สุดสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้า Hunger Games เรื่องสุดท้ายคว้าแชมป์ Good Dinosaur และ Creed เปิดตัวแข็งแรง

US Box Office November 27-29, 2015


(แปล/เรียบเรียงจาก The Hollywood Reporter)

แม้หนังอย่าง Victor Frankenstein จะเปิดตัวได้ไม่ต่างไปจากไก่งวงบนโต๊ะอาหารในวันขอบคุณพระเจ้า แต่กับหนังเก่าที่ยังไปได้ดีอย่าง The Hunger Games: Mockingjay - Part 2 ตามด้วยหนังใหม่ The Good Dinosaur และหนังดรามาพานักมวยตำนานในโลกภาพยนตร์ ร็อคกี บัลบัว ขึ้นจออีกครั้งอย่าง Creed ก็เปิดตัวได้เยี่ยม ทำให้เทศกาลฮอลิเดย์ส่งท้ายเดือนพฤศจิกายนนี้รายได้ราวในบ็อกซ์ ออฟฟิศดูเข้าตากว่าปีก่อน

การยึดอันดับ 1 ต่อไปอีกสัปดาห์ของ The Hunger Games: Mockingjay - Part 2 ถือว่าเป็นไปตามคาด หนังทำเงินไปถึง 75.8 ล้านเหรียญหากนับตั้งแต่วันพุธ ซึ่งน้อยกว่าที่หนังภาคก่อนทำเอาไว้ 82.7 ล้านเหรียญ ในช่วงสุดสัปดาห์เดียวกันนี้ สำหรับตลาดนอกอเมริกา Mockingjay 2 ก็ครองอันดับ 1 เมื่อทำเงินเพิ่มอีก 62 ล้านเหรียญ แม้จะทำรายได้ต่ำกว่าคาดในจีน เก็บมาได้แค่ 16 ล้านเหรียญในสัปดาห์เปิดตัว หนังฉายที่นี่ไปแล้วสิบวัน ทำรายได้ทั้งหมด 21.8 ล้านเหรียญ โดยรายได้รวมนอกอเมริกาของหนังอยู่ที่ 242.4 ล้านเหรียญ รายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 440.7 ล้านเหรียญแล้ว ขณะที่อันดับสองของตลาดต่างประเทศเป็น The Martian ที่เพิ่งเปิดตัวในจีน และทำรายได้กระหึ่ม 50.1 ล้านเหรียญ รายได้ทั่วโลกเพิ่มเป็น 545.1 ล้านเหรียญ

The Good Dinosaur กับหนังร็อคกี ที่ว่าเป็นฉบับรีบูท Creed ก็เก็บเงินได้ดี แม้หนัง Good Dinosaur จะเป็นหนึ่งในหนังที่ออกตัวแย่ที่สุดของพิกซาร์ก็ตามที แต่ก็ดีกว่ารายได้ของ Victor Frankenstein มากมายนัก โดยหนังทั้งสามเรื่องนี้เปิดตัวพร้อมกันในวันพุธ  

The Good Dinosaur หนังทุนสร้างระดับ 175 - 200 ล้านเหรียญ ออกตัวที่ 56 ล้านเหรียญ จาก 3,749 โรงจากการฉายห้าวัน ซึ่งถือเป็นรายได้ออกตัวในช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้าที่ดีที่สุดอันดับ 4 แต่ก็น่าเสียดายที่หนังไม่สามารถเปิดตัวผ่าน 60 ล้านเหรียญไปได้ สำหรับรายได้สามวันสุดสัปดาห์ หนังทำเงินไป 39.2 ล้านเหรียญ 80% ของผู้ชมเป็นกลุ่มครอบครัว และมีผู้ใหญ่ 17% วัยรุ่นราวๆ 4% สำหรับตลาดต่างประเทศ หนังเปิดตัวใช้ได้ที่ 28.7 ล้านเหรียญ จาก 39 ตลาด ทำให้รายได้รวมทั่วโลกเป็น 84 ล้านเหรียญ โดยหนังทำเงินได้ดีที่อังกฤษ 4.3 ล้านเหรียญ, เม็กซิโก 3.6 ล้านเหรียญ และฝรั่งเศส 3.2 ล้านเหรียญ

โดยปีนี้เป็นปีเรื่องที่พิกซาร์ปล่อยหนังออกมาถึงสองเรื่อง โดยเรื่องแรก Inside Out ออกตัวมาก้อนในเดือนมิถุนายนด้วยรายได้มหาศาล 90.4 ล้านเหรียญ และหากย้อนไปดูสถิติของหนังดิสนีย์ ที่มักปล่อยออกมาในช่วงวันขอบคุณพระเจ้า ถือว่าหนัง The Good Dinosaur ยังห่างไกลจาก Frozen ที่เปิดตัวในช่วงเดียวกันของปี 2013 ด้วยรายได้ถึง 93.6 ล้านเหรียญ เป็นแชมป์รายได้เปิดตัว 5 วันของเทศกาลนี้ตลอดกาล

Creed ที่ได้คะแนนซีนีมาสกอร์ A ซึ่งเป็นคะแนนที่ไม่ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ ทำได้ดีเกินคาด เมื่อเปิดตัวที่ 42.6 ล้านเหรียญ จาก 3,284 โรง สำหรับการฉายห้าวัน ขณะที่รายได้สุดสัปดาห์สามวันอยู่ที่ 30.1 ล้านเหรียญ และทำให้หนังทุนสร้าง 35 ล้านเหรียญเรื่องนี้น่าจะปิดตัวได้สวย โดยในกลุ่มคนดูนั้น หนังได้ผู้ชายมาดูถึง 66% และ 62% ของคนดูอายุมากกว่า 25 ปี มีคนผิวขาว 38% ส่วนแอฟริกัน-อเมริกันอยู่ที่ 30% ขณะที่ละตินอยู่ที่ 20%  

หนังเรื่องที่สาม ที่เปิดตัวในเทศกาลขอบคุณพระเจ้าก็คือ Victor Frankenstein ที่ไม่สามารถขึ้นไปถึงท็อปเทนได้สำเร็จ แถมคะแนนซีนีมาสกอร์ก็แค่ C หนังทุนสร้าง 40 ล้านเหรียญเรื่องนี้ ทำได้แค่อันดับ 12 เก็บเงินห้าวันไป 3.4 ล้านเหรียญ จาก 2,797 โรง ขณะที่สามวันสุดสัปดาห์หนังทำรายได้ 2.4 ล้านเหรียญ กลายเป็นหนังสตูดิโอใหญ่ที่เปิดตัวได้ย่ำแย่อีกเรื่องหนึ่งในปีนี้ โดยหนังมีแผนจะเปิดตัวตั้งแต่ตุลาคม 2014 ก่อนจะเลื่อนมาเป็นมกราคมปีนี้ และมาลงที่วันขอบคุณพระเจ้า ยังดีที่หนังไปได้สวยในตลาดต่างประเทศ เมื่อเปิดตัว 10 ล้านเหรียญจาก 24 ตลาด

ในส่วนของหนังใหม่ ที่ไม่ได้เปิดตัวในวงกว้าง ที่เลือกเปิดตัวในช่วงนี้ ก็มี The Danish Girl ที่เปิดตัวในวันศุกร์รายได้สามวันจากสี่โรงในนิว ยอร์ค และแอลเอ เท่ากับ 181,000 เหรียญ รายได้เฉลี่ยเท่ากับ 45,221 เหรียญ/โรง หนังได้คนดูผู้หญิง 58% และ 67% ของผู้ชมอายุ 40 ขึ้นไป แต่ถึงกระนั้น หนังก็ยังเปิดตัวสู้ รายได้สัปดาห์ที่สองของ Carol ไม่ได้ หนังเรื่องนี้ทำเงินไปอีก 203,076 จากสี่โรงในนิว ยอร์ค และแอลเอ รายได้เฉลี่ยสูงถึง 50,769 เหรียญ/โรง หนังทำรายได้รวมให้เดอะ ไวน์สไตน์ คอมปานีไปแล้ว 588,355 เหรียญ

หนังล่ารางวัลอย่าง Brooklyn ก็ขยายโรงเพิ่ม และทำรายได้ห้าวันมาน่าพอใจ 4.9 ล้านเหรียญ จาก 845 โรง ขึ้นไปถึงอันดับ 9 ส่วน Spotlight ยังหนึบในอันดับ 8 หลังเพิ่มโรงจาก 598 เป็น 897 โรง รายได้ห้าวันเป็น 5.7 ล้านเหรียญ หนังทำเงินไปแล้ว 12.3 ล้านเหรียญ

อ่านแล้วถูกใจ กดไลค์ได้ที่ www.facebook.com/Sadaos
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่