(ภาคต่อ) เมื่อฝันเป็นจริงได้เป็นพิธีกรรายการอาหารครั้งแรกในชีวิตกับช่อง Asian Food Channel

สวัสดีคะเพื่อนๆพันทิปทุกคน บางคนคงเคยอ่านเรื่องของเบลล์มาแล้วในกระทู้ที่แล้ว
แชร์ประสบการหอบฝัน พาตัวเองไปแข่งเป็นพิธีกรรายการอาหารที่สิงคโปร์ http://pantip.com/topic/34234102
และเราไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีคนสนใจอ่านเรื่องราวของเราเยอะขนาดนี้ ขอบคุณทุกคนมากกๆๆจริงๆนะค่ะ รู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะมากๆเลย

เข้าเรื่องเลยดีกว่า กระทู้นี้จะเป็นการเล่าเรื่องเมื่อเราได้มีโอกาสได้เป็นพิธีกรรายการอาหารครั้งแรกในชีวิตให้กับช่อง Asian Food Channel (กรี้ดดดดดด) และการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตระหว่างความฝันกับความจริง ที่เราต้องเลือกทางเดินให้กับชีวิตตัวเอง
เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือน ตุลาคมที่ผ่านมานี้เองคะ ตัดสินใจเอง คิดเมนูเอง คิดบทเอง คิดเสื้อผ้า จัดคิวเอง55 และทั้งหมดพูดเป็นภาษาอังกฤษ โอ้แม่เจ้า ไปถ่ายที่เมือง จาร์กาต้า ประเทศอินโดนีเซียคะ
ป.ล. รูปทั้งหมดถ่ายจากมือถือเราบ้าง จากมือถือโปรดิวเซอร์บ้าง จากพี่ช่างแต่งบ้าง ถ้าบางรูปไม่ค่อยชัดก็ขออภัยด้วยนะคะ

รูปนี้ถ่ายตอนทำแกงเลียง ให้พี่ช่างแต่งหน้าถ่ายให้ค่ะ


ลืมบอกๆ เรามีเพจแล้วนะค่ะ เพิ่งเริ่มเอง แหะๆ
ตามนี้เลยเน้อ ฝากด้วยนะคะ>>https://www.facebook.com/BellyBell-in-F-world-1032198813467322/

ต้องขอท้าวความก่อนว่าอยู่ๆเราไปถ่ายกับช่องนี้ได้ยังไง คืออย่างที่เพื่อนๆทราบกันดี ว่าเราได้ที่ 4 ในการแข่ง
Food Hero Asia 2015 ของ Script Network ซึ่งผลิตรายการทั้งหมด 4 ช่องหลัก คือ Food Network Asia, Asian Food channel, HGTV และ Travel channel แล้วที่นี้หมือนทางช่องเค้าอยากทำรายการทำอาหารเกี่ยวกับอาหารไทย
ชื่อรายการ  Home-cooked : Thailand
เค้าเลยติดต่อให้เราไปถ่าย โดยให้เราคิดและทำอาหารไทยทั้งหมด 12 เมนู ตอนนั้นเค้าส่งอีเมลล์มาหาเรา เราแบบกรี๊ดดดดดดดด
โอยดีใจมากกก ตอนแรกคิดว่าแข่งเสร็จแล้วไม่ได้ชนะ คงไม่มีโอกาสได้ลองถ่ายแล้ว
ตอนนั้นเราคิดในใจว่าจ้างฟรีเราก็ไป55 ไม่ต้องให้เงินเลย เพราะมันเหมือนเป็นความฝันเรามาตั้งแต่แรก
ว่าเราอยากมีรายการอาหารของตัวเอง ทำอะไรก็ได้แค่ได้อยู่กับอาหาร และการเดินทาง แค่นี้ก็ฟินแล้ว

แต่ตอนนั้นเราก็ทำงานประจำอยู่เม่าแพนด้า แล้วมันต้องหยุดงาน 1 อาทิตย์ในช่วงที่บริษัทเรายุ่งๆมาก
(คือเราทำบริษัทบัญชีค่ะ แล้วช่วงต้นเดือนคือยุ่งมากต้องปิดบัญชีงี้ แถมครั้งที่แล้วก็ขอลาหยุดไปแข่งแล้วอีก)
คราวนี้มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะขอหยุดในช่วงนั้น เราเลยแบบทำไงดีๆต้องเลือกแล้ว
ตอนนั้นเราคิดอย่างเดียวเลยว่า ยังไงก็จะไปถ่าย นี้คือโอกาสที่ดีมากๆในชีวิตเลยนะ โอกาสมาถึงแล้วต้องคว้าไว้สิ!!
แต่ทางที่บ้านเราก็เริ่มมีคำถามว่า ถ้าลาออกจากงานเพื่อไปถ่ายรายการนี้ อาทิตย์เดียวเนี่ยนะ แล้วกลับมาจะทำอะไร??!
ตอนนั้นเราแบบคิดหนักเหมือนกันนะ แต่สุดท้ายเมื่อโอกาสมาถึงคนเราก็ต้องเลือกเพื่อทำให้ฝันเราเป็นจริงถูกมั้ย
ชีวิตเราเกิดมาครั้งเดียวไม่ลองทำก็ไม่รู้สินะนานาโอเค หลังจากอธิบายให้พ่อกับแม่ฟัง ท่านก็โอเครับได้ เห้อโล่งงมากก

สุดท้ายเราก็เลือกที่จะลาออกจากบริษัทที่ดีและ มั่นคงมากๆบริษัทนี้และเลือกที่จะทำสิ่งที่เรารัก ถึงแม้มันจะเป็นแค่อาทิตย์เดียว
แต่สำหรับเรามันก็เป็น 1 อาทิตย์ที่คุ้มค่ามากๆเลย เราลองมานั่งคิดถ้าเราเลือกที่จะไม่มาถ่ายงานนี้เราคงนอนร้องไห้ไปเป็นปีแน่ๆ555
โอเคจากนั้นเมื่อเราตัดสินใจจะลาออกจากงานประจำ ก็ต้องบอกหัวหน้า(จุดที่ยากที่สุด เพราะ หัวหน้าเราน่ารักมากๆ
คือเราคิดบทอยู่นานมากว่าจะพูดยังไงดี55ให้หัวหน้าเข้าใจ แต่หัวหน้าเราก็เข้าใจแล้วก็ยังอวยพรเราด้วย ฮือซึ้ง T Tขอเจอหัวหน้าดีๆแบบนี้อีกเห้ออ)
จากนั้นก็เริ่มสอนงาน เริ่มโอนงาน ในขณะเดียวกันก็เริ่มคิดเมนู คิดบท (เราต้องพูดทุกอย่างภาษอังกฤษเน้อะ เลยทำให้มันยากขึ้นมากๆเลยศัพท์บางคำยังไม่เคยเจอเลยจ้า55 ก็ฝึกฝนกันไป55) หาเสื้อผ้า ฝึกทำอาหารพร้อมกับพูดไปด้วย ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเดือนกันยายนนะคะ

เมื่อวันที่ต้องบินไปถ่าย 5 ตุลาคม เราก็บินไปจาร์กาต้า ประเทศอินโดนีเซีย ครั้งแรกในชีวิตเลยที่ได้ไปประเทศนี้ตื่นเต้นเหมือนกันแหะ
รายการนี้เริ่มทยอยออนแอร์บ้างแล้วแหละ เดี๋ยวเราแปะลิ๊งให้ดูด้านล่างน้า หรือ หาดูได้ในเพจเฟสบุ๊คของ Asian Food Channel หรือ ในเพจเราก็ได้ค่ะ เดี๋ยวจะเอาลิ้งค์มาแปะให้ดูกัน ( ฝากติชมด้วยน้า เราเองก็ตื่นเต้นมากๆเลยไม่รู้ว่าจะออกมาเป็นยังไงเหมือนกัน)

Day1
วันแรกยังไม่ได้ทำอะไรเท่าไหร่เพราะกว่าจะถึงก็ดึกแล้ว ได้กินไก่สาเต๊ะไป โอ้ยยอร่อยฟินมาก ว่าจะลองทำดู


Day2
วันนี้เป็นวันซ้อม ซ้อมแต่งหน้า ซ้อมพูดจัดไฟ เซตฉาก ตอนแต่งหน้ารู้สึกว่าหน้าหนามาก เกิดมาไม่เคยแต่งหน้าหนาขนาดนี้55
แต่พอออกกล้องมันก็ดูซอฟลงนิดนึงเน้อะ

พอเราไปถึงสตูดิโอ ก็เจอคนที่กองถ่ายทุกคนน่ารักมากก ชวนเราคุยเราเลยไม่ค่อยรู้เกร็งอะไรเท่าไหร่
ผู้ชายอินโดก็คมเข้มเหมือนหนุ่มใต้บ้านเราเลย55 แต่พอถึงเวลาที่ต้องเข้าฉาก คุนพระทำไงดี
เราจำได้เลยว่าเราตื่นเต้นมากกกก ใจเต้นแรงสุดๆอ่ะ กลัวพูดผิด กลัวทำอะไรไม่ถูก กลัวลืมบท แล้วผู้กำกับก็สั่ง "แอ็คชั่น!!"
ไอเราก็เริ่มพูดๆๆออก มา Hi Guys I'm Bell..... มันก็มีติดๆขัดๆบ้าง ลิ้นพันกันบ้าง นึกคำไม่ออก แต่สุดท้ายวันนั้นผ่านไปด้วยดี
วันนั้นลองทำเมนู ต้มข่าไก่ค่ะ การถ่ายจะถ่ายทั้งหมด 4 วัน วันละ 3 เมนู ค่ะ
กลับโรงแรมไปทำสมาธิ แล้วมาเริ่มต้นถ่ายจริงกันเล้ยยยย

Day3
วันนี้ก็เริ่มถ่ายจริงแล้วโอม้าย ตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม วันนี้ทำ  ต้มข่าไก่, แกงเขียวหวานไก่ และ ไข่ลูกเขย ค่ะ
ตอนถ่ายจะมี 3 กล้องคะ กล้องหลักถ่ายด้านข้าง กล้องเน้นหน้าเรา แล้วก็กล้องซูมอาหาร



จริงๆ กิจกรรมแต่ละวันก็จะประมาณนี้ค่ะ ตื่น 6 โมงมากินข้าวเช้าที่โรงแรมแล้วก็ไปสตูดิโอตอน 9 โมง
แต่งหน้า ถึง 10.30 แล้วก็เริ่มถ่ายกัน ระหว่างที่เราแต่งหน้าทีมงานเค้าก็จะถ่าย ส่วนผสมต่างๆไปเรื่อย
พอเวลาเริ่มถ่ายจริง 1 เมนูใช้เวลาถ่ายประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ เพราะบางช็อตต้องถ่ายแก้ ถ่ายซูม หรือบางที่เราก็พูดผิด
ลิ้นพันกันก็ต้องเริ่มใหม่กันไป55 พอตกเย็นก็เสร็จประมาณ 1 ทุ่มคะ
จากนั้นเราก็กลับโรงแรมไปหาข้าวกินกับโปรดิวเซอร์คนสิงคโปร์
พอมาถึงห้องเราก็มาเขียนบทเพิ่ม ซ้อมพูดเพื่อให้พรุ่งนี้ที่ไปถ่ายจริงๆเราจะพูดคล่องขึ้น

รูปนี้คือ สมุดที่เราจดบทพูดเราเอง555 เน่าเละ ขีดฆ่าไปมาสุดๆ


รูปนี้ตอนไปกินข้าวเย็นกันที่อาหารฮอลแลนด์อยู่ติดกับสตูดิโอที่ถ่ายเลย อร่อยมาก ยิ้มกว้างเชียว555


ต้องขอขอบคุณโปรดิวเซอร์เรามากๆที่คอยแก้คำให้55 เพราะบางทีรูปประโยคที่เราใช้มันอาจจะฟังแปลกๆเวลาพูดออกมา
พอเริ่มถ่ายไปแต่ละวันมันทำให้เรารู้ว่า เราควรต้องเขียนบทแบบไหน ควรเริ่มต้นรายการด้วยแบบไหนถึงน่าสนใจ
ระหว่างทำอาหารควรต้องพูดอะไรบ้างควรต้องมองกล้องมุมไหน ตอนจบควรต้องพูดแบบไหนถึงจะจบดี
ทุกอย่างก็เรียนรู้กันไปเน้อะ สนุกมากกกๆเลย แต่ละวันก็ถ่ายๆแบบนี้แหละค่ะ ถามว่ามันเหนื่อยเราก็ว่าเหนื่อยนะ
แต่มันเป็นความเหนื่อยที่เรามีความสุขมากๆเลย รู้สึกเหมือนเอนโดฟีนมันหลั่ง รู้สึกสนุกมากๆเลยที่ได้ทำอาหาร
ได้พูดกับกล้อง ได้เดินทางไปเจออะไรใหม่ๆแบบนี้ ประหลาดใจ

Day4
วันนี่ทำแกงเลียงกุ้งสด, พาสต้าผัดขี้เมา และ ปลานึ่งมะนาว




รูปนี้ถ่ายตอนตำเครื่องแกงเลียง เซตฉากกันนานมาก และเรามีโอกาสถ่ายแค่ครั้งเดียว อร๊ายย กดดัน
เพราะว่าผู้กับจะถ่ายแบบยิงยาวช็อตเดียวและตอนนั้นคือหอมแดงหมดพอดี ถ้าพูดผิด ต้องพักกองไปซื้อหอมแดงใหม่
คุณพระจะได้เลิกกี่โมง ไม่อยากให้คนอื่นกลับดึกอีก เราก็เลยซ้อมอยู่หลายที555 แต่สุดท้ายก้ถ่ายได้น้ะเทคเดียวผ่านเย้


พอเราทำอาหารเสร็จ ก็จะเริ่มถ่ายซูมอาหาร หมุนซ้ายหมุนขวาแบบที่เราเคยเห็นในทีวีค่ะ
(เราก็เพิ่งรู้ว่าเค้าทำกันแบบนี้แหละ55 ในรูปเป็นสปาเก็ตตี้ทะเลขี้เมาเผลอใส่พริกไปเยอะ ตอนถ่ายชิมคือแบบเผ็ดมากกกกกก5555)


Day5
วันนี้ทำ กุ้งทอดกระเทียมพริกไทย, ข้าวผัดสัปะรด และ ต้มยำกุ้ง
ถ่ายกับผู้กำกับของเรา และกุ้งทอดกระเทียมพริกไทย อร่อยอ๊ะ555


Day6 วันสุดท้ายแล้วหรอ?? T T
วันนี้ทำยำตะไคร้แซลมมอน, ลาบไก่ และ เมนูสุดท้ายทำไก่ย่างตะไคร้ค่ะ  ทีมงานถึงขั้นแทะกระดูก555


งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราเน้อะ ถ่ายรูปรวมกันสักหน่อย


Day7 กลับบ้านกัน
วันรุ่งขึ้นเราก็แพ็คกระเป๋าเตรียมกลับไทย กลับไปใช้ชีวิตบนโลกความจริงกันต่อ55


ตอนนี่เราก็อยู่ไทยนี่แหละคะ เป็นคนว่างงานแบบเต็มตัว55 แต่เรากลับคิดว่ามันเป็นช่วงของโอกาสเน้อะ
ที่เราจะได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ที่เราไม่เคยได้ลองทำ เพราะตั้งแต่เราเรียนจบป.ตรีมา ชีวิตเรายังไม่ค่อยได้ใช้เลย
เพราะเราจบมาก็ต้องเริ่มงานเลย ตอนนั้นยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองชอบอะไร และอะไรที่เหมาะกับตัวเรา
เริ่มเข้าลูปมนุษย์เงินเดือน ตื่นเช้า ขับรถไปทำงาน รถติด ทำงานหน้าคอม ตกเย็นกลับบ้าน รถติด อาบน้ำ นอน
มันวนเป็นลูปเดิมๆแบบนี้แหละ5555 เพราะบ้านเราค่อนข้างไกลจากที่ทำงานด้วย เดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงต่อวัน
เราเลยค่อนข้างเหนื่อย

จะจบแล้วจ้า พออ่านถึงตรงนี้ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนมากที่อ่านมาจนจบ55 ตอนแรกว่าเขียนสั้นๆเขียนเพลินทุกที555
นี่ก็เป็นเรื่องราวการทำไล่ตามความฝัน การฝึกฝน การไขว่คว้าหาโอกาสให้กับตัวเอง และการกล้าที่จะเดินออกมาจากกรอบ
ความกลัวและความคิดของตัวเอง เราคงพูดได้ไม่เต็มปากว่าฝันเราเป็นจริงแล้ว เพราะ มันแค่ระยะสั้นๆเท่านั้น
ทุกวันนี้เราก็ยังคงทำฝันเราให้เป็นจริงอยู่เหมือนกัน หมั่นฝึกฝน เรียนรู้ทั้งการทำอาหาร,ฟึกพูด,ฝึกภาษา
และหาโอกาสให้ตัวเองเหมือนกันคะ หวังว่ากระทู้ของเราจะเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนทุกคนที่กล้าที่จะทำตามความฝันของตัวเองนะคะ
เอาจริงๆแค่ได้เริ่มต้นทำก็ประสบความสำเร็จแล้ว ใครจะไปรู้จุดเริ่มต้นเล็กๆอาจจะพาคุณไปจุดที่คุณนึกไม่ถึงเลยก็ได้(เหมือนเราไง)
จากแค่ คนธรรมดาคนนึง กับฝันเล็กๆ แค่เริ่มถ่ายคลิปสั้นๆในครัวเล็กๆที่บ้านตัวเอง มันพาเราไปเจออะไรอีกหลายอย่างมากๆเลย

จบแล้วววค่าา

ใครมีอะไรอยากพูดคุยหลังไมค์มาได้นะคะ ยินดีค่ะ ไปแล้ววขอบคุณทุกๆคนมากน้า

อันนี้เพจของ Asian Food Channel ค่ะ >> https://www.facebook.com/AsianFoodChannel/?fref=ts
คลิปของเราจะวนๆลงสัปดาห์ละเมนูค่ะ ทางทีมงานเค้าทำดีมากเลยมีภาษาไทยกำกับด้วย อ่านง่าย ดูง่าย
เพจเรา >> https://www.facebook.com/BellyBell-in-F-world-1032198813467322/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่