สวัสดีครับก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนเลย ผมชื่อโอน่ะครับทริปนี้เป็นทริปแรกที่เราจะได้ไปวังเวียงกันส่วนตัวแล้วผมทำงานที่ประเทศลาวอยู่แล้วครับแต่ไม่มีโอกาศได้ไปสักทีพอดีมีเพื่อนที่เค้าอยาลองมาวังเวียงเพราะเห็นรูปในรีวิวอื่นๆของบลูลากูนที่วังเวียงก็เลยชวนกันมา เข้าเรื่องเลยแล้วกันน่ะครับ
การเดินทางของเราเริ่มที่จังหวัดอุดรธานี (แกงค์เราเป็นคนอุดรกันครับ) สตาร์ทกันที่ บขส.อุดรแห่งที่ 1 เราต้องไปต่อคิวรอซื้อตั๋วซึ่งเราได้โทรถามทางพี่ที่เค้าขายตั๋วแล้วว่าเริ่มขายเวลา 07.00 ไม่สามารถจองได้ และแล้วสิ่งที่ผมคิดไว้มันก็เกิดขึ้นจริงๆ นั่นคือ "ตกรถ" ในใจคิดว่า (เอาแล้วตรูแล้วจะพาเพื่อนไปยังไงเราคนเดียวคงไม่มีปัญหาเพราะไป-มาจนพริ้วแล้ว) ในขณะที่กำลังคิดนั้นพ่อของเพื่อนเราก็เดินมาบอกว่า "ป่ะพ่อไปส่งหนองคาย" ไม่รอช้าครับ กระโจนขึ้นรถกันทันที(เมื่อเช้าพ่อมาส่งที่บขส.) เราถึงหน้าด่านชายแดนหนองคายกันประมาณ08.00 ยื่นเรื่องทำเอกสารกันเรียบร้อยก็ let's go ข้ามประเทศกันเลย
ข้ามมาถึงฝั่งลาวในหัวก็พยายามคิดจะพาเพื่อนนั่งรถอะไรไปถึงวังเวียงจะได้เซฟเวลาแล้วก็ค่าใช้จ่ายที่สุด พยายามเลี้ยงพวกรถตู้เพราะมา 3 คนค่อนข้างแพงตกเที่ยวนึงก็3000 หาร3 ก็ คนละพัน โอ้วไม่นั่นมันไม่คุ้มแน่นอน แล้วเพื่อนอีกคนก็โดนรถตู้มาถามไปวังเวียงมั้ย เพื่อนเลยเดินมาถามเราว่าไปรถตู้มั้ย 300 คือแบบอารมณ์หันควั๊บแล้วตอบแบบไม่คิดเลย ไปทันที จากนั้นก็หอมสังขารอันเหนื่อยล้าเพราะตื่นเช้าขึ้นรถตู้พี่เค้ากันในรถเรามีประมาณ 11 คน เฉลี่ยก็คนละ300 รถตู้ก็น่าจะกำไรอยู่300 บาท (ไปเยอะแชร์เยอะคุ้มกว่า)
พวกเราก็กะว่าตื่นเช้าไม่เป็นไรเด่วนอนบนรถตู้ก็ได้วันที่เราเดินทางคือวันที่ 5 ธ.ค. 58 ตรงกะวันพ่อพอดี
ฝนตกตลอดเกือบตลอดทาง และแล้วในขณะที่เราพยายามจะหลับกันเราก็ได้พบกับ "รถตู้ไม่ได้นอน" อารมณ์เดียวกับ "ชุดนอนไม่ได้นอน"ของพี่โน๊ต โอ้วโหท่านผู้ชม อารมณ์แบบนั่ง เรลลี่ครอสตลอดทาง หัวนี่กระแทกซ้ายบ้างขวาบ้าง เกือบโดนหลังคาบ้าง ทางครอสครันทรี่สุดๆ ถ้าเอารถเก๋งบ้านเรามาวิ่งคงนานอ่ะกว่าจะถึงหลุมเยอะม๊ากกกกก
ในระหว่างทางก่อนจะขึ้นเขาพี่เค้าจะจอดพักรถให้เราให้แวะเข้าห้องน้ำหรือซื้อของกินที่ปั้มน้ำมันก่อนจะลากยาวจนถึงวังเวียง แท๊นแท่นแท๊นนนน ถึงแล้วจ้าาาา วังเวียง เราถึงวังเวียงกันตอน13.30 เร็วกว่าที่คิดเพราะถ้านั่งรถทัวร์อุดร-วังเวียง จะถึงที่นี่ประมาณ15.30 ซึ่งฝนตกแบบนี้รถไม่ขัยเร็วแน่น่าจะถึงที่ 16.30 แต่ก็ช่างมันเถอะไปเช็คอินโรงแรมแล้วไปทิ้งตัวลงห่วงยางกันดีกว่าเพราะเวลาเหลือเยอะมากและนี่คือโรงแรมของเราโดมอนเกสต์เฮ้าส์
พอเปิดประตูเข้าห้องไปเท่านั่นแหละ ร้องเป็นเสียงเดียวกัน โอ้วโห........ วิวสวยมากกกกกกก
ราคาโรงแรม+อาหารเช้า 2คืน 3200บาท คุ้มมากกก หลังจากเก็บสัมภาระแล้วก็ถ่ายรูปห้องจนพอใจแล้ว ก็เอาตัวเน่าๆของพวกเราไปจุ่มน้ำกันเถอะ เดินออกจากโรงแรมไปประมาณ50เมตรก็เจอร้านที่เช่าห่วงยาง
และนี่คือค่าเช้า+ค่ามันจำห่วงยางน่ะครับที่นี่ใช้เงินไทยได้หรือสะดวกแลกก็ตามมินิมาร์เลยครับ
เขียนชื่อและลงทะเบียนรับห่วง
หลังจากลงทะเบียนเสร็จทางร้านก็จะเขียนเมจิกที่มือของเราเผื่อใช้ในการมารับเงินมัดจำคืนครับ
ลงทะเบียนเสร็จก็จัดการหาเครื่องดื่มกันเลยครับร้านค้าก็ละแวกนั้นครับใครชอบแบบไหนจัดมาได้เลยใช้เวลาล่องประมาณ30-1 ชม.
หลังจากนั้นรถของทางทัวร์ก็จะพานั่งรถขึ้นมาจุดที่ปล่อยห่วงยางน่าจะประมาณ4-5 กิโลจากที่พัก ถึงแล้วคร้าบบบ
ล่องกันไปเรื่อยๆครับพี่เค้าบอกว่าจะมีจุดบอกให้ขึ้น (แต่ไม่เห็นป้ายน่ะ) เอาเป็นว่าสะดวกตรงไหนขึ้นตรงนั้นแหละครับ แต่ต้องขึ้นแถวในตัวเมืองน่ะไม่งั้นเดินไกลแน่ ภาพบบรยากาศระหว่างการล่องครับ เป็นแก่งบ้าง นิ่งบ้าง พยายามอย่าอยู่ใกล้ฝั่งแล้วก็ค่อมองกลางน้ำน่ะครับเพราะหินเยอะ
นิ่งจนแมลงปอมาเกาะ
ล่องไปสักพักเราก็ถึงจุดสิ้นสุดห่วงยาง(ไม่ได้ถ่ายครับหนาว) ขอบอกว่าวันนั้นน้ำเย็นม๊ากกกก ตูดชากันเลยทีเดียว
คืนห่วงยางเสร็จรับเงินมัดจำคืนก็ขึ้นห้องกันเถอะครับ หนาวมากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมาหาไรกินกันดีว่า หาของปิ้งๆย่างๆแถวนั้นกินครับง่ายดีเดินหาซื้อทริปแถวนั้นด้วย หม่ำข้าวกันครับ มื้อนี้หมดไป หมูกรอบย่าง30000กีบ ข้าวเหนียว 5000 กีบ ปิ้งไก่ 20000กีบ
ต่อด้วยความบรรเทิงเล็กๆน้อยๆของในค่ำคืนแรกที่ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ก่อนจะเจอศึกหนักในวันพรุ่งนี้ เราซื้อทริปไว้ ตกคนละ 800 บาท
จบ Day1 ครับ พรุ่งนี้เด่วมาต่อ Day2 เอจเวนเจอร์กันสุดขีด โหนสลิง พายคายัค โดนน้ำบลูลากูน โปรดติดตามตอนต่อไป... พรุ่งนี้
[CR] รีวิว ตามติดชีวิตสล๊อต SlowlifE วังเวียง 3วัน 2คืน ดูดาว เดิน โหน ล่อง โดด
สวัสดีครับก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนเลย ผมชื่อโอน่ะครับทริปนี้เป็นทริปแรกที่เราจะได้ไปวังเวียงกันส่วนตัวแล้วผมทำงานที่ประเทศลาวอยู่แล้วครับแต่ไม่มีโอกาศได้ไปสักทีพอดีมีเพื่อนที่เค้าอยาลองมาวังเวียงเพราะเห็นรูปในรีวิวอื่นๆของบลูลากูนที่วังเวียงก็เลยชวนกันมา เข้าเรื่องเลยแล้วกันน่ะครับ
การเดินทางของเราเริ่มที่จังหวัดอุดรธานี (แกงค์เราเป็นคนอุดรกันครับ) สตาร์ทกันที่ บขส.อุดรแห่งที่ 1 เราต้องไปต่อคิวรอซื้อตั๋วซึ่งเราได้โทรถามทางพี่ที่เค้าขายตั๋วแล้วว่าเริ่มขายเวลา 07.00 ไม่สามารถจองได้ และแล้วสิ่งที่ผมคิดไว้มันก็เกิดขึ้นจริงๆ นั่นคือ "ตกรถ" ในใจคิดว่า (เอาแล้วตรูแล้วจะพาเพื่อนไปยังไงเราคนเดียวคงไม่มีปัญหาเพราะไป-มาจนพริ้วแล้ว) ในขณะที่กำลังคิดนั้นพ่อของเพื่อนเราก็เดินมาบอกว่า "ป่ะพ่อไปส่งหนองคาย" ไม่รอช้าครับ กระโจนขึ้นรถกันทันที(เมื่อเช้าพ่อมาส่งที่บขส.) เราถึงหน้าด่านชายแดนหนองคายกันประมาณ08.00 ยื่นเรื่องทำเอกสารกันเรียบร้อยก็ let's go ข้ามประเทศกันเลย
ข้ามมาถึงฝั่งลาวในหัวก็พยายามคิดจะพาเพื่อนนั่งรถอะไรไปถึงวังเวียงจะได้เซฟเวลาแล้วก็ค่าใช้จ่ายที่สุด พยายามเลี้ยงพวกรถตู้เพราะมา 3 คนค่อนข้างแพงตกเที่ยวนึงก็3000 หาร3 ก็ คนละพัน โอ้วไม่นั่นมันไม่คุ้มแน่นอน แล้วเพื่อนอีกคนก็โดนรถตู้มาถามไปวังเวียงมั้ย เพื่อนเลยเดินมาถามเราว่าไปรถตู้มั้ย 300 คือแบบอารมณ์หันควั๊บแล้วตอบแบบไม่คิดเลย ไปทันที จากนั้นก็หอมสังขารอันเหนื่อยล้าเพราะตื่นเช้าขึ้นรถตู้พี่เค้ากันในรถเรามีประมาณ 11 คน เฉลี่ยก็คนละ300 รถตู้ก็น่าจะกำไรอยู่300 บาท (ไปเยอะแชร์เยอะคุ้มกว่า)
พวกเราก็กะว่าตื่นเช้าไม่เป็นไรเด่วนอนบนรถตู้ก็ได้วันที่เราเดินทางคือวันที่ 5 ธ.ค. 58 ตรงกะวันพ่อพอดี
ฝนตกตลอดเกือบตลอดทาง และแล้วในขณะที่เราพยายามจะหลับกันเราก็ได้พบกับ "รถตู้ไม่ได้นอน" อารมณ์เดียวกับ "ชุดนอนไม่ได้นอน"ของพี่โน๊ต โอ้วโหท่านผู้ชม อารมณ์แบบนั่ง เรลลี่ครอสตลอดทาง หัวนี่กระแทกซ้ายบ้างขวาบ้าง เกือบโดนหลังคาบ้าง ทางครอสครันทรี่สุดๆ ถ้าเอารถเก๋งบ้านเรามาวิ่งคงนานอ่ะกว่าจะถึงหลุมเยอะม๊ากกกกก
พอเปิดประตูเข้าห้องไปเท่านั่นแหละ ร้องเป็นเสียงเดียวกัน โอ้วโห........ วิวสวยมากกกกกกก
ราคาโรงแรม+อาหารเช้า 2คืน 3200บาท คุ้มมากกก หลังจากเก็บสัมภาระแล้วก็ถ่ายรูปห้องจนพอใจแล้ว ก็เอาตัวเน่าๆของพวกเราไปจุ่มน้ำกันเถอะ เดินออกจากโรงแรมไปประมาณ50เมตรก็เจอร้านที่เช่าห่วงยาง
และนี่คือค่าเช้า+ค่ามันจำห่วงยางน่ะครับที่นี่ใช้เงินไทยได้หรือสะดวกแลกก็ตามมินิมาร์เลยครับ
เขียนชื่อและลงทะเบียนรับห่วง
หลังจากลงทะเบียนเสร็จทางร้านก็จะเขียนเมจิกที่มือของเราเผื่อใช้ในการมารับเงินมัดจำคืนครับ
ลงทะเบียนเสร็จก็จัดการหาเครื่องดื่มกันเลยครับร้านค้าก็ละแวกนั้นครับใครชอบแบบไหนจัดมาได้เลยใช้เวลาล่องประมาณ30-1 ชม.
หลังจากนั้นรถของทางทัวร์ก็จะพานั่งรถขึ้นมาจุดที่ปล่อยห่วงยางน่าจะประมาณ4-5 กิโลจากที่พัก ถึงแล้วคร้าบบบ
ล่องกันไปเรื่อยๆครับพี่เค้าบอกว่าจะมีจุดบอกให้ขึ้น (แต่ไม่เห็นป้ายน่ะ) เอาเป็นว่าสะดวกตรงไหนขึ้นตรงนั้นแหละครับ แต่ต้องขึ้นแถวในตัวเมืองน่ะไม่งั้นเดินไกลแน่ ภาพบบรยากาศระหว่างการล่องครับ เป็นแก่งบ้าง นิ่งบ้าง พยายามอย่าอยู่ใกล้ฝั่งแล้วก็ค่อมองกลางน้ำน่ะครับเพราะหินเยอะ
นิ่งจนแมลงปอมาเกาะ
ล่องไปสักพักเราก็ถึงจุดสิ้นสุดห่วงยาง(ไม่ได้ถ่ายครับหนาว) ขอบอกว่าวันนั้นน้ำเย็นม๊ากกกก ตูดชากันเลยทีเดียว
คืนห่วงยางเสร็จรับเงินมัดจำคืนก็ขึ้นห้องกันเถอะครับ หนาวมากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมาหาไรกินกันดีว่า หาของปิ้งๆย่างๆแถวนั้นกินครับง่ายดีเดินหาซื้อทริปแถวนั้นด้วย หม่ำข้าวกันครับ มื้อนี้หมดไป หมูกรอบย่าง30000กีบ ข้าวเหนียว 5000 กีบ ปิ้งไก่ 20000กีบ
ต่อด้วยความบรรเทิงเล็กๆน้อยๆของในค่ำคืนแรกที่ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ก่อนจะเจอศึกหนักในวันพรุ่งนี้ เราซื้อทริปไว้ ตกคนละ 800 บาท
จบ Day1 ครับ พรุ่งนี้เด่วมาต่อ Day2 เอจเวนเจอร์กันสุดขีด โหนสลิง พายคายัค โดนน้ำบลูลากูน โปรดติดตามตอนต่อไป... พรุ่งนี้