หลังจากจบฤดูกาล 2558 บทสรุปวงการฟุตบอลไทยทั้งไทยพรีเมียร์ลีก ดิวิชั่น 1 และลีกภูมิภาค เราก็ได้เห็นทีมเลื่อนชั้นตกชั้นกันเป็นสิ่งปกติของวงการฟุตบอล เล่นดีก็ขึ้นชั้น เล่นแย่ก็ตกชั้น ทีมขึ้นชั้นก็ต้องเสริมทีม ตกชั้นก็ต้องฟอร์มทีมขึ้นมาใหม่ อาจต้องขายซุปเปอร์สตาร์เพื่อลดค่าใช้จ่าย เป็นเรื่องปกติของวงการ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในปีนี้จะเห็นว่า มีหลายทีมที่ประกาศยุบทีมบ้าง จะเลิกทำทีมบ้าง ให้คนที่สนใจเข้ามาทำทีมต่อ หากอุทธรณ์ไม่ผ่านจะเลิกบ้าง อะไรประมาณนี้ ตามหน้าข่าวกีฬาที่สำนักข่าวกีฬาได้นำเสนอไป กลายเป็นทฤษฎีโดมิโนสำหรับฟุตบอลไทย
ประเด็นก็คือ ผมอยากทราบว่า การเลิกทำทีมมันง่ายขนาดนั้นเลยหรือครับ ผมเข้าใจว่า การทำทีมฟุตบอลแข่งในสมัยนี้ ต้องจดทะเบียนอยู่ในรูปแบบของบริษัทจำกัด การเลิกทำเท่ากับว่ายุบบริษัท หรือให้คนอื่นมาทำแทนก็ต้องมีการขายหุ้นสโมสรให้กับผู้ถือหุ้นใหม่ ใช่มั้ยครับ หรือยังงัย เจ้าของสโมสรไม่ใช่การอาสาเข้ามาทำทีมนะครับ แต่ก็เข้าใจว่าการทำทีมฟุตบอลต้องใช้เงินทุนสูง มีเข้าเนื้อบ้างก็เหมือนทำธุรกิจขาดทุน เป็นเรื่องปกติ ผมว่าฟุตบอลสมัยนี้ 10 ปีแรก ไม่เห็นกำไร(สะสม)หรอกครับ แต่อาจจะเห็นสินทรัพย์ของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น คนทำต้องมีทั้งใจรัก ความอดทน ทั้งกับการตัดสินปรับบ้าๆบอๆของ TPL และอารมณ์ของแฟนบอล บอลชนะก็ดีใจ บอลแพ้ก็ด่า อะไรประมาณนั้น เห็นใจนะครับ
ส่วนนักฟุตบอลส่วนใหญ่ในลีกล่างๆ จะเป็นสัญญาปีต่อปีเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับผู้บริหารมากนัก ยุบทีมไป นักเตะก็เป็นฟรีเอเยนต์ เหมือนคนตกงานอ่ะครับ ฝีเท้าดีก็มีคนมาติดต่อ ฝีเท้าธรรมดาก็ต้องไปสมัครสโมสรใหม่ หางานทำ อะไรประมาณนี้
รู้ครับว่าฟุตบอลเดี๋ยวนี้เป็นกระแส แรกๆใครก็อยากทำ ทำบอลก็เหมือนทำธุรกิจ ใครก็อยากประสบความสำเร็จ แต่ถ้าประสบความสำเร็จในสนาม แต่ผลประกอบการยังขาดทุนอยู่ทุกปี อย่างนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะครับ สุดท้ายพอยืนระยะไม่ได้ ตกชั้นก็เลิก หากไม่มีคนทำต่อ กองเชียร์ที่เชียร์กันทุกสัปดาห์ก็ไม่รู้จะไปเชียร์ใคร แม้แต่ทีมที่เลื่อนชั้น ก็เข้าใจว่ายังประสบปัญหาขาดทุนอยู่ มีข่าวทีมเลื่อนชั้นค้างเงินเดือนนักเตะตั้ง 4 เดือน อะไรจะขนาดนั้น
เมื่อวานดูคุณเนวิน แห่งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในรายการหนึ่ง ท่านบอกว่ารายได้ของสโมสรมีประมาณ 5 ร้อยล้าน/ปี กำไรปีนึงก็ร้อยกว่าล้าน แต่อีกสโมสรที่ตกชั้นที่ประกาศยุบทีมบอกว่า ทำทีม 3 ปีครึ่ง ใช้เงินไป 2 ร้อยล้าน แต่มีรายได้เข้ามาไม่ถึง 10 ล้าน อืม..อย่างนี้ก็ไม่ไหวนะ ลีกระดับบนกับล่างรายได้มันต่างกันมากขนาดนี้เลยเหรอครับ หากเป็นอย่างนี้อีกเดี๋ยวคงเหลือพรีเมียร์ลีกเตะกันลีกเดียว ส่วนลีกอื่นคงเป็นกึ่งอาชีพกันหมดที่นักบอลต้องมีรายได้เสริมจากทางอื่นกันอีก ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นเลยครับ ผมว่าคนรู้ปัญหานี้ก็มีอยู่นะครับ อยากให้เลือกตั้งนายกสมาคมเสร็จเร็วๆ ถ้าได้นายกคนใหม่คงเห็นอะไรใหม่ๆในวงการบ้าง ถ้าคนเก่าก็คงจะเป็นเหมือนที่ผ่านๆมา
ฤาฟุตบอลไทยจะถึงยุค "ฟองสบู่แตก" ซะแล้ว
"ฟองสบู่แตก" ในวงการฟุตบอลไทย ???
ประเด็นก็คือ ผมอยากทราบว่า การเลิกทำทีมมันง่ายขนาดนั้นเลยหรือครับ ผมเข้าใจว่า การทำทีมฟุตบอลแข่งในสมัยนี้ ต้องจดทะเบียนอยู่ในรูปแบบของบริษัทจำกัด การเลิกทำเท่ากับว่ายุบบริษัท หรือให้คนอื่นมาทำแทนก็ต้องมีการขายหุ้นสโมสรให้กับผู้ถือหุ้นใหม่ ใช่มั้ยครับ หรือยังงัย เจ้าของสโมสรไม่ใช่การอาสาเข้ามาทำทีมนะครับ แต่ก็เข้าใจว่าการทำทีมฟุตบอลต้องใช้เงินทุนสูง มีเข้าเนื้อบ้างก็เหมือนทำธุรกิจขาดทุน เป็นเรื่องปกติ ผมว่าฟุตบอลสมัยนี้ 10 ปีแรก ไม่เห็นกำไร(สะสม)หรอกครับ แต่อาจจะเห็นสินทรัพย์ของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น คนทำต้องมีทั้งใจรัก ความอดทน ทั้งกับการตัดสินปรับบ้าๆบอๆของ TPL และอารมณ์ของแฟนบอล บอลชนะก็ดีใจ บอลแพ้ก็ด่า อะไรประมาณนั้น เห็นใจนะครับ
ส่วนนักฟุตบอลส่วนใหญ่ในลีกล่างๆ จะเป็นสัญญาปีต่อปีเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับผู้บริหารมากนัก ยุบทีมไป นักเตะก็เป็นฟรีเอเยนต์ เหมือนคนตกงานอ่ะครับ ฝีเท้าดีก็มีคนมาติดต่อ ฝีเท้าธรรมดาก็ต้องไปสมัครสโมสรใหม่ หางานทำ อะไรประมาณนี้
รู้ครับว่าฟุตบอลเดี๋ยวนี้เป็นกระแส แรกๆใครก็อยากทำ ทำบอลก็เหมือนทำธุรกิจ ใครก็อยากประสบความสำเร็จ แต่ถ้าประสบความสำเร็จในสนาม แต่ผลประกอบการยังขาดทุนอยู่ทุกปี อย่างนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะครับ สุดท้ายพอยืนระยะไม่ได้ ตกชั้นก็เลิก หากไม่มีคนทำต่อ กองเชียร์ที่เชียร์กันทุกสัปดาห์ก็ไม่รู้จะไปเชียร์ใคร แม้แต่ทีมที่เลื่อนชั้น ก็เข้าใจว่ายังประสบปัญหาขาดทุนอยู่ มีข่าวทีมเลื่อนชั้นค้างเงินเดือนนักเตะตั้ง 4 เดือน อะไรจะขนาดนั้น
เมื่อวานดูคุณเนวิน แห่งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในรายการหนึ่ง ท่านบอกว่ารายได้ของสโมสรมีประมาณ 5 ร้อยล้าน/ปี กำไรปีนึงก็ร้อยกว่าล้าน แต่อีกสโมสรที่ตกชั้นที่ประกาศยุบทีมบอกว่า ทำทีม 3 ปีครึ่ง ใช้เงินไป 2 ร้อยล้าน แต่มีรายได้เข้ามาไม่ถึง 10 ล้าน อืม..อย่างนี้ก็ไม่ไหวนะ ลีกระดับบนกับล่างรายได้มันต่างกันมากขนาดนี้เลยเหรอครับ หากเป็นอย่างนี้อีกเดี๋ยวคงเหลือพรีเมียร์ลีกเตะกันลีกเดียว ส่วนลีกอื่นคงเป็นกึ่งอาชีพกันหมดที่นักบอลต้องมีรายได้เสริมจากทางอื่นกันอีก ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นเลยครับ ผมว่าคนรู้ปัญหานี้ก็มีอยู่นะครับ อยากให้เลือกตั้งนายกสมาคมเสร็จเร็วๆ ถ้าได้นายกคนใหม่คงเห็นอะไรใหม่ๆในวงการบ้าง ถ้าคนเก่าก็คงจะเป็นเหมือนที่ผ่านๆมา
ฤาฟุตบอลไทยจะถึงยุค "ฟองสบู่แตก" ซะแล้ว