คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 30
เคสคุณปอ ต้องบอกว่า เป็นเคสที่หนักมากจริงๆ
ถ้าเป็นคนไข้ทั่วไปที่หนักขนาดนี้ น่าจะรอดยาก หรือไม่รอดมาถึงตอนนี้
เคสนี้เหมือนเป็นเคสที่ ทางรามาธิบดี ทุ่มสุดตัว ใช้ ยา ใช้บุคคลากร และเครื่องมือที่ดี ที่สุด เข้าเต็มที่ ยื้อกับภาวะป่วยที่รุนแรงแบบแทบสิ้นความหวัง อย่างไม่ท้อ เรียกว่า เป็นการโชว์ฝีมือกันเต็มๆเลย ก็ได้ เหตุผล ก็อย่างที่ทราบกันคุณปอเป็นคน มีชื่อเสียง มีคนติดตาม ข่าวคราวกันเยอะ เลยสู้กันสุดๆ
ถ้าสมมุติมีคนป่วยหนักขนาดนี้พร้อมกัน อีกสิบเคสๆ ก็คงรับไม่ไหว
แต่งานนี้ เทช่วยคุณปอกันสุดขีด
ค่าใช้จ่ายด้านเลือด ยา และอุปกรณ์ต่างๆ ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว ครับ
สำหรับผมเอง ยังคิดว่า ราคา 5 ล้าน กับ การรักษาที่เห็น นี่น่าจะเป็นเหมือน ต้นทุน การรักษาของทางรามา มากกว่า ราคาที่คิดคนไข้ปกติ ด้วยซ้ำ
ส่วนคนจ่าย เห็นทางบริษัทต้นสังกัด ว่าจะเป็นคนดูแล ซึ่งผมก็ว่าดี ได้ใจประชาชน แม้ว่าถ้าเคสนี้ จะไม่จ่าย ทางรามาธิบดี ก็คงไม่ฟ้องให้ชำระ หรอก แต่ว่า ทางรพ.ทุ่มเทบุคคลากร เครื่องมือ และทุน ช่วยขนาดนี้ ทางบริษัทเค้าก็คงไม่ปล่อยให้ รพ.ต้องเข้าเนื้อ ขาดทุนหรอก ทุกคนเห็นๆกันอยู่
ถ้าเป็นคนไข้ทั่วไปที่หนักขนาดนี้ น่าจะรอดยาก หรือไม่รอดมาถึงตอนนี้
เคสนี้เหมือนเป็นเคสที่ ทางรามาธิบดี ทุ่มสุดตัว ใช้ ยา ใช้บุคคลากร และเครื่องมือที่ดี ที่สุด เข้าเต็มที่ ยื้อกับภาวะป่วยที่รุนแรงแบบแทบสิ้นความหวัง อย่างไม่ท้อ เรียกว่า เป็นการโชว์ฝีมือกันเต็มๆเลย ก็ได้ เหตุผล ก็อย่างที่ทราบกันคุณปอเป็นคน มีชื่อเสียง มีคนติดตาม ข่าวคราวกันเยอะ เลยสู้กันสุดๆ
ถ้าสมมุติมีคนป่วยหนักขนาดนี้พร้อมกัน อีกสิบเคสๆ ก็คงรับไม่ไหว
แต่งานนี้ เทช่วยคุณปอกันสุดขีด
ค่าใช้จ่ายด้านเลือด ยา และอุปกรณ์ต่างๆ ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว ครับ
สำหรับผมเอง ยังคิดว่า ราคา 5 ล้าน กับ การรักษาที่เห็น นี่น่าจะเป็นเหมือน ต้นทุน การรักษาของทางรามา มากกว่า ราคาที่คิดคนไข้ปกติ ด้วยซ้ำ
ส่วนคนจ่าย เห็นทางบริษัทต้นสังกัด ว่าจะเป็นคนดูแล ซึ่งผมก็ว่าดี ได้ใจประชาชน แม้ว่าถ้าเคสนี้ จะไม่จ่าย ทางรามาธิบดี ก็คงไม่ฟ้องให้ชำระ หรอก แต่ว่า ทางรพ.ทุ่มเทบุคคลากร เครื่องมือ และทุน ช่วยขนาดนี้ ทางบริษัทเค้าก็คงไม่ปล่อยให้ รพ.ต้องเข้าเนื้อ ขาดทุนหรอก ทุกคนเห็นๆกันอยู่
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 23
ท่านเชื่อหรือไม่
ค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ของคนเราคือ
ซื้อบ้าน. ซื้อรถ. แต่งงาน รักษาโรค.
.
.
สำหรับการรักษาโรค.
ประเทศของเรา มีจำนวนแพทย์และเตียง ต่อประชากร ไม่พอเพียง
หลายโรค คนไข้ส่วนใหญ่รอคิวการรักษา การผ่าตัด. จนตายไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคที่ซับซ้อน. ต้องการเครื่องมือวินิจฉัยราคาแพง
ซึ่งจะมีเฉพาะในโรงพยาบาลระดับโรงเรียนแพทย์
สำหรับ ประชากรกลุ่ม A + จะสามารถเข้าถึง
.......
สำหรับประชาชนกลุ่ม A+ จะสามารถเข้าถึงเตียงคนไข้ในโรงเรียนแพทย์
ส่วนประชาชนกลุ่ม A และ b+ จะต้องหาโรงพยาบาลเอกชน
และถ้าเป็นโรคร้ายแรง จะให้โรงพยาบาลเอกชนใช้ connection. ส่งต่อโรงเรียนแพทย์
ซึ่งคนกลุ่มนี้ จะต้องแลกด้วยเงินออมครึ่งชีวิต
.
.ส่วนประชากรกลุ่ม c และ d. มีโอกาสต่ำมากที่จะเข้าถึงการรักษา
.
.การที่เราปล่อยให้ประชากร กลุ่ม A ซึ่งมีกำลังทรัพย์
สามารถจ่ายโรงพยาบาลเอกชนได้โดยไม่มีปัญหา เรื่องการเงิน
แต่สุดท้ายเมื่อโรคร้ายแรง. ก้อจำเป็นต้อง ใช้การลัดคิวเข้ารักษาในโรงเรียนแพทย์
เพราะว่า. โรงพยาบาลเอกชน จะไม่ลงทุน เครื่องมือการแพทย์ที่ซับซ้อนและราคาแพง
.
.
.
บรรดา อาจารย์หมอ ที่อยู่โรงพยาบาลเอกชน จึงใช้อภิสิทธิ์ส่งคนไข้ เข้าใช้เครื่องตรวจรักษาของรัฐ
.
............................................
สำหรับ บางประเทศ เช่น สิงคโปร์
หมอที่อยู่โรงพยาบาลรัฐ. จะได้สวัสดิการดี ใกล้เคียง โรงพยาบาลเอกชน
และห้ามไปทำงานในโรงพยาบาลเอกชน
ด้วยวิธีนี้ เท่านั้น จึงสามารถป้องกันการที่หมอเอกชน ส่งคนไข้เข้ามาลัดคิวใช้ facilities ของโรงพยาบาลรัฐ
ซึ่งเป็นการบังคับกลายๆให้ รพ. เอกชนต้องลงทุน เครื่องมือที่ทันสมัยด้วยตนเอง
ส่วนเครื่องมือของรัฐ จะใช้อย่างยุติธรรม รักษาคนไข้ตามคิวและอาการ..
...............................
เมื่อโรงพยาบาลเอกชน ไม่สามารถส่งคนไข้เข้ามาโรงพยาบาลของรัฐด้วยการลัดคิวแล้ว
หมายความว่ากลุ่ม A. และ. B + ถูกบังคับ ให้ต้องเข้าคิวรักษา. เหมือนคนกลุ่ม c และ d
และเมื่อคนกลุ่ม A. และ B +. ลำบาก ซึ่งรวมถึงคนกลุ่มที่ทำงานในระบบสาธารณสุขด้วย
จะเกิดแรงขับเคลื่อนในสังคมอย่างรุนแรง..ให้รัฐต้องผลิตแพทย์เพิ่มเติม
(กลุ่ม A + ไม่ต้องห่วง เขาสามารถจ่ายโรงพยาบาลเอกชนสบายๆ)
............................................
ถามว่า ประเทศไทย มีฐานะการเงินการคลัง ที่จะให้เงินเดือนแพทย์คนละสองล้านบาทต่อปี ภายใต้เงื่อนไขห้ามรับงานโรงพยาบาลเอกชน ได้ไหม
ตอบว่าได้...
แต่ไม่มีใครกล้าทำ...... เพราะคนที่มีอำนาจจะทำได้คือคนกลุ่ม A +
แลเมื่อทำขึ้นมาแล้ว คนที่จะเดือดร้อนคือ คนกลุ่ม a. และ b + ซึ่งเป็นชนชั้นกลางที่มีพลังมากที่สุดในทางสังคม
ค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ของคนเราคือ
ซื้อบ้าน. ซื้อรถ. แต่งงาน รักษาโรค.
.
.
สำหรับการรักษาโรค.
ประเทศของเรา มีจำนวนแพทย์และเตียง ต่อประชากร ไม่พอเพียง
หลายโรค คนไข้ส่วนใหญ่รอคิวการรักษา การผ่าตัด. จนตายไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคที่ซับซ้อน. ต้องการเครื่องมือวินิจฉัยราคาแพง
ซึ่งจะมีเฉพาะในโรงพยาบาลระดับโรงเรียนแพทย์
สำหรับ ประชากรกลุ่ม A + จะสามารถเข้าถึง
.......
สำหรับประชาชนกลุ่ม A+ จะสามารถเข้าถึงเตียงคนไข้ในโรงเรียนแพทย์
ส่วนประชาชนกลุ่ม A และ b+ จะต้องหาโรงพยาบาลเอกชน
และถ้าเป็นโรคร้ายแรง จะให้โรงพยาบาลเอกชนใช้ connection. ส่งต่อโรงเรียนแพทย์
ซึ่งคนกลุ่มนี้ จะต้องแลกด้วยเงินออมครึ่งชีวิต
.
.ส่วนประชากรกลุ่ม c และ d. มีโอกาสต่ำมากที่จะเข้าถึงการรักษา
.
.การที่เราปล่อยให้ประชากร กลุ่ม A ซึ่งมีกำลังทรัพย์
สามารถจ่ายโรงพยาบาลเอกชนได้โดยไม่มีปัญหา เรื่องการเงิน
แต่สุดท้ายเมื่อโรคร้ายแรง. ก้อจำเป็นต้อง ใช้การลัดคิวเข้ารักษาในโรงเรียนแพทย์
เพราะว่า. โรงพยาบาลเอกชน จะไม่ลงทุน เครื่องมือการแพทย์ที่ซับซ้อนและราคาแพง
.
.
.
บรรดา อาจารย์หมอ ที่อยู่โรงพยาบาลเอกชน จึงใช้อภิสิทธิ์ส่งคนไข้ เข้าใช้เครื่องตรวจรักษาของรัฐ
.
............................................
สำหรับ บางประเทศ เช่น สิงคโปร์
หมอที่อยู่โรงพยาบาลรัฐ. จะได้สวัสดิการดี ใกล้เคียง โรงพยาบาลเอกชน
และห้ามไปทำงานในโรงพยาบาลเอกชน
ด้วยวิธีนี้ เท่านั้น จึงสามารถป้องกันการที่หมอเอกชน ส่งคนไข้เข้ามาลัดคิวใช้ facilities ของโรงพยาบาลรัฐ
ซึ่งเป็นการบังคับกลายๆให้ รพ. เอกชนต้องลงทุน เครื่องมือที่ทันสมัยด้วยตนเอง
ส่วนเครื่องมือของรัฐ จะใช้อย่างยุติธรรม รักษาคนไข้ตามคิวและอาการ..
...............................
เมื่อโรงพยาบาลเอกชน ไม่สามารถส่งคนไข้เข้ามาโรงพยาบาลของรัฐด้วยการลัดคิวแล้ว
หมายความว่ากลุ่ม A. และ. B + ถูกบังคับ ให้ต้องเข้าคิวรักษา. เหมือนคนกลุ่ม c และ d
และเมื่อคนกลุ่ม A. และ B +. ลำบาก ซึ่งรวมถึงคนกลุ่มที่ทำงานในระบบสาธารณสุขด้วย
จะเกิดแรงขับเคลื่อนในสังคมอย่างรุนแรง..ให้รัฐต้องผลิตแพทย์เพิ่มเติม
(กลุ่ม A + ไม่ต้องห่วง เขาสามารถจ่ายโรงพยาบาลเอกชนสบายๆ)
............................................
ถามว่า ประเทศไทย มีฐานะการเงินการคลัง ที่จะให้เงินเดือนแพทย์คนละสองล้านบาทต่อปี ภายใต้เงื่อนไขห้ามรับงานโรงพยาบาลเอกชน ได้ไหม
ตอบว่าได้...
แต่ไม่มีใครกล้าทำ...... เพราะคนที่มีอำนาจจะทำได้คือคนกลุ่ม A +
แลเมื่อทำขึ้นมาแล้ว คนที่จะเดือดร้อนคือ คนกลุ่ม a. และ b + ซึ่งเป็นชนชั้นกลางที่มีพลังมากที่สุดในทางสังคม
ความคิดเห็นที่ 35
สิทธิเยอะครับคนไทย ได้ฟรีกันมากมาย
อะไรๆก็เเค่30บาท จนไม่ได้สนใจถึงต้นทุนที่รัฐต้องจ่าย
ที่โรงพยาบาลต้องเเบกรับ
ไม่สบาย เจ็บป่วย ก็ไปโรงพยาบาล คนเยอะก็บ่น บริการช้าก็บ่น
อะไรไม่ถูกใจขอให้ได้ด่าได้อัพลงสื่อออนไลน์
สุดท้ายก็จ่าย30บาท ถึงจะเป็นส่วนต่างรัฐก็ออกให้มากมาย
ง่ายๆสบาย จนไม่ได้ใส่ใจที่จะเลือกวิธีดูเเลตัวเองให้เเข็งเเรง
ค่าบริการ ถูก จนทำให้คนเราไม่รู้สึกว่าต้องรับผิดชอบอะไรมากมายเเม้กระทั่งสุขภาพของตนเอง
อะไรๆก็เเค่30บาท จนไม่ได้สนใจถึงต้นทุนที่รัฐต้องจ่าย
ที่โรงพยาบาลต้องเเบกรับ
ไม่สบาย เจ็บป่วย ก็ไปโรงพยาบาล คนเยอะก็บ่น บริการช้าก็บ่น
อะไรไม่ถูกใจขอให้ได้ด่าได้อัพลงสื่อออนไลน์
สุดท้ายก็จ่าย30บาท ถึงจะเป็นส่วนต่างรัฐก็ออกให้มากมาย
ง่ายๆสบาย จนไม่ได้ใส่ใจที่จะเลือกวิธีดูเเลตัวเองให้เเข็งเเรง
ค่าบริการ ถูก จนทำให้คนเราไม่รู้สึกว่าต้องรับผิดชอบอะไรมากมายเเม้กระทั่งสุขภาพของตนเอง
ความคิดเห็นที่ 40
You get what you pay. ตามนั้นครับ
ถามว่า ไปประเทศที่บอกว่าประชาธิปไตยเต็มขั้น คนเท่าเทียมกัน
สมมติ ประธานาธิบดีป่วยหนัก กับพวกไร้บ้านป่วยหนักมาพร้อมกัน คุณคิดว่าเจ้าหน้าที่ เค้าจะทุ่มทรัพยากรไปให้คนไข้คนไหนล่ะครับ
โอเค ถ้าเงินเหลือๆ ก็รักษาทั้งสองคน แต่ถ้าทรัพยากรมีจำกัด สามารถรักษาได้แค่คนเดียวล่ะ..
ฐานานุรูปของคนไข้ก่อนการรักษา ไม่สำคัญเท่ากับ รักษาหายแล้วเขาจะสามารถทำประโยชน์แก่สังคมได้เท่าไร
พวกแว๊นซ์กวนเมืองซิ่งมอเตอร์ไซต์ชนกับดอกเตอร์ที่กำลังทำวิจัยรางวัลโนเบล บาดเจ็บสาหัสเท่าๆ กัน ไป รพ.เดียวกัน ถ้าคุณบอกว่าเห็นค่าของชีวิตของทั้งสองคนนี้เท่ากัน ผมก็ขอนับถือด้วย..
ถามว่า ไปประเทศที่บอกว่าประชาธิปไตยเต็มขั้น คนเท่าเทียมกัน
สมมติ ประธานาธิบดีป่วยหนัก กับพวกไร้บ้านป่วยหนักมาพร้อมกัน คุณคิดว่าเจ้าหน้าที่ เค้าจะทุ่มทรัพยากรไปให้คนไข้คนไหนล่ะครับ
โอเค ถ้าเงินเหลือๆ ก็รักษาทั้งสองคน แต่ถ้าทรัพยากรมีจำกัด สามารถรักษาได้แค่คนเดียวล่ะ..
ฐานานุรูปของคนไข้ก่อนการรักษา ไม่สำคัญเท่ากับ รักษาหายแล้วเขาจะสามารถทำประโยชน์แก่สังคมได้เท่าไร
พวกแว๊นซ์กวนเมืองซิ่งมอเตอร์ไซต์ชนกับดอกเตอร์ที่กำลังทำวิจัยรางวัลโนเบล บาดเจ็บสาหัสเท่าๆ กัน ไป รพ.เดียวกัน ถ้าคุณบอกว่าเห็นค่าของชีวิตของทั้งสองคนนี้เท่ากัน ผมก็ขอนับถือด้วย..
ความคิดเห็นที่ 52
อยากได้คุณภาพการรักษาเทียบเท่าประเทศที่เจริญแล้ว จ่ายภาษีให้ถึงครึ่งของเขาก่อนเหอะ
สิทธิฟรี เรียกร้องจะเอาๆ ภาษีนี่เลี่ยงกันเท่าที่จะเลี่ยงได้
ด่าหมอไม่มีจรรยาบรรณรักษาคนรวยจนไม่เท่ากัน หมอรักษาเต็มที่ทุกคนแหละ
ต่างกันก็แค่ยากับเครื่องมือ อะไรบางอย่างมันก็ไม่ได้เอามาง่ายๆ
อันนี้คนมันมีกำลังจ่าย เขาก็ยอมจ่ายเต็มที่เพื่อชีวิตคนของเขา ก็แค่นั้น
สิทธิฟรี เรียกร้องจะเอาๆ ภาษีนี่เลี่ยงกันเท่าที่จะเลี่ยงได้
ด่าหมอไม่มีจรรยาบรรณรักษาคนรวยจนไม่เท่ากัน หมอรักษาเต็มที่ทุกคนแหละ
ต่างกันก็แค่ยากับเครื่องมือ อะไรบางอย่างมันก็ไม่ได้เอามาง่ายๆ
อันนี้คนมันมีกำลังจ่าย เขาก็ยอมจ่ายเต็มที่เพื่อชีวิตคนของเขา ก็แค่นั้น
แสดงความคิดเห็น
ทำไมค่ารักษาพยาบาลคุณปอ แพงจังครับ ตอนนี้ 5 ล้านกว่าละครับ
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9580000132495