ปมรัก รอยอดีต Book II ปมรัก บทที่ 24 ที่พักใจ

กระทู้สนทนา


24
ที่พักใจ


โดย ฮาร์โมนิก้า

เช้าวันศุกร์อนาสเตเซียกินอาหารเช้าง่ายๆ กับอิสวานที่คอร์ทยาร์ดนอกห้อง

แม้จะรู้สึกอุ่นใจที่เห็นเขากลับมาหาเธอจริงตามที่บอกไว้ในตอนเช้า ทำให้เธอไม่ต้องรู้สึกหวาดกลัวกับความไม่รู้จักตัวตน
ของตัวเองในสถานที่ไม่คุ้นเคยแต่เพียงลำพัง แต่เธอก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยกับท่าทีของอิสวาน

น่าแปลกที่เธอรู้สึกยินดีและอบอุ่นใจที่เห็นเขา ด้วยความรู้สึกคล้ายลูกไก่ที่เพิ่งถูกฟักออกจากไข่ เมื่อเห็นแม่ไก่ก็รู้สึกผูกพัน
เกาะติดแจ หากอะไรบางอย่างในจิตใต้สำนึกที่ลึกลงไป ความทรงจำซึ่งสมองของเธอได้ลั่นดาลไว้อย่างแน่นหนา กลับปฏิเสธ
ความรู้สึกผูกพันที่มีต่ออิสวานซึ่งกำลังก่อตัวขึ้นในหัวใจทีละน้อย

ราวกับมีใครอีกคนเป็นคล้ายเงาอยู่ในหัวใจ ใครที่เคยครอบครองหัวใจเธออยู่ หรือจะเป็นสามีของเธอ ผู้ชายที่มอบแหวนแต่งงาน
และแหวนหมั้นเพชรให้ ชายที่ชื่อนิโคลาโยส

อนาสเตเซียปวดศีรษะรุนแรงทันทีที่คิดถึงชื่อนั้น ดวงตาพร่ามัว หน้ามืด ห้องหมุนคว้างคล้ายจะเป็นลม

“มีอะไรหรือครับ” อิสวานถาม รีบวางซ่อมกับมีดลง เตรียมเข้ามาประคองเธอซึ่งมีอาการซวนเซอยู่บนเก้าอี้

อนาสเตเซียยกมือห้าม ก่อนจะนั่งนิ่ง กุมศีรษะเฉยอยู่สักพัก คอยจนอาการหัวหมุนค่อยๆ ดีขึ้น

“ไม่เป็นไรค่ะ แปลกนะคะ พอนึกถึงชื่อคนที่อาจเป็นสามีทีไรจะต้องปวดหัวหน้ามืดคล้ายจะเป็นลมทุกที”

หญิงสาวพูดโดยที่ไม่ได้มองดูสีหน้าคู่สนทนา อิสวานมีอาการอ้ำอึ้งพูดไม่ออกเมื่อได้ยินคำบอกเล่าของ อนาสเตเซีย
เขารู้สึกกระอักกระอ่วน ไม่รู้ว่าควรจะเล่าความจริงให้เธอฟังดีไหม และหากเล่าควรจะเริ่มต้นอย่างไร

หลังมื้อเช้าอิสวานพาเธอไปพบนายแพทย์ยูจีนที่คลินิกส่วนตัวในอดามัส เวลานั้นยังเช้าก่อนถึงเวลาคลินิกเปิดครึ่งชั่วโมง
อนาสเตเซียจึงได้รับการตรวจโดยไม่ต้องรอ

“เป็นยังไงบ้างยูจีน” อิสวานเอ่ยถามพี่ชายหลังจากที่ยูจีนเดินนำอนาสเตเซียออกมาจากห้องตรวจ

“คิดว่าสมองได้รับการกระทบกระเทือน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการความจำเสื่อมชั่วคราว” ยูจีนตอบ “ซึ่งเมื่อแผลหายดีเมื่อไหร่
ความทรงจำก็น่าจะกลับคืนมาด้วย”

“งั้นอีกนานไหมคะกว่าแผลจะหาย” อนาสเตเซียเอ่ยถาม

“คงไม่นานครับ คิดว่าไม่เกินสองสัปดาห์ก็เป็นปกติแล้ว”

“แล้วถ้าสองสัปดาห์ความจำฉันยังไม่กลับมาล่ะคะ” หญิงสาวถามอีกอย่างกังวล

ยูจีนนิ่งคิดอย่างตรึกตรอง

“คงไม่หรอกครับ อย่าเพิ่งคิดมากเลย หากแผลหายแล้วความจำยังไม่กลับมาจริงก็อาจต้องหาทางอื่น เช่นให้คุณได้พบเห็น
สิ่งคุ้นเคยในชีวิตปกติของตัวเอง ก็น่าจะช่วยเรียกความจำได้ หรือหากยังไม่ได้ผล หรือหาทางกลับไปสู่สิ่งคุ้นเคยไม่ได้
ผมก็จะแนะนำแพทย์เฉพาะทางให้ พวกจิตแพทย์น่ะครับ เป็นเพื่อนผมเอง เขาอาจใช้วิธีสะกดจิตช่วยได้ หรือจะลองรักษา
กับแพทย์เฉพาะทางด้านประสาทหรือสมองดูก็ได้ แต่ที่มิลอสนี่ไม่มี ต้องไปที่เอเธนส์หรือซิรอส”

ยูจีนอธิบายยาว ขณะที่ใบหน้าของอนาสเตเซียกลับยิ่งซีดลงด้วยความกังวลที่เพิ่มขึ้น เธอไม่อยากเป็นคนจดจำตัวเองไม่ได้
และที่สำคัญเธอไม่ชอบที่ตัวเองต้องตกอยู่ในสภาพช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องพึ่งพาผู้อื่น

อะไรบางอย่างบอกว่าเธอไม่เคยต้องพึ่งพาใคร เธอไม่เคยประสบกับคำว่าไม่มี แต่ตอนนี้เธอกำลังพึ่งพาอิสวาน ทั้งที่พัก อาหาร
แม้กระทั่งเสื้อผ้าที่สวมอยู่ก็ยังต้องรับบริจาคมาจากพี่สะใภ้ของเขา

“ฉันอยากไปแจ้งตำรวจค่ะ อิสวาน” เธอกล่าวกับเขาหลังจากที่ออกจากคลินิกของนายแพทย์ยูจีนมาแล้ว

อิสวานได้แต่ส่ายศีรษะไม่เห็นด้วย

“อย่าเพิ่งเลยครับ เราลองคอยให้แผลของคุณหายดีก่อนดีไหม เผื่อว่าตอนนั้นความจำคุณกลับคืนมาได้เอง หากรีบไปแจ้ง
ตำรวจตอนนี้ เกิดคนที่ทำร้ายคุณรู้เข้าว่าคุณอยู่ที่ไหน คุณอาจจะตกอยู่ในอันตรายได้ หากคุณจำได้เอง อย่างน้อยตอนนั้น
คุณก็ยังพอมีเวลาตั้งตัว หาทางป้องกันอันตรายได้บ้าง”

อนาสเตเซียนิ่งฟังคำทักท้วงอย่างมีเหตุผลของเขา

“ก็ได้ค่ะ ฉันจะคอยสักพัก แต่ระหว่างนี้คุณช่วยพาฉันไปหาที่ขายแหวนพวกนี้ดีกว่าค่ะ ฉันจำเป็นต้องใช้เงิน”

“จะดีหรือครับ” เขาถาม

หญิงสาวนิ่งคิดเพียงครู่ เธอไม่รู้สึกผูกพันกับแหวนสองวงนี้เลย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร

“ค่ะ ฉันคิดว่าตอนนี้เงินจำเป็นต่อฉันมากกว่าแหวนที่จำไม่ได้พวกนี้” เธอพูดออกไปแล้วก็รู้สึกตกใจตัวเอง เธอกล่าวคำพูด
ที่ไร้หัวใจแบบนี้ออกมาได้อย่างไรกัน แหวนพวกนี้อาจเคยเป็นสื่อรักระหว่างเธอกับสามี ซึ่งครั้งหนึ่งเธอกับเขาคงเคยมี
ความรักให้กัน แม้ตอนนี้เธอจะจำความรู้สึกนั้นไม่ได้ แต่เธอก็ไม่ควรพูดออกมาราวกับคนไร้หัวใจ และตีค่าของซึ่งมีคุณค่า
ทางใจด้วยค่าของเงินทองเช่นนี้

อิสวานสังเกตเห็นอาการลังเลว้าวุ่นใจของอนาสเตเซีย

“ยังไม่ต้องขายหรอกครับ รอให้คุณจำได้ก่อนดีกว่า แล้วค่อยตัดสินใจว่าอยากเก็บไว้หรืออยากขาย หรือถึงตอนนั้นคุณจำ
อะไรได้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องขายด้วยซ้ำ”

ชายหนุ่มพูดพร้อมรอยยิ้มที่ร่าเริง อนาสเตเซียมองดูใบหน้าสดใสของชายหนุ่ม เขาดูเป็นคนง่ายๆ และคงจะตกหลุมรักสาว
ได้ง่ายๆ ด้วยเช่นกัน

“ก็ได้ค่ะ แต่คุณช่วยหางานให้ฉันทำระหว่างนี้ได้ไหมคะ ฉันจะได้ไม่รู้สึกว่าตัวเองมาเป็นภาระของคุณมากไป”

อิสวานนิ่งคิด เขาไม่รู้ว่าจะหางานอะไรให้อนาสเตเซียทำ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเรียนจบด้านอะไรมา รู้เพียงว่าเธอพูดได้
หลายภาษา ขี่ม้า ยิงปืน และอะไรอื่นๆ ที่พวกผู้ดีชั้นสูงที่เอาถ่านมักจะร่ำเรียนกัน เขารู้อีกว่าเธอก่อตั้งสถานสงเคราะห์ช่วยเหลือ
ผู้หญิงและเด็กที่ถูกทำร้ายจากความรุนแรงในครอบครัวที่เอเธนส์ แต่ก็ไม่รู้ว่าเธอเชี่ยวชาญอะไรเป็นพิเศษ นอกจากความจริงที่ว่า
เธอเป็นผู้ก่อตั้งและบริหารสถานสงเคราะห์นั้นเอง

“คุณคิดว่าตัวเองทำอะไรเป็นบ้างล่ะครับ” ชายหนุ่มตัดสินใจถามออกมาในที่สุด

อนาสเตเซียคิด “ไม่ทราบค่ะ นึกไม่ออก”

“คุณไม่จำเป็นต้องหางานทำหรอกครับ อนาสเตเซีย แค่สองสัปดาห์คุณพึ่งผมได้ครับ ผมไม่เดือดร้อนหรอก”

อนาสเตเซียส่ายหน้า

“แล้วเกิดมันนานกว่าสองสัปดาห์ล่ะคะ ไม่ดีกว่าค่ะ เพียงเท่านี้ฉันก็ติดค้างคุณกับพี่ชายมากพอแล้ว ขอฉันหาทางช่วยตัวเอง
เพื่อให้มีความภูมิใจในตัวเองบ้างเถอะค่ะ”

“ก็ได้ครับ งั้นผมจะลองถามเพื่อนและคนรู้จักให้ว่ามีใครมีงานอะไรบ้าง เผื่อว่าคุณจะทำได้ จะลองถามยูจีนให้ด้วยครับ”

“แล้วตัวคุณทำอะไรคะ” หญิงสาวถามขึ้นอย่างสงสัย

อิสวานนิ่ง อึกอักอยู่ครู่ เขาไม่อยากให้อนาสเตเซียนึกออกตอนนี้ แต่ไม่รู้จะโกหกเธอว่าอะไร

“ผมเป็นวิศวกรครับ ผมดูแลพวกเครื่องยนต์เครื่องบิน รถ หรือเรือได้ทั้งนั้น”

“ฉันขอลองช่วยงานคุณได้ไหมคะ” เธอถามขึ้นดวงตาเป็นประกายสดใส

ชายหนุ่มอึกอัก “ตอนนี้ผมยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันที่นี่นะครับ ยังต้องลองออกหางานทำดูก่อน เกาะเล็กแบบนี้
ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีงานที่เหมาะสมกับคุณสมบัติของผมให้ทำหรือเปล่า”

“ไม่เป็นไรค่ะ เอาเป็นว่าถ้ามีงานอะไรให้ฉันทำก็บอกแล้วกัน ฉันจะได้มีอะไรทำบ้างไม่เบื่อ”

“ครับ แต่ตอนนี้ผมพาคุณไปซื้อเสื้อผ้าก่อนดีกว่า ร้านเปิดแล้วครับป่านนี้”

อนาสเตเซียยิ้มอีกครั้งอย่างยินดี ยิ้มของเธอทำเขาใจละลาย ทำไมก่อนหน้าที่เธอจะความจำเสื่อมเธอจึงไม่เคยมีรอยยิ้ม
สดใสแบบนี้เลยนะ บางทีการความจำเสื่อมอาจเป็นผลดีต่อสภาพจิตใจของเธอมากกว่าคิดก็ได้

“ดีค่ะ ไปเลยไหมคะ” หญิงสาวตอบพลางพยักหน้ามอง เพื่อรอให้เขาเดินนำเธอไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่