จากกันทั้งที่ยังรัก *ไม่ลืมอดีต

ตอนสมัยเรียนมัธยมปลาย ดิฉันได้พบรักกับชายคนหนึ่งผู้ซึ่งมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสอารมณ์ดีคุยด้วยแล้วสบายใจ หลงรักเค้าในวินาทีนั้นเลยทีเดียว จากนั้นเราก็พบปะพูดคุยคบกันเป็นแฟนอย่างเป็นทางการ ทุกๆเช้าของการมาโรงเรียนเขามักจะเซอไพรส์ด้วยการซื้อขนม หรือ ซาลาเปา มาวางไว้ใต้โต๊ะนักเรียนทุกๆวันสำคัญของดิฉันและเค้า เค้ามัดจะเตรียมคำพูดดีๆหรือของขวัญมอบให้เสมอเค้าเป็นคนที่เทคแคร์และโรแมนติกเป็นที่สุด และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ เค้าก็เป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลายตลอดมาจวบจนปัจจุบัน และเวลาที่เราคบกันก็ผ่านเลยไปย่างปีที่ 6  ครอบครัวดิฉันเริ่มลังเลว่าดิฉันกับคนรักเราไม่ได้คบกันเหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่คบแล้วเลิก แต่เราสองรักกันด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ และวางแผนไว้ว่าถ้าเรียนจบปริญญา เราจะทำงานหาเงินมาแต่งงานกัน... อยู่มาวันนึงครอบครัวดิฉันก็ได้ตรวจดวงสมพงษ์เนื้อคู่ ชีวิตคู่ของดิฉันและคนรักว่าอนาคตเราสองคนจะอยู่กันได้ตลอดลอดฝั่งหรือไม่ สรุปคำถามทำนายออกมาว่า " เราสองอยู่ด้วยกันหม้อข้าวไม่ทันดำก็ต้องจากกันไป " หลังจากที่ครอบครัวฉันดูคำทำนายที่ออกมาจากคอมบ้าง จากหมอดูบ้าง ไม่นานทุกสิ่งทุกอย่างในครอบครัวของดิฉันจากที่เคยมีความสุขมากเมื่อก่อน ก็กลายเป็นมีแต่ความระทมทุก เพราะหลังจากคำทำนายนั้นครอบครัวของดิฉันก็สั่งห้ามไม่ให้ดิฉันคบกันกับคนรัก สั่งห้ามไม่ให้ไปไหนมาไหนด้วยกัน และในเวลานั้นเอง ครอบครัวดิฉันก็ถูกตาต้องใจกับชายคนนึงครอบครัวดิฉันบอกถูกอกถูกใจชายคนนี้มากและบอกกับดิฉันว่า "ถ้าลูกได้คบกับคนนี้ลูกจะสบาย ลูกจะไม่เหนื่ิอยเพราะเขาทำได้ทุกอย่างในกิจการที่พ่อสร้าง และลูกจะไม่ลำบากเพราะเขาจะคอยช่วยลูก อีกอย่าง ฐานะเขาก็พอๆกับเรา " ครอบครัวดิฉันปลื้มอก ปลื้มใจที่ได้หาคนขยันขันแข็ง หนักเอาเบาสู้มาบังคับให้ดิฉันคบ คุณรู้มั้ยตลอดมาความรู้สึกมีความสุขยิ้มแย้มแฮปปี้ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตฉันตอนนี้เหมือนคนตายทั้งเป็นไม่เคยมีความสุขในชีวิตเลย *การบังคับกีดกันของครอบครัวทำมา  2 ปี กว่า บ้านเหมือนจะลุกเป็นไฟ เพราะดิฉันไม่ยอมเลิกคบกับคนรัก เรายังไปไหนมาไหนด้วยกัน ไปติวหนังสือด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ไปดูหนังด้วยกัน หรือแม้แต่ไปเรียนด้วยกันห้องเดียวกัน แต่พอนานไปๆหลังจากนั้น ดิฉันกับแฟนก็ค่อยๆห่างกันเพราะความกีดกันขั้นรุนแรงจนทำให้ดิฉันระทมทุกไม่ค่อยไปไหนมาไหนกับคนรักเพราะกลัวคนในครอบครัวเห็น ไปไหนมาไหนก็ต้องระแวง กลัวกลับมาบ้านแล้วเจอปัญหาจากคำพูดของคนในครอบครัวที่หนักหน่วง ในตอนนั้นดิฉันเครียดถึงขั้นวิกฤติ จนไม่เป็นอันกินอันนอน เครียด เกรดเฉลี่ยก็แย่ลง เพราะทุกวันที่ดิฉันกลับจากมหาลัยกลับไปก็ต้องเจอกับคำพูดที่ทิ่มแทงหัวใจทุกวันๆเจอกับอารมณ์คำพูดที่รุนแรงทุกๆครั้งของวันก่อนสอบ กลางเทอม มิดเทอม ให้ขึ้นชื่ิอว่าสอบ จะมีการปะทะอารมณ์กับครอบครัวก่อนเสมอ เพราะครอบครัวดิฉันระแวงและสืบรู้ว่าดิฉันยังคงคบกันกับคนรักอยู่ จนทำให้ทะเลอะกันทุกวัน ดิฉันเครียด ไม่อยากคบกับคนที่ครอบครัวดิฉันหามาให้ และเขาคนนั้นก็ไดแสดงถึงสักยภาพให้ครอบครัวดิฉันประทับใจในหลายๆด้านแต่ยังไงๆดิฉันก็ยังคงรักคนรักไม่มีเปลี่ยนไม่ว่าจะเจออุปสรรค์หนักหนาอย่างไรก็ตาม และดิฉันก็ผ่านวิกฤตินั้นไปได้ด้วยความเงียบ ไม่ตอบโต้ ดิฉันกลายเป็นคนเย็นชา ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยคุย พูดน้อยลง และในที่สุดเมื่อเจอคำพูดที่รุนแรง อารมณ์รุนแรงต่างๆนาๆของครอบครัวก็ทำให้ดิฉันกลัวแล้วก็คุยกับคนรักน้อยลงคุยบ้างไม่คุยบ้าง เพราะดิฉันคิดอยู่ในใจเสมอว่าถ้าเราสองคนยังคุยสนิทสนมกันเหมือนเดิม เรื่องทุกอย่างมันก็ไม่จบ  แต่ตลอดเวลาที่ไม่ค่อยคุยกันกับคนรักและดิฉันพยายามจะปฎิเสธเวลาคนรักชวนไปไหนมาไหนด้วยกัน ที่ดิฉันทำไปทุกอย่างนั่นเพราะไม่อยากเจอปัญหากับครอบครัว จนทำให้เวลาผ่านเลยไปถึว  8 เดือน จากความขี้ขลาดตาขาว ความเย็นชา อารมณ์ที่เปลี่ยนไปของดิฉันทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป อย่างที่ดิฉันไม่เคยคาดคิด นั้นก็คือ คนรักของดิฉันได้ไปมีคนใหม่ เพราะเขาเองก็ทุกข์ระทมมานานพอสมควร ร่วม 3 ปี พอดิฉันโทรไปได้ยินข่าวนี้ดิฉันถึงกับช็อกตกกระใจเสียใจกับความความเฉยชาที่แฝงด้วยความกลัวของดิฉัน จนทำให้ฉันได้พลาดโอกาสดีๆไป  และไม่เกิน 15 วันของการจากลาของอดีตคนรัก  ทางบ้านของคนที่ครอบครัวดิฉันหามาให้ก็มาทาบทามสู่ขอดิฉัน คุณ เชื่อ มั้ย? ว่าดิฉันตอบฝ่ายผู้ใหญ่ฝั่งนี้ไปยังไง...... ดิฉันตอบตกลง... เพราะความเสียใจจนไม่รู้จะเสียใจยังไงและการกระทำในครั่งนี้คิอการ " แต่งงานประชดรัก " ให้อดีตคนรักฉันได้รับรู้ว่าฉันเจ็บและฉันก็จะเจ็บให้มากกว่าเดิม!!!!  " ตอนนี้ชีวิตของฉันเหมือนตายทั้งเป็น " ฉันรู้เส้นทางนี้ฉันเลือกเอง เจ็บเอง แต่มันไม่จบแค่นั้น ผลสุดท้าย สามีดิฉันที่ครอบครัวดิฉันคยั้นคยอหนักหนาให้คบกัน ผลสุดท้าย!!!!!!ครอบครัวดิฉันก็ดันเจอนิสัยของสามีดิฉันแล้วรับไม่ได้ถึงขั้นไม่อยากคุย ไม่อยากเสวานา  แถมครอบครัวดิฉันก็ไม่ชอบครอบครัวทางสามีอีกด้วย!!! พอถึงคราวนี้ครอยครัวดิฉันก็คร่ำครวญถึงอดีตคนรักเก่าของดิฉันโอดครวนอยู่บ่อยครั้ง ว่าถ้าดิฉันและอดีตคนรักได้อยู่กินด้วยกันคงไม่ต้องมาเจอเรื่อง แบบนี้ และปัจจุบันสามีดิฉันที่เพิ่งแต่งงานกันก็ไม่ค่อยได้คุยกับคนในครอบครัวดิฉัน เพราะครอบครัวดิฉันก็ไม่อยากคุยกับสามีดิฉันเหมือนกัน แล้วความรู้สึกของชั้นละ หัวใจของชั้นละเจ็บแค่ไหน
       *** ในที่สุดคนที่เจ็บที่สุดก็คือดิฉันเอง
       *** แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก
       *** เหมือนตายทั้งเป็น
       *** ทุกวันนี้ดิฉันยังคงนึกถึงแต่อดีตคนรักแต่ มันก็สายเกินไปที่จะกลับไปรักกันเหมือนเดิมเพราะต่างคนต่างมีภาระเป็นของตนเองหมายถึงต่างคนต่างมี สามี , ภรรยา แต่ยังไม่มีลูก
       *** ครอบครัวมีปัญหามีแต่เรื่องไม่เว้นแต่ละวัน แต่งงานมา 4 เดือนกว่ามีความสุขน้อยมาก
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
: ถ้าลูกหลานคุณรักใครรักเดียวใจเดียวอย่าไปกีดกันพวกเขาเพราะสุดท้ายแล้วต่อไปครอบครัวคุณเองอาจจะไม่มีความสุขในตอนท้าย

: อย่ากลัวในสิ่งที่กำลังเผชิญหน้า น้อมรับฮึดสู้อย่าทิ้งความหวัง และ ความรักที่บริสุทธิ์ ฝ่าฟันปัญหา อย่าหนีปัญหา

: อย่าหลอกตัวเอง อย่าทรมารตัวเอง  
: อย่าประชดชีวิต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่