การเป็นติ่ง มีดีมากกว่าที่คิด ความติ่งทำให้เรามีจุดยืน (คนที่คิดว่าการติ่งมันไร้สาระ แนะนำให้อ่านะคะ ^^)

หลายคนที่เปิดเข้ามาอ่านกระทู้นี้ ถ้าไม่ใช่ติ่งเกาหลี ก็คงจะเป็นคนที่แอนตี้ติ่ง คิดว่าการติ่งมันไร้สาระ ไม่มีประโยชน์อะไร นอกจากเสียตังค์ แต่ขอบอกเลยว่าถ้าคุณอ่านกระทู้นี้จบ เราเชื่อว่าคุณจะเปลี่ยนความคิด

เราเป็นคนนึงที่บ้านักร้องเกาหลี เราชอบวงนี้...


Super Junior หลายคนคงรู้จัก

เอาจริงๆ เมื่อก่อนเราก็ไม่ได้ชอบเกาหลีหรอก เพิ่งจะเริ่มชอบได้ไม่กี่ปีนี้เอง ถ้าถามว่าทำไมถึงชอบน่ะหรอ? ก็ไม่รู้สินะ ไม่รู้ว่าจะตอบว่ายังไงดี บางที การที่เราชอบอะไรสักอย่าง เหตุผลก็ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้นะ อาจจะคิดว่ามันเพี้ยนๆ โลกสวย โอเว่อร์ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เคยมีความรัก หรือเคยรู้สึกรักใครสักคน คุณจะรู้ ว่าสิ่งที่เราพูดมันไม่ใช่สิ่งเกินจริง

เข้าเรื่องเลยดีกว่า ตามหัวข้อ "การเป็นติ่ง มีดีมากกว่าที่คิด" มีดียังไงน่ะหรอ? หลายคนอาจจะคิดว่าทำให้รู้ภาษามากขึ้น ทำให้ได้รู้จักประเทศเกาหลีมากขึ้น ทำให้ได้ไปเที่ยว หรืออะไรทำนองนี้ ใช่! แต่มันเป็นแค่ส่วนหนึ่ง เพราะสำหรับเรา เราได้มากกว่านั้น...

อย่างที่บอก เราเพิ่งเริ่มชอบเกาหลีได้ไม่นาน แต่วงที่เราชอบอ่ะ อยู่มานานมากกกกกกกกกก...ละ (โคดไม่สัมพันธ์กันเลย 5555) เราเริ่มชอบเอสเจก็ตอนที่จะเข้าอัลบั้มที่ 6 แล้วอ่ะ ติ่งล้าหลังมากกกกกก แต่พอได้ชอบแล้ว มันก็หยุดชอบไม่ได้จริงๆ นะ ฮ่าๆๆๆ เราเริ่มต้นจากการดูรายการเก่าๆ ย้อนหลังไปเรื่อยๆ ดูแล้วก็ติด คือ...พี่คะ นี่ไอดอลจริงดิ?! รักษาภาพพจน์มาก ถ้าไม่ใช่เอสเจ ทำไม่ได้นะเนี้ย 55555 พอดูมากๆ เข้า ก็เริ่มรู้สึกว่า ขี้เกียจอ่านซับแล้วอ่ะ เวลาอ่านไม่ทันแล้วมันต้องย้อนง่ะ ห๊ะ! เดี๋ยวๆ เมื่อกี้ว่าไงนะ? ย้อนกลับไปใหม่ค่ะ อีกอย่าง เวลามีเพลงออกมา คือหนูฟังบ่ฮู้เรื่องค่ะพี่ เคลิ้มแค่ดนตรี กับเสียงของพี่ แต่ความหมายนี่....อย่าได้ถามค่ะ! อันนยอง ซารังแฮ แค่นั้นแหละ 555555 และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของการเริ่มเรียนภาษาเกาหลี "ฉันรักเค้า ฉันอยากจะคุยกับเค้ารู้เรื่อง" อารมณ์ประมาณนั้นแหละ

เราเริ่มเรียนภาษาเกาหลีด้วยตัวเอง ซื้อหนังสือมาอ่าน ฟังเพลง เปิดซีดีตามหนังสือ ดูซีรีย์ ก็ทำแบบที่คนอื่นทำนั่นแหละ เมื่อความตั้งใจบังเกิด ความสำเร็จก็จะตามมา มันตามมาจริงๆ นะ นอกจากอันนยอง ซารังแฮ ก็มีอีกตั้งหลายคำที่โผล่มา มีอันแฮ โคมาวอ (พื้นมาก 55555) เราก็นั่งอ่าน นั่งเขียน นั่งดูหนัง ฟังเพลง อย่างนี้ทุกวันอ่ะแหละ จนวันนึง นึกครึ้มอกครึ้มใจ อยากไปเรียนเกาหลีอ่ะ เลยลองเปิดหาในเว็บดู มีทุนอะไรบ้างมั้ยหนอ~ หาอยู่นานมากอ่ะ ตอนนั้นเราเข้ามหา'ลัยแล้วอ่ะ ถ้าจะหาทุนป.ตรี ก็เลยมาไกลละ อายุเกิน ถ้าทุนป.โท ก็ยังเรียนตรีไม่จบ แต่ในที่สุด..แท๊นนนนน~ แค่ปลายจมูกนี่เอง มันเป็นทุนของมหา'ลัยเรากับมหา'ลัยของเกาหลี ภายใต้ชื่อโครงการ "นักเรียนทุนแลกเปลี่ยน" บอกก่อนว่าทุนนี้ไม่ใช่ทุน 100% เต็มนะ เราเองก็ต้องจ่ายส่วนนึง ก็แบบ..เฮ้ย! อย่างน้อยก็ค่าเทอมเลยนะ เป็นแสน ลองดูละกัน ก็เลยยื่นเรื่องสมัครทุนไปกับทางมหา'ลัย หลังจากส่งใบสมัครอะไรต่างๆ นาๆ ส่งเกรด ข้อสอบ จดหมายแนะนำตัวอะไรเรียบร้อย เราก็ลุ้นมาก รอผลประมาณ 2 เดือนได้มั้ง และแล้ววันที่รอมาก็มาถึง จนท.ของทางมหา'ลัยโทรมาบอกว่า "ยินดีด้วยนะคะ หนูได้รับทุนเรียนแลกเปลี่ยนที่เกาหลีค่ะ" เท่านั้นแหละ กรี๊ดลั่นเลยจ้าาาาาาาา~ เพื่อนแบบ...เป็นไรเมิง? ดีใจมากจริงๆ นะ จำได้เลยว่า วันที่ประกาศผล คือวันเกิดนิชคุณ 24 มิถุนายน แม่นมาก 55555555 หลังจากคุยกับจนท. เสร็จก็โทรบอกที่บ้าน พ่อ แม่ น้า อา อึ้งสิจ๊ะ! ว่าไงนะ? ได้ทุน? เฮ้ย! ได้ได้ไงอ่ะ? งงเหมือนกัน ได้ได้ไง ฮ่าๆๆๆ แต่ที่บ้านเราก็ดีใจมากจริงๆ นะ และเพราะการสอบได้ทุนของเรา มันก็ทำให้คนที่บ้านเราเปลี่ยนความคิดเลย เมื่อก่อนคุณผู้ปกครองของเราเค้าจะประมาณว่า จะดูอะไรนักหนาเกาหลี ดูแล้วจะฉลาดขึ้นหรือไง (ค่ะ จบมา 3.9)  ดูแล้วได้อะไรบ้าง (ได้งานทำนี่ไง เงินเยอะด้วย) ดูไปก็เท่านั้น บ้าอยู่ได้ แต่พอได้ทุน พวกนางก็ไม่พูดแบบนี้อีกเลยนะ 5555 ขำดี (เม้าท์ผู้ปกครอง )

เราได้ทุนไปเรียนที่เกาหลีครึ่งเทอม คือ 6 เดือน ถ้าจะอยู่ต่อเป็น 1 ปี ก็ต้องทำเรื่องและสอบอีกรอบ ค่ะ มีหรือจะพลาด สอบก็สอบ และพอผลสอบออกมา..คือสอบได้ไง ได้อีกแล้ว! ปริ่มมาก นอกจากจะได้อยู่ต่ออีก 6 เดือนแล้ว ยังได้เงินด้วยนะ คล้ายๆ Pocket Money เดือนละ 10,000 บาท สบายเลยจ้าทีนี้ พอช่วงปิดเทอมที่นู่น เราก็หางานทำ เป็นล่ามที่ร้านๆ นึง เจ้านายเป็นเกาหลี พนง.เป็นคนไทย เงินดีมั้ย? ก็ไม่เท่าไหร่ แต่เจ้านายเนี้ย ไม่ไหวจริงจัง เ-ี้ยมากกกกก ใช้งานอย่างกับได้เงินเดือนเป็นล้าน!   บอกก่อนว่า ตอนเราไปเกาหลีอ่ะ ไปคนเดียว ไม่มีเพื่อนคนไทยไปเลย เพราะฉะนั้นก็ต้องไปหาเพื่อนที่โน่น อย่างที่รู้ๆ กัน ว่าเกาหลี ภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ ก็ต้องฝึกฝนกันไป ถ้าไม่หัดพูดก็ไม่ได้ และก็จะไม่มีเพื่อน โชคดี ภาคที่เราไปเรียน ทุกคนน่ารัก เลยไม่ค่อยอึดอัดเท่าไหร่

1 ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก จบโครงการ ก็กลับมาเรียนต่อที่ไทยให้จบ แม้เกรดมันอาจจะไม่ได้สวยหรูเท่าไหร่ แต่จบแล้วก็ได้งานเลยนะคะ จากภาษาเกาหลีที่อุตส่าห์ไปร่ำเรียนมา ส่งผลให้ได้งานทำไม่ขาดสาย ตอนที่เรียนอยู่ก็ทำงานพิเศษนะ เป็นครูสอนภาษาเกาหลีให้คนไทย สอนไทยให้คนเกาหลี เป็นไกด์ให้คนเกาหลี เป็นพี่เลี้ยงเด็กเกาหลี (ในเมืองไทย) ตอนนี้เราทำงานอยู่ที่บริษัทนำเข้าภาพยนตร์เกาหลีแห่งหนึ่งในไทย และก็ทำอีเว้นท์บ้าง ล่าสุดที่ผ่านมาก็...


Kim Kibum All For You Fan Meeting in Bangkok

เข้าใจป่ะว่าชอบเอสเจ แล้วคือได้ทำงานก่ะเอสเจ ถึงจะเพิ่งติ่งตอนที่คิบอมไม่ได้ออกอัลบั้มด้วยเเล้ว แต่เอลฟ์ที่ดีต้อง Only 13 555555555555555 บอกเลยว่าวันนั้นฟินมาก ตั้งแต่ติ่งมา ช๊อตนั้นคือฟินสุดแล้ว ยิ่งกว่าได้กอดนิชคุณ

สิ่งที่เราอยากบอกทุกคนก็คือ อย่าเอาบรรทัดฐานของตัวเองตัดสินคนอื่น ไม่มีใครคิดเหมือนกัน เราไม่ชอบ ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะต้องไม่ชอบด้วย สิ่งที่คุณคิดว่ามันไร้สาระ แต่มันเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เรามีวันนี้ เราผ่านอะไรมาเยอะมากจริงๆ นะ ทั้งเสียงจากคนรอบข้าง เพื่อน หลายคนก็จะประมาณ...เมิงบ้าอ่ะ ถ้าเราใส่ใจคำพูดนั้น เราก็คงไม่มีวันนี้ และสุดท้าย วันนี้ เราก็มีจุดยืน เพราะ "ความติ่ง" หลายคนที่ว่าเรา ป่านนี้ยังหางานทำไม่ได้เลย บางคนก็อาจมีงานทำแล้ว แต่เงินเดือนเราเยอะกว่านะ แค่มีภาษาติดตัว ยิ่งกว่าได้เกียรตินิยมเหรียญทองอีก ไม่ได้จะดูถูกหรือเยาะเย้ยใคร แค่อยากจะบอกว่า "การเป็นติ่ง มันมีดีมากกว่าที่คิด"

สุดท้ายนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังพยายามทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่ให้สำเร็จตามความคาดหมายนะคะ ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องสอบ อาชีพการงาน หรือเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเราพยายามและมีความเชื่อมั่นในตัวเอง เราก็จะทำมันได้สำเร็จค่ะ

หากใครมีอะไรอยากคุยกับเราเพิ่มเติม อยากขอเทคนิคการเรียนภาษา เม้ท์มอยตามประสาติ่ง ตามหาเราได้จาก 2 เพจนี้เลยจ้า
เพจ SJ : Hello SJ >> https://www.facebook.com/hello.k.idol/
เพจ 3 แฝด : 3 Little Pigs >> https://www.facebook.com/superman.daeminse/

ว่างๆ ก็แวะมาคุยกันนะคะ