเป็นเงินที่เค้าใช้ประทังชีพในแต่ละมื้อ เมื่อไหร่ประเทศไทยของเราจะพัฒนา ไม่ได้หมายถึงความเจริญหรือออะไรแต่หมายถึงระดับจิตใจของเห่าข้าราชการหรือผู้บริหารประเทศของเรานี่แหละ
ทุจริตเล็กๆน้อยๆ เรียกเก็บค่าทำบัตรประชาชน 50 บาท ไม่มีใบเสร็จรับเงินจากทางราชการ
แต่เนื่องจากบัตรอยู่ในกรณีสูญหายเจ้าหน้าที่เลยบอกกับดิฉันว่าต้องมีผู้เซ็นรับรอง เป็นผู้ใหญ่บ้านกับผู้ช่วยเท่านั้น ดิฉันจึงเรียนถามว่า เจ้าบ้านไม่ได้หรอคะ ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า ไม่ได้ค่ะ ถ้าจะเอาคนอื่นมาเซ็นแทนก็รอคุยกับปลัดเองท่านจะเข้ามาบ่าย ดิฉันจึงมองนาฬิกา อืมม.. อีกตั้งครึ่งชั่วโมง จะรอมันก็ได้อยู่นะ แต่ฉันจะเสียเวลาทำไม เจ้าหน้าที่อาจจะไม่รู้จริงๆก็ได้ งั้นลองโทรไปถามกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทยดีกว่า ก็ได้รับคำตอบมาเป็นอย่างดีค่ะว่าเจ้าบ้านเซ็นรับรองแทนได้ ใช้เอกสาร/บัตร ที่ทางราชออกให้ก็ได้ พร้อมกับสำเนาทะเบียนบ้าน ดิฉันจึงตัดสินใจกลับบ้านก่อนแล้วคิดว่าช่วงบ่ายค่อยกลับมาอีกทีละกันแต่ยังไงวันนี่ก็อยากจะทำให้เสร็จเพราะไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินใดใดได้เลยเงินติดตัวก็มีอยู่200 โธ่
เวลา 14.30 น. ดิฉันจึงตัดสินใจกลับมาที่ว่าการอำเภออีกครั้งพร้อมกับเจ้าบ้านของดิฉัน ก็เจอเจ้าพนักงานคนเดิม ก็มองดิฉันอย่างเบื่อๆแล้วพูดกับเจ้าพนักงานอีกคนว่า ตะกี้ก็มาก็บอกว่าให้เอาผู้ใหญ่หรือผู้ช่วยมาเซ็นแทน นี่ก็คิดในใจ อ่าวก็เพิ่งโทรไปถามกรมการปกครองมานะเว้ย กระทรวงมหาดไทยเลยนะเว้ย แล้วเจ๊แกก็หันมาบอกว่า ทำไม่ได้นะคะ บอกแล้วว่าถ้าจะให้คนอื่นเซ็นแทนต้องรอคุยกับปลัดตอนบ่าย แต่น้องเค้าก็ไม่รอ(พูดกับคุณปู่) แล้วตอนนี้ปลัดท่านก็ออกไปแล้วด้วยไปเปลี่ยนเสื้อผ้าจะมาร่วมงานที่อำเภอตอน4โมงค่ะ ดิฉันก็คิด เอ้าาาาาา นี่มันเพิ่งบ่ายสองครึ่ง ปลัดเข้างานบ่าย ออกไปก่อนบ่ายสองครึ่งแล้วงานเริ่มตั้ง4โมง โอโห เวลาราชการนี่หว่า แล้ววันนึงนี่ท่านทำงานวันละกี่ชั่วโมง แล้วประชาชนอย่างดิฉันจะทราบเวลาทำงานที่แน่นอนของท่านได้อย่างไรล่ะตะ ตอนนั้นคือโมโหมาก แต่คุณปู่ท่านไม่อยากให้มีปัญหาเลยตัดสินใจกลับ สรุปวันนั้นคือเสียเวลาและเสียความรู้สึกมาก แต่ก็คิดว่าเออช่างเถอะรออีกวันจะเป็นไร
17 ธ.ค. 2558
วันนี้ดิฉันมาพร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านค่ะการทำบัตรประชาชนจึงผ่านไปด้วยดีได้บัตรเรียบร้อยแต่เมื่อถึงเวลาเก็บค่าธรรมเนียมเรียเก็บดิฉันในอัตรา50บาท ดิฉันชะงักไปครู่นึงก็เมืาอวานเพื่อนมันบอก20บาทนิแต่ก๋ไม่อยากเถียงอะไรเพราะญาติพี่น้องก็ทำงานในนั้นเยอะคนรู้จักแม่อีก ถ้ามาวีนในนี้คงไม่งาม จึงยอมจ่ายโดยให้ธนบัตร100บาทไป จึงได้เงินทอนมา50บาทแถมยังไม่มีใบเสร็จรับเงินอีกต่างหาก ก็คิดในใจอืมม โดนละ หรือเค้ามองว่าประชาชนคือชาวบ้านตาดำๆ ไม่มีความรู้ เลยทำแบบนี้ แล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกค่ะเพราะแม่ก็บอกว่าเป็นแบบนี้มานานแล้ว ชาวบ้านที่มารับบริการก็จ่ายเงินให้โดยไม่ทักท้วงอะไรเลยเจ้าพนักงานก็เก็บเงินกันปกติจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากกลับบ้านดิฉันก็ตั้งสเตตัสเฟสเชิงสงสัยเบาๆเกี่ยวกับอัตราค่าธรรมเนียมการทำบัตรประชาชนกรณีบัตรสูญหาย หลายคนก็บอกว่า จ่ายแค่20เท่านั้นแถมยังมีใบเสร็จรับเงินจากทางราชการ บางคนก็บอกว่า 30แต่ดิฉันสิคะโดนไป50 ภายใต้ท้องฟ้าเดียวกัน บนผืนแผ่นดินเดียวกัน ระบอบการปกครองเดียวกัน แต่ทำไมการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างกัน หรือว่าเราใช้กฎหมายคนละฉบับกันล่ะคะ?
คิดแล้วก็ได้แต่สงสัย ไอ่เงิน30บาทของเรามันจะไปอยู่ไหนนะ ทำไมไม่ให้ใบเสร็จรับเงินล่ะโปร่งใสมากแค่ไหนล่ะ และทำแบบนี้เป็นปรกตินิสัยหรืออย่างไรทำไมเจ้าพนักถึงได้เก็บเงินประชาชนแบบนี้อย่างหน้าตาเฉย
หลังจากนั้นจึงได้กลับไปเปิดหาข้อมูลเกี่ยวกับกฎกระทรวงเรื่องค่าธรรมและการยกเลิกค่าธรรมเนียมในการทำบัตรประชาชน พ.ศ.2555 ก็ทำให้ทราบว่าที่จริงแล้ว ค่าธรรมเนียมในการทำบัตรประชาชนกรณีสูญหายเรียกเก็บ เพียงแค่ฉบับละ 20 บาทเท่านั้น
ดิฉันไม่ได้มองว่าตัวเองคือปัญญาชนหรืออะไร แต่กระทู้นี้ในฐานะของประชาชนธรรมดาคนนึงที่เห็นว่าการทุจริตเล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นในสังคมไทย มันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วจริงๆ เงิน30บาทมันอาจจะเล็กน้อยสำหรับใครๆ แต่สำหรับชาวบ้านหาเช้ากินค่ำธรรมดามันอาจจะเป็นเงินที่เค้าใช้ประทังชีพในแต่ละมื้อ เมื่อไหร่ประเทศไทยของเราจะพัฒนา ไม่ได้หมายถึงความเจริญหรือออะไรแต่หมายถึงระดับจิตใจของเห่าข้าราชการหรือผู้บริหารประเทศของเรานี่แหละ