ที่มา:
http://www.posttoday.com/biz/gov/400270
ครม.เห็นชอบร่างกรอบความร่วมมือลงทุนรถไฟไทย-จีน คาดก่อสร้าง พ.ค.ปีหน้า
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างกรอบความร่วมมือ (Framework of Cooperation) ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ ซึ่งฝ่ายจีนเป็นผู้ริเริ่มและอนุมัติให้ รมว.คมนาคม เป็นผู้ลงนาม
ทั้งนี้ ร่างกรอบความร่วมมือดังกล่าว ได้กำหนดแนวทางการก่อสร้างรถไฟรางมาตรฐาน 1.435 เมตร เส้นทางหนองคาย-โคราชแก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ โดยจะเริ่มก่อสร้างช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-แก่งคอย และช่วงที่ 3 แก่งคอย-โคราชก่อน ส่วนระยะถัดไปจึงจะก่อสร้างช่วงที่ 2 แก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด และช่วงที่ 4 โคราช-หนองคาย
นายอาคม กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้ตั้งบริษัทร่วมทุน หรือเอสพีวี เพื่อลงทุนในด้านต่างๆ คือ ระบบรถไฟ รวมถึงการเดินรถ และการซ่อมบำรุง ตลอดจนงานก่อสร้างอื่นๆ คือ แหล่งจ่ายกำลังไฟฟ้า ระบบสื่อสารโทรคมนาคม และระบบอาณัติสัญญาณ
สำหรับขอบเขตความรับผิดชอบของงาน ฝ่ายจีนจะรับผิดชอบในการศึกษาความเหมาะสมโครงการ รวมถึงการสำรวจออกแบบ ส่วนฝ่ายไทยจะให้การสนับสนุนการวิเคราะห์ผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ขั้นตอนการขอความเห็นชอบและการเวนคืนที่ดิน
นายอาคม กล่าวว่า ในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ ฝ่ายไทยและจีนจะร่วมกันเปิดโครงการและวางศิลาฤกษ์ที่ศูนย์ควบคุมการเดินรถและบริการเดินรถ (โอซีซี) เชียงรากน้อย รวมทั้งจะเห็นภาพรวมโครงการทั้งหมดว่าใช้เทคโนโลยีอะไรและก่อสร้างลักษณะใด และเมื่อผลการศึกษารายละเอียดโครงการต่างๆ แล้วเสร็จจะเสนอ ครม.อนุมัติโครงการและเริ่มก่อสร้างเดือน พ.ค. 2559
"ฝ่ายจีนจะจัดหาผู้รับเหมา ซึ่งเบื้องต้น คือ ไชน่าเรลเวย์ คอนสตรัคชั่น คอร์ปอเรชั่น (CRCC) และไชน่าเรลเวย์ กรุ๊ป (CREC) แต่ฝ่ายไทยได้เสนอให้เอกชนไทยเข้าไปร่วมดำเนินการด้วย ซึ่งฝ่ายจีนก็ไม่มีปัญหา ขณะที่การคัดเลือกบริษัทผู้รับเหมา ฝ่ายไทยและจีนจะร่วมกันพิจารณา ส่วนการก่อสร้างจะเริ่มได้จริงในเดือน พ.ค.ปีหน้าหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่ารูปแบบการลงทุนและเรื่องเงิน จะได้ข้อสรุปหรือไม่ หากได้ข้อสรุปจะเสนอ ครม.อนุมัติ" นายอาคม กล่าว
นายอาคม กล่าวว่า จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อพิจารณาความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 9 เพื่อพิจารณารายละเอียดโครงการที่กรุงเทพฯ ภายในเดือน ธ.ค.นี้
ไฟเขียวกรอบกระชับร่วมลงทุนรถไฟไทย-จีน
ครม.เห็นชอบร่างกรอบความร่วมมือลงทุนรถไฟไทย-จีน คาดก่อสร้าง พ.ค.ปีหน้า
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างกรอบความร่วมมือ (Framework of Cooperation) ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ ซึ่งฝ่ายจีนเป็นผู้ริเริ่มและอนุมัติให้ รมว.คมนาคม เป็นผู้ลงนาม
ทั้งนี้ ร่างกรอบความร่วมมือดังกล่าว ได้กำหนดแนวทางการก่อสร้างรถไฟรางมาตรฐาน 1.435 เมตร เส้นทางหนองคาย-โคราชแก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ โดยจะเริ่มก่อสร้างช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-แก่งคอย และช่วงที่ 3 แก่งคอย-โคราชก่อน ส่วนระยะถัดไปจึงจะก่อสร้างช่วงที่ 2 แก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด และช่วงที่ 4 โคราช-หนองคาย
นายอาคม กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้ตั้งบริษัทร่วมทุน หรือเอสพีวี เพื่อลงทุนในด้านต่างๆ คือ ระบบรถไฟ รวมถึงการเดินรถ และการซ่อมบำรุง ตลอดจนงานก่อสร้างอื่นๆ คือ แหล่งจ่ายกำลังไฟฟ้า ระบบสื่อสารโทรคมนาคม และระบบอาณัติสัญญาณ
สำหรับขอบเขตความรับผิดชอบของงาน ฝ่ายจีนจะรับผิดชอบในการศึกษาความเหมาะสมโครงการ รวมถึงการสำรวจออกแบบ ส่วนฝ่ายไทยจะให้การสนับสนุนการวิเคราะห์ผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ขั้นตอนการขอความเห็นชอบและการเวนคืนที่ดิน
นายอาคม กล่าวว่า ในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ ฝ่ายไทยและจีนจะร่วมกันเปิดโครงการและวางศิลาฤกษ์ที่ศูนย์ควบคุมการเดินรถและบริการเดินรถ (โอซีซี) เชียงรากน้อย รวมทั้งจะเห็นภาพรวมโครงการทั้งหมดว่าใช้เทคโนโลยีอะไรและก่อสร้างลักษณะใด และเมื่อผลการศึกษารายละเอียดโครงการต่างๆ แล้วเสร็จจะเสนอ ครม.อนุมัติโครงการและเริ่มก่อสร้างเดือน พ.ค. 2559
"ฝ่ายจีนจะจัดหาผู้รับเหมา ซึ่งเบื้องต้น คือ ไชน่าเรลเวย์ คอนสตรัคชั่น คอร์ปอเรชั่น (CRCC) และไชน่าเรลเวย์ กรุ๊ป (CREC) แต่ฝ่ายไทยได้เสนอให้เอกชนไทยเข้าไปร่วมดำเนินการด้วย ซึ่งฝ่ายจีนก็ไม่มีปัญหา ขณะที่การคัดเลือกบริษัทผู้รับเหมา ฝ่ายไทยและจีนจะร่วมกันพิจารณา ส่วนการก่อสร้างจะเริ่มได้จริงในเดือน พ.ค.ปีหน้าหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่ารูปแบบการลงทุนและเรื่องเงิน จะได้ข้อสรุปหรือไม่ หากได้ข้อสรุปจะเสนอ ครม.อนุมัติ" นายอาคม กล่าว
นายอาคม กล่าวว่า จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อพิจารณาความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 9 เพื่อพิจารณารายละเอียดโครงการที่กรุงเทพฯ ภายในเดือน ธ.ค.นี้