สมัครสมาชิกมา เพื่อตั้งกระทู้นี้โดยเฉพาะ เพราะอยากหาที่ปรึกษาเรื่องคุณพ่อหน่อยค่ะ รบกวนพี่ๆน้องๆชาวพันทิปหน่อยนะค่ะว่าดิฉันควรทำยังไงดี เรื่องอาจจะงงๆหน่อยนะค่ะไม่รู้จะเรียบเรียงยังไงดี กระทู้ขอเน้นไปที่เรื่องที่ดิฉันกลุ้มใจนะค่ะ รองลงมาจากสุขภาพของคุณพ่อแต่ไม่ขอเน้นลายละเอียดเรื่องนั้นนะค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านญาติๆที่ไทยส่งข้อความทางไลน์มากบอกว่า คุณพ่อเส้นเลือดในสมองแตกนอนหลับไม่รู้สึกตัวเลย พอรู้ข่าวดิฉันก็ร้องไห้ไม่หยุด ไม่รู้จะทำยังไงดีเพราะตัวดิฉันอยู่ที่ออสเตรเลีย (มีครอบครัวอยู่ที่นี่ ฐานะไม่ได้ร่ำรวยอะไรเพราะแฟนทำงานอยู่คนเดียว มีลูกสองคนให้เลี้ยง)
ตัดสินใจกับแฟนว่าจะบินไปหาพ่อ แต่มีเหตุจำเป็นต้องไปขึ้นศาลในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ก็เลยว่าจะบินไปอังคารนี้ แต่ต้องกลับวันศุกร์ที่ 11 เพราะเหตุเกิดกระชั้นชิดมาก สามีเพิ่งได้โปรโมทเพื่อเลื่อนขั้นต้องไปทำธุระวันที่ 12-19 ต้องกลับมาเพื่อดูลูก
เลยคิดว่าถ้าจะไปอยู่ได้นานๆเป็นเดือนๆก็จะต้องไปวันที่ 20 เพราะสามีจะได้ทำเรื่องหยุดได้ทัน แต่คราวนี้มาติดปัญหาอยู่ที่ว่า ค่าตั๋วเครื่องบินจองแบบกระชั้นชิดช่วงเทศกาลแพงมากๆ ประมาณแปดเก้าหมื่น ซึ่งปกรติไปแต่ละทีจะจองล่วงหน้าอยู่ที่ประมาณไม่เกินสามหมื่น ถึงตัวดิฉันจะอยู่ต่างประเทศก็จริงแต่พูดตรงๆค่ะว่าไม่มีปัญญาซื้อในราคาขนาดนั้น ก็ต้องกู้หนี้ยืมสินเค้ามาเพื่อที่จะไป (ตัวดิฉันเพิ่งกลับไปเยี่ยม พ่อกับแม่ เมื่อเดือนกันยาที่ผ่านมาหมดไปหลายแสนเพราะไปไถ่บ้านที่คุณแม่ได้จำนองไว้ด้วย กว่าจะได้ไปหาก็เก็บเงินอยู่เกือบสองปี คิดถึงก็ต้องกลั้นน้ำตารอเพื่อที่จะกลับไป ไปเดือนกันยาที่ผ่านมาก็แทบหมดค่ะเงินที่สะสมมา ก็กะจะมาเริ่มต้นเก็บใหม่ แต่พอมีเหตุฉุกเฉินแบบนี้มาก็ไม่รู้จะทำยังไงดี)
อาการคุณพ่อตอนนี้ก็คือผ่าตัดสมองเสร็จแล้ว ฟื้นขึ้นมารับรู้ทุกอย่าง กระพริบตา พยักหน้า ขยับแขนได้ คุณหมอบอกให้รอดูอาการ
พอปรึกษาคุณแม่ แกก็บอกว่าไม่ต้องกลับ เพราะแกรู้ว่าเราลำบาก แกรู้ว่าเราไม่มี แกก็โมโหนิดๆโกรธพ่อ ว่ายี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาไม่เคยดูดำดูดีลูก แต่พอป่วยก็วิ่งมาหา แกบอกว่าพ่อดิฉันไม่เคยรู้หรอกว่าดิฉันจะลำบากขนาดไหนถ้าไป ให้น้องชายที่อยู่ไทยไปเยี่ยมก็พอแล้ว (ลืมบอกไปว่า พ่อกับแม่ดิฉันแยกกันอยูตั้งแต่ดิฉันอายุหกขวบ น้องชายขวบกว่าๆ ดิฉันตอนนี้เกือบสามสิบแล้ว ตั้งแต่จำความได้ ได้เจอพ่อไม่ถึงห้าครั้ง ล่าสุดที่เจอเดือนกันยาที่ผ่านมาก็เป็นระยะห่างที่เจอครั้งก่อนหน้าประมาณแปดปี แม่คอยเลี้ยงดูมาตลอด แต่ดิฉันก็ยังรักพ่อมากๆไม่เคยน้อยใจที่แกไม่ได้เลี้ยงเรา เพราะคิดว่าผู้ใหญ่คงมีเหตุผลอะไรหลายๆอย่าง)
แต่ดิฉันก็อยากจะไปเยี่ยมคุณพ่อค่ะ กลัวแกจะน้อยใจว่าทำไมเราไม่ไปหา กลัวเกิดอะไรขึ้นกับคุณพ่อกระทันหันแล้วดิฉันอาจจะเสียใจไปตลอดชีวิตถ้าไปไม่ทัน ;'( ดิฉันเครียดมากเลยค่ะ ตั้งแต่รู้ข่าวก็ไม่ได้หลับได้นอน ร้องไห้ตลอด แทบจะไม่มีแรงทำอะไร
ที่ดิฉันลองคิดหาวิธีดู ก็คือ
1.บินไปวันอังคาร กลับวันศุกร์ ค่าตั๋วประมาณสามหมื่นนิดๆ แต่ไปแล้วอยู่ได้ไม่นาน แค่ไปได้เห็นหน้า
2.บินไปวันที่ 20 อยู่ได้นานหลายอาทิตย์ จะได้คอยดูแลคุณพ่อช่วยท่านทำกายภาพบำบัด (ระหว่างนี้ก็ต้องคอยภาวนาอย่าได้มีอาการอะไรแทรกซ้อน) แต่ค่าตั๋วเกือบแสนไหนจะค่าใช้จ่ายอื่นๆ อยากจะซื้อรถเข็นและของใช้จำเป็นต่างๆให้คุณพ่อด้วยค่ะ เพราะฐานะทางบ้านคุณพ่อก็ไม่ได้มีอะไรมาก กรณีนี้ดิฉันก็คงต้องไปกูหนี้ยืมสิน แล้วกลับมาหาเงินใช้เค้าไปอีกปีสองปีเพราะดิฉันไม่มีรายได้อะไรเลย สามีต้องคอยช่วยเหลือทุกอย่าง
3.จองตั๋วล่วงหน้าซักสองสามเดือน ไปหลังปีใหม่เพื่อราคาที่ถูกกว่า อยู่ได้นานหลายอาทิตย์ แต่ก็กลัวเกิดอะไรขึ้นมากระทันหันกับคุณพ่อ กลัวแกเสียใจ น้อยใจ ว่าเราทำไมไม่ยอมไปหา
เครียดมากๆๆๆเลยค่ะ บอกตรงๆ ดิฉันไม่รู้ควรจะตัดสินใจยังไงดี ขอโทษที่เขียนวกวนไปมานะค่ะ ดิฉันไม่รู้จะเริ่มต้นอธิบายยังไงดี เป็นท่านอื่นๆจะตัดสินใจยังไงดีค่ะ
ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
ถ้าแท็กห้องผิดต้องขออภัยด้วยนะค่ะ
คุณพ่อไม่สบายมาก อยากหาคำปรึกษาค่ะ ช่วยหน่อยนะค่ะ เครียดมากค่ะ T^T
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านญาติๆที่ไทยส่งข้อความทางไลน์มากบอกว่า คุณพ่อเส้นเลือดในสมองแตกนอนหลับไม่รู้สึกตัวเลย พอรู้ข่าวดิฉันก็ร้องไห้ไม่หยุด ไม่รู้จะทำยังไงดีเพราะตัวดิฉันอยู่ที่ออสเตรเลีย (มีครอบครัวอยู่ที่นี่ ฐานะไม่ได้ร่ำรวยอะไรเพราะแฟนทำงานอยู่คนเดียว มีลูกสองคนให้เลี้ยง)
ตัดสินใจกับแฟนว่าจะบินไปหาพ่อ แต่มีเหตุจำเป็นต้องไปขึ้นศาลในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ก็เลยว่าจะบินไปอังคารนี้ แต่ต้องกลับวันศุกร์ที่ 11 เพราะเหตุเกิดกระชั้นชิดมาก สามีเพิ่งได้โปรโมทเพื่อเลื่อนขั้นต้องไปทำธุระวันที่ 12-19 ต้องกลับมาเพื่อดูลูก
เลยคิดว่าถ้าจะไปอยู่ได้นานๆเป็นเดือนๆก็จะต้องไปวันที่ 20 เพราะสามีจะได้ทำเรื่องหยุดได้ทัน แต่คราวนี้มาติดปัญหาอยู่ที่ว่า ค่าตั๋วเครื่องบินจองแบบกระชั้นชิดช่วงเทศกาลแพงมากๆ ประมาณแปดเก้าหมื่น ซึ่งปกรติไปแต่ละทีจะจองล่วงหน้าอยู่ที่ประมาณไม่เกินสามหมื่น ถึงตัวดิฉันจะอยู่ต่างประเทศก็จริงแต่พูดตรงๆค่ะว่าไม่มีปัญญาซื้อในราคาขนาดนั้น ก็ต้องกู้หนี้ยืมสินเค้ามาเพื่อที่จะไป (ตัวดิฉันเพิ่งกลับไปเยี่ยม พ่อกับแม่ เมื่อเดือนกันยาที่ผ่านมาหมดไปหลายแสนเพราะไปไถ่บ้านที่คุณแม่ได้จำนองไว้ด้วย กว่าจะได้ไปหาก็เก็บเงินอยู่เกือบสองปี คิดถึงก็ต้องกลั้นน้ำตารอเพื่อที่จะกลับไป ไปเดือนกันยาที่ผ่านมาก็แทบหมดค่ะเงินที่สะสมมา ก็กะจะมาเริ่มต้นเก็บใหม่ แต่พอมีเหตุฉุกเฉินแบบนี้มาก็ไม่รู้จะทำยังไงดี)
อาการคุณพ่อตอนนี้ก็คือผ่าตัดสมองเสร็จแล้ว ฟื้นขึ้นมารับรู้ทุกอย่าง กระพริบตา พยักหน้า ขยับแขนได้ คุณหมอบอกให้รอดูอาการ
พอปรึกษาคุณแม่ แกก็บอกว่าไม่ต้องกลับ เพราะแกรู้ว่าเราลำบาก แกรู้ว่าเราไม่มี แกก็โมโหนิดๆโกรธพ่อ ว่ายี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาไม่เคยดูดำดูดีลูก แต่พอป่วยก็วิ่งมาหา แกบอกว่าพ่อดิฉันไม่เคยรู้หรอกว่าดิฉันจะลำบากขนาดไหนถ้าไป ให้น้องชายที่อยู่ไทยไปเยี่ยมก็พอแล้ว (ลืมบอกไปว่า พ่อกับแม่ดิฉันแยกกันอยูตั้งแต่ดิฉันอายุหกขวบ น้องชายขวบกว่าๆ ดิฉันตอนนี้เกือบสามสิบแล้ว ตั้งแต่จำความได้ ได้เจอพ่อไม่ถึงห้าครั้ง ล่าสุดที่เจอเดือนกันยาที่ผ่านมาก็เป็นระยะห่างที่เจอครั้งก่อนหน้าประมาณแปดปี แม่คอยเลี้ยงดูมาตลอด แต่ดิฉันก็ยังรักพ่อมากๆไม่เคยน้อยใจที่แกไม่ได้เลี้ยงเรา เพราะคิดว่าผู้ใหญ่คงมีเหตุผลอะไรหลายๆอย่าง)
แต่ดิฉันก็อยากจะไปเยี่ยมคุณพ่อค่ะ กลัวแกจะน้อยใจว่าทำไมเราไม่ไปหา กลัวเกิดอะไรขึ้นกับคุณพ่อกระทันหันแล้วดิฉันอาจจะเสียใจไปตลอดชีวิตถ้าไปไม่ทัน ;'( ดิฉันเครียดมากเลยค่ะ ตั้งแต่รู้ข่าวก็ไม่ได้หลับได้นอน ร้องไห้ตลอด แทบจะไม่มีแรงทำอะไร
ที่ดิฉันลองคิดหาวิธีดู ก็คือ
1.บินไปวันอังคาร กลับวันศุกร์ ค่าตั๋วประมาณสามหมื่นนิดๆ แต่ไปแล้วอยู่ได้ไม่นาน แค่ไปได้เห็นหน้า
2.บินไปวันที่ 20 อยู่ได้นานหลายอาทิตย์ จะได้คอยดูแลคุณพ่อช่วยท่านทำกายภาพบำบัด (ระหว่างนี้ก็ต้องคอยภาวนาอย่าได้มีอาการอะไรแทรกซ้อน) แต่ค่าตั๋วเกือบแสนไหนจะค่าใช้จ่ายอื่นๆ อยากจะซื้อรถเข็นและของใช้จำเป็นต่างๆให้คุณพ่อด้วยค่ะ เพราะฐานะทางบ้านคุณพ่อก็ไม่ได้มีอะไรมาก กรณีนี้ดิฉันก็คงต้องไปกูหนี้ยืมสิน แล้วกลับมาหาเงินใช้เค้าไปอีกปีสองปีเพราะดิฉันไม่มีรายได้อะไรเลย สามีต้องคอยช่วยเหลือทุกอย่าง
3.จองตั๋วล่วงหน้าซักสองสามเดือน ไปหลังปีใหม่เพื่อราคาที่ถูกกว่า อยู่ได้นานหลายอาทิตย์ แต่ก็กลัวเกิดอะไรขึ้นมากระทันหันกับคุณพ่อ กลัวแกเสียใจ น้อยใจ ว่าเราทำไมไม่ยอมไปหา
เครียดมากๆๆๆเลยค่ะ บอกตรงๆ ดิฉันไม่รู้ควรจะตัดสินใจยังไงดี ขอโทษที่เขียนวกวนไปมานะค่ะ ดิฉันไม่รู้จะเริ่มต้นอธิบายยังไงดี เป็นท่านอื่นๆจะตัดสินใจยังไงดีค่ะ
ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
ถ้าแท็กห้องผิดต้องขออภัยด้วยนะค่ะ