สวัสดีครับ ก่อนที่ผมจะตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาผมตัดสินใจอยู่นาน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นมันไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร
แต่วันเวลาผ่านไปปัญหาที่เกิดขึ้นไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ผมจึงใช้พื้นที่นี้เพื่อเล่าความไม่สบายใจที่ผ่านมา
เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม 58 ผมได้ตัดสินใจซื้อโน๊ตบุ๊ค LENOVO Y5070-59438317 เพราะโน๊ตบุคเครื่องเก่าที่ใช้อยู่
อาการไม่ดีแล้ว ที่เลือกแบรนด์นี้เพราะตรงตามความต้องการในตอนนั้น ไม่ว่าจะในด้านราคา สเปค ฯลฯ ซึ่งอยากจะได้โน๊ตบุ๊ค
ประสิทธิภาพดีมาใช้เพื่อทำงานและเล่นเกม โดยไม่ได้ดูในเรื่องของการบริการหลังการขาย เพราะโน๊ตบุ๊ค Acer และ HP เครื่องเก่า
ไม่มีประวัติการเคลมใดๆทั้งสิ้น (ทั้ง 2 เครื่อง ราคาหมื่นนิดๆ ใช้งานมาเครื่องละ 3 ปีอย่างต่ำ)
โน๊ตบุ๊ค LENOVO ที่ผมซื้อมานั้นผมใช้ค่อนข้างถนอม (เพราะราคาค่อนข้างแพงสำหรับผมและไม่เคยใช้โน๊ตบุ๊คแรงๆมาก่อน)
ไม่เคยเปิดข้ามคืน ซื้อ Cooling Pad มาลดความร้อน เช็ดถูไม่ให้มีฝุ่นเกาะ เกมที่เล่นก็ Point Blank , Dragon nest ซึ่งผมคิดว่าไม่ได้
งานใช้หนักเกินไปสำหรับโน๊คบุ๊คสเปคเท่านี้ จนมาถึงวันที่ทำให้ผมต้องใช้บริการหลังการขายจนได้ ผมขอลำดับเหตุการณ์เพื่อง่ายต่อการอ่าน
[วันที่ 8-9 ตุลาคม 58]
ช่วงบ่ายของวันที่ 8 ผมเล่นเกมอยู่ตามปกติ อยู่ๆโน๊ตบุ๊คดับไปซะดื้อๆ กดปุ่ม Power เครื่องก็ไม่ติด แบตที่เสียบไว้ไฟก็ไม่เข้าเครื่อง
ในใจคิดแล้ว"พังแน่นอน" ผมกระวนกระวายใจมากโน๊ตบุ๊คใช้มา 9 เดือนโดยประมาณพังเสียแล้ว ผมพยายามรวบรวมสติว่าควรจะ
ทำอะไรก่อนเป็นอย่างแรก แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าโน๊ตบุ๊คของผมเป็นสินค้าจาก Advice (แต่ไม่ได้ซื้อจาก Advice โดยตรง) ผมจึงโทร
ไปยังศูนย์ Advice ในจังหวัดที่ผมอยู่ ผมได้คุยกับช่างของที่นั่นและช่างได้แนะนำให้ไปยังศูนย์บริการหลังการขายแห่งหนึ่งในจังหวัดที่ผมอยู่
(โชคดีมากเพราะศูนย์ดังกล่าวมีอยู่ไม่กี่สาขาในประเทศ) วันที่ 9 ช่วงบ่ายผมจึงเดินทางไปยังศูนย์บริการดังกล่าว ไปเล่าอาการที่เกิดขึ้น
และทิ้งเครื่องไว้เพื่อรอการเคลมสินค้า ผมคิดไว้แล้วว่าสินค้าที่ต้องนำไปเคลมเป็นเดือนแน่ๆกว่าจะได้คืน
[วันที่ 13 ตุลาคม 58]
ผมโทรเข้าไปถามศูนย์บริการได้ความคืบหน้าว่าต้องเปลี่ยน Mainboard
ระหว่างที่รอโน๊ตบุ๊คคืนผมได้พยายามหาสาเหตุว่าทำไมมันถึงเกิดอาการดังกล่าวขึ้น เลยได้ยืมโน๊ตบุ๊คของแม่ (มี 2 เครื่องไว้ใช้ทำงาน)
เจ้ากรรม!! โน๊ตบุ๊คที่ผมยืมแม่มาดันยี่ห้อ Lenovo (อีกแล้ว) มือผมนี่สั่นกลัวจะทำมันพังอีกเครื่อง โดยที่ผมทราบมาโดยรวมเกิดจากความร้อน
ทั้งที่ผมมี Cooling Pad และเล่นในห้องแอร์ (ไม่ได้เปิดแอร์ตลอด) ผมมาทราบทีหลังตอนได้เครื่องกลับมาระหว่างการซ่อม โน๊ตบุ๊คผม
จะมีแผงช่องดูดลมเข้าใต้เครื่องและจะมีแผ่นกรองเป็นผ้าแปะไว้ด้านในเพื่อกรองฝุ่น ซึ่งมันค่อนข้างหนาและมีฝุ่นเกาะเยอะ ผมเคยทำความสะอาด
มันแค่ครั้งเดียว ซึ่งนี่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความร้อนเพราะลมเข้าเครื่องน้อยและระบายความร้อนไม่ทัน
[วันที่ 16 ตุลาคม 58]
ได้รับเครื่องคืน ผมดีใจมากไม่คิดว่าจะได้เครื่องคืนเร็วขนาดนี้จึงไปรับกลับมาช่วงเย็น กลับถึงบ้านก่อนจะเปิดใช้งาน ผมทำการปัดกวาดเช็ดถู
(ทำให้ทราบถึงสาเหตุที่คาดว่าจะทำให้เครื่องร้อนที่กล่าวไปข้างต้น) เมื่อเปิดเครื่องสิ่งที่สะดุดใจผมอย่างแรกคือ "เสียงพัดลม" มันดังมากเหมือน
เครื่องที่ใช้งานหนักๆแล้วพัดลมจะหมุนเร็วและดัง ดังตลอดเวลาที่เปิดเครื่องจนผิดสังเกตุ ผมจึงเปิดโปรแกรม CPUID HWMonitor ที่ผมจะเปิดดู
อุณหภูมิของเครื่องประจำ ซึ่งความร้อนอยู่ที่ 70-80 (ยังไม่ได้เปิดโปรแกรมใดๆทั้งสิ้น) โดยปกติก่อนที่โน๊ตบุ๊คจะพัง อุณหภูมิอยู่ที่ 40-55 (ยังไม่เปิดโปรแกรมใดๆเช่นกัน) ผมเห็นแบตจะหมดจึงเสียบแบตเข้าไปอีก อุณหภูมิขึ้นเป็น 90-95 จึงรีบเอาออก เพราะพัดลมเริ่มหมุนแรงขึ้นเรื่อยตามอุณหภูมิ
เปิดทิ้งไว้สักพักเพื่อวอร์มเครื่องอุณหภูมิกลับมาที่ 65-75 เมื่อเห็นว่าน่าจะดีขึ้นจึงเข้าเกมไปเดินเล่น(ไม่ได้เข้านานคิดถึง) ระหว่างเข้าเกมพัดลมเริ่มหมุนดังขึ้นอุณหภูมิขึ้นไปที่ 90-100 ในใจคิดต้องรีบออกเกมโดยด่วน แต่ไม่ทันเสียแล้วหน้าจอผมเละแล้วทำอะไรไม่ได้ จึงต้องกดปุ่ม Power ค้างไว้เพื่อปิด
และโน๊ตบุ๊คผมก็เปิดไม่ได้อีก โดยมีอาการติดๆดับๆ (เครื่องทำการบูตแล้วดับและบูตเองใหม่วนอยู่แบบนั้น) จากตั้งแต่ทำความสะอาดจนถึง
เปิดโน๊ตบุ๊คไม่ได้อีกกินเวลา 1 ชั่วโมง อยู่กันได้ไม้ถึง 1 ชั่วโมงดี โน๊ตบุ๊คสุดรักได้จากผมไปอีกรอบ
[วันที่ 19 ตุลาคม 58]
ผมได้นำโน๊ตบุ๊คมาที่ศูนย์บริการอีกรอบ (ใจอยากจะมาตั้งแต่วันที่ 16 แต่กว่าจะไปศูนย์ก็ปิดพอดีและยังติดหยุดเสาร์ อาทิตย์อีกต่างหาก) พนักงานที่เคาน์เตอร์ทำหน้างุนงงว่าทำไมมันเสียอีกแล้วและบอกว่าก่อนส่งคืนเช็คให้ดีแล้วนะ ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร เล่าอาการแล้วกลับไป ก่อนกลับคิดในแง่ดีจึงบอกพนักงานไปว่า "ถ้าซ่อมเสร็จแล้วเทสให้ผมนานๆก็ได้ผมไม่รีบ" เจตนาคือซ่อมนานแต่ได้กลับมาแล้วดีผมก็ไม่มีปัญหานะ กลับมาบ้านจึงคิดได้ว่าไม่น่าบอกไปแบบนั้นเลย เดี๋ยวจะได้นานสมใจ 55
[วันที่ 28 ตุลาคม 58]
ผมเห็นว่าทิ้งระยะเวลามาได้สักพักจึงโทรไปถามที่ศูนย์บริการ ว่าอาการโน๊ตบุ๊คผมเป็นยังไงบ้าง ได้รับคำตอบว่า รอ Mainboard ผมถึงถามไปด้วยความงุนงงว่าเปลี่ยน Mainboard อีกแล้วหรอครับ เจ้าหน้าที่ได้แต่หัวเราะแหะๆ คุยกันสักพักจึงได้วางสายไป ผมคิดในใจเข้าศูนย์ 2 รอบเปลี่ยน Mainboard ทั้ง 2 รอบ รอบแรกเขาได้เปลี่ยน Mainboard ให้จริงรึป่าว(เริ่มระแวง สงสัย)หรือแค่ซ่อม Mainboard แต่มันผ่านไปแล้วก็ไม่อยากจะไปคิดอะไรมากเลยรอต่อไป
[วันที่ 3 พฤศจิกายน 58]
ด้วยความที่ว่านานผิดปกติ ผมจึงโทรเข้าไปที่ศูนย์บริการอีกครั้งเพื่อถามความคืบหน้าและอยากทราบว่า Mainboard ที่รอ ต้องรอจากศูนย์กรุงเทพฯหรือจากต่างประเทศ ซึ่งผมก็ไม่ได้รับคำตอบเพราะเจ้าหน้าที่รับสายไม่ทราบ บอกได้แค่รอ Mainboard ผมเริ่มอารมณ์ไม่ดีและเสียความรู้สึกแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ผมเริ่มอยากจะเปลี่ยนเครื่องจึงถามเจ้าหน้าที่ไป แต่ได้รับคำตอบว่าการเปลี่ยนเครื่องใหม่นั้นดำเนินการได้ยาก ผมคิดว่าถ้าไม่ใช่กรณีที่ร้ายแรงทางบริษัทก็คงไม่เปลี่ยนให้แน่นอน ผมก็ยังรู้สึกดีกับเครื่องเดิมอยู่แต่อาจจะเริ่มมีอารมณ์ ไม่ได้คำตอบที่อยากได้ และเวลาที่ดำเนินการนานเกินไป
[วันที่ 4 พฤศจิกายน 58]
ด้วยความที่อยากรู้ว่า Mainboard ที่ผมต้องรอนั้นรอจากกรุงเทพฯหรือต่างประเทศ ผมจึงโทรเข้าที่ศูนย์บริการที่กรุงเทพฯเพื่อตามเรื่อง แต่เจ้าหน้าที่ศูนย์กรุงเทพฯก็ไม่สามารถให้คำตอบผมได้เช่นกัน เขาขอรหัสใบงานไปตรวจสอบว่าซ่อมมากี่ครั้ง ซ่อมอะไร และขออีเมลล์เพื่อแจ้งความคืบหน้า
30 นาทีหลังจากวางสายผมได้รับอีเมลล์ฉบับหนึ่ง ใจความว่า "ลูกค้าตามงานมาครับ แจ้งส่งซ่อมอาการเดิมมา รอบ 2 แล้ว ต้องการทราบว่าอะไหล่ จะเข้ามาได้วันไหนครับ ลูกค้ารีบใช้ตัวเครื่องมาครับ รบกวน update และแจ้งกลับ" โดยทางศูนย์กรุงเทพฯส่งเมลล์ให้ทางศูนย์ที่อยู่ในจังหวัดผม ผมน้ำตาจะไหล+พูดไม่ออก ถ้าศูนย์กรุงเทพฯยังไม่รู้แล้วศูนย์ในจังหวัดผมจะรู้ไหมเนี่ย แต่ก็ยังดีที่มีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง
[วันที่ 7 พฤศจิกายน 58]
ผมนำรหัสการซ่อมไปเช็คในเว็ปไซต์เพื่อดูความคืบหน้า มันขึ้นว่า "สินค้าส่งคืน" หรือก็คือซ่อมเสร็จแล้ว ผมดีใจอีกครั้งเพราะที่ผ่านมามันขึ้น "รออะไหล่" มาตลอด(ผมเช็คสถานะการซ่อมผ่านเว็ปไซต์ทุกวันตั้งแต่เอาไปซ่อมครั้งแรก แต่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้น) มันน่าแปลกที่ไม่มีความคืบหน้ามาหลายอาทิตย์แค่โทรตามไม่กี่วันได้ผลเหมือนกันแฮะ แต่ซ่อมเสร็จก็คือเสร็จไม่อยากรื้อฟื้นในสิ่งที่ผ่านมา
[วันที่ 9 พฤศจิกายน 58]
ผมไปรับโน๊ตบุ๊คคืนช่วงเย็นในใจก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาเพราะซ่อมนานและซ่อมอาการเดิม ช่างไม่น่าจะปล่อยให้เสียอาการเดิมซ้ำสอง ครั้งนี้ผมเทสเครื่องในรถที่จอดไว้หน้าศูนย์บริการ และแล้วมันก็เกิดอาการเดิมขึ้น พัดลมหมุนดัง(แต่เสียงเบากว่าตอนซ่อมครั้งแรก) เทสอุณหภูมิอยู่ที่ 65-80 มันไม่ปกติอีกแล้ว แต่รู้สึกว่าอาการดีกว่าตอนซ่อมครั้งแรกนิดนึง ผมจึงลงจากรถไปถามช่างว่าการที่พัดลมหมุนแรงและอุณหภูมิสูงทั้งๆที่ยังไม่ได้เข้าโปรแกรมอะไรเลยมันแปลกๆนะครับ ช่างก็มาดูให้หยิบๆจับๆ และบอกว่าปกตินะเครื่องก็ไม่ได้ร้อนอะไร ในเมื่อช่างบอกแบบนั้นผมก็ไม่รู้จะถามอะไรต่อ เดี๋ยวช่างจะหาว่าผมไปกล่าวหาว่าช่างซ่อมให้ไม่ดี ผมกลับมาด้วยความรู้สึกที่ไม่สบายใจเพราะรู้แก่ใจว่าโน๊ตบุ๊คผมมันผิดปกติแน่ๆ
คืนวันนั้นโน๊ตบุ๊คผมมีอาการเดิมคือพัดดังและอุณหภูมิค่อนข้างสูงผิดปกติ 65-75 เสียบแบตชาร์ตไฟอุณหภูมิก็ขึ้นไป 95-100 (ต้องปิดเครื่องเพื่อชาร์ตแบตเท่านั้นเวลาเล่นก็ต้องดึงสายชาร์ตออก) อาการที่เพิ่มมา คือ มีเสียงซ๊อตๆออกจากลำโพงเวลาพัดลมทำงานหนัก(ตอนแรกคิดว่ามาจากตัวเครื่อง) อีกปัญหาคือ Nvidia Driver เนื่องจากไม่ได้ใช้งานนานผมจึงมาอัพเดตเป็นตัวล่าสุด ทำให้เกิดปัญหา display driver stopped responding and has recovered พอมันขึ้นแจ้งเตือนจะทำให้คอมกระตุกมากๆจนทำอะไรไม่ได้ต้อง Restart เครื่องใหม่ตลอด ลองลง Driver ตัวเก่าก็ไม่หาย วันนั้นผมทำได้แค่โอนข้อมูลที่จำเป็นออกมาเก็บไว้ ลองเข้าเกม Point Blank และเล่นเว็ปไซต์นิดน่อย และคิดว่าต้องส่งศูนย์อีกรอบ เพราะถึงมันจะเปิดติด+ไม่ดับ แต่มันใช้งานอะไรแทบไม่ได้เลย
[วันที่ 10 พฤศจิกายน 58]
ผมนำโน๊ตบุ๊คไปที่ศูนย์บริการอีกครั้ง บอกเล่าอาการโดยตรงกับช่าง และช่างได้เห็นอาการที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผมจึงทิ้งโน๊ตบุ๊คไว้และคิดว่าไม่นานน่าจะได้คืน เพราะน่าจะเหลือแค่การเก็บรายละเอียดและแก้ไขจุดเล็กๆน้อย
[วันที่ 17 พฤศจิกายน 58]
ผมได้ติดต่อเข้าไปเพื่อขอคุยกับช่างและถามความคืบหน้า ได้รับคำตอบว่าเหลือปัญหาเรื่องความร้อนทั้งจากการเปิดเครื่องปกติและจากการเสียบแบต กับปัญหา Nvidia Driver ซึ่งลูกค้าหลายคนเป็นเหมือนกัน และช่างบอกว่าเครื่องจะเสร็จภายในอาทิตย์นี้
[วันที่ 20 พฤศจิกายน 58]
ช่วงบ่ายผมโทรไปถามความคืบหน้า เพราะช่างนัดไว้ว่าจะได้เครื่องในอาทิตย์นี้ (แต่ผมคิดไว้แล้วว่าไม่น่าจะได้คืน) ได้รับคำตอบกับเจ้าหน้าที่ว่า รออะไหล่อยู่ไม่รู้จะมาตอนไหน ผมเลยถามว่าอะไหล่อะไรครับ คำตอบคือ Mainboard ผมนี่จุกอยู่ในอกในใจคิด Mainboard อีกแล้วหรือ เปลี่ยนอันที่ 3 แล้วนะนี่ ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ รับสภาพและวางสายไป
ผมไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี อยากระบาย เข้าศูนย์มา 3 ครั้งแล้วในระยะเวลา 1 เดือนครึ่ง แถมเปลี่ยน Mainboard เหมือนกันทุกครั้ง อยากถามพี่ๆน้องๆทุกคนว่าอาการของโน๊ตบุ๊คผมมันอาการหนักเลยใช่ไหมครับ(ไม่มีความรู้เรื่องคอมฯ) พอซ่อมมาก็มีอาการแปลกๆตามมาที่ละอย่างสองอย่าง ถ้าผมส่งร้านซ่อมทั่วไปจะสามารถซ่อมให้กลับมาปกติได้ไหมครับ ผมอยากจะร้องเรียนไปยัง Lenovo Thailand เพื่อขอเครื่องใหม่ให้รู้แล้วรู้รอด ถ้ามันซ่อมไม่ไหวอาการไม่ดีขึ้นก็น่าจะเปลี่ยนเครื่องให้ผมก็ได้(คิดง่ายๆเอาเอง) ตอนนี้ผมทำได้แค่รอให้มันผ่านไปแต่ละวัน แต่ละอาทิตย์ แต่ละเดือน โดยไม่รู้ว่าจะซ่อมเสร็จสนิทโดยไม่มีอาการผิดปกติตอนไหน โน๊ตบุ๊คที่จะได้คืนครั้งต่อไปจะกลับมาปกติดีหรือป่าวก็ไม่รู้ ถ้ามันกลับมาปกติดีผมก็ไม่มีปัญหาอะไร(แต่มันไม่ปกติทุกครั้งหลังจากซ่อม) ถ้ามันยังเป็นปัญหาเรื้อรังต่อไปผมคงต้องเรียกร้องเพื่อให้ได้เครื่องใหม่หรือให้ได้เงินคืนก็ยังดี พี่ๆน้องๆคิดว่าผมควรจะทำอย่างไรต่อไปช่วยให้คำแนะนำทีครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
ประสบการณ์เคลมโน๊ตบุ๊ค Lenovo
แต่วันเวลาผ่านไปปัญหาที่เกิดขึ้นไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ผมจึงใช้พื้นที่นี้เพื่อเล่าความไม่สบายใจที่ผ่านมา
เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม 58 ผมได้ตัดสินใจซื้อโน๊ตบุ๊ค LENOVO Y5070-59438317 เพราะโน๊ตบุคเครื่องเก่าที่ใช้อยู่
อาการไม่ดีแล้ว ที่เลือกแบรนด์นี้เพราะตรงตามความต้องการในตอนนั้น ไม่ว่าจะในด้านราคา สเปค ฯลฯ ซึ่งอยากจะได้โน๊ตบุ๊ค
ประสิทธิภาพดีมาใช้เพื่อทำงานและเล่นเกม โดยไม่ได้ดูในเรื่องของการบริการหลังการขาย เพราะโน๊ตบุ๊ค Acer และ HP เครื่องเก่า
ไม่มีประวัติการเคลมใดๆทั้งสิ้น (ทั้ง 2 เครื่อง ราคาหมื่นนิดๆ ใช้งานมาเครื่องละ 3 ปีอย่างต่ำ)
โน๊ตบุ๊ค LENOVO ที่ผมซื้อมานั้นผมใช้ค่อนข้างถนอม (เพราะราคาค่อนข้างแพงสำหรับผมและไม่เคยใช้โน๊ตบุ๊คแรงๆมาก่อน)
ไม่เคยเปิดข้ามคืน ซื้อ Cooling Pad มาลดความร้อน เช็ดถูไม่ให้มีฝุ่นเกาะ เกมที่เล่นก็ Point Blank , Dragon nest ซึ่งผมคิดว่าไม่ได้
งานใช้หนักเกินไปสำหรับโน๊คบุ๊คสเปคเท่านี้ จนมาถึงวันที่ทำให้ผมต้องใช้บริการหลังการขายจนได้ ผมขอลำดับเหตุการณ์เพื่อง่ายต่อการอ่าน
[วันที่ 8-9 ตุลาคม 58]
ช่วงบ่ายของวันที่ 8 ผมเล่นเกมอยู่ตามปกติ อยู่ๆโน๊ตบุ๊คดับไปซะดื้อๆ กดปุ่ม Power เครื่องก็ไม่ติด แบตที่เสียบไว้ไฟก็ไม่เข้าเครื่อง
ในใจคิดแล้ว"พังแน่นอน" ผมกระวนกระวายใจมากโน๊ตบุ๊คใช้มา 9 เดือนโดยประมาณพังเสียแล้ว ผมพยายามรวบรวมสติว่าควรจะ
ทำอะไรก่อนเป็นอย่างแรก แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าโน๊ตบุ๊คของผมเป็นสินค้าจาก Advice (แต่ไม่ได้ซื้อจาก Advice โดยตรง) ผมจึงโทร
ไปยังศูนย์ Advice ในจังหวัดที่ผมอยู่ ผมได้คุยกับช่างของที่นั่นและช่างได้แนะนำให้ไปยังศูนย์บริการหลังการขายแห่งหนึ่งในจังหวัดที่ผมอยู่
(โชคดีมากเพราะศูนย์ดังกล่าวมีอยู่ไม่กี่สาขาในประเทศ) วันที่ 9 ช่วงบ่ายผมจึงเดินทางไปยังศูนย์บริการดังกล่าว ไปเล่าอาการที่เกิดขึ้น
และทิ้งเครื่องไว้เพื่อรอการเคลมสินค้า ผมคิดไว้แล้วว่าสินค้าที่ต้องนำไปเคลมเป็นเดือนแน่ๆกว่าจะได้คืน
[วันที่ 13 ตุลาคม 58]
ผมโทรเข้าไปถามศูนย์บริการได้ความคืบหน้าว่าต้องเปลี่ยน Mainboard
ระหว่างที่รอโน๊ตบุ๊คคืนผมได้พยายามหาสาเหตุว่าทำไมมันถึงเกิดอาการดังกล่าวขึ้น เลยได้ยืมโน๊ตบุ๊คของแม่ (มี 2 เครื่องไว้ใช้ทำงาน)
เจ้ากรรม!! โน๊ตบุ๊คที่ผมยืมแม่มาดันยี่ห้อ Lenovo (อีกแล้ว) มือผมนี่สั่นกลัวจะทำมันพังอีกเครื่อง โดยที่ผมทราบมาโดยรวมเกิดจากความร้อน
ทั้งที่ผมมี Cooling Pad และเล่นในห้องแอร์ (ไม่ได้เปิดแอร์ตลอด) ผมมาทราบทีหลังตอนได้เครื่องกลับมาระหว่างการซ่อม โน๊ตบุ๊คผม
จะมีแผงช่องดูดลมเข้าใต้เครื่องและจะมีแผ่นกรองเป็นผ้าแปะไว้ด้านในเพื่อกรองฝุ่น ซึ่งมันค่อนข้างหนาและมีฝุ่นเกาะเยอะ ผมเคยทำความสะอาด
มันแค่ครั้งเดียว ซึ่งนี่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความร้อนเพราะลมเข้าเครื่องน้อยและระบายความร้อนไม่ทัน
[วันที่ 16 ตุลาคม 58]
ได้รับเครื่องคืน ผมดีใจมากไม่คิดว่าจะได้เครื่องคืนเร็วขนาดนี้จึงไปรับกลับมาช่วงเย็น กลับถึงบ้านก่อนจะเปิดใช้งาน ผมทำการปัดกวาดเช็ดถู
(ทำให้ทราบถึงสาเหตุที่คาดว่าจะทำให้เครื่องร้อนที่กล่าวไปข้างต้น) เมื่อเปิดเครื่องสิ่งที่สะดุดใจผมอย่างแรกคือ "เสียงพัดลม" มันดังมากเหมือน
เครื่องที่ใช้งานหนักๆแล้วพัดลมจะหมุนเร็วและดัง ดังตลอดเวลาที่เปิดเครื่องจนผิดสังเกตุ ผมจึงเปิดโปรแกรม CPUID HWMonitor ที่ผมจะเปิดดู
อุณหภูมิของเครื่องประจำ ซึ่งความร้อนอยู่ที่ 70-80 (ยังไม่ได้เปิดโปรแกรมใดๆทั้งสิ้น) โดยปกติก่อนที่โน๊ตบุ๊คจะพัง อุณหภูมิอยู่ที่ 40-55 (ยังไม่เปิดโปรแกรมใดๆเช่นกัน) ผมเห็นแบตจะหมดจึงเสียบแบตเข้าไปอีก อุณหภูมิขึ้นเป็น 90-95 จึงรีบเอาออก เพราะพัดลมเริ่มหมุนแรงขึ้นเรื่อยตามอุณหภูมิ
เปิดทิ้งไว้สักพักเพื่อวอร์มเครื่องอุณหภูมิกลับมาที่ 65-75 เมื่อเห็นว่าน่าจะดีขึ้นจึงเข้าเกมไปเดินเล่น(ไม่ได้เข้านานคิดถึง) ระหว่างเข้าเกมพัดลมเริ่มหมุนดังขึ้นอุณหภูมิขึ้นไปที่ 90-100 ในใจคิดต้องรีบออกเกมโดยด่วน แต่ไม่ทันเสียแล้วหน้าจอผมเละแล้วทำอะไรไม่ได้ จึงต้องกดปุ่ม Power ค้างไว้เพื่อปิด
และโน๊ตบุ๊คผมก็เปิดไม่ได้อีก โดยมีอาการติดๆดับๆ (เครื่องทำการบูตแล้วดับและบูตเองใหม่วนอยู่แบบนั้น) จากตั้งแต่ทำความสะอาดจนถึง
เปิดโน๊ตบุ๊คไม่ได้อีกกินเวลา 1 ชั่วโมง อยู่กันได้ไม้ถึง 1 ชั่วโมงดี โน๊ตบุ๊คสุดรักได้จากผมไปอีกรอบ
[วันที่ 19 ตุลาคม 58]
ผมได้นำโน๊ตบุ๊คมาที่ศูนย์บริการอีกรอบ (ใจอยากจะมาตั้งแต่วันที่ 16 แต่กว่าจะไปศูนย์ก็ปิดพอดีและยังติดหยุดเสาร์ อาทิตย์อีกต่างหาก) พนักงานที่เคาน์เตอร์ทำหน้างุนงงว่าทำไมมันเสียอีกแล้วและบอกว่าก่อนส่งคืนเช็คให้ดีแล้วนะ ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร เล่าอาการแล้วกลับไป ก่อนกลับคิดในแง่ดีจึงบอกพนักงานไปว่า "ถ้าซ่อมเสร็จแล้วเทสให้ผมนานๆก็ได้ผมไม่รีบ" เจตนาคือซ่อมนานแต่ได้กลับมาแล้วดีผมก็ไม่มีปัญหานะ กลับมาบ้านจึงคิดได้ว่าไม่น่าบอกไปแบบนั้นเลย เดี๋ยวจะได้นานสมใจ 55
[วันที่ 28 ตุลาคม 58]
ผมเห็นว่าทิ้งระยะเวลามาได้สักพักจึงโทรไปถามที่ศูนย์บริการ ว่าอาการโน๊ตบุ๊คผมเป็นยังไงบ้าง ได้รับคำตอบว่า รอ Mainboard ผมถึงถามไปด้วยความงุนงงว่าเปลี่ยน Mainboard อีกแล้วหรอครับ เจ้าหน้าที่ได้แต่หัวเราะแหะๆ คุยกันสักพักจึงได้วางสายไป ผมคิดในใจเข้าศูนย์ 2 รอบเปลี่ยน Mainboard ทั้ง 2 รอบ รอบแรกเขาได้เปลี่ยน Mainboard ให้จริงรึป่าว(เริ่มระแวง สงสัย)หรือแค่ซ่อม Mainboard แต่มันผ่านไปแล้วก็ไม่อยากจะไปคิดอะไรมากเลยรอต่อไป
[วันที่ 3 พฤศจิกายน 58]
ด้วยความที่ว่านานผิดปกติ ผมจึงโทรเข้าไปที่ศูนย์บริการอีกครั้งเพื่อถามความคืบหน้าและอยากทราบว่า Mainboard ที่รอ ต้องรอจากศูนย์กรุงเทพฯหรือจากต่างประเทศ ซึ่งผมก็ไม่ได้รับคำตอบเพราะเจ้าหน้าที่รับสายไม่ทราบ บอกได้แค่รอ Mainboard ผมเริ่มอารมณ์ไม่ดีและเสียความรู้สึกแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ผมเริ่มอยากจะเปลี่ยนเครื่องจึงถามเจ้าหน้าที่ไป แต่ได้รับคำตอบว่าการเปลี่ยนเครื่องใหม่นั้นดำเนินการได้ยาก ผมคิดว่าถ้าไม่ใช่กรณีที่ร้ายแรงทางบริษัทก็คงไม่เปลี่ยนให้แน่นอน ผมก็ยังรู้สึกดีกับเครื่องเดิมอยู่แต่อาจจะเริ่มมีอารมณ์ ไม่ได้คำตอบที่อยากได้ และเวลาที่ดำเนินการนานเกินไป
[วันที่ 4 พฤศจิกายน 58]
ด้วยความที่อยากรู้ว่า Mainboard ที่ผมต้องรอนั้นรอจากกรุงเทพฯหรือต่างประเทศ ผมจึงโทรเข้าที่ศูนย์บริการที่กรุงเทพฯเพื่อตามเรื่อง แต่เจ้าหน้าที่ศูนย์กรุงเทพฯก็ไม่สามารถให้คำตอบผมได้เช่นกัน เขาขอรหัสใบงานไปตรวจสอบว่าซ่อมมากี่ครั้ง ซ่อมอะไร และขออีเมลล์เพื่อแจ้งความคืบหน้า
30 นาทีหลังจากวางสายผมได้รับอีเมลล์ฉบับหนึ่ง ใจความว่า "ลูกค้าตามงานมาครับ แจ้งส่งซ่อมอาการเดิมมา รอบ 2 แล้ว ต้องการทราบว่าอะไหล่ จะเข้ามาได้วันไหนครับ ลูกค้ารีบใช้ตัวเครื่องมาครับ รบกวน update และแจ้งกลับ" โดยทางศูนย์กรุงเทพฯส่งเมลล์ให้ทางศูนย์ที่อยู่ในจังหวัดผม ผมน้ำตาจะไหล+พูดไม่ออก ถ้าศูนย์กรุงเทพฯยังไม่รู้แล้วศูนย์ในจังหวัดผมจะรู้ไหมเนี่ย แต่ก็ยังดีที่มีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง
[วันที่ 7 พฤศจิกายน 58]
ผมนำรหัสการซ่อมไปเช็คในเว็ปไซต์เพื่อดูความคืบหน้า มันขึ้นว่า "สินค้าส่งคืน" หรือก็คือซ่อมเสร็จแล้ว ผมดีใจอีกครั้งเพราะที่ผ่านมามันขึ้น "รออะไหล่" มาตลอด(ผมเช็คสถานะการซ่อมผ่านเว็ปไซต์ทุกวันตั้งแต่เอาไปซ่อมครั้งแรก แต่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้น) มันน่าแปลกที่ไม่มีความคืบหน้ามาหลายอาทิตย์แค่โทรตามไม่กี่วันได้ผลเหมือนกันแฮะ แต่ซ่อมเสร็จก็คือเสร็จไม่อยากรื้อฟื้นในสิ่งที่ผ่านมา
[วันที่ 9 พฤศจิกายน 58]
ผมไปรับโน๊ตบุ๊คคืนช่วงเย็นในใจก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาเพราะซ่อมนานและซ่อมอาการเดิม ช่างไม่น่าจะปล่อยให้เสียอาการเดิมซ้ำสอง ครั้งนี้ผมเทสเครื่องในรถที่จอดไว้หน้าศูนย์บริการ และแล้วมันก็เกิดอาการเดิมขึ้น พัดลมหมุนดัง(แต่เสียงเบากว่าตอนซ่อมครั้งแรก) เทสอุณหภูมิอยู่ที่ 65-80 มันไม่ปกติอีกแล้ว แต่รู้สึกว่าอาการดีกว่าตอนซ่อมครั้งแรกนิดนึง ผมจึงลงจากรถไปถามช่างว่าการที่พัดลมหมุนแรงและอุณหภูมิสูงทั้งๆที่ยังไม่ได้เข้าโปรแกรมอะไรเลยมันแปลกๆนะครับ ช่างก็มาดูให้หยิบๆจับๆ และบอกว่าปกตินะเครื่องก็ไม่ได้ร้อนอะไร ในเมื่อช่างบอกแบบนั้นผมก็ไม่รู้จะถามอะไรต่อ เดี๋ยวช่างจะหาว่าผมไปกล่าวหาว่าช่างซ่อมให้ไม่ดี ผมกลับมาด้วยความรู้สึกที่ไม่สบายใจเพราะรู้แก่ใจว่าโน๊ตบุ๊คผมมันผิดปกติแน่ๆ
คืนวันนั้นโน๊ตบุ๊คผมมีอาการเดิมคือพัดดังและอุณหภูมิค่อนข้างสูงผิดปกติ 65-75 เสียบแบตชาร์ตไฟอุณหภูมิก็ขึ้นไป 95-100 (ต้องปิดเครื่องเพื่อชาร์ตแบตเท่านั้นเวลาเล่นก็ต้องดึงสายชาร์ตออก) อาการที่เพิ่มมา คือ มีเสียงซ๊อตๆออกจากลำโพงเวลาพัดลมทำงานหนัก(ตอนแรกคิดว่ามาจากตัวเครื่อง) อีกปัญหาคือ Nvidia Driver เนื่องจากไม่ได้ใช้งานนานผมจึงมาอัพเดตเป็นตัวล่าสุด ทำให้เกิดปัญหา display driver stopped responding and has recovered พอมันขึ้นแจ้งเตือนจะทำให้คอมกระตุกมากๆจนทำอะไรไม่ได้ต้อง Restart เครื่องใหม่ตลอด ลองลง Driver ตัวเก่าก็ไม่หาย วันนั้นผมทำได้แค่โอนข้อมูลที่จำเป็นออกมาเก็บไว้ ลองเข้าเกม Point Blank และเล่นเว็ปไซต์นิดน่อย และคิดว่าต้องส่งศูนย์อีกรอบ เพราะถึงมันจะเปิดติด+ไม่ดับ แต่มันใช้งานอะไรแทบไม่ได้เลย
[วันที่ 10 พฤศจิกายน 58]
ผมนำโน๊ตบุ๊คไปที่ศูนย์บริการอีกครั้ง บอกเล่าอาการโดยตรงกับช่าง และช่างได้เห็นอาการที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผมจึงทิ้งโน๊ตบุ๊คไว้และคิดว่าไม่นานน่าจะได้คืน เพราะน่าจะเหลือแค่การเก็บรายละเอียดและแก้ไขจุดเล็กๆน้อย
[วันที่ 17 พฤศจิกายน 58]
ผมได้ติดต่อเข้าไปเพื่อขอคุยกับช่างและถามความคืบหน้า ได้รับคำตอบว่าเหลือปัญหาเรื่องความร้อนทั้งจากการเปิดเครื่องปกติและจากการเสียบแบต กับปัญหา Nvidia Driver ซึ่งลูกค้าหลายคนเป็นเหมือนกัน และช่างบอกว่าเครื่องจะเสร็จภายในอาทิตย์นี้
[วันที่ 20 พฤศจิกายน 58]
ช่วงบ่ายผมโทรไปถามความคืบหน้า เพราะช่างนัดไว้ว่าจะได้เครื่องในอาทิตย์นี้ (แต่ผมคิดไว้แล้วว่าไม่น่าจะได้คืน) ได้รับคำตอบกับเจ้าหน้าที่ว่า รออะไหล่อยู่ไม่รู้จะมาตอนไหน ผมเลยถามว่าอะไหล่อะไรครับ คำตอบคือ Mainboard ผมนี่จุกอยู่ในอกในใจคิด Mainboard อีกแล้วหรือ เปลี่ยนอันที่ 3 แล้วนะนี่ ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ รับสภาพและวางสายไป
ผมไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี อยากระบาย เข้าศูนย์มา 3 ครั้งแล้วในระยะเวลา 1 เดือนครึ่ง แถมเปลี่ยน Mainboard เหมือนกันทุกครั้ง อยากถามพี่ๆน้องๆทุกคนว่าอาการของโน๊ตบุ๊คผมมันอาการหนักเลยใช่ไหมครับ(ไม่มีความรู้เรื่องคอมฯ) พอซ่อมมาก็มีอาการแปลกๆตามมาที่ละอย่างสองอย่าง ถ้าผมส่งร้านซ่อมทั่วไปจะสามารถซ่อมให้กลับมาปกติได้ไหมครับ ผมอยากจะร้องเรียนไปยัง Lenovo Thailand เพื่อขอเครื่องใหม่ให้รู้แล้วรู้รอด ถ้ามันซ่อมไม่ไหวอาการไม่ดีขึ้นก็น่าจะเปลี่ยนเครื่องให้ผมก็ได้(คิดง่ายๆเอาเอง) ตอนนี้ผมทำได้แค่รอให้มันผ่านไปแต่ละวัน แต่ละอาทิตย์ แต่ละเดือน โดยไม่รู้ว่าจะซ่อมเสร็จสนิทโดยไม่มีอาการผิดปกติตอนไหน โน๊ตบุ๊คที่จะได้คืนครั้งต่อไปจะกลับมาปกติดีหรือป่าวก็ไม่รู้ ถ้ามันกลับมาปกติดีผมก็ไม่มีปัญหาอะไร(แต่มันไม่ปกติทุกครั้งหลังจากซ่อม) ถ้ามันยังเป็นปัญหาเรื้อรังต่อไปผมคงต้องเรียกร้องเพื่อให้ได้เครื่องใหม่หรือให้ได้เงินคืนก็ยังดี พี่ๆน้องๆคิดว่าผมควรจะทำอย่างไรต่อไปช่วยให้คำแนะนำทีครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ