ที่เราตั้งกระทู้ไม่ได้มีเจตนาอื่น นอกจากแค่อยากแบ่งปันเรื่องราวความรักของเราที่ได้พบเจอมาเท่านั้น
สวัสดีค่ะ
เรา อายุ 26 ปี เรามีแฟนคบกันมาได้ 3 ปีกว่าแล้ว เราไม่เคยนอกใจแฟนเราเลยซักครั้ง ไม่ว่าจะมีผู้ชายเข้ามาคุยด้วยมากแค่ไหน เพื่อนเคยบอกว่าเราเป็นคนเจ้าชู้ แต่เราไม่เคยคุยทีละหลายๆคน คบใครก็จะคบเป็นคนๆ ไป เราว่าเราเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับความรักมากระดับเลยหล่ะ จนกระทั่งคนๆ นึงเข้ามาเปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาล ..
เรามาทำงานในกรุงเทพคนเดียว อยุ่หอคนเดียว หอก็อยุ่ใกล้ที่ทำงาน เมื่อมีเวลาว่างเรามักจะไปเล่นแบดมินตันเสมอๆ ที่ทำงานเรามีจัดแข่งแบดช่วงเดือนเมษา จนกระทั่งวันที่ได้พบกับเขาคนนั้น เราเจอเค้าครั้งแรกที่คอร์ดแบดของการแข่งแบดวันแรก เค้าเป็นคนสูง ขาว น่ารัก ร่าเริง อัธยาศัยดี คือสเปคเราเลยแหละ55 แต่ที่สำคัญเค้ามากับแฟน เราก็แอบมองเค้า ผู้ชายอะไร น่ารักชะมัดเลย เล่นแบดก็เก่ง แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเราก็มีแฟนอยุ่แล้วหนิ หลังจากที่รุ้จักกัน เราก็แอบไปดูเฟสบุคเค้า แต่ไม่กล้าแอดไป 555 ปกติแข่งแบดจะมีหลายวัน เพราะแข่งเฉพาะช่วงเย็น ถ้าแข่งเข้ารอบก็จะได้แข่งวันต่อๆไป เราอยุ่ทีมเดียวกับเค้า มีวันนึงเค้าก็ถ่ายรุปสมาชิกทีม และก็ขอแอดเฟสบุคมาจะได้แท๊กได้ เรานี่ ดีใจเลย55 จากนั้นก็ได้คุยกันบ้าง กลับหอพร้อมกันบ้าง คือเค้าอยุ่หอเดียวกับเรา เนื่องจากมาเรียนแค่ช่วงเดือนนั้นพอดี วันหนึ่งหลังจากแข่งเเบดเสร็จ เราก็กลับหอพร้อมกับคนอื่นๆ หลังจากที่แยกย้ายกันแล้ว เค้าก็ชวนเรากินข้าว ซึ่งเราก็ตอบตกลง เราเดินไปกินร้านผัดไทใกล้ๆหอ เราคุยกันเยอะมาก เหมือนคุยกันถูกคอ โดยนิสัยเราเป็นคนร่าเริงอยุ่แล้ว เรื่องเม้ามอยก็ขอให้บอก เรานี่ถนัดนัก เค้าก็คงจะประทับใจเราตรงนี้มั้ง 55 หลังจากนั้นเราก็เจอเค้าแทบจะทุกวัน คุยไลน์กันตลอดทั้งวัน ช่วงเย็นที่กลับหอ เค้าก็จะมาเคาะห้องเราประจำ อ้างนุ้นอ้างนี่ว่า ห้องเรามี wifi บ้าง มีของกินบ้าง ห้องสะอาดกว่าห้องเค้าบ้าง ของยืมเตารีดบ้าง ยืมถ้วย ยืมจาน ยืมช้อน ไม่มีที่ล้างจานบ้าง สรุปคือมาเคาะทุกวัน เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก มานั่งคุยกันก็สนุกดี ..
ความสัมพันธ์ของเราเริ่มมากขึ้น เราเหมือนรุ้จักกันมานาน คุยกันได้ทุกเรื่อง มีอะไรก็ปรึกษากันตลอด ชอบทำอะไรที่เหมือนกัน ชอบกินอะไรที่เหมือนกัน เค้าเล่าเรื่องแฟนเค้าให้เราฟังบ้าง เราก็เล่าเรื่องแฟนเราให้เค้าฟังบ้าง คุยกันเยอะมากจนเรารุ้สึกว่าเราเริ่มมีใจให้ผู้ชายคนนี้แล้วหล่ะ แต่เค้าต้องกลับไปเรียนต่อที่ต่างจังหวัด อีกประมาณ 5 เดือน ถึงจะได้กลับมาที่นี่อีก เราตกลงกันว่าเรื่องระหว่างเรามันคงเป็นไปไม่ได้ คงจะต้องเลิกติดต่อกันอีก เค้าบอกเราว่า แม้ช่วงเวลาเพียงแค่สั้นๆ ที่เราได้อยุ่ด้วยกันนั้น เค้ามีความสุขมาก เป็นช่วงเวลาที่มีค่าสำหรับเค้าจริงๆ สำหรับเรามันก็เช่นกัน มันมากมายจนเราใจหาย ที่ต่อไปมันจะไม่มีความรุ้สึกนี้อีกแล้ว ..
วันสุดท้ายที่เค้าจะไป เราก็ไปกินข้าวกัน เค้ามาส่งที่หอ แล้วบอกว่า มีของที่ยืมไปจะคืนให้ ฝากไว้ตรงเคาเตอร์หอ พอเราเดินไปดู มันเป็นกล่องใหญ่ๆ เรารีบเปิดออก ข้างในเป็นตุ๊กตาหมีน่ารักตัวนึง พร้อมกับการ์ดเล็กๆ หนึ่งใบ เป็นการ์ดทำเองที่มีรุปคู่ของเรากับเค้า เราอ่านแล้วก็น้ำตาไหลเลย ใจความก็เป็นความรุ้สึกของเค้า เค้าพูดว่าเราก็ต่างต้องเคลียร์ตัวเอง ไม่รุ้อนาคตจะเป็นยังไง ความคิดเราในตอนนั้นคือ ถ้ามีคนที่คนที่ดีกว่าแฟนที่คบอยุ่ เราก็มีสิทธิที่จะเลือกคนที่ดีกว่า เรารุ้ตัวตลอดว่ากำลังทำอะไรอยุ่ เราก็มีปัญหากับแฟนบ้าง แต่มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย เราเล่าให้แฟนฟังทุกอย่างกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเราจึงขอห่างกับแฟน เพื่อคิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมด แต่แฟนเราบอกว่า ถ้าจะขอห่างกัน งั้นก็เลิกกันเถอะ เราก็เลยตอบตกลง ตอนนั้นก็เสียใจมาก เรารุ้ว่าเราผิด แต่เรื่องของความรุ้สึกและหัวใจ มันบังคับกันไม่ได้จริงๆ ..
ผู้ชายคนนึง..ที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตเรา
สวัสดีค่ะ
เรา อายุ 26 ปี เรามีแฟนคบกันมาได้ 3 ปีกว่าแล้ว เราไม่เคยนอกใจแฟนเราเลยซักครั้ง ไม่ว่าจะมีผู้ชายเข้ามาคุยด้วยมากแค่ไหน เพื่อนเคยบอกว่าเราเป็นคนเจ้าชู้ แต่เราไม่เคยคุยทีละหลายๆคน คบใครก็จะคบเป็นคนๆ ไป เราว่าเราเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับความรักมากระดับเลยหล่ะ จนกระทั่งคนๆ นึงเข้ามาเปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาล ..
เรามาทำงานในกรุงเทพคนเดียว อยุ่หอคนเดียว หอก็อยุ่ใกล้ที่ทำงาน เมื่อมีเวลาว่างเรามักจะไปเล่นแบดมินตันเสมอๆ ที่ทำงานเรามีจัดแข่งแบดช่วงเดือนเมษา จนกระทั่งวันที่ได้พบกับเขาคนนั้น เราเจอเค้าครั้งแรกที่คอร์ดแบดของการแข่งแบดวันแรก เค้าเป็นคนสูง ขาว น่ารัก ร่าเริง อัธยาศัยดี คือสเปคเราเลยแหละ55 แต่ที่สำคัญเค้ามากับแฟน เราก็แอบมองเค้า ผู้ชายอะไร น่ารักชะมัดเลย เล่นแบดก็เก่ง แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเราก็มีแฟนอยุ่แล้วหนิ หลังจากที่รุ้จักกัน เราก็แอบไปดูเฟสบุคเค้า แต่ไม่กล้าแอดไป 555 ปกติแข่งแบดจะมีหลายวัน เพราะแข่งเฉพาะช่วงเย็น ถ้าแข่งเข้ารอบก็จะได้แข่งวันต่อๆไป เราอยุ่ทีมเดียวกับเค้า มีวันนึงเค้าก็ถ่ายรุปสมาชิกทีม และก็ขอแอดเฟสบุคมาจะได้แท๊กได้ เรานี่ ดีใจเลย55 จากนั้นก็ได้คุยกันบ้าง กลับหอพร้อมกันบ้าง คือเค้าอยุ่หอเดียวกับเรา เนื่องจากมาเรียนแค่ช่วงเดือนนั้นพอดี วันหนึ่งหลังจากแข่งเเบดเสร็จ เราก็กลับหอพร้อมกับคนอื่นๆ หลังจากที่แยกย้ายกันแล้ว เค้าก็ชวนเรากินข้าว ซึ่งเราก็ตอบตกลง เราเดินไปกินร้านผัดไทใกล้ๆหอ เราคุยกันเยอะมาก เหมือนคุยกันถูกคอ โดยนิสัยเราเป็นคนร่าเริงอยุ่แล้ว เรื่องเม้ามอยก็ขอให้บอก เรานี่ถนัดนัก เค้าก็คงจะประทับใจเราตรงนี้มั้ง 55 หลังจากนั้นเราก็เจอเค้าแทบจะทุกวัน คุยไลน์กันตลอดทั้งวัน ช่วงเย็นที่กลับหอ เค้าก็จะมาเคาะห้องเราประจำ อ้างนุ้นอ้างนี่ว่า ห้องเรามี wifi บ้าง มีของกินบ้าง ห้องสะอาดกว่าห้องเค้าบ้าง ของยืมเตารีดบ้าง ยืมถ้วย ยืมจาน ยืมช้อน ไม่มีที่ล้างจานบ้าง สรุปคือมาเคาะทุกวัน เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก มานั่งคุยกันก็สนุกดี ..
ความสัมพันธ์ของเราเริ่มมากขึ้น เราเหมือนรุ้จักกันมานาน คุยกันได้ทุกเรื่อง มีอะไรก็ปรึกษากันตลอด ชอบทำอะไรที่เหมือนกัน ชอบกินอะไรที่เหมือนกัน เค้าเล่าเรื่องแฟนเค้าให้เราฟังบ้าง เราก็เล่าเรื่องแฟนเราให้เค้าฟังบ้าง คุยกันเยอะมากจนเรารุ้สึกว่าเราเริ่มมีใจให้ผู้ชายคนนี้แล้วหล่ะ แต่เค้าต้องกลับไปเรียนต่อที่ต่างจังหวัด อีกประมาณ 5 เดือน ถึงจะได้กลับมาที่นี่อีก เราตกลงกันว่าเรื่องระหว่างเรามันคงเป็นไปไม่ได้ คงจะต้องเลิกติดต่อกันอีก เค้าบอกเราว่า แม้ช่วงเวลาเพียงแค่สั้นๆ ที่เราได้อยุ่ด้วยกันนั้น เค้ามีความสุขมาก เป็นช่วงเวลาที่มีค่าสำหรับเค้าจริงๆ สำหรับเรามันก็เช่นกัน มันมากมายจนเราใจหาย ที่ต่อไปมันจะไม่มีความรุ้สึกนี้อีกแล้ว ..
วันสุดท้ายที่เค้าจะไป เราก็ไปกินข้าวกัน เค้ามาส่งที่หอ แล้วบอกว่า มีของที่ยืมไปจะคืนให้ ฝากไว้ตรงเคาเตอร์หอ พอเราเดินไปดู มันเป็นกล่องใหญ่ๆ เรารีบเปิดออก ข้างในเป็นตุ๊กตาหมีน่ารักตัวนึง พร้อมกับการ์ดเล็กๆ หนึ่งใบ เป็นการ์ดทำเองที่มีรุปคู่ของเรากับเค้า เราอ่านแล้วก็น้ำตาไหลเลย ใจความก็เป็นความรุ้สึกของเค้า เค้าพูดว่าเราก็ต่างต้องเคลียร์ตัวเอง ไม่รุ้อนาคตจะเป็นยังไง ความคิดเราในตอนนั้นคือ ถ้ามีคนที่คนที่ดีกว่าแฟนที่คบอยุ่ เราก็มีสิทธิที่จะเลือกคนที่ดีกว่า เรารุ้ตัวตลอดว่ากำลังทำอะไรอยุ่ เราก็มีปัญหากับแฟนบ้าง แต่มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย เราเล่าให้แฟนฟังทุกอย่างกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเราจึงขอห่างกับแฟน เพื่อคิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมด แต่แฟนเราบอกว่า ถ้าจะขอห่างกัน งั้นก็เลิกกันเถอะ เราก็เลยตอบตกลง ตอนนั้นก็เสียใจมาก เรารุ้ว่าเราผิด แต่เรื่องของความรุ้สึกและหัวใจ มันบังคับกันไม่ได้จริงๆ ..