ป้ายเช่นนี้ควรที่จะถูกนำขึ้นไปชูตามหน้าสถานทูต หรือเวลามีการชุมระดับพหุภาคีของกลุ่มประเทศในภาคพื้นยุโรปและตะวันตกเพื่อแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองของและกลุ่มคนที่เป็นเจ้าของป้าย ไม่ใช่ถูกมาปิดหน้าร้านหรือตามหัวมุมในสถานที่แหล่งท่องอย่างภูเก็ต จุดประสงค์ก็คือต้องการให้นักท่องเที่ยวได้อ่านและได้เห็น นักท่องเที่ยวก็คือนักท่องเที่ยวครับ พวกเขามาเที่ยวพักผ่อนหาความสุขส่วนตัว เขาไม่ได้เป็นตัวแทนของใครไม่ได้แบกรับความผิดชอบใดๆ มาเที่ยวครับ ป้ายที่ปิดไว้ให้นักท่องเที่ยวได้อ่านนี้ จะไม่ผลใดๆ เลยแม้แต่น้อย เหมือนซัดปุยนุ่นใส่หินผาอย่างไรอย่างนั้น ต่อให้เอาแผ่นป้ายนี้ไปติดไว้ที่รัฐสภาสหภาพยุโรปก็ไม่น่าจะมีผลใดๆ
ในมุมสะท้อนกลับ การขึ้นป้ายเช่นนี้กลับจะเป็นผลเสียต่อภาพลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ และรวมถึงประเทศไทยด้วย ป้ายบอกว่าให้ Respect คือเคารพประเทศไทย(ด้วยการที่ อียูและยูเอสไม่เข้ามายุ่งทางการเมืองของไทย) นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาประเทศไทยนั้น “ให้” มากกว่าการเคารพเสียอีกนะครับในสายตาผม สำหรับนักท่องเที่ยวหลายๆ คนนั้นมองข้ามเรื่อง “เคารพ” ไปได้เลย เพราะบางคน “รัก” บางคน “หลง” ประเทศไทยด้วยซ้ำ ฝรั่งที่ผมรู้จักบางคนเข้ามาเที่ยวประเทศไทยปีละหลายๆ ครั้งๆ ก็มี หรือถ้าจะว่าไปแล้ว...ยังมีประเทศอีกมากมายทั่วโลกที่เขาจะบินไปเที่ยวพักผ่อนได้ แต่เขาเลือกที่จะมาประเทศไทยแม้จะมีวิกฤติทางการเมืองในตอนนี้ก็ตาม แล้วท่านเจ้าของป้ายล่ะครับ? เคารพคนอื่นมากน้อยแค่ไหน? ไม่ต้องเคารพคนอื่นคนไกลอย่างนักท่องเที่ยวก็ได้ครับ อย่างน้อยๆ ก็เคารพคนไทยหรือคนในพื้นที่ที่ทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยวหรือแม้แต่ธุรกิจเล็กๆ ที่คอนตะกร้าขายของที่ระลึกให้กับนักท่องเที่ยวตามริมฟุตบาทก็ยังดี ว่าการขึ้นป้ายบนความสะใจของตัวเองแค่นี้มันส่งผลกระทบในวงกว้างขนาดไหน??
เรื่องอย่างนี้อย่าเอาเรื่อง “สีเหลืองสีแดง” มาปะปนเลยนะครับ เพราะอย่างที่บอก...มันไม่ส่งผลทางการเมืองระดับประเทศอะไรเลย ต้องเข้าใจว่านักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวนั้น เขาได้ยกการตัดสินใจในทางการเมืองผ่านการ “เลือกตั้ง” ให้กับ “ผู้แทน” ของเขาไปแล้ว ดังนั้นมติหรือการตัดสินใจใดๆ ในที่ประชุมไม่ว่าจะของอียูหรือยูเอสนั่นก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจของเขาด้วย อย่าเอา “กลไก” ทางการเมืองแบบไทยๆ ไปวางทาบของเขา มันไม่เวิร์ก
รู้สึกเสียใจนะที่เห็นป้ายอย่างนี้.....ผมเสื้อแดงร้อยเปอร์เซ็นต์ ในยามชาติวิกฤติอย่างนี้ก็ได้ร่วมมือร่วมใจกับพี่น้องคนต่างสีจัดงาน อเมซซิ่งไทยแลนด์เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวไทยในต่างแดนอย่างเหน็ดเหนื่อย แต่มาเห็นป้ายที่ปิดไว้บนความสะใจที่ไม่ถูกเทศะเช่นนี้ จุกในลำคอ...บอกตรงๆ
ถ้านี่เป็นการ "ขอเพื่อชาติ" ได้....ก็อยากจะขอว่าเอาป้ายลงซะเถอะครับ เพื่อประโยชน์ของธุรกิจในพื้นที่และในระดับประเทศ เก็บป้ายเอาไว้ไปประท้วงที่หน้าสถานทูตก็ได้ถ้ายังยืนยันอยากจะแสดงเจตนารมณ์อยู่
….ไม่คุ้ม ยังไงๆ ก็ไม่คุ้มครับ.....
ป้ายเช่นนี้ควรที่จะถูกนำขึ้นไปชูตามหน้าสถานทูต หรือเวลามีการชุมระดับพหุภาคีของกลุ่มประเทศในภาคพื้นยุโรปและตะวันตกเพื่อแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองของและกลุ่มคนที่เป็นเจ้าของป้าย ไม่ใช่ถูกมาปิดหน้าร้านหรือตามหัวมุมในสถานที่แหล่งท่องอย่างภูเก็ต จุดประสงค์ก็คือต้องการให้นักท่องเที่ยวได้อ่านและได้เห็น นักท่องเที่ยวก็คือนักท่องเที่ยวครับ พวกเขามาเที่ยวพักผ่อนหาความสุขส่วนตัว เขาไม่ได้เป็นตัวแทนของใครไม่ได้แบกรับความผิดชอบใดๆ มาเที่ยวครับ ป้ายที่ปิดไว้ให้นักท่องเที่ยวได้อ่านนี้ จะไม่ผลใดๆ เลยแม้แต่น้อย เหมือนซัดปุยนุ่นใส่หินผาอย่างไรอย่างนั้น ต่อให้เอาแผ่นป้ายนี้ไปติดไว้ที่รัฐสภาสหภาพยุโรปก็ไม่น่าจะมีผลใดๆ
ในมุมสะท้อนกลับ การขึ้นป้ายเช่นนี้กลับจะเป็นผลเสียต่อภาพลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ และรวมถึงประเทศไทยด้วย ป้ายบอกว่าให้ Respect คือเคารพประเทศไทย(ด้วยการที่ อียูและยูเอสไม่เข้ามายุ่งทางการเมืองของไทย) นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาประเทศไทยนั้น “ให้” มากกว่าการเคารพเสียอีกนะครับในสายตาผม สำหรับนักท่องเที่ยวหลายๆ คนนั้นมองข้ามเรื่อง “เคารพ” ไปได้เลย เพราะบางคน “รัก” บางคน “หลง” ประเทศไทยด้วยซ้ำ ฝรั่งที่ผมรู้จักบางคนเข้ามาเที่ยวประเทศไทยปีละหลายๆ ครั้งๆ ก็มี หรือถ้าจะว่าไปแล้ว...ยังมีประเทศอีกมากมายทั่วโลกที่เขาจะบินไปเที่ยวพักผ่อนได้ แต่เขาเลือกที่จะมาประเทศไทยแม้จะมีวิกฤติทางการเมืองในตอนนี้ก็ตาม แล้วท่านเจ้าของป้ายล่ะครับ? เคารพคนอื่นมากน้อยแค่ไหน? ไม่ต้องเคารพคนอื่นคนไกลอย่างนักท่องเที่ยวก็ได้ครับ อย่างน้อยๆ ก็เคารพคนไทยหรือคนในพื้นที่ที่ทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยวหรือแม้แต่ธุรกิจเล็กๆ ที่คอนตะกร้าขายของที่ระลึกให้กับนักท่องเที่ยวตามริมฟุตบาทก็ยังดี ว่าการขึ้นป้ายบนความสะใจของตัวเองแค่นี้มันส่งผลกระทบในวงกว้างขนาดไหน??
เรื่องอย่างนี้อย่าเอาเรื่อง “สีเหลืองสีแดง” มาปะปนเลยนะครับ เพราะอย่างที่บอก...มันไม่ส่งผลทางการเมืองระดับประเทศอะไรเลย ต้องเข้าใจว่านักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวนั้น เขาได้ยกการตัดสินใจในทางการเมืองผ่านการ “เลือกตั้ง” ให้กับ “ผู้แทน” ของเขาไปแล้ว ดังนั้นมติหรือการตัดสินใจใดๆ ในที่ประชุมไม่ว่าจะของอียูหรือยูเอสนั่นก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจของเขาด้วย อย่าเอา “กลไก” ทางการเมืองแบบไทยๆ ไปวางทาบของเขา มันไม่เวิร์ก
รู้สึกเสียใจนะที่เห็นป้ายอย่างนี้.....ผมเสื้อแดงร้อยเปอร์เซ็นต์ ในยามชาติวิกฤติอย่างนี้ก็ได้ร่วมมือร่วมใจกับพี่น้องคนต่างสีจัดงาน อเมซซิ่งไทยแลนด์เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวไทยในต่างแดนอย่างเหน็ดเหนื่อย แต่มาเห็นป้ายที่ปิดไว้บนความสะใจที่ไม่ถูกเทศะเช่นนี้ จุกในลำคอ...บอกตรงๆ
ถ้านี่เป็นการ "ขอเพื่อชาติ" ได้....ก็อยากจะขอว่าเอาป้ายลงซะเถอะครับ เพื่อประโยชน์ของธุรกิจในพื้นที่และในระดับประเทศ เก็บป้ายเอาไว้ไปประท้วงที่หน้าสถานทูตก็ได้ถ้ายังยืนยันอยากจะแสดงเจตนารมณ์อยู่