ความตั้งใจแรก จขกท อยากจะไปเที่ยวเมืองเฉิงตูประเทศจีน แต่ตอนจองตั๋วเครื่องบินเผลอเหลือบไปเห็น
โปรโมชั่น Shanghai-Jeju ในราคาแสนถูก เลยเปลี่ยนใจกระทันหัน ขอประหยัดค่าเดินทางแล้วไปผจญภัยในเกาหลีแทน จขกท เดินทางวันที่ 10-14/1/2015
จขกท มีเวลาในการเตรียมตัวแค่หนึ่งอาทิตย์ก่อนวันเดินทาง แต่เอาเข้าจริงไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยนอกจากจองห้องพัก เลยเป็นเหตุให้ทริปนี้เป็นทริปไร้แผน แผนอย่างเดียวที่อยู่ในหัวก็คือต้องไป Halan San ส่วนที่อื่นค่อยไปถามๆที่โฮสเทลดูว่าต้องไปเที่ยวที่ไหนบ้าง
การเตรียมตัว
พอได้แลนด์มาร์คเป็น Halan San จขกท ก็เลยดูแผนที่คราวๆว่าเขาลูกนี้ตั้งอยู่ตรงไหนของเชจู เดินทางยังไง แล้วก็หาที่พักใกล้ๆเพื่อให้เดินทางได้สะดวก
จขกท เลือกที่พักแบบHostelแถว Seogwipo ทั้ง 3 คืน อาจจะไกลตัวเมืองไปหน่อยแต่ก็ใกล้ฮาลานซานที่สุด
สุดท้ายก็เลือกที่ Slowcity Hostel ห้องรวมชาย-หญิง คืนละ 400 บาท จองผ่าน Agoda
เสื้อผ้า ทริปนี้เป็นทริปที่ จขกท หนักใจมากเพราะไปเที่ยวช่วงหน้าหนาว ซึ่งจขกทก็ตัวใหญ่อยู่แล้วพอใส่เสื้อผ้าหนาๆยิ่งใหญ่เข้าไปอีก พอถ่ายรูปออกมามันเลวร้ายมาก ดังนั้นนี่คือโจทย์ยาก...
ถ้าเอาเสื้อกันหนาวไปตัวเดียวเที่ยวสามสี่วัน ถ่ายรูปออกมาก็จะเป็นชุดเดิม แลดูเหมือนไปเที่ยววันเดย์ทริปยังไงก็ไม่รู้
ถ้าเอาเสื้อกันหนาวไปสองตัว โหยยยย กระเป๋าหนักนะสิ ทำยังไงดีล่ะทีนี้
คิดไปคิดมาสามตลบ ก็มาจบที่เอาเสื้อกันหนาวไปสองตัว ผ้าพันคออีกสอง แล้วก็ใส่สลับไปมา เพื่อประกาศในเพื่อนๆในเฟสรู้ว่า “ฉันไปมาหลายวันนะ ดูสิว่าเสื้อกะผ้าพันคอไม่ซ้ำกัน”
วันเดินทาง
วันแรก จขกท เดินทางจาก เซี่ยงไฮ้ ไปเชจู ทั้งลำมี จขกทกับรุ่นน้องที่ไปด้วยกันเป็นคนต่างชาติ ส่วนที่เหลือเป็นคนจีนทั้งลำเลย...
พอใกล้จะถึงจุดหมาย เราก็มองสามารถมองเห็น ยอดเขา Halan Shan จากหน้าต่างเครื่องบิน
พอลงจากเครื่อง จขกท และรุ่นน้องที่มาด้วยกันก็พากันไปหยิบแผนที่แจกฟรี เพื่อเอามาศึกษาเส้นทาง หยิบแผนที่กันเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปซื้อ บัตรขึ้นรถของเชจูแบบใช้ได้5 วัน พอได้บัตรมาแล้ว เดินไปขึ้นรถสาย 600 ไปลงที่ Seogwipo ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงปากทางที่ต้องลง แล้วทีนี้ทำยังไงต่อล่ะ คนเดินไปเดินมาก็น้อย ภาษาเกาหลีก็พูดไม่ได้ มีแค่แผนที่คราวๆของโรงแรม 1 แผ่น ที่พอจะช่วยได้
จขกทกับรุ่นน้องก็เลยตัดสินใจเดินไปถามร้านค้า ร้านค้าก็ใจดีบอกทางเรา แต่....... บอกเป็นภาษาเกาหลี เอิ่บบบบบบบ ฟังไม่รู้เรื่อง สุดท้ายก็เดินไปตามทางที่คุณลุงเค้าชี้ เดินไปได้ซักพักก็เจอเหยื่อรายต่อไป เหยือรายนี้เป็นเด็กมัธยมน่าตาหน้าเอ็นดู พูดอังกฤษไมได้ น้องก็เลยอาสาเดินไปส่งที่โฮสเทล
เก็บของเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ก็ตัดสินใจเดินเล่นรอบๆเมือง Seogwipo ที่ที่เราจะไปกันก็คือ
สะพาน Saeyeongyo กะว่าจะไปดูพระอาทิตย์ตก วิวคงจะสวยและ โรแมนติกน่าดูเลย ดูจากแผนที่ระยะทางจากที่พักไปถึงสะพาน ห่างกันไม่มากเท่าไร เดินครึ่งชั่วโมงก็คงจะถึง
แต่พอถึงเวลาเดินจริงๆเท่านั้นแหละ ไปไม่ถึงไหนซะที ถามลุงป้าน้าอาแถวๆนั้น ถามสี่คนพูดไม่เหมือนกันเลยซักคน เฮ้อออออสรุปว่าตอนนี้ฉันอยู่ตรงไหน กว่าจะไปถึงที่หมาย อ้าว....พระอาทิตย์ตกไปแล้ว เลยได้ภาพมาแค่นี้
ปิดท้ายวันนี้ด้วยเมนูยอดฮิต "หมูดำย่าง"
จบวันแรก.....
เที่ยวJeju ปีนเขาฮาลาน ปั่นจักรยานรอบเกาะอูโด
จขกท มีเวลาในการเตรียมตัวแค่หนึ่งอาทิตย์ก่อนวันเดินทาง แต่เอาเข้าจริงไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยนอกจากจองห้องพัก เลยเป็นเหตุให้ทริปนี้เป็นทริปไร้แผน แผนอย่างเดียวที่อยู่ในหัวก็คือต้องไป Halan San ส่วนที่อื่นค่อยไปถามๆที่โฮสเทลดูว่าต้องไปเที่ยวที่ไหนบ้าง
การเตรียมตัว
พอได้แลนด์มาร์คเป็น Halan San จขกท ก็เลยดูแผนที่คราวๆว่าเขาลูกนี้ตั้งอยู่ตรงไหนของเชจู เดินทางยังไง แล้วก็หาที่พักใกล้ๆเพื่อให้เดินทางได้สะดวก
จขกท เลือกที่พักแบบHostelแถว Seogwipo ทั้ง 3 คืน อาจจะไกลตัวเมืองไปหน่อยแต่ก็ใกล้ฮาลานซานที่สุด
สุดท้ายก็เลือกที่ Slowcity Hostel ห้องรวมชาย-หญิง คืนละ 400 บาท จองผ่าน Agoda
เสื้อผ้า ทริปนี้เป็นทริปที่ จขกท หนักใจมากเพราะไปเที่ยวช่วงหน้าหนาว ซึ่งจขกทก็ตัวใหญ่อยู่แล้วพอใส่เสื้อผ้าหนาๆยิ่งใหญ่เข้าไปอีก พอถ่ายรูปออกมามันเลวร้ายมาก ดังนั้นนี่คือโจทย์ยาก...
ถ้าเอาเสื้อกันหนาวไปตัวเดียวเที่ยวสามสี่วัน ถ่ายรูปออกมาก็จะเป็นชุดเดิม แลดูเหมือนไปเที่ยววันเดย์ทริปยังไงก็ไม่รู้
ถ้าเอาเสื้อกันหนาวไปสองตัว โหยยยย กระเป๋าหนักนะสิ ทำยังไงดีล่ะทีนี้
คิดไปคิดมาสามตลบ ก็มาจบที่เอาเสื้อกันหนาวไปสองตัว ผ้าพันคออีกสอง แล้วก็ใส่สลับไปมา เพื่อประกาศในเพื่อนๆในเฟสรู้ว่า “ฉันไปมาหลายวันนะ ดูสิว่าเสื้อกะผ้าพันคอไม่ซ้ำกัน”
วันเดินทาง
วันแรก จขกท เดินทางจาก เซี่ยงไฮ้ ไปเชจู ทั้งลำมี จขกทกับรุ่นน้องที่ไปด้วยกันเป็นคนต่างชาติ ส่วนที่เหลือเป็นคนจีนทั้งลำเลย...
พอใกล้จะถึงจุดหมาย เราก็มองสามารถมองเห็น ยอดเขา Halan Shan จากหน้าต่างเครื่องบิน
พอลงจากเครื่อง จขกท และรุ่นน้องที่มาด้วยกันก็พากันไปหยิบแผนที่แจกฟรี เพื่อเอามาศึกษาเส้นทาง หยิบแผนที่กันเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปซื้อ บัตรขึ้นรถของเชจูแบบใช้ได้5 วัน พอได้บัตรมาแล้ว เดินไปขึ้นรถสาย 600 ไปลงที่ Seogwipo ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงปากทางที่ต้องลง แล้วทีนี้ทำยังไงต่อล่ะ คนเดินไปเดินมาก็น้อย ภาษาเกาหลีก็พูดไม่ได้ มีแค่แผนที่คราวๆของโรงแรม 1 แผ่น ที่พอจะช่วยได้
จขกทกับรุ่นน้องก็เลยตัดสินใจเดินไปถามร้านค้า ร้านค้าก็ใจดีบอกทางเรา แต่....... บอกเป็นภาษาเกาหลี เอิ่บบบบบบบ ฟังไม่รู้เรื่อง สุดท้ายก็เดินไปตามทางที่คุณลุงเค้าชี้ เดินไปได้ซักพักก็เจอเหยื่อรายต่อไป เหยือรายนี้เป็นเด็กมัธยมน่าตาหน้าเอ็นดู พูดอังกฤษไมได้ น้องก็เลยอาสาเดินไปส่งที่โฮสเทล
เก็บของเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ก็ตัดสินใจเดินเล่นรอบๆเมือง Seogwipo ที่ที่เราจะไปกันก็คือสะพาน Saeyeongyo กะว่าจะไปดูพระอาทิตย์ตก วิวคงจะสวยและ โรแมนติกน่าดูเลย ดูจากแผนที่ระยะทางจากที่พักไปถึงสะพาน ห่างกันไม่มากเท่าไร เดินครึ่งชั่วโมงก็คงจะถึง
แต่พอถึงเวลาเดินจริงๆเท่านั้นแหละ ไปไม่ถึงไหนซะที ถามลุงป้าน้าอาแถวๆนั้น ถามสี่คนพูดไม่เหมือนกันเลยซักคน เฮ้อออออสรุปว่าตอนนี้ฉันอยู่ตรงไหน กว่าจะไปถึงที่หมาย อ้าว....พระอาทิตย์ตกไปแล้ว เลยได้ภาพมาแค่นี้
ปิดท้ายวันนี้ด้วยเมนูยอดฮิต "หมูดำย่าง"
จบวันแรก.....