หนังของปู่Riddly ฉบับเดิมเรื่องนี้โดนแฟนวิจารณ์เละพอสมควร แต่ผมชอบนะฉบับเดิมผมดูหลายรอบเลยและรู้เรื่องด้วยอาจเพราะรู้เรื่องสงครามครูเสดอยู่แล้วเลยรู้ใครเป็นใคร และเหตุการณ์ในหนังคือครูเสดครั้งที่ 2 (ครั้งแรกคือพวกคริสเตียนมาบุกยึดเยรูซาเล็ม ครั้งที่2ก็คือมุสลิมนำโดยซาลาดินมาเอาคือ และต่อเนื่องด้วยครั้งที่3ตอนท้ายเรื่องที่ King Richard I จากอังกฤษไปท้ารบกับซาลาดินต่อ) แต่ก็เห็นด้วยกับคำวิจารณ์ว่าฉบับโรงหนังนั่นบทดูรวบรัดชอบกล
แต่พอได้มีโอกาสดูฉบับเต็ม Director's cut ซึ่งยาวมากกกกกกกก แต่คุ้มค่าที่เสียเวลาดูเพราะส่วนขยายนี้ทำให้หนังฉบับเดิมเปลี่ยนมากลายเป็นหนังสงครามประวัติศาสตร์ยุคกลางที่สมบูรณ์ที่สุดที่ผมเคยดูเลย
ส่วนที่เพิ่มมาที่ผมชอบคือ การโพล่มาของลูกชายของอิสบิลล่า(ราชชินีที่แสดงโดย อีวากรีน)
ซึ่งมีตัวตนในประวัติศาสตร์จริงๆ
และ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก็ขึ้นครองราชต่อจาก King Balvin IV ที่เป็นเรื้อนเอ็ดเวิร์ด นอร์ตันแสดง และเจ้าหนูคนนี้ตามประวัติศาสตร์ก็เป็นโรคเรื้อนเหมือนลุงแป๊ะ ซึ่งเป็นการขยายเลยว่าทำไมอิสบิลล่าต้องยกบัลลังค์ให้กับ กีร์ เดอร์ ลูซิยงให้ไปทำship หายต่อไป เพราะไม่เหลือใครแล้ว พระเอกก็ดันไม่รับบัลลังค์
อันนี้แหละบอกว่าเป็นเรื้อน เพราะตอนเริ่มเป็นพวกมือเท้ามันด้านๆไม่เจ็บไม่ปวด
อีกจุดหนึ่งในตอนต้นมีฉากขยายความว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พระเอกเคยเป็นทหาร แต่เป็นทหารแนวๆทหารช่าง เคยออกรบในสงครามขุนนางรบกับขุนนางมาก่อน มิน่าถึงเก่งไม่ได้เป็นแต่ตีเหล็ก
แต่ยังไงหนังก้คือหนัง ก็ยังมีจุดที่แต่งขึ้นมาผิดจากประวัติศาสตร์บ้างคือตอน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนศึกสุดท้ายในหนังนั้นจริงๆแล้วเบเลี่ยนเพระเอกของเราไปรบกับทัพครูเสดด้วยนะครับ แต่ตอนที่แพ้หนีออกมาได้ก่อน แล้วก็กลับไปที่เยรูซาเลม และพ่อเบเลี่ยนเราก็ไม่ได้รบอะไรหรอก แต่เปิดการเจรจาเลยทันที่ทัพของซาลาดีนไปถึงเยรูซาเล็ม แถมยื่นข้อเสนอแบบไม่เกรงใจซาลาดีนอีก ว่าต้องคุ้มครองชาวคริสกลับโดยปลอดภัย ต้องไม่ทำลายหรือยึกสมบัติในโบสคริสที่อยู่ในเมือง และต้องอนุญาติให้ชาวคริสมาแสวงบุญในเยรูซาเล็มได้ด้วย พี่ขอซะอย่างกับเป็นผู้ชนะ ซึ่งซาลาดีนให้ตามคำขอหมดเลย(พระเอกตัวจริง)
พูดแล้วก็อดเสียดายที่หนังเรื่องนี้ไม่ประสบความสำเร็จเรื่องรายได้เท่าไหร่ เลยทำให้หนังสงครามยุคกลางดีๆไม่มีออกมาอีกเลย
"เมืองจะสำคัญอะไรก็แค่ก้อนหิน คนสิสำคัญที่สุด" คำคมท้ายเรื่องของซาลาดีน
หลังจากพึ่งได้ดู Kingdom of heaven ฉบับDirector's cut
แต่พอได้มีโอกาสดูฉบับเต็ม Director's cut ซึ่งยาวมากกกกกกกก แต่คุ้มค่าที่เสียเวลาดูเพราะส่วนขยายนี้ทำให้หนังฉบับเดิมเปลี่ยนมากลายเป็นหนังสงครามประวัติศาสตร์ยุคกลางที่สมบูรณ์ที่สุดที่ผมเคยดูเลย
ส่วนที่เพิ่มมาที่ผมชอบคือ การโพล่มาของลูกชายของอิสบิลล่า(ราชชินีที่แสดงโดย อีวากรีน)
ซึ่งมีตัวตนในประวัติศาสตร์จริงๆ
และ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อีกจุดหนึ่งในตอนต้นมีฉากขยายความว่า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่ยังไงหนังก้คือหนัง ก็ยังมีจุดที่แต่งขึ้นมาผิดจากประวัติศาสตร์บ้างคือตอน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พูดแล้วก็อดเสียดายที่หนังเรื่องนี้ไม่ประสบความสำเร็จเรื่องรายได้เท่าไหร่ เลยทำให้หนังสงครามยุคกลางดีๆไม่มีออกมาอีกเลย
"เมืองจะสำคัญอะไรก็แค่ก้อนหิน คนสิสำคัญที่สุด" คำคมท้ายเรื่องของซาลาดีน