การผจญภัยของจี้จัง ตอนที่ 2 : Her struggle in Suvannabhumi

กระทู้คำถาม
เขียนตอนที่ 2 ต่อครับ ยังเป็นเรื่องราวของเด็กสาวที่ไม่พูดไทยไม่ได้ เธอจะรอดในสังคมกรุงเทพได้อย่างไร ตอนนี้จี้จังของเราต้องเจอการเข้าห้องเย็นที่สุวรรณภูมิ
สนามบินสุวรรณภูมิ 21.55 น.

                เครื่องบินสายการบิน Nippon Airway จาก KIX มาถึง สุวรรณภูมิแล้ว ผู้โดยสาร 300 กว่าคนลงจากสนามบิน จี้จังเตรียมเอกสารต่างๆพร้อมอยู่แล้วทั้ง passport ไทย(จี้จังมี passport 2 เล่มคือ ญี่ปุ่น กับ ไทย เพราะคุณพ่อของเธอแจ้งเกิดที่สถานกงสุลไทยประจำโอซาก้า เมื่อตอนเธอเกิดใหม่ๆ) มีอย่างอื่นอีก เธอตรงเข้าไปหา ตม. ประจำสุวรรณภูมิ และยื่นเอกสารมาให้

“สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับสู่ประเทศไทยครับ หนูเป็นคนไทยหรือครับ ชื่ออะไรครับ” เจ้าหน้า ตม. ถาม

“Watashi wa, Morikawa Chiakidesu. Watashi wa kenkyū no tame ni Tai ni iki, watashi no han otōto ga watashi o mukae ni kimasu.” (หนูชื่อ โมริคะวะ จิอากิ ค่ะ. หนูมาประเทศไทยเพื่อมาศึกษาต่อ และ พี่ชายจะมารับหนูข้างนอกค่ะ.) จี้จังตอบเป็นภาษาญี่ปุ่นสำเนียงคันไซ

เจ้าหน้าที่ ตม. งงและแปลกใจที่เด็กคนนี้เป็นคนไทยแต่พูดไทยไม่ได้ เขาจึงคิดว่า จี้จังปลอม Passport ไทยเข้ามา จึงจับ จี้จังไปที่ห้องเย็นของ ตม. สุวรรณภูมิ

เด็กสาวงงมาก แต่ก็ไปแต่โดยดี

ด้านนอก ตม. สุวรรณภูมิ 22.30

ชายหนุ่มรอจี้จังอยู่ตั้งแต่ 21.30และรู้สึกว่ามันนานผิดปกติ ขณะนั้นเอง เขาชนกับหญิงสาวผู้หนึ่งที่รีบร้อนเดินผ่านจาก ตม. ชายหนุ่มบอกว่า

“ขอโทษครับ ที่เดินชนคุณ เห ? H.K. เองเหรอ”

ใช่ ชายหนุ่มเจอเพื่อนสนิทที่หายไปนานหลายปีนับตั้งแต่เขาเรียนจบ ม.6 ที่โรงเรียน H เธอชื่อ H.K. เป็น Broker ที่มีชื่อเสียงมาก เธอจบด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโทได และตอนนี้เธอเพิ่งกลับจากการสอบป้องกันวิทยานิพนธ์ด้านประวัติศาสตร์ยุคกลางที่มหาวิทยาลัยในเยอรมนี

“มาทำไมที่สุวรรณภูมิ หือม์” หญิงสาวถาม

“รอน้องสาวนะครับ ชื่อ Morikawa Chiaki”

“Morikawa Chiaki อือม์ ดูเหมือนน้องนายจะโดน ตม.ลากเข้าห้องเย็นไปเมื่อกี้ นายต้องไปยืนยันตัวน้องนายโดยด่วนเลยล่ะเดี๋ยวฉันจะช่วยด้วย แต่นายต้องเลี้ยงกาแฟฉัน“ หญิงสาวบอก ทั้งคู่จึงรีบไป ตม.โดยด่วน


ห้องเย็น ใต้สนามบิน สุวรรณภูมิ 23.10 น.

                เด็กสาวรู้สึกกลัวมาก แต่เนื่องจากเธอรู้ว่าเธอไม่ควรที่จะ Panic หรืออะไรทั้งสิ้น เธอจึงนิ่งสงบ ไม่ตื่นตกใจเหมือนป้าอีกคนที่นั่งข้างๆ หัวหน้า ตม. คนหนึ่งมาหาเด็กสาวและคุยกับเธอ

“Anata wa eigo o hanasemasu ka?” (เธอพูดภาษาอังกฤษได้ไหม)

“Hai, dekimasu.” (พูดได้ค่ะ) เด็กสาวตอบ

“That’s Okay. I want to ask you some question.” (โอเค ลุงจะขอถามหนูบางคำถามนะ)

“ Okay sir” (ได้ค่ะ)

“Custom official suspect you about you use invalid Thai passport because you can’t talk Thai. Please tell me about your detail why do you come to Thailand for 5 years”  (เจ้าหน้าที่ ตม. สงสัยว่าหนูใช้พาสปอร์ตปลอมเข้าประเทศเพราะหนูพูดไทยไม่ได้ ช่วยเล่ารายละเอียดของหนูและจุดประสงค์ที่มาอยู่เมืองไทย 5 ปีด้วย)

“Yes , I am Morikawa Chiaki My household is Morikawa shrine in Tennoji-Ku, Osaka. My mother is Assistant Professor Morikawa Kana who teach in Tokyo university and My father is Dr.Vichit who teach in C. university and he is researcher too. I come to Thailand for study in secondary school and I will live in my half brother’s household because my father is very busy and I think my brother will take me in outside and that is my document about my parent and address of my half brother please check” (ได้ค่ะ ดิฉันชื่อ โมริคะวะ จิอากิ บ้านของฉันอยู่ที่ศาลเจ้าโมริคะวะ ที่เขตเทนโนะจิ , โอซาก้า คุณแม่ของฉันคือ ผศ.โมริคะวะ คานะ สอนอยู่ที่ โทได และ คุณพ่อของฉัน ดร.วิชิต สอนที่ มหาวิทยาลัย C และ เขาเป็นนักวิจัยด้วย ฉันมาเมืองไทยเนื่องจากมาเรียนต่อระดับ ม.ต้น และจะอยู่ที่บ้านพี่ชายค่ะ เพราะคุณพ่องานยุ่งมาก และฉันคิดว่าพี่ชายรออยู่ข้างนอกแล้วค่ะ และอันนี้เป็นเอกสารยืนยันค่ะเกี่ยวกับพ่อแม่ของฉัน และที่อยู่และเบอร์โทรของพี่ชาย เชิญดูได้ค่ะ) เด็กสาวตอบอย่างฉะฉาน เพราะเธอเรียนภาษาอังกฤษมาจากแม่ค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่เล็ก พร้อมกับเรียนคาตากานะไปด้วย เมื่อเทียบกับมาตรฐานเด็กญี่ปุ่นทั่วไป เธอค่อนข้างเหนือกว่าในเกือบทุกทักษะ เพราะเธอหัวดีและ ขยันขันแข็ง เธอจึงสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เลย แบบไม่ติดการอ่านแบบญี่ปุ่นไปใช้ด้วย

“ Please wait I will call him” (โปรดรอจ้ะ ลุงจะโทรไปหาพี่ชายหนู)

อาคารผู้โดยสารขาเข้า 23.20

เสียงมือถือดังขึ้น ชายหนุ่มผู้เป็นพี่ชายรับ

“สวัสดีครับ ใครจะเรียนสายด้วยครับ”

“คุณเป็นพี่ชายของ Morikawa Chiaki ใช่ไหมครับ”

“ใช่ครับ คุณคือเจ้าหน้าที่ ตม. ใช่ไหมครับ”

“ครับ ต้องการถามคุณหน่อยครับ คุณทำอาชีพอะไรครับ”

“ครับ ผมเป็นคุณครูโรงเรียน H สอนระดับ ม.6 ผมอยู่ที่คอนโดถนน L.”

“ครับ เดี๋ยวผมจะปล่อยน้องสาวคุณออกมานะครับ เพราะเจ้าหน้าที่เข้าใจผิดเรื่องภาษา”

“ขอบคุณครับ”

ห้องเย็น ตม. สุวรรณภูมิ 23.25

หัวหน้าตรวจคนเข้าเมืองบอกกับเด็กสาวที่ลุ้นๆในใจว่า

“Okay My decision about your case. You can leave from this room and your brother wait you at outside. Welcome to Thailand and Please enjoy between you stay” (โอเค นี่คือการตัดสินของผม หนูออกจากห้องนี้ได้แล้ว พี่ชายหนูมารอรับอยู่ข้างนอก. ยินดีต้อนรับสู่ประเทศไทย หวังว่าจะสนุกกับการมาเมืองไทยนะจ้ะ)

Arigatōgozaimasu (ขอบคุณมากๆค่ะ) เด็กสาวโค้งแบบญี่ปุ่นก่อนเจ้าหน้าที่ก็เอาเธอออกจากห้องไป

“เอาล่ะถึงคิวป้าแล้วนะ” เจ้าหน้าที่ ตม. ก็หันมามองที่ป้าที่นั่งข้างๆเด็กสาว

อาคารผู้โดยสารขาเข้า 23.35

เด็กสาวเห็นชายหนุ่มด้านนอกเธอจึงวิ่งด้วยความดีใจ แล้วก็กอดแน่น

“ดีใจจังที่โอนิจังมารับ หนูกลัวแทบแย่ตอนเข้าห้องนั้น”

“เอาล่ะ เดี๋ยวเราไปที่คอนโดเลยนะ พี่เตรียมห้องไว้ให้เธอแล้ว”

“อะแฮ่ม นายครูโรคจิต นายลืมสัญญากับฉันแล้วใช่ไหม ว่าจะเลี้ยงกาแฟฉัน” หญิงสาวที่มากับชายหนุ่มทวงเรื่องที่ชายหนุ่มสัญญาไว้

“ใช่สิ เดี๋ยวไปร้านกาแฟสนามบินก่อน เดี๋ยวค่อยกลบับบ้านนะ จี้จัง”

ทั้ง 3 คนจึงไปที่ร้าน กาแฟในสนามบิน และต่อไปนี้ชีวิตของจี้จังในไทย ก็เริ่มขึ้นแล้ว



ตอนต่อไป เพื่อให้จี้จังเรียนภาษาไทยได้เร็วที่สุด โอนิจังต้องพาเธอไปยังห้องสมุดของ HK นั่นก็คือ ห้องสมุดนิรันดร ซึ่งเป็นห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เธอจะพบการผจญภัยอะไรที่นี่ ติดต่อในสัปดาห์หน้าในชื่อตอน  Infinity Library
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่