สวัสดีครับ เราเป็นชายรักชาย ตอนนี้กำลังคบกับชาวต่างชาติ(ออสซี่)โดยเป็นความสัมพันธ์แบบไม่ชัดเจน ตอนนี้สับสนมากว่าเราควรจะไปต่อหรือหยุดแค่นี้ดี?
ขอตั้งชื่อเขาว่า คุณเอ แล้วกันครับ เรากับคุณเออายุห่างกันพอสมควร แต่ด้วยทัศนะคติของเราที่เป็นผู้ใหญ่ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องช่องว่างระหว่างวัย
เริ่มคุยกันครั้งแรกตอน มีนา ปีนี้ โดยเขาเป็นฝ่ายเข้าหาเราก่อน แรกๆ เราไม่ค่อยอยากเจอเท่าไหร่ เพราะตอนนั้นเรามีความรู้สึกว่าเราชอบคนวัยเดียวกันมากกว่า แต่ไม่ลองก็ไม่รู้เลยตอบตกลงไป อย่างน้อยก็ได้เพื่อนเพิ่มขึ้น 1 คน เหตุการณ์หลังจากเจอกันวันแรกปรากฎว่าเราประทับใจเขามาก ชอบบุคลิก ท่าทาง ทุกๆอย่างๆ เลยตัดสินใจลองคบแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป ระหว่างที่คบกันเขาดูแลเราดีมาก ให้เกียรติเราทุกอย่าง พาไปกินข้าว พาไปเที่ยว ช่วยเหลือเราเวลาเราลำบาก เวลาเราไปข้างนอกด้วยกันเขาไม่มีทีท่าว่าอายที่คบกับคนอายุเด็กกว่าอย่างเรา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราแสดงให้เขาเห็นว่า เราคบกับเขาไม่ใช่เพราะเขามีฐานะที่มั่นคง ทุกเวลาที่ต้องควักเงินจ่ายเราสองคนจะแชร์ 50/50 ตลอด เราเจอกันอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ค้างคืนบ้างบางวัน เพราะเราก็ทำงาน เขาก็ทำงาน เวลาว่างเลยไม่ตรงกัน จนประมาณเดือน กรกฎา ที่ผ่านมา เราเริ่มรู้สึกว่าคนนี้คือคนที่ใช่สำหรับเรา แล้วเราก็พร้อมจะดูแลเขา เราเลยตัดสินใจบอกความรู้สึกที่เรามีกับเขาไปทุกอย่างว่าเรารู้สึกดีกับเขานะ เราอยากใช้เวลาเพื่อที่จะเรียนรู้กันและกันแบบค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ซึ่งเราไม่สนเลยว่าเวลาที่จะใช้มันนานเท่าไหร่ เพราะเรารู้แค่ว่าเรามีความสุขกับเขา ความสุขที่มันไม่เคยเพิ่มขึ้นและไม่เคยน้อยลงตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน แต่หลังจากเราเปิดอกคุยกับเขาแบบนั้นไป คำตอบที่ได้กลับมาคือ "เขาไม่ได้ต้องการความรัก คู่ชีวิต หรืออะไรทำนองนั้น เขาแค่ต้องการเพื่อนที่ดีที่สุดคนนึงเท่านั้น" ตอนนั้นยอมรับว่าผิดหวังมาก เพราะทุกๆอย่างที่เราทำด้วยกันมันเหมือนเราเป็นแฟนกัน แค่มันไม่มีคำเรียกสถานะนั้นว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่เรายอมเสี่ยงเพราะหวังแค่ว่าความดีมันคงชนะใจเขาได้ เหมือนน้ำเซาะหินทุกวันหินมันยังกร่อน เรายอมรับนะว่าเรามีความสุขที่ได้อยู่กับเขา มีความสุขที่ได้ใช้เวลาด้วยกัน แต่พอนึกถึงสิ่งที่เขาเคยพูดกับเรามันเหมือนแผลในใจที่คิดถึงตอนไหนก็จะเจ็บแปลบๆทันที
เราคบแบบนั้นมาเรื่อยๆ จนถึง ตุลาที่ผ่านมา เราขอเขาเปิดอกคุยกันอีกทีว่าทำไมเขาถึงไม่อยากมีคนคอยดูแล ใช้ชีวิตด้วยกัน คำตอบที่ได้มาคือ เขามีความรับผิดชอบในหน้าที่การงานเยอะมากแล้ว ด้วยตำแหน่งของเขา ความรับผิดชอบมันสูง เขาไม่มีเวลาที่จะไปรับผิดชอบชีวิตใครอีก และไม่อยากให้คนอื่นมารับผิดชอบชีวิตเขาเหมือนกัน เขายังบอกเราอีกว่าเราคือคนที่ใช่สำหรับเขา เขาชอบเรา และอยากใช้เวลากับเรา ก็เลยบอกกับเขาว่า เราแค่รู้สึกว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันไม่มั่นคง ถ้าวันใดวันหนึ่งเขาเจอคนที่ใช่กว่า ที่ดีกว่า เขาก็พร้อมจะทิ้งเราให้เป็นหมาหัวเน่าได้ทุกเวลา เขาตอบกลับมาว่า เขาไม่ได้หาคนที่ใช่กว่าหรือดีกว่าเรา แค่เขามีเราเขาก็มีความสุขแล้ว จากนั้นเราจึงตกลงกันว่า ต่างคนจะไม่ไปมีอะไรกับคนอื่น จะซื่อสัตย์ต่อกันแบบนี้ แต่ความสัมพันธ์ก็ยังเป็นเหมือนเดิม คือ มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน
จนถึงตอนนี้ เรายอมรับว่าเราเหมือนมีแผลในใจ และเหมือนกำลังอยู่ในเกมส์ที่คนแพ้คือคนที่หวั่นไหวก่อน ถ้าเรารักเขาเราก็เจ็บ เพราะเรารู้ตัวดีว่าเขาไม่มีวันที่จะมารักเรา แต่อีกใจนึงเราก็อยากใช้เวลากับเขาแบบนี้ เขาทำให้เรามีความสุข เป็นคนอีกคนที่ดีกว่าแต่ก่อน เขาเป็นทั้งเพื่อน พี่ ครู และที่ปรึกษาในชีวิตเรา ทุกๆครั้งที่เรากำลังมีความสุข ในหัวของเราก็จะเด้งขึ้นมาเตือนว่า เราไม่ได้เป็นแฟนกันนะ มันไม่มีหลักประกันอะไรแน่นอนเลยในความสัมพันธ์แบบนี้ แต่เขาเคยพูดกับเราประมาณว่า ความรักมันไม่ได้อยู่คำเรียกของความสัมพันธ์ เป็นแฟนกันก็ใช่ว่าจะรักมากขึ้น หลายคนเป็นแฟนกันแล้วรักกันน้อยลง สิ่งหนึ่งที่มีค่ามากกว่าความรักคือความรู้สึกดีๆที่มีให้กัน อาจจะเป็นเพราะเขาเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วให้มุมมองความรักของเราแปลกไปจากของเรา หรือเป็นเพราะต่างภาษาต่างวัฒนธรรมทำให้มุมมองความรักของเราไม่เหมือนเรา หรืออาจเป็นเพราะเราเป็นชายรักชาย ที่ความรักมันไม่มั่นคงเหมือนชายหญิง
ตอนนี้เราสับสนมากๆ ว่าจะเอาไงต่อดี ควรจะวิ่งออกมาดีไหม เจ็บครั้งเดียวแต่ทุกอย่างจบ ช่วงแรกอาจจะยากหน่อย นอนไม่หลับ กินไม่อร่อย แต่เวลาจะช่วยทุกอย่างเอง กับอีกใจนึงก็คิดว่าเราจะไปต่อกับเขาโดยมองที่ความรู้สึกดีๆที่เรามีให้กัน ให้น้ำหนักมันมากกว่าความสัมพันธ์และคำว่าแฟน ลังเลแบบนี้มาเป็นอาทิตย์แล้ว ไม่รู้จะต้องทำยังไงดี ????
ปล ขอแท็กห้องไกลบ้าน เผื่อมีใครเคยคบกับชาวต่างชาติแล้วมีปัญหาแบบนี้
ความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน เราคือคนพิเศษหรือแค่ตัวเลือก?
ขอตั้งชื่อเขาว่า คุณเอ แล้วกันครับ เรากับคุณเออายุห่างกันพอสมควร แต่ด้วยทัศนะคติของเราที่เป็นผู้ใหญ่ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องช่องว่างระหว่างวัย
เริ่มคุยกันครั้งแรกตอน มีนา ปีนี้ โดยเขาเป็นฝ่ายเข้าหาเราก่อน แรกๆ เราไม่ค่อยอยากเจอเท่าไหร่ เพราะตอนนั้นเรามีความรู้สึกว่าเราชอบคนวัยเดียวกันมากกว่า แต่ไม่ลองก็ไม่รู้เลยตอบตกลงไป อย่างน้อยก็ได้เพื่อนเพิ่มขึ้น 1 คน เหตุการณ์หลังจากเจอกันวันแรกปรากฎว่าเราประทับใจเขามาก ชอบบุคลิก ท่าทาง ทุกๆอย่างๆ เลยตัดสินใจลองคบแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป ระหว่างที่คบกันเขาดูแลเราดีมาก ให้เกียรติเราทุกอย่าง พาไปกินข้าว พาไปเที่ยว ช่วยเหลือเราเวลาเราลำบาก เวลาเราไปข้างนอกด้วยกันเขาไม่มีทีท่าว่าอายที่คบกับคนอายุเด็กกว่าอย่างเรา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราแสดงให้เขาเห็นว่า เราคบกับเขาไม่ใช่เพราะเขามีฐานะที่มั่นคง ทุกเวลาที่ต้องควักเงินจ่ายเราสองคนจะแชร์ 50/50 ตลอด เราเจอกันอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ค้างคืนบ้างบางวัน เพราะเราก็ทำงาน เขาก็ทำงาน เวลาว่างเลยไม่ตรงกัน จนประมาณเดือน กรกฎา ที่ผ่านมา เราเริ่มรู้สึกว่าคนนี้คือคนที่ใช่สำหรับเรา แล้วเราก็พร้อมจะดูแลเขา เราเลยตัดสินใจบอกความรู้สึกที่เรามีกับเขาไปทุกอย่างว่าเรารู้สึกดีกับเขานะ เราอยากใช้เวลาเพื่อที่จะเรียนรู้กันและกันแบบค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ซึ่งเราไม่สนเลยว่าเวลาที่จะใช้มันนานเท่าไหร่ เพราะเรารู้แค่ว่าเรามีความสุขกับเขา ความสุขที่มันไม่เคยเพิ่มขึ้นและไม่เคยน้อยลงตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน แต่หลังจากเราเปิดอกคุยกับเขาแบบนั้นไป คำตอบที่ได้กลับมาคือ "เขาไม่ได้ต้องการความรัก คู่ชีวิต หรืออะไรทำนองนั้น เขาแค่ต้องการเพื่อนที่ดีที่สุดคนนึงเท่านั้น" ตอนนั้นยอมรับว่าผิดหวังมาก เพราะทุกๆอย่างที่เราทำด้วยกันมันเหมือนเราเป็นแฟนกัน แค่มันไม่มีคำเรียกสถานะนั้นว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่เรายอมเสี่ยงเพราะหวังแค่ว่าความดีมันคงชนะใจเขาได้ เหมือนน้ำเซาะหินทุกวันหินมันยังกร่อน เรายอมรับนะว่าเรามีความสุขที่ได้อยู่กับเขา มีความสุขที่ได้ใช้เวลาด้วยกัน แต่พอนึกถึงสิ่งที่เขาเคยพูดกับเรามันเหมือนแผลในใจที่คิดถึงตอนไหนก็จะเจ็บแปลบๆทันที
เราคบแบบนั้นมาเรื่อยๆ จนถึง ตุลาที่ผ่านมา เราขอเขาเปิดอกคุยกันอีกทีว่าทำไมเขาถึงไม่อยากมีคนคอยดูแล ใช้ชีวิตด้วยกัน คำตอบที่ได้มาคือ เขามีความรับผิดชอบในหน้าที่การงานเยอะมากแล้ว ด้วยตำแหน่งของเขา ความรับผิดชอบมันสูง เขาไม่มีเวลาที่จะไปรับผิดชอบชีวิตใครอีก และไม่อยากให้คนอื่นมารับผิดชอบชีวิตเขาเหมือนกัน เขายังบอกเราอีกว่าเราคือคนที่ใช่สำหรับเขา เขาชอบเรา และอยากใช้เวลากับเรา ก็เลยบอกกับเขาว่า เราแค่รู้สึกว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันไม่มั่นคง ถ้าวันใดวันหนึ่งเขาเจอคนที่ใช่กว่า ที่ดีกว่า เขาก็พร้อมจะทิ้งเราให้เป็นหมาหัวเน่าได้ทุกเวลา เขาตอบกลับมาว่า เขาไม่ได้หาคนที่ใช่กว่าหรือดีกว่าเรา แค่เขามีเราเขาก็มีความสุขแล้ว จากนั้นเราจึงตกลงกันว่า ต่างคนจะไม่ไปมีอะไรกับคนอื่น จะซื่อสัตย์ต่อกันแบบนี้ แต่ความสัมพันธ์ก็ยังเป็นเหมือนเดิม คือ มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน
จนถึงตอนนี้ เรายอมรับว่าเราเหมือนมีแผลในใจ และเหมือนกำลังอยู่ในเกมส์ที่คนแพ้คือคนที่หวั่นไหวก่อน ถ้าเรารักเขาเราก็เจ็บ เพราะเรารู้ตัวดีว่าเขาไม่มีวันที่จะมารักเรา แต่อีกใจนึงเราก็อยากใช้เวลากับเขาแบบนี้ เขาทำให้เรามีความสุข เป็นคนอีกคนที่ดีกว่าแต่ก่อน เขาเป็นทั้งเพื่อน พี่ ครู และที่ปรึกษาในชีวิตเรา ทุกๆครั้งที่เรากำลังมีความสุข ในหัวของเราก็จะเด้งขึ้นมาเตือนว่า เราไม่ได้เป็นแฟนกันนะ มันไม่มีหลักประกันอะไรแน่นอนเลยในความสัมพันธ์แบบนี้ แต่เขาเคยพูดกับเราประมาณว่า ความรักมันไม่ได้อยู่คำเรียกของความสัมพันธ์ เป็นแฟนกันก็ใช่ว่าจะรักมากขึ้น หลายคนเป็นแฟนกันแล้วรักกันน้อยลง สิ่งหนึ่งที่มีค่ามากกว่าความรักคือความรู้สึกดีๆที่มีให้กัน อาจจะเป็นเพราะเขาเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วให้มุมมองความรักของเราแปลกไปจากของเรา หรือเป็นเพราะต่างภาษาต่างวัฒนธรรมทำให้มุมมองความรักของเราไม่เหมือนเรา หรืออาจเป็นเพราะเราเป็นชายรักชาย ที่ความรักมันไม่มั่นคงเหมือนชายหญิง
ตอนนี้เราสับสนมากๆ ว่าจะเอาไงต่อดี ควรจะวิ่งออกมาดีไหม เจ็บครั้งเดียวแต่ทุกอย่างจบ ช่วงแรกอาจจะยากหน่อย นอนไม่หลับ กินไม่อร่อย แต่เวลาจะช่วยทุกอย่างเอง กับอีกใจนึงก็คิดว่าเราจะไปต่อกับเขาโดยมองที่ความรู้สึกดีๆที่เรามีให้กัน ให้น้ำหนักมันมากกว่าความสัมพันธ์และคำว่าแฟน ลังเลแบบนี้มาเป็นอาทิตย์แล้ว ไม่รู้จะต้องทำยังไงดี ????
ปล ขอแท็กห้องไกลบ้าน เผื่อมีใครเคยคบกับชาวต่างชาติแล้วมีปัญหาแบบนี้