เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง หรือ บิ๊กอ๊อด อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand โดย ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และ อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ ทางช่องสปริงนิวส์ เมื่อเช้าวันเดียวกันที่ผ่านมา
กรณีจะเสนอตัวลงชิงสมัครตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ภายหลังหมดวาระการบริหารงานของนายวรวีร์ มะกูดี ว่า เดิมไม่ได้คิดจะลงสมัครแต่อย่างใด เพราะสนับสนุน พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ที่ไปเป็นผู้สมัครชิงนายกสมาคมบอลฯก่อนหน้านี้ โดยได้ช่วยหาเสียงให้เพื่อนตลอด แต่ปรากฏว่า มีฟีดแบ็กกลับมาจากแต่ละสโมสรที่เข้าไปคุยว่า ทำไมไม่ลงสมัครเอง
"ผมบอกไปว่าจะสมัครเองได้อย่างไร เพราะเพื่อนสมัครอยู่แล้ว จน พล.ต.ท.พิสัณห์ มาบอกว่า อยากให้ผมลงสมัครแทน น่าจะเหมาะสมกว่า ส่วน พล.ต.ท.พิสัณห์ จะมาช่วยในงานสมาคม ตอนแรกผมยังไม่ตัดสินใจ เพราะเวลาผมทำอะไรจะต้องทำความรอบคอบ ไม่ทำอะไรผลีผลาม
ก่อนจะไปซาวน์เสียงกับสโมสรฟุตบอลต่างๆ ว่าจะสนับสนุนผมมั้ย รวมทั้งคุยกับผู้คร่ำหวอดในวงการฟุตบอล ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวว่าถึงเวลาแล้วที่สมาคมฟุตบอลฯ ต้องเปลี่ยนแปลง ต้องรื้อ ต้องสังฆกรรมกันใหม่"
"บิ๊กอ๊อด" กล่าวต่อว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ก็ไม่อยากไปกล่าวร้ายใคร สังคมก็มีคำถามถึงสมาคมฟุตบอลฯมาตลอดว่าทำอะไรบ้าง มีทั้งข่าวข้อครหาต่างๆในประเทศ ไปมีเรื่องไม่เหมาะสมในต่างประเทศ สิ่งเหล่านี้ นอกจากทำให้เกิดปัญหาต่อวงการฟุตบอลแล้ว ชื่อเสียงในต่างแดนก็เสียหาย
"เพราะฉะนั้น ถ้าผมจะเข้ามาทำหน้าที่ในสมาคมฟุตบอลฯ ต้องมีผู้สนับสนุน ผมต้องมีอิสระในการทำงาน ตัดสินใจ ใครช่วยผม อย่ามาถือว่าติดค้างกัน ผมไม่มีทางฟังใครทั้งสิ้น ไม่ว่าบุคคลหรือกลุ่มคนที่คิดว่าจะสนับสนุนผมแล้วมาหาประโยชน์จากผม"
ผู้ดำเนินรายการถามต่อว่า พูดอย่างนี้เป็นการดักคอทางกลุ่มผู้สนับสนุนจากทีมบุรีรัมย์และชลบุรี หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า "ไม่ใช่ ทีมเหล่านี้ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยผมหรอก ทีมบุรีรัมย์เป็นแชมป์มากมาย ชลบุรีก็ไม่ต้องพึ่งผม ต่างมีความสามารถของเขาเอง แต่เหล่านี้มองว่าถึงเวลาที่สมาคมฟุตบอลฯต้องเปลี่ยนแปลง จึงคิดว่า ผมเหมาะสม นี่คือสิ่งที่ผมตัดสินใจ"
บิ๊กอ๊อด ยังกล่าวต่อว่า ส่วนข้อครหาในวงการฟุตบอลไทย เรื่องการช่วยเหลือ เรื่องของผลประโยชน์ ที่เข้าข้างพวกตนเองตลอดการตัดสินเกมฟุตบอลที่ไม่เป็นธรรม
"ฟิวส์ผมขาดเลย ในแมตช์ที่สตูลแข่งกับขอนแก่นเมื่อเร็วๆนี้ ผมรับไม่ได้ ที่กรรมการไม่เป่าลูกจุดโทษให้สตูล ซึ่งผมก็ไม่มีอะไรไปเกี่ยวข้องกับสตูล ไม่เคยไปสตูล นอกจากกรรมการจะตัดสินไม่ให้จุดโทษแล้ว ยังให้ 2 ใบแดงอีก สุดท้ายแฟนบอลรุมกระทืบกรรมการ ต้องถามว่าเหตุอยู่ที่ไหน ต้องไปแก้ที่ต้นเหตุ"
"ผมยังอึดอัดด้วยกรณีที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 มีคำสั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.เมืองสตูล ตอนนั้นเกือบออกมาให้สัมภาษณ์แล้วว่า ไม่เห็นด้วยที่มีคำสั่งย้ายเช่นนั้น แต่นั่นเป็นดุลยพินิจของผู้บัญชาการฯ ผมเองเป็นตำรวจ อะไรก็ลงที่ตำรวจตลอด ตีกันก็โทษตำรวจ ถามว่าที่ตีกันนี่เพราะอะไร ถ้าตัดสินไม่ค้านสายตาจะมีใครลงไปกระทืบกรรมการมั้ย"
อดีต ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า "ถ้าผมมีโอกาสได้รับการสนับสนุนจากสโมสรทั่วประเทศเมื่อไหร่ แน่นอนละ ผมจะปฏิรูปเปลี่ยนแปลงใหม่หมด การบริหารงานของสมาคมต้องโปร่งใส ทั้งการตรวจสอบ ความยุติธรรม การชี้แจงสโมสรและสังคมให้ทราบทุก 6 เดือน ทั้งสิทธิประโยชน์ที่สมาคมได้มาต้องแจกแจง และผลประโยชน์เหล่านี้ต้องตกทอดไปยังทุกทีมในลีก เพราะเงินที่สมาคมได้มาทั้งสปอนเซอร์ สิทธิประโยชน์ ก็เกิดจากสโมสรฟุตบอล ต้องคืนให้เขา"
บิ๊กอ๊อด กล่าวอีกว่า "เรื่องต่อไป กรรมการตัดสินในสนามต้องแก้ไขให้มีความยุติธรรม มีมาตรฐานสากล ต้องยอมรับได้ หากกรรมการตัดสินผิดพลาดต้องโดนลงโทษ มีมาตรฐานเดียวกัน เช่นกันทีมฟุตบอลและแฟนบอลทำผิดต้องถูกลงโทษอย่างชัดเจน ต้องมีมาตรฐานทัดเทียมกัน หลักการเดียวกัน ไม่ใช่ทีมพวกกูโดนลงโทษแค่ปีเดียว เพราะไม่ใช่ทีมพวกเดียวกันเจอแบนสามปี เชื่อว่าคนไทยรับไม่ได้เช่นกัน"
ผู้ดำเนินรายการถามต่อเรื่องนายเนวิน ชิดชอบ เจ้าของทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกโรงสนับสนุนให้ขึ้นนายกสมาคมบอลฯ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า "เค้าเป็นเพื่อนและเป็นรุ่นน้องของผม เค้าผิดหรือ เค้าผิดตรงไหนที่มาสนับสนุนผม อย่าลืมว่าเนวินพาทีมบอลได้แชมป์ สร้างสนามแข่งรถ การเป็นเพื่อนผมผิดตรงไหน เค้าเข้ามาสนับสนุนผมในฐานะเพื่อน ผมปฏิเสธได้มั้ย แต่เราไม่มีข้อติดค้างหรือค้างคากันนะ ไม่เห็นเขาจะต้องพึ่งผมตรงไหนด้วยซ้ำ"
พล.ต.อ.สมยศ ยังกล่าวต่อว่า หากในอนาคตได้รับความไว้วางใจให้เข้ามาบริหารสมาคมฟุตบอล ก็จะขอร้องให้โค้ชเฮง-วิทยา เลาหกุล อดีตนักฟุตบอลและโค้ชทีมชาติ มาดูแลด้านเทคนิคให้สมาคม เพราะเป็นผู้มีความรู้มีประสบการณ์ ส่วนตำแหน่งอื่นยังไม่มีการทาบทามใคร
สำหรับ พล.ต.อ.สมยศ กำหนดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ในวันนี้ (2 ธ.ค.) ที่โรงแรมพูลแมน ซอยรางน้ำ เวลา 15.00 น.
จาก
http://sport.sanook.com/188257/
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เสนอตัวลงชิงสมัครตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ
กรณีจะเสนอตัวลงชิงสมัครตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ภายหลังหมดวาระการบริหารงานของนายวรวีร์ มะกูดี ว่า เดิมไม่ได้คิดจะลงสมัครแต่อย่างใด เพราะสนับสนุน พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ที่ไปเป็นผู้สมัครชิงนายกสมาคมบอลฯก่อนหน้านี้ โดยได้ช่วยหาเสียงให้เพื่อนตลอด แต่ปรากฏว่า มีฟีดแบ็กกลับมาจากแต่ละสโมสรที่เข้าไปคุยว่า ทำไมไม่ลงสมัครเอง
"ผมบอกไปว่าจะสมัครเองได้อย่างไร เพราะเพื่อนสมัครอยู่แล้ว จน พล.ต.ท.พิสัณห์ มาบอกว่า อยากให้ผมลงสมัครแทน น่าจะเหมาะสมกว่า ส่วน พล.ต.ท.พิสัณห์ จะมาช่วยในงานสมาคม ตอนแรกผมยังไม่ตัดสินใจ เพราะเวลาผมทำอะไรจะต้องทำความรอบคอบ ไม่ทำอะไรผลีผลาม
ก่อนจะไปซาวน์เสียงกับสโมสรฟุตบอลต่างๆ ว่าจะสนับสนุนผมมั้ย รวมทั้งคุยกับผู้คร่ำหวอดในวงการฟุตบอล ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวว่าถึงเวลาแล้วที่สมาคมฟุตบอลฯ ต้องเปลี่ยนแปลง ต้องรื้อ ต้องสังฆกรรมกันใหม่"
"บิ๊กอ๊อด" กล่าวต่อว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ก็ไม่อยากไปกล่าวร้ายใคร สังคมก็มีคำถามถึงสมาคมฟุตบอลฯมาตลอดว่าทำอะไรบ้าง มีทั้งข่าวข้อครหาต่างๆในประเทศ ไปมีเรื่องไม่เหมาะสมในต่างประเทศ สิ่งเหล่านี้ นอกจากทำให้เกิดปัญหาต่อวงการฟุตบอลแล้ว ชื่อเสียงในต่างแดนก็เสียหาย
"เพราะฉะนั้น ถ้าผมจะเข้ามาทำหน้าที่ในสมาคมฟุตบอลฯ ต้องมีผู้สนับสนุน ผมต้องมีอิสระในการทำงาน ตัดสินใจ ใครช่วยผม อย่ามาถือว่าติดค้างกัน ผมไม่มีทางฟังใครทั้งสิ้น ไม่ว่าบุคคลหรือกลุ่มคนที่คิดว่าจะสนับสนุนผมแล้วมาหาประโยชน์จากผม"
ผู้ดำเนินรายการถามต่อว่า พูดอย่างนี้เป็นการดักคอทางกลุ่มผู้สนับสนุนจากทีมบุรีรัมย์และชลบุรี หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า "ไม่ใช่ ทีมเหล่านี้ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยผมหรอก ทีมบุรีรัมย์เป็นแชมป์มากมาย ชลบุรีก็ไม่ต้องพึ่งผม ต่างมีความสามารถของเขาเอง แต่เหล่านี้มองว่าถึงเวลาที่สมาคมฟุตบอลฯต้องเปลี่ยนแปลง จึงคิดว่า ผมเหมาะสม นี่คือสิ่งที่ผมตัดสินใจ"
บิ๊กอ๊อด ยังกล่าวต่อว่า ส่วนข้อครหาในวงการฟุตบอลไทย เรื่องการช่วยเหลือ เรื่องของผลประโยชน์ ที่เข้าข้างพวกตนเองตลอดการตัดสินเกมฟุตบอลที่ไม่เป็นธรรม
"ฟิวส์ผมขาดเลย ในแมตช์ที่สตูลแข่งกับขอนแก่นเมื่อเร็วๆนี้ ผมรับไม่ได้ ที่กรรมการไม่เป่าลูกจุดโทษให้สตูล ซึ่งผมก็ไม่มีอะไรไปเกี่ยวข้องกับสตูล ไม่เคยไปสตูล นอกจากกรรมการจะตัดสินไม่ให้จุดโทษแล้ว ยังให้ 2 ใบแดงอีก สุดท้ายแฟนบอลรุมกระทืบกรรมการ ต้องถามว่าเหตุอยู่ที่ไหน ต้องไปแก้ที่ต้นเหตุ"
"ผมยังอึดอัดด้วยกรณีที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 มีคำสั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.เมืองสตูล ตอนนั้นเกือบออกมาให้สัมภาษณ์แล้วว่า ไม่เห็นด้วยที่มีคำสั่งย้ายเช่นนั้น แต่นั่นเป็นดุลยพินิจของผู้บัญชาการฯ ผมเองเป็นตำรวจ อะไรก็ลงที่ตำรวจตลอด ตีกันก็โทษตำรวจ ถามว่าที่ตีกันนี่เพราะอะไร ถ้าตัดสินไม่ค้านสายตาจะมีใครลงไปกระทืบกรรมการมั้ย"
อดีต ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า "ถ้าผมมีโอกาสได้รับการสนับสนุนจากสโมสรทั่วประเทศเมื่อไหร่ แน่นอนละ ผมจะปฏิรูปเปลี่ยนแปลงใหม่หมด การบริหารงานของสมาคมต้องโปร่งใส ทั้งการตรวจสอบ ความยุติธรรม การชี้แจงสโมสรและสังคมให้ทราบทุก 6 เดือน ทั้งสิทธิประโยชน์ที่สมาคมได้มาต้องแจกแจง และผลประโยชน์เหล่านี้ต้องตกทอดไปยังทุกทีมในลีก เพราะเงินที่สมาคมได้มาทั้งสปอนเซอร์ สิทธิประโยชน์ ก็เกิดจากสโมสรฟุตบอล ต้องคืนให้เขา"
บิ๊กอ๊อด กล่าวอีกว่า "เรื่องต่อไป กรรมการตัดสินในสนามต้องแก้ไขให้มีความยุติธรรม มีมาตรฐานสากล ต้องยอมรับได้ หากกรรมการตัดสินผิดพลาดต้องโดนลงโทษ มีมาตรฐานเดียวกัน เช่นกันทีมฟุตบอลและแฟนบอลทำผิดต้องถูกลงโทษอย่างชัดเจน ต้องมีมาตรฐานทัดเทียมกัน หลักการเดียวกัน ไม่ใช่ทีมพวกกูโดนลงโทษแค่ปีเดียว เพราะไม่ใช่ทีมพวกเดียวกันเจอแบนสามปี เชื่อว่าคนไทยรับไม่ได้เช่นกัน"
ผู้ดำเนินรายการถามต่อเรื่องนายเนวิน ชิดชอบ เจ้าของทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกโรงสนับสนุนให้ขึ้นนายกสมาคมบอลฯ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า "เค้าเป็นเพื่อนและเป็นรุ่นน้องของผม เค้าผิดหรือ เค้าผิดตรงไหนที่มาสนับสนุนผม อย่าลืมว่าเนวินพาทีมบอลได้แชมป์ สร้างสนามแข่งรถ การเป็นเพื่อนผมผิดตรงไหน เค้าเข้ามาสนับสนุนผมในฐานะเพื่อน ผมปฏิเสธได้มั้ย แต่เราไม่มีข้อติดค้างหรือค้างคากันนะ ไม่เห็นเขาจะต้องพึ่งผมตรงไหนด้วยซ้ำ"
พล.ต.อ.สมยศ ยังกล่าวต่อว่า หากในอนาคตได้รับความไว้วางใจให้เข้ามาบริหารสมาคมฟุตบอล ก็จะขอร้องให้โค้ชเฮง-วิทยา เลาหกุล อดีตนักฟุตบอลและโค้ชทีมชาติ มาดูแลด้านเทคนิคให้สมาคม เพราะเป็นผู้มีความรู้มีประสบการณ์ ส่วนตำแหน่งอื่นยังไม่มีการทาบทามใคร
สำหรับ พล.ต.อ.สมยศ กำหนดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ในวันนี้ (2 ธ.ค.) ที่โรงแรมพูลแมน ซอยรางน้ำ เวลา 15.00 น.
จาก http://sport.sanook.com/188257/