ฮันนีมูนทริป พักกาย พักใจ โตเกียว - คาวากูจิโกะ
จากครั้งที่แล้วที่ลองเขียนเรื่องไปกุ้ยหลินมาได้นิดหน่อย ความเห่อก็ได้หมดไป เลยขอพักกุ้ยหลินซักพัก
มาเขียนเรื่องญี่ปุ่นที่เพิ่งไปมาสด ๆ ร้อน ๆ ก่อนแล้วกัน เพราะยังรู้สึกฟินอยู่
และอีกอย่างคือมีเพื่อนบอกจะขอตามรอยเยอะ ถ้านาน ๆ ไปจะจำไม่ได้ ก็มาเขียนเป็น Diary ช่วยจำไปก่อน ใครถามจะได้แปะให้อ่านกันเลย
ไปฮันนีมูนแบบ Slowlife มาที่ญี่ปุ่น 3-8 ธันวาคม แบบไปกันเอง และ No Plan มีแค่ตั๋วเครื่องบิน และที่พัก
เคยไปญี่ปุ่นมาแล้วครั้งนึง แบบไปเองเช่นกัน และแพลนทุกอย่าง ด้วยงบที่ถูกมาก
แต่ครั้งนี้ขอแบบอยู่ดี กินดี สบาย ๆ ชิล ๆ เอาที่สบายใจ
รายละเอียดจำไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เลยขอรีวิวแบบลงรูปซะส่วนใหญ่แล้วกันนะ ไหน ๆ ถ่ายรูปมาแล้ว
ถ่ายด้วย Canon กับ Iphone5S ครั้งนี้ถ่ายด้วยโทนสีสดใส เพราะอยากให้ภาพออกมาดูธรรมชาติ
ทริปฮันนีมูนต้องเขียนให้หวานมั้ย ก็คงไม่ เพราะไม่ใช่คู่ข้าวใหม่ปลามัน แต่งงานปุ๊บไปปั๊บ
อันนี้สองปีแล้ว ถึงจะมีโอกาสและหาเวลาว่างไปกัน แต่ก็ถือว่าเป็นการเติมความหวานในชีวิตแต่งงานกันใหม่นั่นเอง
คราวนี้เราบินกับการบินไทยค่ะ 5 ชั่วโมง ตื่นตั้งแต่ตี 5 ขึ้นเครื่อง 8 โมง ง่วงก็ง่วง แต่หลับไม่ลง เพราะข้าง ๆ เป็นแขก นอนกรนสนั่นหวั่นไหว
เลยหาหนังดู ดู Jurassic World กับ Pixel จบไป 2 เรื่อง มีข้าวให้กิน 1 มื้อ กับ Snack 1 มื้อ
ไปถึงญี่ปุ่น สนามบินนาริตะ ประมาณบ่าย 3 รอกระเป๋าโหลดนานมาก ครึ่งชั่วโมงได้ ไปคนแรก ๆ ได้กระเป๋าแทบคนหลังสุด รู้งี้ค่อย ๆ เดินก็ได้
หลังจากนั้นก็นั่งรถไฟไป Ueno ชอบตรงรถไฟมีห้องน้ำ ดีงาม แล้วนั่ง JR ต่อไปชินจูกุ สถานที่ที่จะพักในโตเกียวต่อ
อากาศประมาณ 10 องศา กำลังสบาย ๆ ไม่หนาวจนเกินไป
จะบอกว่าไปมาหลายที่ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่รถไฟเยอะมาก เยอะจนไม่รู้ว่าไปทางไหน
ทั้งสถานีก็เยอะจนจำไม่ได้ เป็นความงงส่วนตัว เดินตามแฟนอย่างเดียว ถ้าหายไปทีนี่ยืนอยู่ตรงนั้นเลย
มีเอา Pocket Wifi ไปอันเดียวแล้วแชร์กัน ต้องขอเกาะตัวเป็นปลิงด้วย เพราะถ้าพลัดหลงกันทีเดี๋ยวหากันไม่เจอ
ไปถึงชินจูกุแล้ว ไม่รู้ที่พักอยู่ตรงไหน เลยนั่งแท๊กซี่ไปที่พัก (จากที่เคยไปคราวก่อนเมื่อ 4 ปีที่แล้ว คือไม่ได้นั่งแท๊กซี่เลย)
ก็ยังคงชอบแท๊กซี่ที่ญี่ปุ่น ให้ความรู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก
ถึงที่พักแล้ว เราจองกับ Airbnb แท๊กซี่พาเราไปส่งถึงหน้าที่พัก อยู่ในซอยเล็กๆ เงียบๆ ชื่อ Galicia Yoyogi
เจ้าของใส่กุญแจไว้ในตู้จดหมาย ก็งง ๆ เปิดตู้จดหมายไม่ออก เลยเอามือล้วงไปหยิบแทน
ไปดรอปกระเป๋าลง ห้องแค่นี้ อยู่สองคนก็ถือว่าเพียงพอแล้ว สำหรับการพักในโตเกียว
ห้องสะอาด มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แทบอยากจะอยู่ถาวร เป็นบ้านตัวเอง
มีทั้งเครื่องซักผ้า อุปกรณ์ในครัวครบ แต่มานี่ก็ไม่ได้ทำครัวอยู่ดี มีห้องน้ำอ่างอาบน้ำเล็ก ๆ ฮีตเตอร์
เจ้าของเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในห้องน้ำครบได้อีก
มีโซฟา ทีวี เตียงเล็ก ๆ น่ารัก ผ้าห่มอุ่นมาก
ตู้เสื้อผ้า เข้ามุมดี
เตียงเล็ก ๆ เบียดกันนิดนึง อบอุ่น
หลังจากวางกระเป๋าแล้ว ก็นั่งรถไฟต่อ โดยเดินจากที่พักมาสถานีแบบครูพักรักจำที่แท๊กซี่พามาส่ง
ออกไปเจอเพื่อนที่ญี่ปุ่น พาไปกินร้านปิ้งย่าง ที่ Minato-ku ร้าน Midoriya
เด็กเสิร์ฟเป็นฝรั่งด้วย พูดภาษาญี่ปุ่น ไฟแล๊บ และยังมีคนไทยด้วย หนุ่ม ๆ เค้ากินเนื้อกัน ส่วนเราก็ขอเป็นหมู
ให้ทางร้านช่วยจัดมาให้เลย ระหว่างรออาหาร ก็ดูเมนูไป ข้างบนแน่ ๆ อะเป็นวัว
แล้วข้างล่างนี่ตัวอะไร ปากกับใจพูดพร้อมกันว่าหมา น่ารักจังเลย
ทายผิดสิคะ มันคือกวาง กวางอะไรหน้าตายังงี้ฮะ ตลก ขำตัวเอง
ที่นี่กิมจิ อร่อย ถั่วงอกกินได้ (ปกติไม่กินถั่วงอก) หนุ่ม ๆ บอกว่า เนื้ออร่อยมาก ฟินมาก ระดับ A5
มันคือเทพของเนื้อวัว เลยแอบสงสัยนึกไปต่อว่า หมู ปลา กุ้ง มีวัดระดับมั้ย
แต่ที่กินนี่ก็อร่อยแหละ หมูนุ่มละลายในปากเลยทีเดียว สมกับราคาต่อหัวประมาณ 6000 เยน (ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์นะ) พอดีกินจุ
ตบท้ายด้วยของหวาน ที่กินคนเดียว กินแล้วแบบ อู๊ยย..อร่อยจัง ไม่กลัวอ้วนเลย กลับมาน้ำหนักพุ่งใส่กางเกงฟิตเปรี๊ยะ
เป็นพุดดิ้งทั้งหลาย เคลือบน้ำตาลไหม้ ๆ นิด ๆ อร่อยพุงกาง ตอน 4 ทุ่ม (นี่ชั้นกินข้าวเสร็จแล้วแป๊บเดียวก็นอนเลยเหรอ คิดในใจ)
กินเสร็จ โบกมือลาเพื่อน แล้วขึ้นรถไฟกลับชินจูกุ พร้อมกับเดินงง ๆ มั่ว ๆ หาทางกลับที่พัก อาบน้ำ นอน
เก็บแรงไว้เที่ยววันต่อไป
สำหรับคืนนี้ก็ขอไปอาบน้ำนอนก่อนเช่นกัน เดี๋ยวมาต่อค่ะ
[CR] Honeymoon Slowlife Japan Trip ~ Tokyo - Kawaguchiko
จากครั้งที่แล้วที่ลองเขียนเรื่องไปกุ้ยหลินมาได้นิดหน่อย ความเห่อก็ได้หมดไป เลยขอพักกุ้ยหลินซักพัก
มาเขียนเรื่องญี่ปุ่นที่เพิ่งไปมาสด ๆ ร้อน ๆ ก่อนแล้วกัน เพราะยังรู้สึกฟินอยู่
และอีกอย่างคือมีเพื่อนบอกจะขอตามรอยเยอะ ถ้านาน ๆ ไปจะจำไม่ได้ ก็มาเขียนเป็น Diary ช่วยจำไปก่อน ใครถามจะได้แปะให้อ่านกันเลย
ไปฮันนีมูนแบบ Slowlife มาที่ญี่ปุ่น 3-8 ธันวาคม แบบไปกันเอง และ No Plan มีแค่ตั๋วเครื่องบิน และที่พัก
เคยไปญี่ปุ่นมาแล้วครั้งนึง แบบไปเองเช่นกัน และแพลนทุกอย่าง ด้วยงบที่ถูกมาก
แต่ครั้งนี้ขอแบบอยู่ดี กินดี สบาย ๆ ชิล ๆ เอาที่สบายใจ
รายละเอียดจำไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เลยขอรีวิวแบบลงรูปซะส่วนใหญ่แล้วกันนะ ไหน ๆ ถ่ายรูปมาแล้ว
ถ่ายด้วย Canon กับ Iphone5S ครั้งนี้ถ่ายด้วยโทนสีสดใส เพราะอยากให้ภาพออกมาดูธรรมชาติ
ทริปฮันนีมูนต้องเขียนให้หวานมั้ย ก็คงไม่ เพราะไม่ใช่คู่ข้าวใหม่ปลามัน แต่งงานปุ๊บไปปั๊บ
อันนี้สองปีแล้ว ถึงจะมีโอกาสและหาเวลาว่างไปกัน แต่ก็ถือว่าเป็นการเติมความหวานในชีวิตแต่งงานกันใหม่นั่นเอง
คราวนี้เราบินกับการบินไทยค่ะ 5 ชั่วโมง ตื่นตั้งแต่ตี 5 ขึ้นเครื่อง 8 โมง ง่วงก็ง่วง แต่หลับไม่ลง เพราะข้าง ๆ เป็นแขก นอนกรนสนั่นหวั่นไหว
เลยหาหนังดู ดู Jurassic World กับ Pixel จบไป 2 เรื่อง มีข้าวให้กิน 1 มื้อ กับ Snack 1 มื้อ
ไปถึงญี่ปุ่น สนามบินนาริตะ ประมาณบ่าย 3 รอกระเป๋าโหลดนานมาก ครึ่งชั่วโมงได้ ไปคนแรก ๆ ได้กระเป๋าแทบคนหลังสุด รู้งี้ค่อย ๆ เดินก็ได้
หลังจากนั้นก็นั่งรถไฟไป Ueno ชอบตรงรถไฟมีห้องน้ำ ดีงาม แล้วนั่ง JR ต่อไปชินจูกุ สถานที่ที่จะพักในโตเกียวต่อ
อากาศประมาณ 10 องศา กำลังสบาย ๆ ไม่หนาวจนเกินไป
จะบอกว่าไปมาหลายที่ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่รถไฟเยอะมาก เยอะจนไม่รู้ว่าไปทางไหน
ทั้งสถานีก็เยอะจนจำไม่ได้ เป็นความงงส่วนตัว เดินตามแฟนอย่างเดียว ถ้าหายไปทีนี่ยืนอยู่ตรงนั้นเลย
มีเอา Pocket Wifi ไปอันเดียวแล้วแชร์กัน ต้องขอเกาะตัวเป็นปลิงด้วย เพราะถ้าพลัดหลงกันทีเดี๋ยวหากันไม่เจอ
ไปถึงชินจูกุแล้ว ไม่รู้ที่พักอยู่ตรงไหน เลยนั่งแท๊กซี่ไปที่พัก (จากที่เคยไปคราวก่อนเมื่อ 4 ปีที่แล้ว คือไม่ได้นั่งแท๊กซี่เลย)
ก็ยังคงชอบแท๊กซี่ที่ญี่ปุ่น ให้ความรู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก
ถึงที่พักแล้ว เราจองกับ Airbnb แท๊กซี่พาเราไปส่งถึงหน้าที่พัก อยู่ในซอยเล็กๆ เงียบๆ ชื่อ Galicia Yoyogi
เจ้าของใส่กุญแจไว้ในตู้จดหมาย ก็งง ๆ เปิดตู้จดหมายไม่ออก เลยเอามือล้วงไปหยิบแทน
ไปดรอปกระเป๋าลง ห้องแค่นี้ อยู่สองคนก็ถือว่าเพียงพอแล้ว สำหรับการพักในโตเกียว
ห้องสะอาด มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แทบอยากจะอยู่ถาวร เป็นบ้านตัวเอง
มีทั้งเครื่องซักผ้า อุปกรณ์ในครัวครบ แต่มานี่ก็ไม่ได้ทำครัวอยู่ดี มีห้องน้ำอ่างอาบน้ำเล็ก ๆ ฮีตเตอร์
เจ้าของเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในห้องน้ำครบได้อีก
มีโซฟา ทีวี เตียงเล็ก ๆ น่ารัก ผ้าห่มอุ่นมาก
ตู้เสื้อผ้า เข้ามุมดี
เตียงเล็ก ๆ เบียดกันนิดนึง อบอุ่น
หลังจากวางกระเป๋าแล้ว ก็นั่งรถไฟต่อ โดยเดินจากที่พักมาสถานีแบบครูพักรักจำที่แท๊กซี่พามาส่ง
ออกไปเจอเพื่อนที่ญี่ปุ่น พาไปกินร้านปิ้งย่าง ที่ Minato-ku ร้าน Midoriya
เด็กเสิร์ฟเป็นฝรั่งด้วย พูดภาษาญี่ปุ่น ไฟแล๊บ และยังมีคนไทยด้วย หนุ่ม ๆ เค้ากินเนื้อกัน ส่วนเราก็ขอเป็นหมู
ให้ทางร้านช่วยจัดมาให้เลย ระหว่างรออาหาร ก็ดูเมนูไป ข้างบนแน่ ๆ อะเป็นวัว
แล้วข้างล่างนี่ตัวอะไร ปากกับใจพูดพร้อมกันว่าหมา น่ารักจังเลย
ทายผิดสิคะ มันคือกวาง กวางอะไรหน้าตายังงี้ฮะ ตลก ขำตัวเอง
ที่นี่กิมจิ อร่อย ถั่วงอกกินได้ (ปกติไม่กินถั่วงอก) หนุ่ม ๆ บอกว่า เนื้ออร่อยมาก ฟินมาก ระดับ A5
มันคือเทพของเนื้อวัว เลยแอบสงสัยนึกไปต่อว่า หมู ปลา กุ้ง มีวัดระดับมั้ย
แต่ที่กินนี่ก็อร่อยแหละ หมูนุ่มละลายในปากเลยทีเดียว สมกับราคาต่อหัวประมาณ 6000 เยน (ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์นะ) พอดีกินจุ
ตบท้ายด้วยของหวาน ที่กินคนเดียว กินแล้วแบบ อู๊ยย..อร่อยจัง ไม่กลัวอ้วนเลย กลับมาน้ำหนักพุ่งใส่กางเกงฟิตเปรี๊ยะ
เป็นพุดดิ้งทั้งหลาย เคลือบน้ำตาลไหม้ ๆ นิด ๆ อร่อยพุงกาง ตอน 4 ทุ่ม (นี่ชั้นกินข้าวเสร็จแล้วแป๊บเดียวก็นอนเลยเหรอ คิดในใจ)
กินเสร็จ โบกมือลาเพื่อน แล้วขึ้นรถไฟกลับชินจูกุ พร้อมกับเดินงง ๆ มั่ว ๆ หาทางกลับที่พัก อาบน้ำ นอน
เก็บแรงไว้เที่ยววันต่อไป
สำหรับคืนนี้ก็ขอไปอาบน้ำนอนก่อนเช่นกัน เดี๋ยวมาต่อค่ะ