เกาะเสม็ด : ไปคนเดียว ก็เฟี้ยวได้

สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่ากระทู้นี้
เป็นกระทู้แรกที่ผมจะรีวิว ผิดถูกยังไง ขออภัยด้วยครับ
***ขออภัยที่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปช่วงแรกๆครับ

การไปเสม็ดคนเดียวครั้งนี้ขอผมก็ไม่มีอะไรมาก แค่อยากลองใช้ชีวิตคนเดียวดู
ก่อนที่ต้นเดือนม.ค.59 จะบินไปเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียว
ก่อนออกเดินทางถามว่าตื่นเต้นมั๊ย ตอบเลยว่าตื่นเต้นมว้ากก!!
เพราะไม่เคยเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวมาก่อน
แต่จากการอ่านรีวิวหลายๆคน คนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้(ดิวะ)

ก่อนหน้านี้ผมมาเสม็ดได้ประมาณ 2-3 ครั้งละครับ มาเป็นคู่
ครั้งนี้คู่ไม่มี เลยมาเป็นคี่ ^^

ค่าใช้จ่ายในทริปนี้ จะสรุปยอดไว้ในตอนท้ายของกระทู้นะครับ





การเดินทางแพลนไป 2 วัน 1คืน พักที่ไวท์แซนด์ รีสอร์ท อยู่หาดทรายแก้ว
โดยโทรไปจองก่อน 1 อาทิตย์ เนื่องจากวันที่ 5-7 ธ.ค.59 เป็นช่วงวันหยุดยาว 3 วัน กลัวที่พักจะเต็ม
ที่พักที่ผมจองเป็นห้องพัดลม ราคา 1000 บาท โดยโอนค่ามัดจำไปก่อนครึ่งนึง

เช้าวันเสาร์ที่5ธ.ค.59 รีบตื่นนอน อาบน้ำออกจากห้อง เวลา 07.40 น.
ขึ้นวินมอไซด์ไปขึ้นรถตู้ที่เซียร์รังสิต รถตู้ออกจากเซียร์ 07.45 น.
รถตู้ขับขึ้นทางด่วน ไปถึงอนุสาวรีย์ เวลา 08.10 น.
เดินไปขึ้นรถตู้วินBH ข้างเซนจูรี่ ซื้อตั๋วที่ช่องที่3 ไปเสม็ด 200 บาท
รถออกเวลา 08.30 น. แวะเปลี่ยนรถที่ท่ารถแถวๆระยอง เวลา 11.15 น.
ก่อนถึงท่าเรือนวลทิพย์(เห็นทะเลอยู่ข้างหน้าละ)
รถตู้แวะวินอีก เพื่อสอบถามว่าใครจะซื้อตั๋วเที่ยวขากลับบ้าง
ก็เลยซื้อขากลับไปเลย 200 บาท
ถึงท่าเรือนวลทิพย์ เวลา 11.45 น.
***ระหว่างทางไม่มีจอดเติมน้ำมันเลยครับ
พอถึงท่าเรือผมก็มุ่งหน้าไปซื้อตั๋วขึ้นเรือธรรมดาไปท่าเรือหน้าด่าน
***ท่าเรือหน้าด่าน คือ ท่าเรือของฝั่งเกาะเสม็ด




การซื้อเขาจะให้ซื้อตั๋วไป-กลับ ราคา 100 บาท
โดยก่อนขึ้นเรือเขาจะฉีกครึ่งนึง อีกครึ่งนึงเก็บไว้แสดงให้เขาก่อนขึ้นเรือกลับฝั่ง



หลังจากซื้อตั๋วได้ ก็มุ่งหน้าจะลงเรือเลย เรือมาพอดี
จะขึ้นเรืออยู่ละ เพิ่งนึกได้ ว่ายังไม่ได้กินอะไรมาเลย หิวๆ
มาหาอะไรรองท้องก่อนดีกว่า เลยเดินออกมานอกท่าเรือ
มีร้านอาหารตามสั่งใกล้ๆ เลยนึกไรไม่ออก สั่ง "ข้าวทะเลกระเทียมพริกไทย" 1 จาน
ก่อนสั่งเจ้าของร้านก็บอกราคาก่อนด้วย 70 บาทนะ ก็โอเค ไม่มีปัญหา
อาหารที่สั่งได้มาตามรูปครับ ข้าวน้อยๆ(อาจจะเพราะหิว) กับกุ้ง 1 ตัว + หมึก 3 ชิ้น ที่เหลือเป็นเศษๆผัก


พอผมถ่ายรูปอาหารเท่านั้นแหล่ะ เจ้าของร้านเลยถามว่าเพิ่มข้าวไหม
ผมก็ขอเพิ่มหน่อย แกตักให้ซะเยอะเลย แต่เป็นข้าวเปล่านะ(ก็ยังดี กินกะน้ำปลาพริกเอา)
พอกินไปเกือบครึ่งจานละ แกเอาน้ำซุปมาให้อีก ผมล่ะปลื้มเลยทีเดียว


ก่อนลงเรือ (เคย)มีความคิดว่าบนเกาะของต้องแพง
เลยแวะเซเว่น จัดของกินมานิดหน่อย ตามรูปครับ
น้ำเปล่าขวดใหญ่ 2 ขวด เบียร์เล็ก 2 ขวด ขนม 2 ถุง


สรุปว่าขากลับต้องขนขนม 1 ถุง + เบียร์เล็ก 1 ขวด กลับมากรุงเทพด้วย
เพราะกินไม่หมด เบียร์มันไม่เย็นด้วยง่า Y,Y

ป่ะๆ ได้เวลาขึ้นเรือละ












ระหว่างรอเรือเที่ยวนี้เกือบครึ่งชม. แสดงว่าเรือคงเพิ่งออกไปก่อนที่จะมาได้ไม่นาน
เลยกรุ้มกริ่ม จัดเบียร์ไปก่อนซะขวดนึง อิอิ
พอลงเรือเท่านั้นแหล่ะครับ ตึงนิดๆ เมาเรือหน่อยๆ ดีที่ไม่อ้วก 555


นั่งเรือมาได้ประมาณ ครึ่งชม. ก็ถึงท่าเรือหน้าด่าน



ขึ้นเกาะมาปุ๊บก็จะมีการเก็บค่าเข้าเกาะ 20 บาทถึงจะผ่านทางไปได้

ผ่านด่านไปซ้ายมือก็จะเจอกับเซเว่นละ ราคาไม่แพงมาก แพงกว่าฝั่งไม่เท่าไหร่เอง
เสียดาย ไม่น่าหอบมาเลย ถึงว่า ไม่ค่อยเห็นใครหอบของกินมาแบบผมเลย


จากนั้นขึ้นรถกระแบบสองแถว สีเขียว ซึ่งอยู่ขวามือหลังจากผ่านด่านเข้ามา
บอกคนขับว่าเราต้องการจะไปไหน ผมบอกว่าไปหาดทรายแก้ว พักที่ ไวท์แซนด์
ระหว่างทางสังเกตว่าถนนบนเกาะจะดีกว่าครั้งก่อนๆที่เคยมา
ซึ่งคราวก่อนถนนขรุขระ อันตรายมากหากขับขี่ไม่ดี

ก่อนจะถึงที่พักต้องชำระค่าเข้าอุทยานอีก 40 บาท จร้า
จุดชำระเงินอยู่แถวๆเนี้ย


10นาที ก็ถึงละ ที่ซุกหัวนอนคืนนี้



ถึงที่พักก็ไปที่เคาท์เตอร์ แจ้งว่าเราชื่อนี้ ที่จองไว้ พร้อมกับชำระเงินอีกครึ่งนึงที่ค้างมัดจำไว้ 500 บาท
จากนั้นก็มีคนพาไปห้องพัก เป็นห้องโล่งๆพักได้ 2 คน มีเตียงกับห้องน้ำที่มีเครื่องทำน้ำอุ่น
หน้าห้องเปิดประตูไปก็ติดทะเลเลย สำหรับผมก็โอเคนะครับ เพราะผมอยู่ง่าย กินง่าย

หลังจากนั่งพักที่ห้องพักสัก 5 นาที ก็ออกเดินทางสำรวจแหล่งเที่ยวสำหรับค่ำคืนนี้ก่อนตามลายแทงที่ศึกษามา
เล็งๆไว้คงเป็นพลอยบาร์ หรือ พลอยทะเล นั่นเอง ชื่อเดียวกัน ซึ่งเดินห่างจากที่พัก 3 นาทีก็ถึง

วันที่ไปอากาศครึ้มๆ กลัวว่าฝนจะตกจัง สรุปก็ไม่ตก

บรรยากาศ ใกล้ๆที่พักครับ






อากาศคงเหมาะสมกับการนอนหลับของเจ้านี่นะครับ



ตกเย็น เริ่มมีการจัดร้านครับ


และนี่ พลอยบาร์
น่านั่งมั๊ยครับ