สวัสดีครับ
ผมเป็นมนุษย์วัยรุ่นทำงานแล้ว และมีโอกาสได้ชมโขนพระราชทาน 3 รอบ 2 ตอน โขนปีนี้ก็ใกล้จะปิดม่านแสดงเต็มที ตัวผมเองก็ถูกโขนตรึงใจ เลยอยากจะมาเล่าสู่กันฟังเล็กๆ น้อยๆ ส่งท้ายครับ รูปภาพประกอบส่วนใหญ่มาจากอินเตอร์เน็ตบ้าง จาก face book แฮชแท็ก #พรหมาศ บ้าง ก็กราบขออนุญาตล่วงหน้าครับ ถ้าไม่สามารถใช้ภาพไหนได้ แจ้งมาได้เลยครับ
ปีนี้เป็นอีกปีที่ทางมูลนิธิส่งเสริมศิลปชีพฯ จัดแสดงโขน หรือที่เรารู้จักกันในนาม
"โขนพระราชทาน" ในชุดศึกอินทรชิต ตอน
"พรหมาศ" ว่าด้วยการรบขัดตาทัพของมังกรกัณฐ์ และอิทธิฤทธิ์ของศรที่พระอิศวรประทานให้แก่อินทรชิตพร้อมกับการแปลงกายเป็นพระอินทร์ออกรบกับฝ่ายพระราม เนื้อเรื่องก็ประมาณนี้ครับ
ความคาดหวังของโขนทุกชุดแน่นอนว่าจะต้องอยู่ที่ฉาก ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่โขนมาดึงคนดูรุ่นใหม่ๆ ได้เยอะขึ้น เพราะพวกเขา (เรา) เห็นความอลังการของฉากเป็นอันดับแรก ยิ่งปีนี้ความคาดหวังยิ่งเพิ่มขึ้นมาก เพราะเป็นโขนในตอนเดียวกับที่เคยเปิดม่านแสดงไปแล้วถึง 2 ครั้งในช่วงต้นปี 50 คนที่เคยชมแล้วบางคนก็บอกอยากให้เล่นตอนใหม่ๆ บ้าง บางส่วนบอกดูแล้วก็ควรดูอีก เพราะการสร้างเครื่องทรง ฉาก ราชยานต่างๆ ไม่ใช่เพื่อสร้างแล้วเล่นแค่ครั้งเดียว มันต้องมีการบำรุงรักษาและใช้งานบ่อยๆ (ไม่งั้นเปลือง/ผมคิดเอง) ในขณะที่ส่วนใหญ่ที่ยังไม่เคยชมโขน หรือไม่เคยชมตอนนี้ ต่างก็บอก จัดมา เพราะพรหมาศถือเป็นตอนแรกๆ ที่ประสบความสำเร็จทำให้โขนพระราชทานยิงยาวกลายเป็นมหรสพประจำปีที่หลายคนรอคอย (ผมด้วย) การมาของโขนพระราชทานตอนต่างๆ ลำดับคร่าวๆ ได้ดังนี้ครับ
1. ชุดศึกอินทรชิต ตอน พรหมาศ 2550
(ปีแรก ยังใช้วงโยธวาทิต ไม่ได้เป็นดนตรีไทย)
2. ชุดศึกอินทรชิต ตอน พรหมาศ 2552
(ได้รับการเรียกร้องจึงจัดแสดงซ้ำ เปลี่ยนเป็นวงปี่พาทย์)
3. นางลอย 2553
(กลายเป็นงานแสดงประจำปีตามพระราชเสาวนีย์ / ไม่มีฉากรบ เน้นยักษ์เกี้ยวสาวเป็นหลัก / เป็นตอนที่ผมอยากดูมากก ถึงมากที่สุด)
4. ศึกมัยราพณ์ 2554
(ฉากอลังการกับหนุมานอมพลับพลา เป็นโขนหัวหอกที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ล่าตั๋ว ทั้งๆ ที่รอบแรกๆ ว่างบาน / และโขนตอนนี้ยังทำให้เกิดกระแสนิยมออกไปในวงกว้าง มากกว่าจะจำกัดอยู่ในผู้ชมเดิมๆ กลุ่มเดิมๆ)
5. จองถนน 2555
(เค้าว่าตลกสุดตอนหนุมานกับนิลพัทตีกัน)
6. โมกขศักดิ์ 2556
(ฉากอลังการเก็บสรรพยา หยุดรถพระอาทิตย์สุดยิ่งใหญ่ / เลื่อนการแสดงหลายรอบเพื่อไว้ทุกข์ให้กับสมเด็จพระสังฆราช)
7. ชุดศึกอินทรชิต ตอนนาคบาศ 2557
(เป็นโขนตอนที่สร้างมาตรฐาน sold out ได้ตามตามธรรมเนียม ส่วนตัวรอบที่ได้ชมรู้สึกตลกหนักพอสมควร)
8. ชุดศึกอินทรชิต ตอนพรหมาศ 2558
โขนพระราชทานเดินทางเข้าสู่ปีที่ 8 กับ 6 ตอนที่อลังการ สวยงาม โดดเด่นแตกต่างกันไป ตัวผมเองได้ชมสดๆ ไปแค่สองตอนหลัง ยอมรับว่านอกจากเสน่ห์จะอยู่ที่ฉาก (ทีมงานบางส่วนทีมเดียวกับผู้สร้างเนรมิตรฉากในภาพยนตร์สุริโยทัย) แล้ว ยังรวมไปถึงองค์ประกอบอื่นๆ ที่สำคัญ อาทิ นักแสดงทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ ความสวยงามของเครื่องประดับเครื่องแต่งกาย การแต่งหน้า การขับร้องเพลง วงปี่พาทย์ ตลกหลวง ความกระชับของเนื้อหา รวมไปถึงความสะดวกสบายในการเดินทาง ตลอดจนเพื่อนๆ น้องๆ ทหาร เจ้าหน้าที่ที่คอยให้บริการอำนวยความสะดวกดูแลผู้ชม และเหนือสิ่งอื่นใด คือความภาคภูมิใจของผู้ชมที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ขบวนศิลปะที่ทรงคุณค่ายิ่งหลายแขนงของชาวไทย จำได้ว่าตอนผมชมจบครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ยังรู้สึกปลื้มแบบสุดๆ จนต้องมาระบายออกบนพันทิป และกลายเป็นมนุษย์ที่หันขวับทุกครั้งที่ยินคำว่า
"โขน" ดังนั้นปีนี้ผมก็มาพยายามระบายออกไปนั่นแหละครับ 55
โขนพรหมาศปีนี้ ผมได้ชมไปสองรอบ รอบแรกวันที่ 7 พ.ย. รอบ 14.00 ซึ่งเป็นรอบแรกของประชาชน รอบสองคือรอบที่เปิดเพิ่มเติม อังคารที่ 24 พ.ย. สองรอบสองที่นั่ง ค่อนข้างแตกต่างกันพอสมควร รอบแรกผมอยู่กลาง โซน B3 แถว R22 รอบสองผมนั่งโซน A1 แถว K16
และนี่เป็นสิ่งที่ผมรวบรวมมาได้ระหว่างการชม และหลังชมแล้วครับ
My Fact & Review โขน 2558 (เป็นมุมมองด้านเดียว สปอยหนัก อวยล้วนๆ เห็นต่างแย้งได้เลยนะครับ)
1. ฉากที่งดงามที่สุดสองฉาก คือ
1) ฉากเปิดท้องพระโรงกรุงโรมคัลของมังกรกัณฐ์ ซึ่งสมราคาคุยของผู้สร้างที่สุด ศิลปะแบบจีนที่รุ่งเรืองในยุครัชกาลที่ 3 ผสมลงตัวกับลวดลายกนกวิจิตรแบบไทย ภาพของเสาค้ำลงลายมังกรแหวกว่ายท้องนภาสีมรกต รับกับบัลลังก์มังกรสีทองอร่าม เบื้องหลังเป็นจิตรกรรมพระโพธิ์สัตว์ทรงคชา ยามเมื่อม่านถูกปลด แสงไฟจะส่องลงยังบัลลังก์ต้องเป็นเงามืดทะมึนของยักษา ผู้ซึ่งนั่งเชิดหน้า ผายไหล่แกร่ง หัวโขนตั้งนิ่งมั่นคง ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มระดับแสง ปี่พาทย์บรรเลง และเมื่อบัลลังก์มังกรส่องประกายสีทองมลังเมลืองคล้ายกำลังลุกไหม้ระยิบระยับ ยามเมื่อพญายักษ์เริ่มขยับกาย คุณพระ! ผมยอมแลกกับอะไรก็ได้ในฉากเปิดนี้ มันแบบ ว้าวว น้ำตาซึม ขนลุก มันเหมือนกับว่าพอถึงจุดๆ นึงโขนจะดึงคุณเข้าไปด้วยมนต์ที่มิอาจขัดขืน ภาพขึงขังร่ายโศกของมังกรกัณฐ์ในหัวโขนบนบัลลังก์มังกรแปดพิภพ (ตั้งชื่อเอง) นี่แหละที่ผมจะกดบัตรเข้าไปดูรัวๆ อีกจนกว่าจะหาไม่
2) ฉากขบวนเสด็จพระอินทร์ ยกใจให้เต็มๆ ตรงความงดงามของเหล่าเทวดานางฟ้า (แปลง) ที่ออกมาร่ายรำ คือโดยส่วนใหญ่ โขนเนี่ยก็จะเห็นแต่ผู้ชายใช่ไหมครับ ผู้หญิงจะโผล่มาไม่ค่อยเยอะ (หรือเยอะแต่ดูไม่ออก) อย่างไรก็ตามรอบนี้เหล่านางฟ้าจะมาในร่างนางฟ้าจริง ผิวขาวๆ ผ่านการลงแป้งนิดๆ ใบหน้าที่บรรจงลงสีเรื่อๆ ให้อ่อนหวาน ผ้าแพรผ้ายกที่นุ่งก็ขึ้นไฟดีชะมัด การรำที่อ่อนช้อยบอบบางน่าทะนุถนอมจนเกิดนิมิตรมารว่ากำลังได้ลูบต้นแขนนวลเนียนเหล่านั้น (เฮ้ย) อีกทั้งเครื่องเกียรติยศต่างๆ ที่อยู่ในขบวน มันยิ่งใหญ่เหลือเกิน กระทั่งจุดที่ปลุกประดมจริงจัง คือดนตรี ผมไม่แน่ใจว่าเรียกอะไร แต่จะมีนักดนตรีอารมณ์หลวงออกมาในองค์นี้ พวกเขาตีกลองและเป่าเครื่องเป่าที่เรามักจะได้ยินในงานพระราชพิธีต่างๆ ผมนี่ขนลุกหันมองซ้ายขวาตลอดเวลา เห็นยักษ์อินทรชิตแปลงได้โหดทั้งภาพทั้งเสียงขนาดนี้แล้วก็ไม่แปลกที่ทัพพระลักษณ์จะตื่นตามุงดูจนโดนสอยไปทั้งกอง
รูปตอนซ้อมของปีนี้ อยากบอกว่ารอบทรงเครื่องอลังเว่อวังมากครับ
(มีต่อครับ)
all about โขนพระราชทาน "พรหมาศ" 2558
ผมเป็นมนุษย์วัยรุ่นทำงานแล้ว และมีโอกาสได้ชมโขนพระราชทาน 3 รอบ 2 ตอน โขนปีนี้ก็ใกล้จะปิดม่านแสดงเต็มที ตัวผมเองก็ถูกโขนตรึงใจ เลยอยากจะมาเล่าสู่กันฟังเล็กๆ น้อยๆ ส่งท้ายครับ รูปภาพประกอบส่วนใหญ่มาจากอินเตอร์เน็ตบ้าง จาก face book แฮชแท็ก #พรหมาศ บ้าง ก็กราบขออนุญาตล่วงหน้าครับ ถ้าไม่สามารถใช้ภาพไหนได้ แจ้งมาได้เลยครับ
ปีนี้เป็นอีกปีที่ทางมูลนิธิส่งเสริมศิลปชีพฯ จัดแสดงโขน หรือที่เรารู้จักกันในนาม "โขนพระราชทาน" ในชุดศึกอินทรชิต ตอน "พรหมาศ" ว่าด้วยการรบขัดตาทัพของมังกรกัณฐ์ และอิทธิฤทธิ์ของศรที่พระอิศวรประทานให้แก่อินทรชิตพร้อมกับการแปลงกายเป็นพระอินทร์ออกรบกับฝ่ายพระราม เนื้อเรื่องก็ประมาณนี้ครับ
ความคาดหวังของโขนทุกชุดแน่นอนว่าจะต้องอยู่ที่ฉาก ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่โขนมาดึงคนดูรุ่นใหม่ๆ ได้เยอะขึ้น เพราะพวกเขา (เรา) เห็นความอลังการของฉากเป็นอันดับแรก ยิ่งปีนี้ความคาดหวังยิ่งเพิ่มขึ้นมาก เพราะเป็นโขนในตอนเดียวกับที่เคยเปิดม่านแสดงไปแล้วถึง 2 ครั้งในช่วงต้นปี 50 คนที่เคยชมแล้วบางคนก็บอกอยากให้เล่นตอนใหม่ๆ บ้าง บางส่วนบอกดูแล้วก็ควรดูอีก เพราะการสร้างเครื่องทรง ฉาก ราชยานต่างๆ ไม่ใช่เพื่อสร้างแล้วเล่นแค่ครั้งเดียว มันต้องมีการบำรุงรักษาและใช้งานบ่อยๆ (ไม่งั้นเปลือง/ผมคิดเอง) ในขณะที่ส่วนใหญ่ที่ยังไม่เคยชมโขน หรือไม่เคยชมตอนนี้ ต่างก็บอก จัดมา เพราะพรหมาศถือเป็นตอนแรกๆ ที่ประสบความสำเร็จทำให้โขนพระราชทานยิงยาวกลายเป็นมหรสพประจำปีที่หลายคนรอคอย (ผมด้วย) การมาของโขนพระราชทานตอนต่างๆ ลำดับคร่าวๆ ได้ดังนี้ครับ
1. ชุดศึกอินทรชิต ตอน พรหมาศ 2550
(ปีแรก ยังใช้วงโยธวาทิต ไม่ได้เป็นดนตรีไทย)
2. ชุดศึกอินทรชิต ตอน พรหมาศ 2552
(ได้รับการเรียกร้องจึงจัดแสดงซ้ำ เปลี่ยนเป็นวงปี่พาทย์)
3. นางลอย 2553
(กลายเป็นงานแสดงประจำปีตามพระราชเสาวนีย์ / ไม่มีฉากรบ เน้นยักษ์เกี้ยวสาวเป็นหลัก / เป็นตอนที่ผมอยากดูมากก ถึงมากที่สุด)
4. ศึกมัยราพณ์ 2554
(ฉากอลังการกับหนุมานอมพลับพลา เป็นโขนหัวหอกที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ล่าตั๋ว ทั้งๆ ที่รอบแรกๆ ว่างบาน / และโขนตอนนี้ยังทำให้เกิดกระแสนิยมออกไปในวงกว้าง มากกว่าจะจำกัดอยู่ในผู้ชมเดิมๆ กลุ่มเดิมๆ)
5. จองถนน 2555
(เค้าว่าตลกสุดตอนหนุมานกับนิลพัทตีกัน)
6. โมกขศักดิ์ 2556
(ฉากอลังการเก็บสรรพยา หยุดรถพระอาทิตย์สุดยิ่งใหญ่ / เลื่อนการแสดงหลายรอบเพื่อไว้ทุกข์ให้กับสมเด็จพระสังฆราช)
7. ชุดศึกอินทรชิต ตอนนาคบาศ 2557
(เป็นโขนตอนที่สร้างมาตรฐาน sold out ได้ตามตามธรรมเนียม ส่วนตัวรอบที่ได้ชมรู้สึกตลกหนักพอสมควร)
8. ชุดศึกอินทรชิต ตอนพรหมาศ 2558
โขนพระราชทานเดินทางเข้าสู่ปีที่ 8 กับ 6 ตอนที่อลังการ สวยงาม โดดเด่นแตกต่างกันไป ตัวผมเองได้ชมสดๆ ไปแค่สองตอนหลัง ยอมรับว่านอกจากเสน่ห์จะอยู่ที่ฉาก (ทีมงานบางส่วนทีมเดียวกับผู้สร้างเนรมิตรฉากในภาพยนตร์สุริโยทัย) แล้ว ยังรวมไปถึงองค์ประกอบอื่นๆ ที่สำคัญ อาทิ นักแสดงทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ ความสวยงามของเครื่องประดับเครื่องแต่งกาย การแต่งหน้า การขับร้องเพลง วงปี่พาทย์ ตลกหลวง ความกระชับของเนื้อหา รวมไปถึงความสะดวกสบายในการเดินทาง ตลอดจนเพื่อนๆ น้องๆ ทหาร เจ้าหน้าที่ที่คอยให้บริการอำนวยความสะดวกดูแลผู้ชม และเหนือสิ่งอื่นใด คือความภาคภูมิใจของผู้ชมที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ขบวนศิลปะที่ทรงคุณค่ายิ่งหลายแขนงของชาวไทย จำได้ว่าตอนผมชมจบครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ยังรู้สึกปลื้มแบบสุดๆ จนต้องมาระบายออกบนพันทิป และกลายเป็นมนุษย์ที่หันขวับทุกครั้งที่ยินคำว่า "โขน" ดังนั้นปีนี้ผมก็มาพยายามระบายออกไปนั่นแหละครับ 55
โขนพรหมาศปีนี้ ผมได้ชมไปสองรอบ รอบแรกวันที่ 7 พ.ย. รอบ 14.00 ซึ่งเป็นรอบแรกของประชาชน รอบสองคือรอบที่เปิดเพิ่มเติม อังคารที่ 24 พ.ย. สองรอบสองที่นั่ง ค่อนข้างแตกต่างกันพอสมควร รอบแรกผมอยู่กลาง โซน B3 แถว R22 รอบสองผมนั่งโซน A1 แถว K16
และนี่เป็นสิ่งที่ผมรวบรวมมาได้ระหว่างการชม และหลังชมแล้วครับ
My Fact & Review โขน 2558 (เป็นมุมมองด้านเดียว สปอยหนัก อวยล้วนๆ เห็นต่างแย้งได้เลยนะครับ)
1. ฉากที่งดงามที่สุดสองฉาก คือ
1) ฉากเปิดท้องพระโรงกรุงโรมคัลของมังกรกัณฐ์ ซึ่งสมราคาคุยของผู้สร้างที่สุด ศิลปะแบบจีนที่รุ่งเรืองในยุครัชกาลที่ 3 ผสมลงตัวกับลวดลายกนกวิจิตรแบบไทย ภาพของเสาค้ำลงลายมังกรแหวกว่ายท้องนภาสีมรกต รับกับบัลลังก์มังกรสีทองอร่าม เบื้องหลังเป็นจิตรกรรมพระโพธิ์สัตว์ทรงคชา ยามเมื่อม่านถูกปลด แสงไฟจะส่องลงยังบัลลังก์ต้องเป็นเงามืดทะมึนของยักษา ผู้ซึ่งนั่งเชิดหน้า ผายไหล่แกร่ง หัวโขนตั้งนิ่งมั่นคง ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มระดับแสง ปี่พาทย์บรรเลง และเมื่อบัลลังก์มังกรส่องประกายสีทองมลังเมลืองคล้ายกำลังลุกไหม้ระยิบระยับ ยามเมื่อพญายักษ์เริ่มขยับกาย คุณพระ! ผมยอมแลกกับอะไรก็ได้ในฉากเปิดนี้ มันแบบ ว้าวว น้ำตาซึม ขนลุก มันเหมือนกับว่าพอถึงจุดๆ นึงโขนจะดึงคุณเข้าไปด้วยมนต์ที่มิอาจขัดขืน ภาพขึงขังร่ายโศกของมังกรกัณฐ์ในหัวโขนบนบัลลังก์มังกรแปดพิภพ (ตั้งชื่อเอง) นี่แหละที่ผมจะกดบัตรเข้าไปดูรัวๆ อีกจนกว่าจะหาไม่
2) ฉากขบวนเสด็จพระอินทร์ ยกใจให้เต็มๆ ตรงความงดงามของเหล่าเทวดานางฟ้า (แปลง) ที่ออกมาร่ายรำ คือโดยส่วนใหญ่ โขนเนี่ยก็จะเห็นแต่ผู้ชายใช่ไหมครับ ผู้หญิงจะโผล่มาไม่ค่อยเยอะ (หรือเยอะแต่ดูไม่ออก) อย่างไรก็ตามรอบนี้เหล่านางฟ้าจะมาในร่างนางฟ้าจริง ผิวขาวๆ ผ่านการลงแป้งนิดๆ ใบหน้าที่บรรจงลงสีเรื่อๆ ให้อ่อนหวาน ผ้าแพรผ้ายกที่นุ่งก็ขึ้นไฟดีชะมัด การรำที่อ่อนช้อยบอบบางน่าทะนุถนอมจนเกิดนิมิตรมารว่ากำลังได้ลูบต้นแขนนวลเนียนเหล่านั้น (เฮ้ย) อีกทั้งเครื่องเกียรติยศต่างๆ ที่อยู่ในขบวน มันยิ่งใหญ่เหลือเกิน กระทั่งจุดที่ปลุกประดมจริงจัง คือดนตรี ผมไม่แน่ใจว่าเรียกอะไร แต่จะมีนักดนตรีอารมณ์หลวงออกมาในองค์นี้ พวกเขาตีกลองและเป่าเครื่องเป่าที่เรามักจะได้ยินในงานพระราชพิธีต่างๆ ผมนี่ขนลุกหันมองซ้ายขวาตลอดเวลา เห็นยักษ์อินทรชิตแปลงได้โหดทั้งภาพทั้งเสียงขนาดนี้แล้วก็ไม่แปลกที่ทัพพระลักษณ์จะตื่นตามุงดูจนโดนสอยไปทั้งกอง
รูปตอนซ้อมของปีนี้ อยากบอกว่ารอบทรงเครื่องอลังเว่อวังมากครับ
(มีต่อครับ)