คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ซาลาดินไม่ได้ตอบแค่ว่า “ไม่มี” นะครับ หลังจากตอบว่า “ไม่มี” แต่ตอนหลังก็หันมาบอกต่อว่า “สำคัญยิ่ง”
จริงๆ พากย์อังกฤษคือ “Nothing” (ไม่มีอะไรเลย) หลังจากนั้นก็ตอบว่า ”everything” (ทุกสิ่งทุกอย่าง)
ความหมายของคำว่า Nothing ที่ซาลาดินตอบตอนแรกหมายถึงเยรูซาเล็มในฐานะ “เมืองๆ หนึ่ง” ซึ่งมันไม่มีค่าอะไร ก็แค่สถานที่ที่สร้างจากหินจากอิฐทั่วไปเท่านั้น ใครจะมาปกครองหรือบุกมายึดก็ได้ มันไม่ได้มีค่าอะไร
แต่ต่อมาเขาพูดว่า “Everything” ความหมายนี้หมายถึงเยรูซาเล็มในฐานะ “ผู้คน” เพราะเยรูซาเล็มคือศูนย์รวมของคนหลายเชื้อชาติและศาสนา หลายเชื้อชาติ เช่น ชาวยิว ชาวอาหรับ ชาวยุโรป และหลายศาสนาคือ ศาสนายูดาย ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม
จึงสรุปความหมายได้ว่า เยรูซาเล็มในฐานะเมืองๆ หนึ่งนั้นไม่มีค่าอะไร (Nothing) แต่ในฐานะผู้คนแล้วมันเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง (Everything) หรือก็คือมันสำคัญสำหรับคนทุกคนนั่นเองครับ
จริงๆ พากย์อังกฤษคือ “Nothing” (ไม่มีอะไรเลย) หลังจากนั้นก็ตอบว่า ”everything” (ทุกสิ่งทุกอย่าง)
ความหมายของคำว่า Nothing ที่ซาลาดินตอบตอนแรกหมายถึงเยรูซาเล็มในฐานะ “เมืองๆ หนึ่ง” ซึ่งมันไม่มีค่าอะไร ก็แค่สถานที่ที่สร้างจากหินจากอิฐทั่วไปเท่านั้น ใครจะมาปกครองหรือบุกมายึดก็ได้ มันไม่ได้มีค่าอะไร
แต่ต่อมาเขาพูดว่า “Everything” ความหมายนี้หมายถึงเยรูซาเล็มในฐานะ “ผู้คน” เพราะเยรูซาเล็มคือศูนย์รวมของคนหลายเชื้อชาติและศาสนา หลายเชื้อชาติ เช่น ชาวยิว ชาวอาหรับ ชาวยุโรป และหลายศาสนาคือ ศาสนายูดาย ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม
จึงสรุปความหมายได้ว่า เยรูซาเล็มในฐานะเมืองๆ หนึ่งนั้นไม่มีค่าอะไร (Nothing) แต่ในฐานะผู้คนแล้วมันเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง (Everything) หรือก็คือมันสำคัญสำหรับคนทุกคนนั่นเองครับ
แสดงความคิดเห็น
ใน Kingdom of heaven ทำไมซาลาดีน ถึงบอกว่า เยรูซาเล็มไม่มีค่า