พอดีผมเพิ่งเขียนเกี่ยวกับชีวิตของผมลงไปในไดอารี่ ได้ไม่กี่วันมานี่ ที่ผมเขียนลงไป เขียนไม่มากหรอก เขียนให้รู้ว่ามีเรื่องดีอะไร เรื่องร้ายอะไร แต่พอผมเขียนไปเหมือนกับโยนความรู้สึกที่แย่ๆตรงนั้นลงไปในสมุดเล็กๆเล่มหนึ่ง (เล็กประมาณ Small Paper มีประมาณ 211 หน้าเขียนได้ประมาณ 7 เดือน) วันแรกที่เขียนผมเขียนเรื่องที่ผมโดนว่ากล่าวตักเตือน #แรกๆ ผมก็โกรธนะ แต่พอมาเขียนหลายวันต่อมาผมก็ยอมรับฟังคำตักเตือนไปแล้วพัฒนาสุดท้ายเรื่องทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ในเวลาที่เขียนไดอารี่ความคิดก็มาในหัวเลยว่า เราโดนด่าเพราะอะไร เราก็เขียนลงไปในสมุด จาก อารมณ์ที่แบบโกรธแค้น กลับกลายเป็น อารมณ์ชื่นชม เพราะถ้ามองไปลึกๆ คนที่ว่ากล่าวตักเตือนเรายอมหวังดีต่อเรา หวังให้เราทำตัวดีๆขึ้น พอเขียนเสร็จแล้วกลับมาอ่าน ก็กลับกลายเป็นความสุข และยิ่งอ่านหลังจากนั้นก็จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง ต้องยอมรับว่ามันคงไม่รวดเร็วขนาดนั้นหรอกทุกอย่างมันต้องใช้เวลา ทั้งที่ไดอารี่ที่เขียนวันแรก มันเป็นเรื่องร้ายๆทั้งนั้น ที่เกิดกับตัวเรา แต่พอเขียนไปความทุกข์นั้นก็หายไป หรือ ไดอารี่ กรงขังความทุกข์เรา
ที่ผ่านมายอมรับว่าคิดว่า ไดอารี่มันน่าเบื่อจะเขียนเรื่องราวในชีวิตลงไปทำไม เขียนลงไปแล้วได้อะไร แต่ตตอนนี้เข้าใจแล้วล่ะครับ แม้จะเพิ่งเขียนไปได้ไม่กี่วันก็เถอะ ก็พอที่จะเข้าใจได้ว่า ความเห็นส่วนตัวของผมเ ''ไดอารี่เหมือนเครื่องเก็บเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นมาในชีวิตทั้งด้านที่ดีและไม่ดี ซึ่งวันแรกมันจะไม่มีผลอะไรหรอก แต่หากเราเขียนไปได้นานๆหน่อย ก็จะทำให้เราทราบวัฒนาการของเราว่า ชีวิตเราเป็นอย่างไรผ่านอะไรมาบ้าง เจออะไรมาบ้าง''
ไม่ต้องไปเขียนอะไรที่มันเลิศหรูอะไร ใช้ถอยคำที่เข้าใจง่ายว่าเราเจออะไรมาบ้าง ใช้คำที่กระทัดรัด ถ้าไดอารี่มันยาวเกินไปคิดว่ามันคงไม่หน้าอ่าน ไดอารี่ควรเป็นความทรงจำในแต่ละวันที่สั้นๆ ใช้ถ้อยคำที่เข้าใจง่าย
อดีตเคยเจอปัญหาชีวิตแล้ว กลับมาคิดฟูมฟาย รู้สึกเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้นจนทำให้จิตตกบ้างบางครั้ง แต่เชื่อว่า ไดอารี่น่าจะไม่ทำให้เกิดเหตุการแบบนี้ขึ้นอีก (หวังไว้ว่าจะเป็นแบบนั้น)
ไดอารี่ อดีตคือสิ่งที่น่าเบื่อ แต่ ปัจจุบัน คือสิ่งที่มีความสำคัญต่อชีวิต
ที่ผ่านมายอมรับว่าคิดว่า ไดอารี่มันน่าเบื่อจะเขียนเรื่องราวในชีวิตลงไปทำไม เขียนลงไปแล้วได้อะไร แต่ตตอนนี้เข้าใจแล้วล่ะครับ แม้จะเพิ่งเขียนไปได้ไม่กี่วันก็เถอะ ก็พอที่จะเข้าใจได้ว่า ความเห็นส่วนตัวของผมเ ''ไดอารี่เหมือนเครื่องเก็บเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นมาในชีวิตทั้งด้านที่ดีและไม่ดี ซึ่งวันแรกมันจะไม่มีผลอะไรหรอก แต่หากเราเขียนไปได้นานๆหน่อย ก็จะทำให้เราทราบวัฒนาการของเราว่า ชีวิตเราเป็นอย่างไรผ่านอะไรมาบ้าง เจออะไรมาบ้าง''
ไม่ต้องไปเขียนอะไรที่มันเลิศหรูอะไร ใช้ถอยคำที่เข้าใจง่ายว่าเราเจออะไรมาบ้าง ใช้คำที่กระทัดรัด ถ้าไดอารี่มันยาวเกินไปคิดว่ามันคงไม่หน้าอ่าน ไดอารี่ควรเป็นความทรงจำในแต่ละวันที่สั้นๆ ใช้ถ้อยคำที่เข้าใจง่าย
อดีตเคยเจอปัญหาชีวิตแล้ว กลับมาคิดฟูมฟาย รู้สึกเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้นจนทำให้จิตตกบ้างบางครั้ง แต่เชื่อว่า ไดอารี่น่าจะไม่ทำให้เกิดเหตุการแบบนี้ขึ้นอีก (หวังไว้ว่าจะเป็นแบบนั้น)