วิมานพาลพยศ (ชื่อเดิม วิมานอัปยศ) ตอนที่ 3

กระทู้สนทนา
มีคนเสนอให้เปลี่ยนชื่ออ่ะครับ พิจารณาแล้วเห็นว่าเหมาะสมดี จึงเปลี่ยนครับ

วิมานพาลพยศ ตอนที่ 3

หลังจากคุยกับนวลจันทร์ครั้งที่สองแล้ว วิภารีบเรียกบุหงาเข้ามาในห้องของหล่อน แล้วรีบสั่งการให้บุหงาไปแจ้งเรื่องบางอย่างให้พลอยรู้

หลังจากนั้นวิภาก็รีบไปหาดิเรก หล่อนบอกให้ดิเรกทราบว่าก่อนรับประทานอาหารกลางวัน นวลจันทร์จะแนะนำพลอยต่อทุกคน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้ดิเรกอดทนกับสิ่งที่นวลจันทร์จะบอกกับทุกคน ดิเรกเข้าใจสถานการณ์ดี แต่สีหน้าของเขาดูไม่ดีเลย

“เราต้องผ่านวันนี้ไปให้ได้นะคะ เพราะเราตัดสินใจที่จะทำอย่างนี้แล้ว”

ดิเรกไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่เขาหน้าซีดมาก เขามีความกลัวอยู่ในใจหลายอย่าง เขารู้ว่านวลจันทร์ไม่พอใจเขาหลายเรื่อง ในฐานะที่เขาเป็นลูกชายคนโต เขาน่าจะทำให้นวลจันทร์สมหวังมากกว่านี้ ตั้งแต่เด็ก นวลจันทร์พยายามจะเข้ามาก้าวก่ายชีวิตของเขาในทุกๆเรื่อง ถึงขั้นที่จะขีดเส้นทางชีวิตให้เดิน

เขาไม่ชอบวิถีชีวิตแบบนี้เลย เขาอึดอัดตลอดเวลาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถบอกความรู้สึกเหล่านี้ให้ใครรับรู้ได้ การบังคับของนวลจันทร์มีข้อดีอยู่เพียงอย่างเดียวคือการที่บังคับให้เขาแต่งงานกับวิภา บริพนธ์ ดิเรกคิดว่าวิภาเข้าใจเขาหลายอย่าง และไม่คิดที่จะทอดทิ้งเขา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ทุกวันนี้เขารู้สึกว่าศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของเขาหายไปหมด เขาอยากทำงานที่ตัวเองชอบ แต่นวลจันทร์บังคับเขาให้มาดูแลกิจการของมุขจรินทร์ เขาไม่ชอบเอาเสียเลย แต่ก็ต้องฝืนใจทำ จนเขารู้สึกว่าเขาทำให้ธุรกิจของครอบครัวขาดทุนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นวลจันทร์จึงบังคับให้เขาออกจากงานมาอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย แต่การมีชีวิตอยู่แบบกินเงินกงสีของตระกูลทำให้เขารู้สึกว่าเขาหมดศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายไปแล้ว

ทุกวันนี้คนที่ทำให้เขารู้สึกว่ายังเป็นลูกผู้ชายอยู่ก็คือวิภา หล่อนไม่เคยดูถูกหรือเหยียดหยามเขาเลย และพยายามอย่างมากที่จะเป็นสะใภ้ที่ดีของมุขจรินทร์ ดิเรกไม่แน่ใจว่าผู้หญิงทุกคนที่แต่งงานต้องเอาใจแม่สามีถึงขนาดนี้ไหม ทุกวันที่วิภาเข้ามาอยู่ในบ้านมุขจรินทร์ หล่อนพยายามอย่างเต็มที่ๆจะเป็นลูกสะใภ้ที่ดีของนวลจันทร์ แต่บางครั้ง มันก็ช่างยากเย็นเข็ญใจจริงๆ

เขาจึงรู้สึกเห็นใจหล่อนมาก จึงให้ความรักความอบอุ่นกับหล่อนอย่างเต็มที่เท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะให้กับผู้หญิงคนหนึ่งได้ แต่วันนี้เขารู้สึกทรมานใจมากที่เรื่องราวของเขากับวิภาและสุนิตย์กำลังจะถูกประจานต่อหน้าคนในครอบครัวเพียงแค่พวกเขาตัดสินใจรับพลอยมาอยู่ร่วมชายคาบ้านด้วย

เขาไม่แน่ใจว่าพลอยกับวิภาจะรู้สึกยังไง แต่สำหรับเขา เขารู้สึกเสียใจมากที่ไม่สามารถปกป้องความรู้สึกของเมียและลูกได้ อรทัยเองก็ถอดแบบมาจากนวลจันทร์ ส่วนอาทิตย์ก็ถูกนวลจันทร์ประคบประหงมยิ่งกว่าไข่ในหิน เขาเป็นห่วงอาทิตย์มาก เพราะพอจะเข้าใจว่าอาทิตย์จะรู้สึกอย่างไร เขารู้สึกเสียใจมากที่ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านี้

บุหงาเองก็รีบไปบอกกับพลอยว่า พลอยจะถูกเรียกตัวไปพบคนของบ้านมุขจรินทร์ก่อนเที่ยง ไม่ว่านวลจันทร์จะพูดอะไรแย่ๆเกี่ยวกับหล่อนและแม่ของหล่อน บุหงาเน้นให้หล่อนต้องอดทนเข้าไว้ อย่าตอบโต้อะไรออกไปทั้งสิ้น

“เชื่อพี่นะพลอย แล้วทุกอย่างมันจะดีเอง”

พลอยพยักหน้า แต่หล่อนไม่เชื่อว่าทุกอย่างมันจะดีเอง หล่อนคิดว่าทุกอย่างมันน่าจะเลวร้ายลง และถ้ามันถึงที่สุดจริงๆ หล่อนก็คงต้องไปจากที่นี่ และจะไม่กลับมาอีก แต่วันนี้หล่อนก็พอจะรู้ตัวว่าหล่อนยังไม่พร้อมที่จะมีชีวิตอยู่เองตามลำพัง เพราะฉะนั้นหล่อนต้องผ่านวันนี้ไปให้ได้ เพื่อชีวิตที่ดีกว่าในภายภาคหน้า

............................................................

พอถึงเวลานัดหมาย คนในตระกูลมุขจรินทร์มาพร้อมกันในห้องรับแขกใหญ่ โดยคนที่นั่งตรงโซฟาชุดกลางคือนวลจันทร์ วิภา ดิเรก อาทิตย์และอรทัย ส่วนโซฟาชุดที่อยู่ทางขวามีดำเกิง น้องชายคนรองของดิเรกกับนีรนุช ภรรยาของเขา ซึ่งมาจากตระกูลนฤบดินทร์ ส่วนโซฟาทางซ้ายเป็นที่นั่งของดิลก น้องชายคนสุดท้องกับศรีจิตรา

บุหงาพาพลอยมาตามเวลานัด พอนวลจันทร์พร้อมแล้ว จึงบอกให้คนรับใช้เปิดประตูให้พลอยเดินมาข้างใน พลอยก้าวเดินอย่างปกติที่สุด แต่ที่หล่อนรู้สึก มันคล้ายกับหล่อนเป็นซากศพที่ค่อยๆเดินไปให้ฝูงแร้งคอยแทะกิน พอเดินมาถึงจุดที่หล่อนคิดว่าควรจะหยุดได้แล้ว หล่อนจึงหยุดยืนอยู่ตรงนั้น และมองไปที่ผู้หญิงคนที่หล่อนคิดว่าคือนวลจันทร์ คุณย่าของหล่อน

นวลจันทร์เริ่มออกโรงทันทีเหมือนกับละครเวทีเริ่มเปิดม่าน

“นี่คือสมาชิกใหม่ของที่นี่ หล่อนชื่อพลอย หล่อนเป็นลูกของดิเรกกับโสเภณีคนหนึ่ง”

คนในบ้านมุขจรินทร์ไม่ค่อยจะตกใจกันมากนักเพราะพอจะรู้เรื่องราวต่างๆกันมาบ้างแล้ว

พลอยเองรู้สึกแย่มากที่นวลจันทร์แนะนำว่าแม่ของหล่อนเป็นโสเภณี หล่อนพยายามทำใจแข็งเพราะไม่อยากให้คนพวกนี้เห็นน้ำตาของหล่อน

“สมัยหนุ่มๆดิเรกก็เที่ยวบ้างตามประสาคนหนุ่ม จนไปทำให้โสเภณีคนหนึ่งท้องขึ้นมา ตอนนี้โสเภณีคนนั้นได้ตายไปแล้ว ดิเรกกับวิภาเลยอยากเอาพลอยมาเลี้ยงดูต่อไป เพราะอย่างน้อยในตัวของเด็กคนนี้ก็มีเลือดมุขจรินทร์อยู่ครึ่งหนึ่ง ถึงแม้ว่าอีกครึ่งหนึ่งจะเป็นเลือดชั่วๆของแม่มัน”

พอแล้ว ... เมื่อไหร่จะพอสักที

วิภาได้แต่ตะโกนร้องอยู่ในใจ หล่อนรับไม่ได้กับการปั้นน้ำเป็นตัวของนวลจันทร์

ดิเรกเองก็สงสารพลอยจับใจ แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้

คนที่เป็นเดือดเป็นแค้นกับเรื่องนี้มากคืออรทัย แต่หล่อนก็ต้องเก็บความไม่พอใจไว้ในใจ เพียงแค่เห็นหน้าพลอย หล่อนก็ไม่ถูกชะตากับพี่สาวต่างมารดาคนนี้ซะแล้ว

“พลอยจะอยู่ที่ตึกเล็ก ฉันจะเลี้ยงดูพลอยเหมือนกับเด็กรับใช้คนหนึ่งของบ้าน ถึงจะมีสายเลือดของดิเรก แต่พลอยจะมาตีตัวเสมอตาอ้นกับยัยอรไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หล่อนจะต้องพึงสังวรณ์ไว้ ถ้าจะอยู่ที่นี่ สิ่งที่หล่อนจะต้องรู้ไว้คือจะต้องรู้จักที่ต่ำที่สูง ต้องรู้ว่าใครเป็นใคร ถ้าทำตัวแบบนี้ได้ ก็คงอยู่ร่วมชายคาเดียวกันได้”

ไม่นานนักพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ก็จบลงด้วยความสะใจของนวลจันทร์ หล่อนเริ่มเห็นด้วยกับวิภา การนำพลอยมาอยู่ใกล้ตัวจะสามารถแก้แค้นได้สะใจกว่า
..............................
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่