ผ่านไปแล้วกับบิ๊กไฟท์ คอตโต้-คาเนโล่ ที่ผมแอบผิดหวังนิดๆ คิดว่าจะมันกว่านี้ แต่ต้องยอมรับเลยว่าคอตโต้ไม่สามารถทำอะไรคาเนโล่ได้เลยตลอด 12 ยก เห็นฟอร์มคาเนโล่แล้วหลายท่านคงมีความคิดว่าคนนี้แหละที่จะสามารถปราบ 3G ได้
ภายหลังชกเสร็จ คาเนโล่ให้สัมภาษณ์ว่าตนพร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้ากับ 3G แต่ตนต้องเป็นคนกำหนดพิกัดน้ำหนัก เพราะตนเป็นเจ้าของเข็มขัด
จริงๆก็ฟังดูไม่ค่อยขึ้นเท่าไหร่ เพราะเข็มขัดดังกล่าวมันเป็นรุ่นมิดเดิ้ลเวท แต่ก็แสดงให้เห็นว่าคาเนโล่ไม่ได้ง้อ 3G เลย หาก 3G ไม่โอเคกับพิกัด 155 ปอนด์ คาเนโล่ก็คงไม่ง้อเข็มขัดเส้นนี้เหมือนกัน
นักวิจารณ์หลายท่านบอกว่ารูปร่างคาเนโล่นั้นเป็นมิดเดิ้ลเวทธรรมชาติ น้ำหนักวันชกจะปาเข้าไปที่ 170 ปอนด์ เพื่อให้ตัวเองได้เปรียบ แต่นั่นก็พิสูจน์โดยฟลอยด์แล้วว่า ไม่เสมอไป เมื่อคาเนโล่ที่ถูกคาดเดาน้ำหนัก 172 - 175 ปอนด์ในวันชก ถูกสอนมวยโดยฟลอยด์ที่เบากว่า และว่องไวกว่า
แต่นั่นคืออดีตที่คาเนโล่ได้เรียนรู้จากฟลอยด์ และคาเนโล่ในวันที่ชนะคอตโต้ก็ดูแกร่งมากขึ้นกว่าวันก่อน
ด้าน 3G เอง เชื่อว่าก็มีหวั่นเกรงคาเนโล่อยู่บ้างหากจะชกในน้ำหนัก 155 ปอนด์ เพราะอาจส่งผลต่อสมดุลร่างกายของ 3G ทั้งเรื่องพลังหมัด และความทนทาน ทำให้สร้างความลำบากในการตัดสินใจระหว่างเป้าหมาย 1) บิ๊กไฟท์ทำเงิน กับ 2) รวบเข็มขัดมิดเดิ้ลเวททุกเส้น หาก 3G เลือกข้อ 2 ก็สามารถอยู่เฉยๆ รอคาเนโล่สละเข็มขัดกลับรุ่น 154 ปอนด์ หรือไม่แน่ คาเนโล่เองเสียอีกที่จะกลับมาง้อต่อยกับ 3G ในพิกัด 160 ปอนด์เต็ม
หลายความเห็นบอกว่า 3G กล้าต่อยกับฟลอยด์ในพิกัด 154 แต่ทำไมลังเลที่จะต่อยกับคาเนโล่ในพิกัด 155 เหตุผลที่ผมนึกออกคือสไตล์ที่แตกต่างกัน
การลดน้ำหนักมีผลต่อน้ำหนักหมัด สิ่งที่ 3G ครุ่นคิดน่าจะเป็นผลของการบดกับนักมวยไฟเตอร์ด้วยกันอย่างคาเนโล่ ที่ได้ชื่อว่าหมัดหนักเหมือนกัน ในขณะที่ฟลอยด์นั้นเชื่อว่า 3G จะใช้ความสามารถในการตัดเวทีไล่บดฟลอยด์ให้จนมุมได้โดยไม่ต้องกังวลความหนักของหมัดฟลอยด์เท่าไรนัก
ความเห็นส่วนตัวเชื่อว่า โฮย่า ไม่ยอมให้คาเนโล่ ต่อยกับ 3G ในพิกัด 160 เต็มแน่ๆ และฝั่งเทรนเนอร์ 3G ก็คงไม่ยอมแคชเวทเช่นกัน
ปี 2016 แฟนมวยอาจต้องผิดหวังหากไฟท์ 3G ปะทะ คาเนโล่ จะยังไม่เกิดขึ้น แต่ก็หวังว่า 3G จะได้เจอคู่ชกดีๆ อย่าง แอนดี้ ลี , คิวลิน, จาคอบ ชิมลางไปก่อน เมื่อหมดคู่ชกในรุ่นนี้แล้ว คาดว่า 3G จะข้ามรุ่นไปซูเปอร์มิดเดิ้ลเวท มากกว่าจะลดรุ่นลงมา บางทีไฟท์ 3G-คาเนโล่ อาจไม่มีวันเกิดขึ้นเลย รอดูข่าวอีก 2 อาทิตย์ ผมอาจจะคิดผิดก็ได้
มาคุยกันว่าด้วยเรื่อง คาเนโล่ ปะทะ 3G
ภายหลังชกเสร็จ คาเนโล่ให้สัมภาษณ์ว่าตนพร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้ากับ 3G แต่ตนต้องเป็นคนกำหนดพิกัดน้ำหนัก เพราะตนเป็นเจ้าของเข็มขัด
จริงๆก็ฟังดูไม่ค่อยขึ้นเท่าไหร่ เพราะเข็มขัดดังกล่าวมันเป็นรุ่นมิดเดิ้ลเวท แต่ก็แสดงให้เห็นว่าคาเนโล่ไม่ได้ง้อ 3G เลย หาก 3G ไม่โอเคกับพิกัด 155 ปอนด์ คาเนโล่ก็คงไม่ง้อเข็มขัดเส้นนี้เหมือนกัน
นักวิจารณ์หลายท่านบอกว่ารูปร่างคาเนโล่นั้นเป็นมิดเดิ้ลเวทธรรมชาติ น้ำหนักวันชกจะปาเข้าไปที่ 170 ปอนด์ เพื่อให้ตัวเองได้เปรียบ แต่นั่นก็พิสูจน์โดยฟลอยด์แล้วว่า ไม่เสมอไป เมื่อคาเนโล่ที่ถูกคาดเดาน้ำหนัก 172 - 175 ปอนด์ในวันชก ถูกสอนมวยโดยฟลอยด์ที่เบากว่า และว่องไวกว่า
แต่นั่นคืออดีตที่คาเนโล่ได้เรียนรู้จากฟลอยด์ และคาเนโล่ในวันที่ชนะคอตโต้ก็ดูแกร่งมากขึ้นกว่าวันก่อน
ด้าน 3G เอง เชื่อว่าก็มีหวั่นเกรงคาเนโล่อยู่บ้างหากจะชกในน้ำหนัก 155 ปอนด์ เพราะอาจส่งผลต่อสมดุลร่างกายของ 3G ทั้งเรื่องพลังหมัด และความทนทาน ทำให้สร้างความลำบากในการตัดสินใจระหว่างเป้าหมาย 1) บิ๊กไฟท์ทำเงิน กับ 2) รวบเข็มขัดมิดเดิ้ลเวททุกเส้น หาก 3G เลือกข้อ 2 ก็สามารถอยู่เฉยๆ รอคาเนโล่สละเข็มขัดกลับรุ่น 154 ปอนด์ หรือไม่แน่ คาเนโล่เองเสียอีกที่จะกลับมาง้อต่อยกับ 3G ในพิกัด 160 ปอนด์เต็ม
หลายความเห็นบอกว่า 3G กล้าต่อยกับฟลอยด์ในพิกัด 154 แต่ทำไมลังเลที่จะต่อยกับคาเนโล่ในพิกัด 155 เหตุผลที่ผมนึกออกคือสไตล์ที่แตกต่างกัน
การลดน้ำหนักมีผลต่อน้ำหนักหมัด สิ่งที่ 3G ครุ่นคิดน่าจะเป็นผลของการบดกับนักมวยไฟเตอร์ด้วยกันอย่างคาเนโล่ ที่ได้ชื่อว่าหมัดหนักเหมือนกัน ในขณะที่ฟลอยด์นั้นเชื่อว่า 3G จะใช้ความสามารถในการตัดเวทีไล่บดฟลอยด์ให้จนมุมได้โดยไม่ต้องกังวลความหนักของหมัดฟลอยด์เท่าไรนัก
ความเห็นส่วนตัวเชื่อว่า โฮย่า ไม่ยอมให้คาเนโล่ ต่อยกับ 3G ในพิกัด 160 เต็มแน่ๆ และฝั่งเทรนเนอร์ 3G ก็คงไม่ยอมแคชเวทเช่นกัน
ปี 2016 แฟนมวยอาจต้องผิดหวังหากไฟท์ 3G ปะทะ คาเนโล่ จะยังไม่เกิดขึ้น แต่ก็หวังว่า 3G จะได้เจอคู่ชกดีๆ อย่าง แอนดี้ ลี , คิวลิน, จาคอบ ชิมลางไปก่อน เมื่อหมดคู่ชกในรุ่นนี้แล้ว คาดว่า 3G จะข้ามรุ่นไปซูเปอร์มิดเดิ้ลเวท มากกว่าจะลดรุ่นลงมา บางทีไฟท์ 3G-คาเนโล่ อาจไม่มีวันเกิดขึ้นเลย รอดูข่าวอีก 2 อาทิตย์ ผมอาจจะคิดผิดก็ได้